Everyday knowledge for you
ข่าวการเงิน
30/04/2024
บทความโดย “พรชัย พิพัฒนกุลวานิช” ที่ปรึกษาการเงิน AFPT™ สมาคมนักวางแผนการเงินไทย ในยุคที่สื่อออนไลน์เข้ามามีบทบาทกับชีวิตผู้คนมากขึ้น ข้อมูลของความสำเร็จ รวมไปถึงเทคนิค เคล็ดลับ การไปสู่จุดหมายปลายทางที่ตั้งใจไว้ก็มีให้เห็นแทบทุกวัน เช่นเดียวกับแวดวงการเงินที่ถูกเผยแพร่เกี่ยวกับเทคนิคการลงทุน ความสำเร็จ ทำให้กลายเป็นแรงบันดาลให้ผู้คนอยากเดินตามรอย อย่างไรก็ตาม มีบางครั้งที่ผู้คนตั้งเป้าหมายแต่ไม่สามารถไปถึงเป้าหมาย ทำให้หลายคนเลิกล้มความตั้งใจ ขณะที่อีกหลายคนพยายามมองหาเครื่องมือเพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย แบ่งเงินสูตร 6 ขวดโหล ผู้เขียนขอนำการจัดการเงินตามหลัก 6 Jars Model ของ T.Harv Eker ที่จะแบ่งเงินออกเป็น 6 ขวดโหล ตามสัดส่วนที่แตกต่างกันและใช้จ่ายภายในสัดส่วนที่กำหนดไว้ในแต่ละช่อง ขวดโหลใบที่หนึ่ง ขอเรียกว่า โหลนี่หรือค่าใช้จ่ายฉัน ใช้สำหรับค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต่าง ๆ เช่น ค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าบัตรเครดิต ค่าอาหารและเครื่องดื่ม เป็นต้น แบ่งเงินมาไว้ในขวดโหลใบนี้ 55% ของรายได้ ขวดโหลใบที่สอง Long–Term Saving for spending ขอเรียกว่า โหลนั่นสินะค่าใช้จ่ายที่รอเราอยู่ ใช้สำหรับการเก็บออมไว้สำหรับค่าใช้จ่ายครั้งใหญ่ ๆ ที่จะเกิดขึ้น เช่น การท่องเที่ยว เงินสำรองฉุกเฉิน (Rainy day fund) และค่าใช้จ่ายในการรักษาสุขภาพที่ไม่คาดคิด เป็นต้น แบ่งเงินมาไว้ในขวดโหลใบนี้ 10% ของรายได้ ขวดโหลใบที่สาม Play ขอเรียกว่า โหลดีต่อใจ ใช้จ่ายไปจะกลัวอะไรไม่ใช่เงินใครคือเงินเรา ใช้สำหรับการสปอยล์ตัวเองและครอบครัว หรือซื้อของที่ฟุ่มเฟือยที่ดีต่อใจ ใช้ให้หมดและใช้ได้อย่างสนุกสนาน แบ่งเงินมาไว้ในขวดโหลใบนี้ 10% ของรายได้ ขวดโหลใบที่สี่ Education ขอเรียกว่า โหลพัฒนาตน พัฒนาใจ พัฒนาอะไรก็ต้องใช้เงิน ใช้สำหรับการซื้อหนังสือเพิ่มความรู้ คอร์สเรียนพัฒนาตนเอง การโค้ชชิ่งหรือการมีครูฝึกเพื่อให้เก่งขึ้นและมีความรู้เพิ่มขึ้น แบ่งเงินมาไว้ในขวดโหลใบนี้ 10% ของรายได้ ขวดโหลใบที่ห้า Financial Freedom Account ขอเรียกว่า โหลอนาคตอยู่ไม่ไกล ค่อย ๆ ออมไป จะถึงเส้นชัยในวันหนึ่ง ใช้สำหรับการลงทุนในหุ้น กองทุนรวม อสังหารัมทรัพย์ และการลงทุนอื่น ๆ เพื่อเป้าอิสรภาพในด้านการเงิน แบ่งเงินมาไว้ในขวดโหลใบนี้ 10% ของรายได้ ขวดโหลใบที่หก Give ขอเรียกว่า โหลให้คืนสู่สังคมไป สุขใจจัง ใช้สำหรับการบริจาค การทำบุญต่าง ๆ แบ่งเงินมาไว้ในขวดโหลใบนี้ 10% ของรายได้ พอแบ่งเงินตามโหลทั้งหกใบก็ให้ใช้จ่ายไปตามนั้น ตามสัดส่วนที่กำหนดไว้ในแต่ละโหล และในระหว่างลงมือทำอาจมีคำถามกับตัวเอง เช่นจะถึงเป้าที่วางไว้หรือไม่ หากคำตอบว่า ไม่ใช่ ไม่น่าจะเป็นไปได้ บางครั้ง เราก็สามารถประยุกต์ใช้ทฤษฎีได้ เพิ่มลดบางส่วนได้ ไม่จำเป็นต้องตรงตามตัวทฤษฎีมาก ถ้าทำให้เรามีความสุขมากขึ้นหรือเข้าใกล้เป้าหมายมากขึ้น เช่น การเพิ่มรายรับแล้วคงสัดส่วนไว้เท่าเดิม เช่น จากเดิมรายรับ 30,000 บาท แบ่งโหลที่หนึ่ง 16,500 บาท (55%) โหลที่สอง 3,000 บาท (10%) โหลที่สาม 3,000 บาท (10%) โหลที่สี่ 3,000 บาท (10%) โหลที่ห้า 3,000 บาท (10%) โหลที่หก 1,500 บาท (5%) ถ้าเราเพิ่มรายรับเป็น 40,000 บาท โหลที่หนึ่งจะได้เป็น 20,000 บาท โหลที่สอง 4,000 บาท โหลที่สาม 4,000 บาท โหลที่สี่ 4,000 บาท โหลที่ห้า 4,000 บาท และโหลที่หก 2,000 บาท ก็จะทำให้เข้าใกล้เป้าหมายมากขึ้น แต่ถ้าไม่รู้วิธีเพิ่มรายได้ การควบคุมค่าใช้จ่ายและการปรับเปลี่ยนสัดส่วนใหม่ ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เช่น จากเดิมตามทฤษฎีให้เก็บไว้สำหรับค่าใช้จ่าย 55% และออมเพื่ออิสรภาพทางการเงิน 10% แต่คิดว่าไม่พอ ก็อาจปรับให้เหมาะกับเป้าหมายหรือตัวเราจากแบ่งเพื่อค่าใช้จ่าย 55% เป็น 45% และนำ 10% ไปเพิ่มให้กับการออมเพื่อเป้าหมายอิสรภาพทางการเงิน 10% แทนจากเดิม 10% (ก็จะเพิ่มเป็น 20%) ซึ่งก็จะช่วยให้เราเข้าใกล้เป้าหมายได้เพิ่มอีกหนึ่งทาง ถึงแม้ “ออมอย่างไร ไม่ให้พลาดทุกเป้าหมายการเงิน” ไม่อาจสรุปได้ว่าวิธีการไหนที่ดีที่สุด ดังนั้นการลงมือทำอย่างต่อเนื่อง มีวินัย ปรับปรุงให้เหมาะกับตัวเอง ย่อมเป็นวิธีการที่ดีและสามารถทำให้ไปถึงเป้าหมายที่วางเอาไว้ แหล่งที่มาข่าวต้นฉบับประชาชาติธุรกิจออนไลน์https://www.prachachat.net/finance/news-1344454
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ประกันชีวิต
30/04/2024
กรุงเทพฯ, 14 กรกฎาคม 2566 - เอไอเอ ประเทศไทย ผู้นำด้านประกันชีวิตและสุขภาพ ยกทัพผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพที่ครอบคลุมความต้องการของทุกช่วงชีวิต พร้อมให้มากกว่าความคุ้มครอง ร่วมงานวันประกันชีวิตแห่งชาติ ครั้งที่ 22 เพื่อมุ่งสนับสนุนคนไทยให้เข้าถึงการบริการทางการแพทย์และการรักษาพยาบาลที่มีคุณภาพ ซึ่งเป็นสิ่งที่เอไอเอ มุ่งมั่นและเดินหน้าส่งมอบความคุ้มครองด้านสุขภาพ พร้อมบริการด้านสุขภาพที่ครบวงจรมาอย่างต่อเนื่อง ตอกย้ำคำมั่นสัญญา ‘Healthier, Longer, Better Lives - เพื่อสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น’ โดยงานวันประกันชีวิตแห่งชาติ ครั้งที่ 22 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15-16 กรกฎาคม นี้ ณ ชั้น 1 ศูนย์การค้า เซ็นทรัล เวสต์เกต ในงานนี้ เอไอเอ ชูผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพ อาทิ "เอไอเอ เฮลธ์ เซฟเวอร์ (AIA Health Saver)” ที่มาในคอนเซ็ปต์ “คุ้มกว่าที่เคยเจอ เซฟเวอร์ทั่วไทย” ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายในราคาที่ทุกคนเข้าถึงได้ ด้วยเบี้ยประกันภัยเริ่มต้นเพียง 575 บาทต่อเดือน[1] “เอไอเอ เฮลธ์ โซลูชันส์ (AIA Health Solutions)” ที่รวบรวมบริการเสริมด้านสุขภาพ เพื่อให้ลูกค้าได้รับการดูแลแบบครบวงจร ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาเป็นลูกค้าของเอไอเอ ผ่านบริการและโครงการสุขภาพถึง 9 บริการ ครอบคลุมการดูแลด้านสุขภาพที่เหนือระดับ ตอบโจทย์ลูกค้าในทุกช่วงของชีวิต และผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด “เอไอเอ ไวทัลลิตี้ ยูนิต ลิงค์ (AIA Vitality Unit Linked)” ครั้งแรกที่เอไอเอ ผนึก 2 ผลิตภัณฑ์เรือธง “AIA Vitality” และ “AIA Unit Linked” เข้าไว้ด้วยกัน ให้ลูกค้าได้เลือกรับความคุ้มครองครบทั้งสุขภาพและโรคร้ายแรง พร้อมยังได้รับเงินคืนค่าการประกันภัยตลอดอายุกรมธรรม์สูงสุด 25%[2] เพื่อสนับสนุนให้ลูกค้าได้วางแผนการเงินพร้อมวางแผนสุขภาพแบบครบวงจร เตรียมมาพบกับที่ปรึกษาทางด้านประกันชีวิตและการเงินมืออาชีพของเอไอเอ พร้อมเลือกแบบประกันที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ได้ภายในงานวันประกันชีวิตแห่งชาติ ครั้งที่ 22 วันที่ 15-16 กรกฎาคม นี้ พร้อมสนุกกับกิจกรรมตรวจวัดองค์ประกอบของร่างกายโดยเครื่อง BIA (Bioelectrical Impedance Analysis) และพิเศษสำหรับสมาชิกเอไอเอ ไวทัลลิตี้ รับคะแนนสูงสุด 1,500 คะแนน[3] จากตรวจค่าดัชนีมวลกาย (BMI) ภายในงาน พร้อมเพลิดเพลินกับโปรโมชั่นสุดพิเศษ รวมทั้งของรางวัลสุด Exclusive จากเอไอเอเฉพาะภายในงานเท่านั้นหมายเหตุ: [1] คำนวณจากเบี้ยประกันภัยรายปี 6,900 บาท สำหรับเพศชายอายุ 21-25 ปี แผนความคุ้มครอง 200,000 บาท [2] ตามเงื่อนไขการจ่ายเงินคืนค่าการประกันภัย ณ วันครบรอบปีกรมธรรม์ที่ระบุในสัญญา [3] เงื่อนไขเป็นไปตามข้อกำหนดของ เอไอเอ ไวทัลลิตี้
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ประกันภัย
30/04/2024
บอร์ด คปภ. เสนอรัฐมนตรีคลังเห็นชอบขึ้นเงินสมทบเข้ากองทุนประกันวินาศภัยเป็น 0.5% เพิ่มสภาพคล่องรองรับภาระชำระหนี้บริษัทที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาตวันที่ 11 กรกฎาคม 2566 สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เผยแพร่ประกาศคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เรื่อง กำหนดอัตรา หลักกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และระยะเวลาที่บริษัทต้องนำส่งเงินเข้ากองทุนประกันวินาศภัย (ฉบับที่ …) พ.ศ. …เพื่อให้กองทุนประกันวินาศภัยบริหารจัดการทรัพย์สินและหนี้สินได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงเห็นสมควรเพิ่มอัตราเงินที่บริษัทนำส่งเข้ากองทุนตามมาตรา 80/3 แห่งพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 80/3 วรรคหนึ่ง และวรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551 ประกอบกับมติที่ประชุมคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ครั้งที่ ../2566 เมื่อวันที่ … พ.ศ. 2566 และด้วยความเห็นชอบของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในการกำหนดอัตราเงินที่บริษัทต้องนำส่งเงินเข้ากองทุนประกันวินาศภัย คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย จึงออกประกาศไว้ดังนี้ • ให้บริษัทประกันวินาศภัยนำส่งเงินกองทุนปีละ 2 ครั้งดังนี้ 1.ครั้งที่หนึ่งให้บริษัทนำส่งภายในเดือน ม.ค. ในอัตรา 0.5% ของเบี้ยประกันภัยที่บริษัทได้รับในรอบเดือน ก.ค.-ธ.ค.ของปีที่ผ่านมา และ 2.ครั้งที่สองให้บริษัทนำส่งภายในเดือน ก.ค. ในอัตรา 0.5% ของเบี้ยประกันภัยที่บริษัทได้รับในรอบเดือน ม.ค.-มิ.ย. ของปีเดียวกัน • สำหรับการนำส่งเงินสมทบเข้ากองทุนในเดือน ม.ค.ของปี 2567 ให้บริษัทนำส่งในอัตราดังนี้ 1.ในอัตรา 0.25% ของเบี้ยประกันภัยที่บริษัทได้รับในรอบเดือน ก.ค.-ก.ย. ของปี 2566 2.ในอัตรา 0.5% ของเบี้ยประกันภัยที่บริษัทได้รับในรอบเดือน ต.ค.-ธ.ค.ของปี 2566“เนื่องจากผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้บริษัทประกันวินาศภัยบางแห่งถูกเพิกถอนใบอนุญาตการประกอบธุรกิจประกันภัย ทำให้กองทุนประกันวินาศภัยต้องรับภาระการชำระหนี้ตามสัญญาประกันภัย รวมถึงมีหน้าที่เป็นผู้ชำระบัญชีให้กับบริษัทประกันวินาศภัยที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาต ทำให้กองทุนประกันวินาศภัยมีปัญหาเรื่องฐานะการเงินโดยแนวทางช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้กับกองทุนประกันวินาศภัย โดยปรับขึ้นอัตราเงินสมทบกองทุนประกันวินาศภัย ตามมาตรา 80/3 แห่ง พ.ร.บ.ประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 จากอัตรา 0.25% เป็น 0.50% ซึ่งได้กำหนดให้บริษัทนำส่งเข้ากองทุนตามอัตราที่คณะกรรมการ คปภ.กำหนดด้วยความเห็นชอบของรัฐมนตรีคลัง อัตราดังกล่าวต้องไม่เกิน 0.50% ของเบี้ยประกันภัยที่บริษัทได้รับในรอบระยะเวลา 6 เดือนก่อนหน้างวดที่ต้องนำส่งเงินเข้ากองทุน”แหล่งที่มาข่าวต้นฉบับประชาชาติธุรกิจออนไลน์https://www.prachachat.net/finance/news-1345148
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ข่าวการเงิน
30/04/2024
“ภารตะ เชน” ชายอินเดียขอทานที่รวยที่สุดในโลก เห็นรายได้ต่อเดือนทำอึ้ง แถมเป็นเจ้าของคอนโดอีก2ห้อง ส่งลูกจนเรียนจบ เว็บไซต์ต่างประเทศ รายงานเรื่องราวขอทานที่รวยที่สุดในโลก ชื่อว่า ภารตะ เชน ซึ่งเขาอาศัยอยู่ที่มุมไบ โดยเขาเป็นเจ้าของทรัพย์สินมูลค่าหลายล้านรูปีต่อปี และเป็นเจ้าของแฟลตในมุมไบและร้านค้าให้เช่าอีก 2 แห่ง โดยรายได้สุทธิของนายเชนต่อปีคาดว่าสูงถึง 7.5 ล้านรูปีหรือราว 3.2 ล้านบาท ซึ่งขัดกับรายได้ต่อเดือนของพนักงานประจำอีกด้วยซ้ำ ตามรายงานของ Economic Times เผยว่า นายภารตะ เชน ขอทานที่รวยที่สุดในโลก ไม่ได้เรียนหนังสือเป็นทางการ เพราะขัดสนเรื่องเงิน ปัจจุบันเขาแต่งงานแล้ว มีภรรยา 1 คน มีลูกชาย 2 คน และอาศัยร่วมกับพี่ชาย และ พ่อ โดยอาชีพขอทานนี้ทำให้เขามีรายได้ 25000 – 32000 บาทต่อเดือนภาพประกอบ อย่างไรก็ตาม นายเชนได้นำเงินที่ได้มาไปลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ โดยเขามีแฟลตขนาด 2 ห้องนอนในมุมไบ ราคา 5.2 แสนบาท และเป็นเจ้าของร้านค้าให้เช่า 2 ห้อง ในเมืองธาน ชานเมืองมุมไบ ปล่อยให้คนเช่ารวม 12,800 บาทต่อเดือน ขณะที่ นายเชนได้ตระเวณขอทานตาม สถานีรถไฟปลายทางฉัตรปตีศิวาจี อาซัด ไมดาน สนามกีฬาเมืองมุมไบ แม้เชนจะร่ำรวยแต่เขาก็ยังคงยึดอาชีพขอทาน โดยปัจจุบัน นายเชนอาศัยในอพาร์ทเมนต์ 1 ห้องนอนแบบดูเพล็กซ์ กับครอบครัวของเขา ลูกได้เข้าเรียนในโรงเรียนคอนแวนต์และสำเร็จการศึกษาแล้ว ส่วนสมาชิกในครอบครัวคนอื่น ๆ เปิดร้านขายเครื่องเขียน และครอบครัวได้ขอร้องให้เขาหยุดขอทาน แต่เชนไม่หยุดยังยึดอาชีพขอทานต่อไปภาพประกอบ ทั้งนี้ ภารตะ เชน พบเห็นเขาขอทานได้ตามท้องถนนในเมืองมุมไบ คำว่า ‘ขอทาน’ มักกระตุ้นความคิดของหลายคน ให้นึกถึงความยากจน สวมเสื้อผ้าขาดวิ่น และมีผม รุงรัง ร่างกายมอมแมม แต่หลายคนก็มาเอาดีทางด้านขอทาน มิติใหม่ขอทานได้เริ่มขึ้นภาพประกอบแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับข่าวสดออนไลน์https://www.khaosod.co.th/around-the-world-news/news_7758082
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ประกันชีวิต
30/04/2024
กรุงเทพฯ, 13 กรกฎาคม 2566 – กลุ่มบริษัทเอไอเอ (“เอไอเอ” หรือ “บริษัท”; รหัสหลักทรัพย์: 1299) มีความภูมิใจที่จะประกาศว่าเอไอเอเป็นบริษัทที่มีจำนวนสมาชิกสโมสรล้านเหรียญโต๊ะกลม (MDRT) มากที่สุดในโลกเป็นประวัติการณ์ ต่อเนื่องกันเป็นปีที่ 9นายหลี่ หยวน ชยอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัทเอไอเอ กล่าวว่า “ผมรู้สึก ภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่เอไอเอ ได้บรรลุเป้าหมายในการขึ้นเป็นบริษัทที่มีสมาชิก MDRT มากที่สุดในโลกอีกครั้ง ความสำเร็จในครั้งนี้ถือเป็นประวัติการณ์ที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงคุณภาพของตัวแทนเอไอเอระดับ Premier Advisor รวมถึงผู้บริหารหน่วยตัวแทนระดับโลก ซึ่งถือเป็นบุคคลสำคัญที่ทำให้ช่องทางตัวแทนของเราไม่มีคู่แข่งที่ทัดเทียมได้ในตลาด ความได้เปรียบในการแข่งขันนี้เราใช้เวลาสร้างมาเป็นเวลาหลายทศวรรษ และเป็นหนึ่งในหลายเหตุผลที่ทำให้เอไอเอแตกต่างเหนือคู่แข่ง เพื่อการเติบโตที่แข็งแกร่งในอนาคต”นายแจ็คกี้ ชาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารประจำภูมิภาคและประธานเจ้าหน้าที่บริหารช่องทางการขาย กลุ่มบริษัทเอไอเอ กล่าวว่า “ผมรู้สึกยินดีที่เอไอเอได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ติดต่อกันมาเป็นเวลา 9 ปี ซึ่งที่เอไอเอ เรามีการจัดฝึกอบรมตามมาตรฐานผู้นำในกลุ่มอุตสาหกรรม อีกทั้งเรามีการพัฒนา และมอบโอกาสการเติบโตในสายอาชีพให้กับตัวแทนมืออาชีพของเรา โดยความสำเร็จนี้สะท้อนถึงความเป็นเลิศของตัวแทนเอไอเอ ทั้งนี้ เราจะยังคงลงทุนกับการสร้างและพัฒนาตัวแทน ผู้ซึ่งมีส่วนสำคัญในการนำพาความสามารถของเอไอเอไปช่วยสนับสนุนให้ผู้คนนับหลายล้านคนในเอเชียมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ตามคำมั่นสัญญา Healthier, Longer, Better Lives” สโมสรล้านเหรียญโต๊ะกลม (MDRT) ได้รับการยอมรับว่าเป็น Premier Association of Financial Professionals® หรือสมาคมด้านมาตรฐานความเป็นเลิศของธุรกิจประกันชีวิตและบริการทางการเงิน โดยสมาชิก MDRT จะถูกกำหนดขั้นต่ำของเบี้ยประกันภัย ค่าคอมมิชชัน และรายได้ ตลอดจนสามารถแสดงให้เห็นถึงความรู้ทางวิชาชีพอย่างต่อเนื่อง มีจรรยาบรรณที่เข้มงวด และมีการบริการลูกค้าที่โดดเด่น หมายเหตุ: *ข้อมูล MDRT 2023 ณ วันที่ 13 กรกฎาคม 2566 จาก www.mdrt.org
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ประกันภัย
30/04/2024
คปภ. ยกร่างประกาศกระทรวงการคลัง ลดเงินสมทบบริษัทกลาง 3 ปี จากระดับ 12.25% เหลือแค่ 6% ของเบี้ย พ.ร.บ.ที่ได้รับแต่ละไตรมาส ตั้งแต่เดือน ต.ค. 66-ก.ย. 69 เพื่อช่วยบรรเทาธุรกิจประกัน หลังอ่วมจ่ายเคลมโควิดวันที่ 10 กรกฎาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 7 ก.ค. 2566 สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้เผยแพร่ร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการจ่ายเงินสมทบเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายของบริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด (ฉบับที่…) พ.ศ. …ตามที่กระทรวงการคลังได้ออกประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการจ่ายเงินสมทบเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายของบริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด ลงวันที่ 26 เมษายน 2553 ซึ่งกำหนดอัตราเงินสมทบไว้เป็นอัตรา 12.25% เพื่อให้ภาระค่าใช้จ่ายของบริษัทประกันวินาศภัยลดลง อันเป็นการช่วยเสริมสร้างประสิทธิภาพและศักยภาพของบริษัทประกันวินาศภัย ประกอบกับประมาณการฐานะการเงินของบริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด ยังคงมีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุนในระดับที่สูงกว่าที่กฎหมายกำหนดเป็นจำนวนมาก ซึ่งเพียงพอต่อการดำเนินการตามภารกิจที่กฎหมายกำหนดโดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 และมาตรา 10 ทวิ วรรคเจ็ด แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2550 ประกอบมาตรา 3 (3) แห่งพระราชบัญญัติคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย พ.ศ. 2550 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้แก้ไขเพิ่มเติม– ให้บริษัทประกันภัยจ่ายเงินสมทบให้แก่บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด ภายใน 30 วัน นับแต่วันสิ้นรอบ 3 เดือน ในอัตราดังต่อไปนี้– สำหรับการจ่ายเงินสมทบรอบเดือน ต.ค. 2566 ถึงรอบเดือน ก.ย. 2569 ให้นำส่งในอัตรา 6% ของเบี้ยประกันภัยที่ได้รับจากผู้เอาประกันภัยตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535– สำหรับการจ่ายเงินสมทบรอบเดือน ต.ค. 2569 เป็นต้นไป ให้นำส่งในอัตรา 12.25% ของเบี้ยประกันภัยที่ได้รับจากผู้เอาประกันภัยตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535“การคำนวณเบี้ยประกันภัยที่ได้รับจากผู้เอาประกันภัยตามวรรคหนึ่ง ให้ใช้เกณฑ์สิทธิ โดยให้นำเบี้ยประกันภัยที่เกิดขึ้นในรอบ 3 เดือนใดแม้ว่าจะยังไม่ได้รับชำระในรอบ 3 เดือนนั้นมารวมคำนวณเป็นเบี้ยประกันภัยของรอบ 3 เดือนนั้น”แหล่งที่ที่มาข่าวต้นฉบับประชาชาติธุรกิจออนไลน์https://www.prachachat.net/finance/news-1344610#google_vignette
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ประกันชีวิต
30/04/2024
กรุงเทพฯ 7 กรกฎาคม 2566 - ALive Powered by AIA (เอ ไลฟ์ พาวเวอร์ บาย เอไอเอ) แอปพลิเคชันครบวงจรด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ฉลองความสำเร็จก้าวสำคัญหลังมีผู้ใช้งานเกิน 1 ล้านคนเมื่อต้นเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา ตอกย้ำความพร้อมที่จะก้าวไปข้างหน้า โดยใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อเป็นเครื่องมือในการส่งเสริมให้ผู้ใช้งานทุกคนมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ตามคำมั่นสัญญา 'Healthier, Longer, Better Lives' ALive ได้รับการพัฒนาขึ้นด้วยความมุ่งมั่นอย่างตั้งใจของ เอไอเอ เวลเนส เพื่อเติมเต็มชีวิตของผู้ใช้งานในด้านต่างๆ อย่างรอบด้าน ทั้งเรื่องสุขภาพ ความมั่นคงทางการเงิน และครอบครัว เจตนารมณ์นี้สอดคล้องกับพันธกิจ “AIA One Billion” ที่มุ่งสนับสนุนให้ผู้คนกว่าพันล้านคนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้นภายในปี พ.ศ. 2573 โดยกลุ่มบริษัทเอไอเอได้ริเริ่มภารกิจเพื่อส่งเสริมให้เราสามารถไปถึงจุดมุ่งหมายในการเข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันของทุกคน เพื่อมีส่วนช่วยสร้างอนาคตที่ยั่งยืนสำหรับทุกชีวิตในสังคมของเรา นับตั้งแต่เริ่มให้บริการ ALive ได้พัฒนาและผสานเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าในปัจจุบันเพื่อขับเคลื่อนชีวิตของผู้คนในด้านต่างๆ ผ่านการออกแบบหน้าจอแอปพลิเคชันที่ใช้งานง่าย มีเนื้อหาที่หลากหลายตรงกับความสนใจของผู้ใช้งานในปัจจุบัน ซึ่งครอบคลุมประเด็นด้านการบริหารและจัดการอารมณ์ สุขภาพร่างกาย จิตใจ ความมั่นคงทางการเงิน การงานและอาชีพ การวางแผนทางการเงิน ไลฟ์สไตล์ การพัฒนาตนเอง และการดูแลความสัมพันธ์นายจุฑาภัทร เหล่าธรรมทัศน์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนา ดิจิทัล โซลูชันส์ แอนด์ ดีไซน์ เอไอเอ เวลเนส กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่แอปพลิเคชัน ALive Powered by AIA ได้บรรลุอีกก้าวสำคัญโดยมีผู้ใช้งานถึงหนึ่งล้านคน ความสำเร็จครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเราในการยกระดับชีวิตของผู้คนทั่วประเทศไทย เราขอขอบคุณผู้ใช้งานแอปพลิเคชัน ALive จากใจ ที่ให้ความไว้วางใจและสนับสนุนเป็นอย่างดี ความสำเร็จในครั้งนี้เป็นข้อพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นทุ่มเทของทีมงานเบื้องหลังทุกคน ซึ่งอนาคตต่อไปจากนี้เราพร้อมที่จะเดินหน้าขยายการให้บริการและปรับปรุงพัฒนาแอปพลิเคชันด้านโซลูชันเพื่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีครอบคลุมรอบด้านเพื่อผู้ใช้งานทุกคน ตลอดจนเดินหน้าส่งเสริมให้คนไทยทั่วประเทศบรรลุเป้าหมายการมีสุขภาพที่แข็งแรงและมีชีวิตที่ดีขึ้น” ALive คือแอปพลิเคชันครบวงจรสำหรับทุกคนในสังคม ตั้งแต่กลุ่มที่เพิ่งก้าวเข้าสู่วัยทำงานไปจนถึงวัยสร้างครอบครัว ภายในแอปพลิเคชันมีฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์มากมายอย่าง ปรึกษาแพทย์ออนไลน์ (Telemed) ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์แบบออนไลน์โดยไม่จำเป็นต้องไปโรงพยาบาล คำนวณแคลอรี่ (Calories Tracker)* ช่วยตรวจสอบปริมาณแคลอรี่ที่ได้รับในแต่ละวันพร้อมรับคำแนะนำในการทานอาหารเพื่อสุขภาพที่ดี กิจกรรมไลฟ์ (ALive Show) อัปเดตข้อมูลล่าสุดจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพร่างกายและสุขภาพใจผ่านรูปแบบวิดีโอ พร้อมกับฟีเจอร์ สกู๊ป (Scoop) ที่นำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพในรูปแบบคลิปวิดีโอที่ผู้ใช้งานสามารถดูและแชร์ต่อได้ คอมมิวนิตี (Community) สร้างแพลตฟอร์มให้ผู้ใช้งานมีส่วนร่วมในการสนทนาเกี่ยวกับหัวข้อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว, สุขภาพ, ความรัก, อาชีพ และการเงิน และยังมีฟีเจอร์ สิทธิพิเศษ (Rewards) ที่มอบสิทธิประโยชน์ด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีแก่ผู้ใช้งาน นอกจากนี้ ความสำเร็จของ ALive ยังพิสูจน์ได้จากรางวัลมากมายที่ได้รับ อาทิ รางวัลชนะเลิศในสาขา Connected Ecosystems & Marketplace ในงานประกาศรางวัล EFMA-Accenture Innovation in Insurance Awards เมื่อปี 2565 รางวัลสุดยอดการสร้างประสบการณ์แก่ลูกค้าแห่งโลกอนาคต “Best in Future of Customer Experience” จากเวที IDC DX Summit & Future Enterprise Awards ในปี 2565 ระดับภูมิภาคอาเซียน และรางวัล Parent's Choice หรือสุดยอดผลิตภัณฑ์ในดวงใจของคุณพ่อคุณแม่ ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Health App for Family ในงาน theAsianparent Awards สองปีซ้อน (2564-2565) และเมื่อไม่นานมานี้ ALive เพิ่งคว้ารางวัล Model Insurer Awards อันทรงเกียรติจาก Celent ในสาขา “Customer Experience Transformation” ประจำปี 2566 แอปพลิเคชัน ALive Powered by AIA พร้อมให้ดาวน์โหลดแล้วบนระบบปฏิบัติการ iOS และ Android สำหรับลูกค้าทั่วไปสามารถสมัครใช้บริการและสนุกไปกับฟีเจอร์ต่างๆ ได้เช่นกัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ALive Powered by AIA
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ข่าวทั่วไป
30/04/2024
การพัฒนาตัวเองให้ประสบความสำเร็จ คุณต้องปรับปรุงอุปนิสัยที่เป็นปัญหาในการพัฒนาตนเองก่อนทุกอย่างที่เกิดขึ้นล้วนเป็นผลลัพธ์ที่เกิดจากการกระทำของตัวเราเองทั้งสิ้น เลิกคิดลบ ความคิดบวกและความคิดลบสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกเวลา แต่ความคิดลบมักเกิดได้เร็วกว่า ดังนั้น จงรักษาทัศนคติให้มีแต่ความคิดบวกไว้มาก ๆ หยุดนึกถึงอดีตที่ล้มเหลว ความล้มเหลวเป็นตัวชี้ข้อผิดพลาดที่คุณเคยทำผ่านมา คือทางผ่านเป็นเรื่องของขบวนการ ไม่ได้เป็นจุดจบของทั้งชีวิต อย่าตีความว่านั้นต้องเป็นเครื่องแสดงความอัปยศไปตลอดชีวิต อย่าทิ้งบทเรียนที่ได้มา หรือความตั้งใจแรกในการทำสิ่งนั้น หยุดผัดวันประกันพรุ่ง การปล่อยปละละเลยหน้าที่การงานในส่วนที่เราไม่ชอบไม่เกิดผลดีใด ๆ และก็ทำให้คุณดูไม่เป็นมืออาชีพ การเพิ่มระดับความใส่ใจในชิ้นงานแทนการผัดวันประกันพรุ่ง นอกจากคุณภาพงานจะทำออกมาดีแล้ว ยังช่วยลดความเครียดในการทำงานด้วย เลิกเปรียบเทียบตนเองกับผู้อื่น เมื่อไรที่คุณเปรียบเทียบตนเองกับผู้อื่น คุณจะสูญเสียความเป็นตัวตน เป้าหมายและสติได้ง่ายมาก ตามมาด้วยอารมณ์อิจฉา ,เศร้าหมอง และเกิดเป็นปมด้อย จงทำตัวให้เด่นเป็นทีม อย่าเด่นเพียงตัวคนเดียว ลองกล่าวชื่นชมคนอื่นด้วยความยินดี สร้างวัฒนธรรมที่ดีในสังคมการทำงานของคุณ เลิกตั้งเป้าหมายเพ้อฝัน สิ่งที่สำคัญในการตั้งเป้าหมาย คือ เป้าหมายต้องอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง อย่าตั้งเป้าหมายที่ชี้วัดไม่ได้ อย่าตั้งเป้าหมายที่สูงเกินตัว อย่าตั้งเป้าหมายระยะสั้นเกินไป แหล่งที่มาข่าวต้นฉบับsmartsmehttps://www.smartsme.co.th/content/250485#!
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ประกันชีวิต
06/07/2023
กรุงเทพฯ 6 กรกฎาคม 2566 - เอไอเอ ประเทศไทย นำโดย นางสาวอรรัตน์ ชุติมิต ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพันธมิตรธุรกิจ และนายสุวิรัช พงศ์เสาวภาคย์ ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการภายนอก นำทีมพลังตัวแทนและเพื่อนพนักงานเอไอเอกว่า 100 ท่าน ร่วมกิจกรรมบริจาคโลหิต เนื่องในวันประกันชีวิตแห่งชาติ ครั้งที่ 22 โดยได้รับเกียรติจาก ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ร่วมถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ณ สภากาชาดไทย ถนนอังรีดูนังต์ ซึ่งกิจกรรมนี้ตอกย้ำถึงความตั้งใจของเอไอเอในการมุ่งทำความดี แบ่งปันน้ำใจให้ผู้คนในสังคม เพื่อร่วมกันส่งเสริมให้ผู้คนมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ตามคำมั่นสัญญา ‘Healthiest, Longer, Better Lives’
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ข่าวการเงิน
30/04/2024
อะไรที่เป็นเคล็ดลับที่อยู่หลังคำพูดนี้ มาดูกัน ทำไมคนรวย คิดเหมือนกัน ? ทำไม นักลงทุนชั้นนำ คิดเหมือนกัน / คนที่เป็นผู้นำ คิดคล้ายๆ กัน / ทำไม ? คำถามนี้ชวนให้คิดว่า คนรวยทั่วโลก เขาแทบไม่ได้รู้จักกัน แต่ทำไมคนเหล่านี้ คิดเหมือนกัน แน่นอน ว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ความบังเอิญ ก็เพราะ ผลลัพธ์ของชีวิต มาจากความคิดของเรานั่นเอง ถ้าพูดให้ชัดเข้าไปอีกก็คือ ถ้าเราอยากจะเป็นผู้นำ หรือ เก่งในเรื่องใด ให้เอาคนเก่งในเรื่องนั้นๆ มาแกะวิธีคิด มีคนถามผมว่า อะไรคือแรงบันดาลใจของผมในการเขียนหนังสือครั้งแรก ตอบง่ายๆ เลย คือ ในเวลานั้น ผมอยากเป็นนักลงทุนที่เก่ง ก็เลยพยายามแกะวิธีคิดของ Warren Buffett โดยเริ่มจากค้นคว้า จากหนังสือหลายๆ เล่ม ที่เขียนเกี่ยวกับเขา ค้นคว้าจาก Internet อ่านบทความจำนวนมากมาย เกี่ยวกับ Buffett แต่สิ่งที่ผมทำเพิ่มนอกจากแค่อ่านเฉยๆ คือ ผมพยายาม แกะความคิดเขา การแกะความคิด คือ การแปลความหมาย จากสิ่งที่เราเห็นจริง 1. มองสิ่งที่เขาทำ มากกว่าสิ่งที่เขาพูด อย่าง Buffett เขาแทบไม่เคยตามกระแสหรือตามเทรนด์เลย จะพูดว่าเขา สวนกระแสก็น่าจะได้ ผมแปลว่า แก่นของการลงทุนของเขา จะทำตรงข้ามกับคนส่วนใหญ่ หรือ สวนกระแสหลักเสมอ คนทั่วไปตามเทรนด์ คนรวยทวนกระแส 2. ดูการใช้ชีวิต อย่าง Buffett เขาไม่ใช่ชีวิตหรูหราเลย ผมแปลว่า ความสนุกในชีวิตของเขาคือ เรื่องงาน ไม่ใช่การพักผ่อน(หรือเที่ยวใช้เงิน) เหมือนคนส่วนใหญ่ คนสนุกกับการหาเงิน มันรวยอยู่แล้ว จริงไหม ? 3. ดูการบริหารเวลา อย่าง Buffett ไม่ได้ใช้เวลาส่วนใหญ่เฝ้าหน้าจอ ซื้อขาย แต่กลับใช้เวลาส่วนใหญ่อ่านหนังสือ ผมแปลว่า การลงทุนยิ่งซื้อขาย ให้น้อย จะยิ่งให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า คนทั่วไปมัวแต่มองผลลัพธ์สั้นๆ จนลืมเป้าหมายจริงๆ 4. ดูการบริหารคน อย่าง Buffett เขาเป็นเจ้าของธุรกิจมากมาย แต่เขาไม่จับเรื่องการบริหารคนเลย (เรื่องคนปวดหัวที่สุด) เขาคุมแต่การบริหารเงิน ผมแปลว่า ผู้บริหารที่เก่ง เขาบริหารตัวเองและลูกน้อง รวมทั้งมองโอกาสธุรกิจได้ ดังนั้น คุมที่การจัดสรรเงินให้ดี ก็พอแล้ว เจ้าของคุมเงิน ผู้บริหารคุมคน 5. ดูการบริหารเงิน อย่าง Buffett เขาแทบไม่สนใจผลตอบแทนระยะสั้นเลย ซึ่งต่างกับคน 90% ที่สนใจหุ้นแค่ผลตอบแทนระยะสั้น ผมแปลว่า สิ่งที่ Buffett สนใจไม่ใช่การเก็งกำไร แต่เป็นการมองหาที่ให้เงินทำงาน และหลักๆ เขาก็ Focus มุ่งวางเงินให้ทำงานเป็นหลัก จนเชี่ยวชาญที่สุดในสิ่งที่เขาถนัด คนทั่วไปวุ่นแต่หาเงิน คนรวยหาไปด้วย วางให้เงินทำงานด้วย ข้อต่อไป ลองช่วยกันแกะต่อซิครับ เชื่อไหม คนรวยคิดไม่ต่างกัน - ปรับวิธีคิด เดี๋ยวชีวิตก็ดีเอง แหล่งที่มาข่าวต้นฉบับstock2morrowhttps://stock2morrow.com/article/5515
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
29/04/2024
29/04/2024
29/04/2024
29/04/2024
30/04/2024