Everyday knowledge for you
ประกันชีวิต
23/09/2025
เอไอเอ ประเทศไทย โดย นายนิคฮิล แอดวานี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร รับรางวัล DAILYNEWS TOP CEO 2025 สาขาธุรกิจประกันชีวิตและสุขภาพ เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน โดยหนังสือพิมพ์เดลินิวส์และเดลินิวส์ออนไลน์จัดขึ้นเพื่อยกย่องและเชิดชูเกียรติผู้บริหารสูงสุดขององค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน ที่สร้างผลงานโดดเด่นเป็นที่ประจักษ์ และมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ เพื่อให้เป็นแบบอย่างและแรงบันดาลใจให้แก่ผู้บริหารรุ่นใหม่โดยรางวัลนี้ได้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของนายนิคฮิล แอดวานี ในฐานะผู้นำองค์กร ที่ขับเคลื่อนพันธกิจของเอไอเอให้ก้าวไปข้างหน้า พร้อมสนับสนุนให้ผู้คนมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ตามคำมั่นสัญญา “Healthier, Longer, Better Lives” รวมทั้งความทุ่มเทในการพัฒนาอุตสาหกรรมประกันชีวิตของไทย ผ่านกลยุทธ์การยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง มุ่งเน้นการพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีและดิจิทัล สร้างบุคลากรให้มีความแข็งแกร่ง และให้ความสำคัญกับนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) เพื่อความยั่งยืนสำหรับงาน DAILYNEWS TOP CEO 2025 จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 เพื่อฉลองในวาระเดลินิวส์ครบรอบ 61 ปี โดยงานขึ้น ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ข่าวทั่วไป
24/09/2025
• ท่ามกลางความท้าทายรอบด้าน ความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน (Well-being) ได้กลายเป็นปัจจัยสำคัญเชิงกลยุทธ์ต่อความสำเร็จขององค์กร ไม่ใช่เพียงค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย • Well-being ไม่ได้จำกัดแค่สุขภาพกายและใจ แต่ครอบคลุม 5 มิติสำคัญ ได้แก่ กายภาพ จิตใจ สังคม อาชีพ และ ความหมายของงาน ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพและลดภาวะหมดไฟ • การสร้าง Well-being ที่แท้จริงไม่ได้ขึ้นอยู่กับสวัสดิการ หรือสิ่งอำนวยความสะดวก แต่เกิดจากการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เน้นความไว้วางใจ การรับฟัง และ การสนับสนุนซึ่งกันและกันในอดีตผู้บริหารองค์กรอาจเน้นการเติบโตทางธุรกิจ การขยายตลาด หรือ การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตเป็นสำคัญ แต่ในปัจจุบันความท้าทายรอบด้าน ได้เปลี่ยนสมการความสำเร็จไปอย่างสิ้นเชิง เราอยู่ในยุคที่เศรษฐกิจโลกผันผวนไม่หยุดหย่อน เทคโนโลยีใหม่ๆ เกิดขึ้นแทบทุกวัน ความคาดหวังของผู้บริโภคสูงขึ้นกว่าที่เคย และการแข่งขันไม่ได้จำกัดแค่ในประเทศ แต่ข้ามพรมแดนและเวลาภายใต้ระเบียบโลกที่ไม่เหมือนเดิม ท่ามกลางแรงกดดันเหล่านี้ สิ่งที่ผู้บริหารหลายคนอาจมองข้ามคือ “คนในองค์กร” หากบุคลากร คือ หัวใจของการขับเคลื่อน แต่หัวใจดวงนี้อ่อนล้า องค์กรย่อมไม่สามารถวิ่งไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง คำถามสำคัญคือ ผู้บริหารกำลังลงทุนใน “ความเป็นอยู่ที่ดี” ของทีมงานมากน้อยเพียงใดหลายคนเข้าใจ Well-being แค่เพียง “สุขภาพดี” หรือ “ไม่เครียด” แต่ในเชิงวิชาการ Well-being คือ คุณภาพชีวิตโดยรวมที่คนทำงานรับรู้และสัมผัสได้ ไม่ใช่เฉพาะเรื่องสุขภาพกายหรือใจ หากครอบคลุมถึงการมีความหมาย ความสัมพันธ์ และความมั่นคงในชีวิต มิติที่มักใช้กันอย่างแพร่หลายมี 5 ประการ ได้แก่1. กายภาพ (Physical Well-being) คือ การมีสุขภาพกายแข็งแรง ได้พักผ่อนเพียงพอ มีสมดุลระหว่างงานกับชีวิต2. จิตใจ (Mental Well-being) คือ มีความมั่นคงทางอารมณ์ ไม่ถูกกดดันจนเกินไป รู้สึกปลอดภัยในการทำงาน3. สังคม (Social Well-being) คือ มีความสัมพันธ์ที่ดีในทีม รู้สึกว่าไม่ได้ทำงานเพียงลำพัง4. อาชีพ (Career Well-being) คือ มองเห็นเส้นทางความก้าวหน้า มีความพึงพอใจในสิ่งที่ทำ5. ความหมาย (Purpose Well-being) คือ รับรู้ว่างานที่ทำมีคุณค่าและส่งผลต่อคนอื่น ไม่ใช่เพียงการทำตามหน้าที่หากองค์กรละเลยแม้เพียงหนึ่งมิติ ความเสี่ยงของการเกิดภาวะ “หมดไฟ” (burnout) ย่อมสูงขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การลดลงของประสิทธิภาพและการสูญเสียบุคลากรที่มีศักยภาพ จากประสบการณ์ที่ปรึกษาธุรกิจหลายองค์กรพบรูปแบบที่แตกต่างกันชัดเจน บางแห่งทุ่มงบประมาณมหาศาลสร้างสวัสดิการ สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งฟิตเนส ห้องพักผ่อน พื้นที่ทำงานสวยงาม แต่ในขณะเดียวกัน กลับมีวัฒนธรรมการทำงานที่เต็มไปด้วยความกลัว การแข่งขันที่ไม่สร้างสรรค์ และ การสื่อสารที่เป็นทางเดียว ผลลัพธ์ คือ ทีมงานไม่ได้รู้สึก “อยู่ดี” แต่กลับหมดแรงใจในอีกมุมหนึ่งองค์กรขนาดกลางที่ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกหรูหรา แต่ผู้บริหารเปิดพื้นที่ให้ทีมงานแสดงความคิดเห็น รับฟังด้วยความจริงใจ และกล้าที่จะยอมรับความผิดพลาดของลูกน้องพร้อมช่วยแก้ไขร่วมกันผลลัพธ์คือ ทีมงานรู้สึกได้รับการยอมรับ และพร้อมทุ่มเทให้องค์กรอย่างเต็มกำลัง นี่เป็นบทเรียนที่สะท้อนชัดว่า Well-being ไม่ใช่เรื่องของสิ่งปลูกสร้าง หรือ กิจกรรมพิเศษ แต่คือการสร้าง “วัฒนธรรมที่ดูแลผู้คน” อย่างแท้จริงผู้บริหารจำนวนไม่น้อยยัง มองว่า Well-being เป็นเรื่องฟุ่มเฟือย เป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่ก่อให้เกิดผลลัพธ์ทางการเงินโดยตรง แต่หากพลิกมุมคิดจะเห็นว่า Well-being คือ “การลงทุนเชิงกลยุทธ์” บุคลากรที่มีสุขภาวะที่ดีจะมีความคิดสร้างสรรค์ และกล้าเสนอไอเดียใหม่ มีพลังในการทำงาน และรับมือกับความเปลี่ยนแปลง ร่วมมือกับเพื่อนร่วมงานได้อย่างจริงใจ และลดอัตราการลาออก ทำให้ประหยัดต้นทุนการสรรหาและฝึกอบรม หลายงานวิจัยยืนยันว่า องค์กรที่ลงทุนด้าน Well-being อย่างจริงจัง มีผลประกอบการที่ดีกว่าองค์กรที่ละเลย เพราะทีมงานที่ “อยู่ดี” จะสร้างผลงานที่ “ยั่งยืน” หากองค์กรต้องการเริ่มต้นในการสร้างความ “อยู่ดี” ควรมุ่งเน้นแนวทาง ดังต่อไปนี้1. ฟังด้วยความจริงใจ การฟังเสียงทีมงานไม่ใช่แค่แบบสอบถาม แต่คือการเปิดพื้นที่สนทนาอย่างปลอดภัย2. สร้างบรรยากาศแห่งความไว้วางใจ ความผิดพลาดควรเป็นบทเรียน ไม่ใช่ตราบาป3. ปรับสมดุลงาน-ชีวิต (Work-life balance) การให้ความยืดหยุ่น เช่น work from anywhere หรือ การปรับเวลาทำงาน สามารถลดความเครียดได้อย่างมาก4. พัฒนาเส้นทางอาชีพ บุคลากรต้องเห็นอนาคต ไม่ใช่เพียงทำงานวนซ้ำ5. เน้นความหมายของงาน เชื่อมโยงสิ่งที่ทีมงานทำกับผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมและลูกค้าในยุคที่โลกหมุนเร็วและเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน องค์กรไม่สามารถควบคุมปัจจัยภายนอกได้ทั้งหมด แต่สิ่งหนึ่งที่ผู้บริหารสามารถควบคุมและออกแบบได้คือ “คุณภาพชีวิตของผู้คนในองค์กร” เพราะสุดท้ายแล้ว องค์กรไม่ใช่เพียงโครงสร้างหรือตัวเลข แต่คือ “ผู้คน” หากผู้คนมีพลังใจ มีแรงกาย และเห็นคุณค่าในสิ่งที่ทำ ความท้าทายใดๆ ก็สามารถผ่านพ้นได้ ดังนั้น คำถามสำคัญที่สุดคือ...วันนี้คุณในฐานะผู้บริหาร ได้ทำอะไรแล้วบ้างเพื่อสร้าง Well-being ให้กับทีมงานของคุณบทความ โดย... ผศ.ดร.วัชรพจน์ ทรัพย์สงวนบุญ ศูนย์กลยุทธ์และความสามารถทางการแข่งขันองค์กร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 4130แหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับฐานเศรษฐกิจhttps://www.thansettakij.com/blogs/columnist/638557
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ห้องแสดงนิทรรศการ
24/09/2025
เมื่ออาร์ตทอยไม่ใช่แค่ของเล่น แต่คือศิลปะร่วมสมัยที่บรรจุจินตนาการ วัฒนธรรม และอัตลักษณ์ของศิลปินไว้ในทุกชิ้นงาน “เซ็นทรัล : ดิ ออริจินัล สโตร์” จึงจับมือกับ DDD Arttoys เนรมิตนิทรรศการ “ART TOYLOGY – Local to Cosmic” ชวนทุกคนออกเดินทางจากรากเหง้าท้องถิ่นสู่ความล้ำลึกแห่งห้วงจักรวาล ผ่านอาร์ตทอยสุดสร้างสรรค์กว่า 40 ศิลปินระดับแนวหน้า จากทั้งไทยและต่างประเทศจุดเด่นของ “ART TOYLOGY – Local to Cosmic” คือการนำเสนออาร์ตทอยในฐานะ “สื่อร่วมสมัย” ที่เล่าเรื่องได้ลึกกว่าภาพลักษณ์น่ารักสดใส ผ่านมุมมองและสไตล์ที่หลากหลายจากศิลปินชื่อดัง เช่น Aethur, Captain Mozmo, MIWD, Funheart, Buddhaandz, Plapatootoo และอีกมากมาย โดยแต่ละชิ้นงานไม่เพียงมีความแปลกตา แต่ยังเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจและความหมายส่วนตัวของผู้สร้างวิน ภัทรพงศ์ ผู้สร้าง Plapatootooญาโณทัย ตรีรัตน์โชติกุล ผู้สร้าง Buddhaandzหนึ่งในไฮไลต์พิเศษคือ กิจกรรม Artist Talk ที่จัดขึ้นในวันเปิดงาน โดยได้รับเกียรติจากสองศิลปินไทยที่มีผลงานโดดเด่นในวงการอาร์ตทอย ได้แก่ “วิน–ภัทรพงศ์ ชูสุทธิ์สกุล” เจ้าของผลงาน Plapatootoo ปลาทูเอเลียนจากสมุทรสงคราม และ “ญาโณทัย ตรีรัตน์โชติกุล” หรือ Buddhaandz ผู้ตีความพุทธปรัชญาในรูปแบบป๊อปคัลเจอร์ ทั้งสองได้มาร่วมพูดคุยและแบ่งปันแรงบันดาลใจท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่นและผู้ชมที่ให้ความสนใจจำนวนมาก“ART TOYLOGY – Local to Cosmic” คือมากกว่านิทรรศการของเล่น แต่นี่คือพื้นที่แสดงพลังความคิดสร้างสรรค์จากท้องถิ่นไทยสู่สายตาระดับโลก เป็นบทสนทนาแห่งจิตวิญญาณร่วมสมัย ที่พร้อมจะจุดประกายจินตนาการใหม่ให้กับทุกคนที่มาเยือนมาสัมผัสอาร์ตทอยที่ “มีชีวิต” ด้วยตัวเองได้ที่ Central Space ชั้น 3 เซ็นทรัล : ดิ ออริจินัล สโตร์ (เจริญกรุง) เปิดให้เข้าชมฟรี ตั้งแต่วันนี้ - 30 กันยายน 2568 เปิดวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 10.00 - 18.00 น.แหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับ onceinlifehttps://onceinlife.co/art-toylogy-local-to-cosmic-centraltheoriginalstore
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ข่าวทั่วไป
24/09/2025
ไม่ว่าคุณจะเดินทางเพื่อพักผ่อน ท่องเที่ยว หรือไปทำงาน กระเป๋าเดินทางคือหนึ่งในสิ่งของที่สำคัญที่สุด เพราะมันไม่ได้แค่ใช้ใส่เสื้อผ้าและของใช้ แต่ยังเป็นตัวช่วยให้การ เตรียมตัวขึ้นเครื่องบิน และการวางแผน การเดินทาง ของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นขนาดและประเภทของกระเป๋าเดินทางที่เหมาะสมเลือกให้ตรงกับระยะเวลาและรูปแบบการเดินทางของคุณขนาดของกระเป๋าเดินทางควรสัมพันธ์กับจำนวนวันที่คุณจะเดินทาง และข้อจำกัดของสายการบิน • ถ้าคุณเดินทางเพียง 1-3 วัน เช่น ไปทำงานหรือทริปสั้น กระเป๋าขนาดเล็กแบบถือขึ้นเครื่อง (Carry-on) ขนาดประมาณ 18-20 นิ้ว จะเหมาะมาก เพราะพกพาสะดวก ไม่ต้องเสียเวลาโหลดใต้เครื่อง • หากเดินทาง 4-7 วัน เช่น ท่องเที่ยวในประเทศหรือต่างประเทศระยะสั้น ควรมีกระเป๋าขนาดกลาง ประมาณ 22-26 นิ้ว ซึ่งจุของได้เพียงพอ • ส่วนการเดินทางระยะยาว หรือเดินทางกับครอบครัว ควรใช้กระเป๋าใบใหญ่ ขนาด 28-32 นิ้ว เพื่อให้มีพื้นที่พอสำหรับเสื้อผ้าและของใช้ที่หลากหลายการเลือกขนาดกระเป๋าที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณ เตรียมตัวท่องเที่ยว ได้ง่ายขึ้น ไม่พกของมากเกินไป และไม่ต้องจ่ายค่าน้ำหนักเกินโดยไม่จำเป็นวัสดุของกระเป๋าเดินทาง: แข็งหรือผ้าดี?เลือกวัสดุที่ตอบโจทย์กับสไตล์และจุดหมายปลายทางของคุณกระเป๋าเดินทางมีอยู่หลักๆ 2 ประเภทคือ แบบแข็ง (Hard Case) และแบบผ้า (Soft Case) • กระเป๋าแบบแข็ง ทำจากวัสดุอย่าง ABS หรือ Polycarbonate ซึ่งมีข้อดีคือ ทนทานต่อแรงกระแทก กันน้ำได้ดี เหมาะกับการโหลดใต้เครื่อง และเหมาะมากหากคุณต้องพกของมีค่า • กระเป๋าแบบผ้า มีน้ำหนักเบา ยืดหยุ่นได้ดี เหมาะกับคนที่ต้องการช่องเก็บของด้านนอก หรือมีของที่หยิบใช้งานบ่อย เช่น เอกสาร หรืออุปกรณ์เสริมต่างๆถ้าคุณต้องเดินทางด้วยเครื่องบินบ่อย หรือเจอสภาพอากาศไม่แน่นอน เช่น ฝนตก แนะนำให้เลือกแบบแข็ง ส่วนคนที่ชอบเดินทางในเมือง ขึ้นรถไฟ รถทัวร์ หรือไปต่างจังหวัดแบบสบายๆ แบบผ้าก็เป็นตัวเลือกที่ดีฟังก์ชันเสริมที่ควรมีในกระเป๋าเดินทางเพื่อให้การเตรียมตัวท่องเที่ยวสะดวกและปลอดภัยมากขึ้น1. ล้อลากหมุนได้ 360 องศาเลือกแบบที่มี 4 ล้อ หมุนได้รอบทิศทาง จะช่วยให้คุณลากกระเป๋าได้อย่างลื่นไหล แม้ต้องเดินบนพื้นขรุขระหรือลากในสนามบิน2. ระบบล็อกมาตรฐาน TSAระบบล็อก TSA ได้รับการรับรองจากเจ้าหน้าที่ศุลกากรและสนามบินในหลายประเทศ หากมีกระเป๋าที่ล็อกด้วยระบบนี้ เจ้าหน้าที่สามารถเปิดเพื่อตรวจได้โดยไม่ต้องทำลายล็อก ช่วยเพิ่มความปลอดภัยของสัมภาระ3. ด้ามจับแข็งแรง ปรับระดับได้ควรมีทั้งที่จับบนกระเป๋า และคันชักยืดหดได้ง่าย ด้ามจับต้องไม่ฝืด แข็งแรง และไม่สั่นคลอนเวลาลาก4. น้ำหนักเบา ไม่เปลืองน้ำหนักสัมภาระกระเป๋าที่น้ำหนักเบา ช่วยให้คุณใช้โควต้าน้ำหนักจากสายการบินได้อย่างเต็มที่ พกของได้มากขึ้นโดยไม่เสียค่าน้ำหนักเกิน5. ช่องจัดระเบียบภายในดีเยี่ยมช่องแบ่งใส่ของภายในจะช่วยให้คุณจัดกระเป๋าได้เป็นสัดส่วน เช่น เสื้อผ้า อุปกรณ์อาบน้ำ สายชาร์จ รองเท้า และของจิปาถะต่างๆ หยิบใช้งานง่าย ไม่ต้องรื้อกระเป๋าทั้งใบสิ่งที่ต้องตรวจสอบก่อนซื้อกระเป๋าเดินทางเพื่อให้ได้ของดี ใช้ได้นาน ไม่เสียใจภายหลังตรวจสอบขนาดของกระเป๋าให้เหมาะกับกฎของสายการบินที่คุณใช้เป็นประจำ โดยเฉพาะกระเป๋าขึ้นเครื่อง เพราะแต่ละสายการบินมีข้อกำหนดต่างกัน • ลองลากจริงที่หน้าร้าน หรือลองเปิดปิดซิป เพื่อทดสอบความแข็งแรงของวัสดุและซิป • ดูเงื่อนไขการรับประกัน เช่น หากล้อแตก ซิปพัง หรือด้ามหัก จะสามารถส่งซ่อมหรือเปลี่ยนได้หรือไม่ • หลีกเลี่ยงกระเป๋าที่ไม่มีแบรนด์ หรือไม่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัย เพราะอาจทำให้สัมภาระเสียหายหรือสูญหายระหว่างเดินทางแบรนด์กระเป๋าเดินทางยอดนิยมที่คนไทยนิยมใช้หากคุณกำลังมองหาแบรนด์ที่เชื่อถือได้ ลองพิจารณาแบรนด์เหล่านี้: • Samsonite – ความทนทานสูง ดีไซน์เรียบหรู ใช้งานได้ยาวนาน • American Tourister – เหมาะกับนักเดินทางทั่วไป ราคากลาง คุณภาพดี • Kamiliant / Caggioni – เหมาะกับผู้เริ่มต้นเดินทาง ราคาประหยัด • MUJI / Xiaomi – ดีไซน์มินิมอล น้ำหนักเบา เหมาะกับสายเที่ยวแบบคล่องตัวกระเป๋าเดินทางที่ดี คือผู้ช่วยสำคัญของทุกทริปการเลือกซื้อกระเป๋าเดินทางที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณ เตรียมตัวขึ้นเครื่องบิน ได้รวดเร็ว คล่องตัว ไม่ต้องห่วงเรื่องน้ำหนักเกินหรือของหาย อีกทั้งยังช่วยให้ การเตรียมตัวท่องเที่ยว เป็นเรื่องง่ายขึ้นหลายเท่า อย่าลืมพิจารณาทั้งขนาด วัสดุ ฟังก์ชัน และความคุ้มค่า เพื่อให้กระเป๋าใบที่คุณซื้อมา ใช้งานได้จริงในทุกการเดินทางแหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับ sanookhttps://www.sanook.com/travel/1452519/
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ประกันชีวิต
24/09/2025
บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุนเอไอเอ (ประเทศไทย) จำกัด (AIAIMT) จัดงานเฉลิมฉลองในวาระครบรอบ 5 ปีของการก่อตั้งบริษัทฯ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “5 ปีแห่งความเชื่อมั่น สู่อนาคตที่มั่นคง – AIAIMT 5 Years Forward” โดยบรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความอบอุ่นและประทับใจ ซึ่งนายสุขวัฒน์ ประเสริฐยิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนเอไอเอ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ให้เกียรติต้อนรับคณะผู้บริหารจากกลุ่มบริษัทเอไอเอ นำโดย ดร. ณรงค์ชัย อัครเศรณี กรรมการอิสระ กลุ่มบริษัทเอไอเอ และประธานที่ปรึกษากรรมการ เอไอเอ ประเทศไทย ดร. มาร์ค โคนิน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุน นายตัน ฮาค เลห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารระดับภูมิภาค และ นายชรีคันท์ ชรีนิวัส บัทห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจยูนิต ลิงค์และการลงทุนเพื่อการเกษียณ ร่วมด้วยผู้บริหารเอไอเอ ประเทศไทย นำโดย นางอลิสา สิมะโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายตัวแทนประกันชีวิต พร้อมพลังตัวแทนเอไอเอ ประเทศไทย ที่ได้มาร่วมแสดงความยินดีแก่ บลจ. เอไอเอ (ประเทศไทย) โดยงานจัดขึ้น ณ ห้องบอลรูม โรงแรมเดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน กรุงเทพฯ เมื่อวันศุกร์ที่ 12 กันยายน ที่ผ่านมานอกจากนี้ภายในงานยังได้จัดพิธีมอบรางวัลอันทรงเกียรติเพื่อเป็นการขอบคุณตัวแทนที่ได้ดูแลลูกค้าซึ่งมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการกับ บลจ. เอไอเอ (ประเทศไทย) มากที่สุด ทั้งสิ้น 11 รางวัล โดยมีตัวแทนที่ได้รับรางวัลรวม 10 ท่านจากทุกภูมิภาค ถือเป็นรางวัลซึ่งสะท้อนถึงความสามารถและความเป็นมืออาชีพของตัวแทนเอไอเอ ในการส่งมอบการดูแลและการวางแผนด้านการเงินให้แก่ลูกค้า เพื่อสนับสนุนให้คนไทยมีสุขภาพการเงินที่แข็งแรงและมั่นคงอย่างยั่งยืน ตลอดจนยังได้มี Mini Concert จาก โต๋ ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร นักร้องและนักเปียโนชื่อดังที่ได้มามอบความบันเทิงแบบเอ็กซ์คลูซีฟให้แก่แขกที่มาร่วมงานสำหรับ บลจ. เอไอเอ (ประเทศไทย) ได้เริ่มประกอบธุรกิจในปี พ.ศ. 2563 ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเดินหน้าขับเคลื่อนตลาดทุน พร้อมมุ่งเน้นบริหารจัดการกองทุนรวมภายใต้กรมธรรม์ยูนิต ลิงค์ ของเอไอเอ ประเทศไทย เพื่อเชื่อมโอกาสการลงทุนผ่านเครือข่ายทั่วโลก พร้อมยกระดับการบริหารการลงทุนเพื่อสร้างความมั่งคั่งที่ยั่งยืนให้แก่คนไทยทั่วประเทศ โดยปัจจุบัน บลจ. เอไอเอ (ประเทศไทย) มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ (Assets Under Management - AUM) มากกว่า 1 ล้านล้านบาท* นับเป็น บลจ. ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ*หมายเหตุ:*ข้อมูลจากสมาคมบริษัทจัดการลงทุน ณ เดือนกรกฎาคม 2568**ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต***ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ห้องแสดงนิทรรศการ
24/09/2025
โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ ร่วมกับ ออม เหวียน (Hom Nguyen) ศิลปินชื่อดังสัญชาติ ฝรั่งเศส-เวียดนาม ที่โดดเด่นและมีชื่อเสียงด้านผลงานศิลปะที่สื่อถึงความลึกซึ้งทางอารมณ์ ผลงานของเขาเป็นที่รู้จักจากลายเส้นที่มีเอกลักษณ์และพริ้วไหวบนพื้นผิวที่ซับซ้อน ถ่ายทอดความรู้สึกได้อย่างทรงพลัง ด้วยเทคนิคการใช้ถ่าน หมึก สีออยล์ และพาสเทล โดยผลงานต่างๆได้ถูกจัดแสดงทั้งในสถาบันงานแสดงศิลปะ และพิพิธภัณฑ์มาแล้วทั่วโลกล่าสุด ศิลปินได้นำภาพวาดคอลเลคชั่นใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Devine Feminine” ที่ชวนผู้ชมให้ดำดิ่งสู่โลกอันลุ่มลึกและงดงามของความเป็นหญิง ผสานพาเลทสีสดเข้ากับพื้นผิวที่ซ้อนทับเป็นเลเยอร์อย่างประณีต สะท้อนอารมณ์ ความละเอียดอ่อน และมิติที่หลากหลายซึ่งหล่อหลอมความเป็นหญิงขึ้นมาได้อย่างงดงามและร่วมสมัย พร้อมกันนี้ ยังได้นำผลงานชุดใหม่ “MĀEYE” (อ่านว่า แม่อาย) ซึ่งเป็นการผสมคำระหว่าง “แม่” และ “ตา” โดยศิลปินเชื่อว่า ดวงตาไม่ใช่เพียงองค์ประกอบบนใบหน้าอีกต่อไป แต่คือ “กระจกของจิตวิญญาณ” ที่เชื่อมโยงสายสัมพันธ์อันแนบแน่นระหว่างแม่และลูก ที่เผยผ่านแววตาอันเปี่ยมด้วยความไว้วางใจ ความเอาใจใส่ ความอ่อนโยน และความรักอันลึกซึ้งจากภายในแบบไร้เงื่อนไขมาจัดแสดงเป็นครั้งแรกในประเทศไทยอีกด้วยและเพื่อเติมเต็มความสุนทรีย์ของงานนิทรรศการในครั้งนี้ เชฟเอ๋-อนุพงษ์ นวลฉวี หัวหน้าพ่อครัวเพสทรี (Cluster Executive Pastry Chef) ของโรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ จึงรังสรรค์ “Divine Feminine Afternoon Tea Set” อาฟเตอร์นูนที ที่ได้แรงบันดาลใจจากเทคนิคการแต้มสี สะบัดแปรง และลายเส้นอันเป็นเอกลักษณ์ของศิลปิน มาครีเอทเป็นเมนูคาวหวาน 10 อย่างที่มีสีสันสดใสและ น่ารับประทาน พร้อมเสิร์ฟบนจานสีเข้ากับธีม โดยเมนูของคาว เชฟเน้นวัตถุดิบและเครื่องปรุงเพื่อเติมสีสันให้กับแต่ละเมนู เช่น Black Toast ใส้ไก่เทอรีนและ Black Onion ในโทนสีเข้ม, Corn Tart Mascarpone ทาร์ตข้าวโพดชีสมาสคาร์โปเน สไตล์อิตาเลียน โทนสีเหลือง, Shrimp Paper มูสกุ้งในซอสเกาหลี สีจัดจ้าน ฯลฯสำหรับเมนูของหวาน เชฟเลือกใช้พาเลตต์สีของศิลปินมานำเสนอเมนูขนมแต่ละชิ้นได้อย่างน่าสนใจ อาทิ Dubai Chocolate Tartlet, Colour Splash Jaconde โจคอนด์ เค้กเนื้อนุ่มเพ้นท์สีสดใสรสคาราเมลกล้วย ท็อปด้านบนด้านวิปมะพร้าว, Raspberry & Hazelnut Layered เลเยอร์เค้กสอดไส้ราสเบอร์รี่และสตรอเบอรี่ ขนาบด้วยไวท์ชอคโกแลตสะบัดสี, Edible Art Frame เมนูไฮไลท์ที่จำลองภาพวาดของศิลปินลงบน Rice paper เคลือบช็อคโกแลตและแมคคาเดเมีย กลายเป็นผลงานศิลปะที่รับประทานได้ ฯลฯรวมถึงสโคนรสบลูเบอร์รี่ และสโคนวานิลา ขนมอบคู่ชายามบ่าย เสิร์ฟพร้อมแยมโฮมเมด และ clotted cream จิบกับ Mariage Frères (มาคิยาจ แฟรส์) โอตกูตูร์แห่งชา ในราคา 1,950++บาท (สำหรับ 2 ท่าน)ชวนคุณมาจิบน้ำชายามบ่ายกับ “Divine Feminine Afternoon Tea Set” พร้อมชมนิทรรศการศิลปะโดยศิลปินชื่อดัง ออม เหวียน (Hom Nguyen) ได้ทุกวัน ตั้งแต่วันนี้ถึง 21 กย. 68 เวลา 14:00 - 18:00 น. ณ เดอะล็อบบี้ โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสำรองที่นั่งล่วงหน้าได้ที่ โทร. 0-2431-9499แหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับผู้จัดการออนไลน์https://mgronline.com/celebonline/detail/9680000079015
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ท่องเที่ยว
24/09/2025
โลกร้อนเป็นเหตุ นักวิทย์ชี้ “ธารน้ำแข็ง เปอร์ริโต โมเรโน” แหล่งท่องเที่ยวมรดกโลกในอาร์เจนตินา กำลังเผชิญการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วที่สุดในรอบร้อยปีPhoto: Hans Jurgen Weinhardtรายงานจากสำนักข่าวในต่างประเทศเมื่อเดือนที่ผ่านมา ระบุว่า ธารน้ำแข็งเปอร์ริโต โมเรโน (Perito Moreno Glacier) หนึ่งในสัญลักษณ์สำคัญ และเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติของประเทศอาร์เจนตินา ที่ก่อนนี้เคยเป็นธารน้ำแข็งไม่กี่แห่งที่ยังคงมีความเสถียร แทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่ข้อมูลล่าสุดชี้ว่า ธารน้ำแข็งชื่อดังกำลังเผชิญ “การละลายและหดตัวลงที่รุนแรงที่สุดในรอบร้อยปี” สะท้อนผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เริ่มปรากฏชัดเจนPhoto: Mike Swigunskiงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Communications Earth & Environment ระบุว่า ธารน้ำแข็งเปอร์ริโต โมเรโน ซึ่งตั้งอยู่ในเขตน้ำแข็งปาตาโกเนียตอนใต้ เคยยึดแน่นอยู่ในหุบเขามาหลายทศวรรษ แต่ปัจจุบันกำลังสูญเสียการยึดเกาะกับพื้นหินเบื้องล่าง ทำให้มวลน้ำแข็งแตกตัวและถอยร่นลงไปทีละน้อย โดยเมื่อพิจารณาจากภาพถ่ายแบบ time-lapse ตั้งแต่ปี 2020 ยืนยันให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนมอริทซ์ คอช (Moritz Koch) นักศึกษาปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัย Friedrich-Alexander ประเทศเยอรมนี หนึ่งในทีมวิจัย กล่าวว่า ธารน้ำแข็งแห่งนี้ไม่ได้มีความเสถียรด้านภูมิอากาศมานานกว่าทศวรรษแล้ว โดยทีมวิจัยได้ทำการสำรวจภาคสนามอย่างละเอียด ทั้งการบินเฮลิคอปเตอร์ติดเรดาร์เพื่อตรวจวัดความหนาของน้ำแข็ง ใช้โซนาร์ตรวจวัดจากทะเลสาบ และเสริมด้วยข้อมูลดาวเทียมเอริน เพ็ตติต (Erin Pettit) นักวิทยาศาสตร์น้ำแข็งจากมหาวิทยาลัยออริกอน สเตท ชี้ว่า แม้ตามธรรมชาติธารน้ำแข็งจะมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นลงเป็นเรื่องปกติ แต่หากภูมิอากาศคงที่ ปริมาณหิมะและน้ำแข็งที่ทับถมจะชดเชยกับการละลายได้Photo: Remy Hellequinปรากฏการณ์ธารน้ำแข็งละลาย โดยเฉพาะในเขตขั้วโลก นับเป็นประเด็นสำคัญ เนื่องจากอาจก่อให้เกิดระดับน้ำทะเลสูงขึ้นอย่างมหาศาล กระทบต่อผู้คนในพื้นที่ชายฝั่งและเกาะต่าง ๆ ทั่วโลก นักวิทยาศาสตร์เตือนว่าการศึกษาธารน้ำแข็งขนาดเล็กเช่นเปอร์ริโต โมเรโน สามารถเป็นบทเรียนสำคัญเพื่อทำความเข้าใจว่า “ธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ในแอนตาร์กติกา” อาจเผชิญชะตากรรมอย่างไรในอนาคตสำหรับ ธารน้ำแข็งเปอร์ริโต โมเรโน (Perito Moreno Glacier) นับเป็นธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกาใต้ ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติลอสกลาเซียเรส (Los Glaciares National Park) ในเมืองซานตาครูซ ทางตอนใต้ของอาร์เจนตินาPhoto: Timur Kozmenkoแหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับผู้จัดการออนไลน์https://mgronline.com/travel/detail/9680000083341
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ข่าวทั่วไป
24/09/2025
กรุงเทพฯ, 15 กันยายน 2568 – เอไอเอ ประเทศไทย สานต่อโครงการ “สุดยอดโรงเรียนสุขภาพดี - AIA Healthiest Schools” ซึ่งจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 โดยได้รับความร่วมมืออย่างต่อเนื่องจากกระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) และ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เปิดรับสมัครโรงเรียนระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการเพื่อชิงรางวัลรวมกว่า 2 ล้านบาท และมีโอกาสได้เป็นตัวแทนประเทศไทย เข้าร่วมการแข่งขันในระดับนานาชาติ เพื่อชิงรางวัลอีกกว่า 3.5 ล้านบาท รวมมูลค่ารางวัลสูงสุดถึง 5.5 ล้านบาท ตอกย้ำถึงพันธกิจ AIA One Billion ของเอไอเอ ที่มุ่งสนับสนุนเยาวชนและผู้คนในภูมิภาคเอเชียกว่าหนึ่งพันล้านคนให้มีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ตามคำมั่นสัญญา ‘Healthier, Longer, Better Lives’โครงการแข่งขัน “สุดยอดโรงเรียนสุขภาพดี - AIA Healthiest Schools” เป็นโครงการที่กลุ่มบริษัทเอไอเอ และเอไอเอ ประเทศไทย ริเริ่มขึ้นเพื่อมุ่งเสริมสร้างและปลูกฝังพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ดีต่อสุขภาพของนักเรียนที่มีอายุระหว่าง 5 - 16 ปี โดยมุ่งเน้นใน 4 ด้านสำคัญ ได้แก่ 1) การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ 2) การใช้ชีวิตอย่างกระฉับกระเฉง 3) การมีสุขภาพใจที่ดี และ 4) การดูแลสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน โดยปีที่ผ่านมา โครงการฯ ได้รับเสียงตอบรับที่ยอดเยี่ยมจากโรงเรียนทั่วประเทศที่เข้าร่วมโครงการจำนวนมากกว่า 1,100 โรงเรียน และส่งผลงานเข้าประกวดถึง 130 โรงเรียน ซึ่งมีโรงเรียนที่ได้รับรางวัลชนะเลิศทั้งสิ้น 27 โรงเรียน โดยโรงเรียนที่ชนะระดับประถมศึกษา ได้แก่ โรงเรียนบ้านจันทัย จังหวัดอุบลราชธานี และโรงเรียนที่ชนะระดับมัธยมศึกษา ได้แก่ โรงเรียนเทศบาล 1 กิตติขจร จังหวัดตาก ซึ่งยังสามารถคว้ารางวัล ชนะเลิศด้านการดูแลสุขภาพและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน จากเวทีระดับภูมิภาคสำหรับโรงเรียนระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาที่สนใจ สามารถสมัครเข้าร่วมโครงการ “สุดยอดโรงเรียนสุขภาพดี - AIA Healthiest Schools” ปีที่ 4 และดาวน์โหลดสื่อการสอนได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายได้ที่ www.ahs.aia.com/th/th/ ตั้งแต่วันนี้ ถึง 10 มีนาคม 2569
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ประกันภัย
24/09/2025
9 กันยายน 2568 : สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจปรพกันภัย (คปภ.) หรือนายทะเบียน มีคำสั่งพักใช้ใบอนุญาตของ นายเฉลิมเกียรติ จรามรบูรพงศ์ นักคณิตศาสตร์ประกันภัย ใบอนุญาตเลขที่ ว012/2567 เป็นระยะเวลา 12 เดือน ตามคำสั่งที่ 47 /2568 มีผลตั้งแต่วันที่ 13 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป คำสั่งดังกล่าวส่งผลให้ นายเฉลิมเกียรติ จรามรบูรพงศ์ ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่และไม่สามารถยื่นขอรับใบอนุญาตเป็นนักคณิตศาสตร์ประกันภัยได้ตลอดระยะเวลาที่ถูกพักใช้การพักใช้ใบอนุญาตในครั้งนี้ สืบเนื่องจากนายเฉลิมเกียรติ จรามรบูรพงศ์ ซึ่งปฏิบัติหน้าที่เป็นนักคณิตศาสตร์ประกันภัยและรับรองรายงานการคำนวณความรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัยประจำปี 2566 ของบริษัท สยามสไมล์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) ได้กระทำความผิดโดยรับรองรายงานการคำนวณความรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัยประจำปี 2566 ไม่เป็นไปตามมาตรฐานการปฏิบัติงาน ตามประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เรื่อง มาตรฐานการปฏิบัติงานตามแนวทางปฏิบัติทางคณิตศาสตร์ประกันภัยเกี่ยวกับการประเมินมูลค่าสำรองประกันภัย สำหรับการดำรงเงินกองทุนตามระดับความเสี่ยง พ.ศ. 2564จากการตรวจสอบพบว่า การกระทำของนายเฉลิมเกียรติฯ ไม่เป็นไปตามมาตรฐานการปฏิบัติงานในข้อ 4.1 - 4.6, ข้อ 4.8 – 4.9, ข้อ 4.16, ข้อ 5.2 (ข) (3) และข้อ 5.3 (จ) แห่งประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เรื่อง มาตรฐานการปฏิบัติงานตามแนวทางปฏิบัติทางคณิตศาสตร์ประกันภัยเกี่ยวกับการประเมินมูลค่าสำรองประกันภัย สำหรับการดำรงเงินกองทุนตามระดับความเสี่ยง พ.ศ. 2564 และถือว่ามีพฤติการณ์ที่เข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพนักคณิตศาสตร์ประกันภัยข้อ 5.2 เรื่องมาตรฐานการปฏิบัติงาน (standard of practice) และข้อ 5.7 เรื่องการสื่อสารและการเปิดเผย (communication and disclosures) แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เรื่อง จรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ นักคณิตศาสตร์ประกันภัย ตามกฎหมายว่าด้วยการประกันวินาศภัย พ.ศ. 2552 อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 78/7 ประกอบมาตรา 78/8 (1) ซึ่งเป็นเหตุให้นายทะเบียนมีคำสั่งพักใช้ใบอนุญาตเป็นเวลา 12 เดือนแหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับ ซีเคว้ล ออนไลน์https://www.sequelonline.com/?p=190098
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ประกันชีวิต
24/09/2025
เอไอเอ ประเทศไทย นำทีมโดย นางสาวญดา วงศ์ทองคำ รองผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายบริหารสิทธิพิเศษ และกิจกรรมลูกค้า สานต่อโครงการฝึกทักษะฟุตบอลให้แก่เยาวชนไทย ภายใต้กิจกรรม “เอไอเอ ไทยแลนด์ สเปอร์ส ฟุตบอล คลินิก 2025” เพื่อมุ่งเปิดโอกาสให้เยาวชนที่มีอายุระหว่าง 8-14 ปี กว่า 400 คน ได้เข้าร่วมกิจกรรมลงสนามฝึกทักษะฟุตบอลระดับมาตรฐาน กับโค้ชสเปอร์ส ซึ่งเป็นโค้ชพัฒนาระหว่างประเทศจากสโมสรท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ อีกทั้งในการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ทางเอไอเอได้เชิญ ‘มิก้า ชูนวลศรี’ อดีตนักฟุตบอลชาวไทย และรองประธานสโมสรสมุย ยูไนเต็ด มาร่วมลงสนามพร้อมกับไทยโค้ชอีก 12 คน เพื่อร่วมปลูกฝังพื้นฐานที่ดีในด้านการกีฬา และพัฒนาทักษะให้กับเยาวชนไทย พร้อมก้าวไปสู่การเป็นนักกีฬาฟุตบอลในระดับอาชีพ สำหรับเยาวชนที่มีอายุ 12-14 ปี ที่ฉายแววนักเตะดาวรุ่ง ยังมีโอกาสได้รับคัดเลือกจากโค้ชสเปอร์ส เข้าร่วมเก็บตัวฝึกซ้อมทักษะฟุตบอลในแบบฉบับของสเปอร์ส เวย์ ในโครงการ “เอไอเอ สเปอร์ส อีลิท ฟุตบอล แคมป์ 2025” ซึ่งจะจัดขึ้นที่มาราลีน่า สปอร์ต รีสอร์ท เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎธานี ในวันที่ 9 - 15 พฤศจิกายนนี้ โดยมีเยาวชนได้รับการคัดเลือกจากโค้ชสเปอร์สทั้งหมด 24 คน และตัวสำรองอีก 6 คน ได้คัดเลือกเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว โดยการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ขอขอบคุณผู้สนับสนุนจากบีจี สปอร์ต น้ำดื่มสิงห์ เครื่องดื่มรังนกบอนแบค และผลิตภัณฑ์ เบเกอรี่ตราเลอแปง ได้สนับสนุนผลิตภัณฑ์ให้กับเยาวชนที่เข้าร่วมกิจกรรม “เอไอเอ ไทยแลนด์ สเปอร์ส ฟุตบอล คลินิก 2025” เมื่อวันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา ณ สนามฟิวเจอร์ อารีน่า รังสิตนางสาวญดา วงศ์ทองคำ รองผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายบริหารสิทธิพิเศษ และกิจกรรมลูกค้า เอไอเอ ประเทศไทย กล่าวว่า “โครงการ เอไอเอ ไทยแลนด์ สเปอร์ส ฟุตบอล คลินิก 2025 ครั้งนี้นับเป็นปีที่ 12 ที่กิจกรรมนี้ถูกจัดขึ้นเพื่อมุ่งสานฝันเยาวชนที่รักในกีฬาฟุตบอล อีกทั้งยังเป็นการสานต่อความมุ่งมั่นของเอไอเอ ในการสนับสนุนให้เยาวชนได้รับประสบการณ์ใหม่ ๆ ด้านกีฬาฟุตบอล พร้อมสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนรักในการเล่นกีฬา เพื่อส่งเสริมให้มีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน ซึ่งได้รับความร่วมมืออย่างดีจากโค้ชสเปอร์สมากประสบการณ์จากทีมสโมสรฟุตบอลระดับโลก ที่ได้วางแผนการฝึกซ้อมมาอย่างเข้มข้น เพื่อสนับสนุนให้เยาวชนได้รับความรู้ และนำประสบการณ์ที่ได้จากการฝึกทักษะไปใช้ประโยชน์ให้ได้มากที่สุด ตอกย้ำถึงพันธกิจของเอไอเอ ที่ต้องการส่งเสริมให้เยาวชนและผู้คนทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกว่าหนึ่งพันล้านคนมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ตามคำมั่นสัญญา Healthier, Longer, Better Lives”
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
30/05/2024
08/02/2025
29/04/2024
30/04/2024
30/05/2024