ภาษี
                    สรรพากรเข้มคืนภาษีเงินได้กลุ่มเสี่ยง
                    
                 
                
                    
                        
                     
                    
                    
                                                
สรรพากรระบุจะตรวจสอบการขอคืนภาษีบุคคลธรรมดาเข้มข้นสำหรับกลุ่มคนที่จัดอยู่ในบัญชีกลุ่มเสี่ยง
 ชี้หากได้รับคืนช้าเกินกว่า 7 วัน ถือว่า ถูกจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยง 
พร้อมเปิดช่องทางตรวจสอบกรณีมิจฉาชีพแอบอ้างเป็นกรมสรรพากร
นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากรระบุ กรมฯจะตรวจสอบการขอคืนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเข้มข้นมากยิ่งขึ้น หลังพบว่า มีกลุ่มคนยื่นขอคืนภาษีเป็นเท็จ ซึ่งขณะนี้ กรมฯได้จัดอยู่ในบัญชีกลุ่มเสี่ยงแล้วหากผู้ยื่นแบบรายใดได้รับการคืนภาษีที่ล่าช้าเกิน 7 วัน นั่นหมายความว่า ถูกจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงแล้ว 
ทั้งนี้ ในช่วงเดือนม.ค.ถึง มี.ค.ของทุกปี 
เป็นฤดูของการยื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดย 
90%ของผู้ยื่นแบบเป็นการยื่นผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์
“ถ้ายื่นแบบภาษีอย่างถูกต้องตรงไปตรงมา ไม่ต้องกังวล หากได้รับเงินคืน กรมฯจะคืนให้ภายใน 3 วันแต่คนใดอยู่ในกลุ่มเสี่ยง ก็จะใช้เวลาในการตรวจสอบอย่างละเอียดมากขึ้น หากมีภาษีต้องคืน ก็จะคืนให้แต่จะเกิน 7 วัน” เขากล่าวและว่า ปัจจุบันมีผู้อยู่ในระบบภาษีบุคคลธรรมดา 11 ล้านคน แต่อยู่ในฐานะต้องเสียภาษีเพียง 4 ล้านคน
นายลวรณ กล่าวต่อว่า ช่วงนี้เป็นช่วงการยื่นแบบเสียภาษี ทำให้มีมิจฉาชีพ แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรหลอกหลวงประชาชน
 ดังนั้น ขอให้ประชาชนที่ได้รับสายจากเจ้าหน้าที่กรมสรรพากร ขอให้เชื่อว่า 
เป็นมิจฉาชีพทันที เพราะกรมสรรพากร ไม่มีนโยบายให้เจ้าหน้าที่โทรศัพท์ 
และส่งข้อความสั้น (เอสเอ็มเอส) รวมถึงทางไลน์ (Line) 
ไปยังผู้เสียภาษีโดยตรง  เนื่องจาก 
ยังคงใช้วิธีการส่งจดหมายไปตามที่อยู่ผู้เสียภาษี 
และให้นำจดหมายที่ได้รับมาติดต่อกรมสรรพากรในพื้นที่ อย่างไรก็ตาม 
หากประชาชนมีข้อสงสัยเรื่องมิจฉาชีพ ให้โทร.สอบถามเบอร์ 1161 
ซึ่งขณะนี้ได้เพิ่มคู่สาย 
เพื่ออำนวยความสะดวกในการติดต่อสอบถามเรื่องดังกล่าวไว้แล้ว
นอกจากนี้ เขายังกล่าวอีกว่า กรมสรรพากร 
กำลังอยู่ในระหว่างการปรับปรุงประกาศในเรื่อง Service Provider  
เพื่อให้ผู้บริการสามารถให้บริการในขอบเขตที่กว้างขวางขึ้น 
เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้เสียภาษี โดยปัจจุบัน Service Provider 
เพียงทำหน้าที่ในการส่งข้อมูลให้กับกรมสรรพากร แต่การปรับปรุงใหม่ 
ที่คาดว่า จะประกาศใช้ได้ภายในเดือนมี.ค.นี้ จะให้ Service Provider 
สามารถทำระบบบัญชีอิเล็กทรอนิกส์ 
เพื่อให้ผู้ประกอบการโดยเฉพาะรายเล็กที่ไม่มีความเชี่ยวชาญการทำบัญชี 
สามารถใช้ได้และกรมสรรพากรยอมรับ รวมถึง ให้ Service Provider 
สามารถให้บริการแก่ผู้ประกอบการ ในการยื่นแบบเสียภาษีทางอิเล็กทรอนิกส์ 
กับกรมสรรพากรได้ด้วย
“ความยุ่งยากในการลงบัญชีและการยื่นเสียภาษี ถือเป็นปัญหาหรือpain point 
ที่สำคัญประการหนึ่งของผู้ประกอบการโดยเฉพาะ SMEs 
ทำให้หลายรายไม่อยากเข้าระบบภาษีที่ถูกต้อง 
เมื่อเราทำให้ระบบดังกล่าวง่ายขึ้น 
ก็เชื่อว่าจะทำให้คนเต็มใจเข้าระบบภาษีมากขึ้นด้วย”
แหล่งที่มาข่าวต้นฉบับกรุงเทพธุรกิจ
https://www.bangkokbiznews.com/finance/investment/1052357  
                     
                 
             
            
         
     
        
X