คลังความรู้

Everyday knowledge for you

ประกันภัย

พิจิตรขายประกันทิพย์ โกงความเสี่ยงผู้ปกครองจ่ายเงินซื้อประกันหมู่ให้ศูนย์เด็กเล็ก แต่ไม่ได้กรมธรรม์เกิดเหตุ ไร้เงินเยียวยา

13/06/2025

วันที่ 13 มิถุนายน 2568   นางสาวธนียา  นัยพินิจ ผู้ว่าราชการการจังหวัดพิจิตร ได้มอบหมายสั่งการให้  นางสาวสาวิตรี สร้อยอุทา  นายอำเภอวังทรายพูน จังหวัดพิจิตร  ให้ลงไปตรวจสอบการทำประกันของโรงเรียนแห่งหนึ่งในเขตอำเภอวังทรายพูน  จังหวัดพิจิตร  หลังจากได้รับการร้องทุกข์ร้องเรียนจากผู้ปกครองของเด็กนักเรียนว่า มีบุคคลที่แอบอ้างเป็นตัวแทนนายหน้าขายประกันบริษัทชื่อดังที่น่าเชื่อถือให้กับโรงเรียน        ซึ่งจากการที่ นายอำเภอวังทรายพูน ได้ลงตรวจสอบก็พบว่ามีโรงเรียนที่เป็นศูนย์พัฒนาเด็กเล็กแห่วหนึ่ง ใน อบต.หนองพระ อ.วังทรายพูน  จ.พิจิตร  ที่ผู้ปกครองได้จ่ายเงินทำประกันเป็นจำนวน 200 บาท ให้กับตัวแทนนายหน้าขายประกัน โดยโรงเรียนและศูนย์เด็กเล็กแห่งนี้มีจำนวนนักเรียนกว่า 100 คน ที่ได้ทำประกันกับตัวแทนประกันรายนี้  แต่ตัวแทนประกันรายนี้ไม่นำเงินไปส่งให้กับทางบริษัท จึงทำ ให้เด็กนักเรียนทั้งหมดไม่มีชื่อ-ไม่มีสิทธิ์ในการทำประกัน เรียกได้ว่า  “เป็นการทำประกันทิพย์” ที่ไม่สามารถเบิกรักษาเยียวยาอะไรได้เมื่อเกิดเหตุที่ตรงกับเงื่อนไขในกรมธรรม์ ซึ่งขณะนี้ผู้ปกครองของนักเรียนต่างได้รับความเดือดร้อนกันถ้วนหน้า          สำหรับผู้เสียหาย คือ  นางเจนจิรา อายุ 34 ปี อยู่หมู่ 3 ต.หนองพระ อ.วังทรายพูน จ.พิจิตร ซึ่งเป็นผู้ปกครองของ เด็กหญิงปรีญากมล อายุ 3 ปี  ซึ่งเรียนอยู่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กแห่งนี้ใน อ.วังทรายพูน  จ.พิจิตร ที่ลูกสาวได้เกิดอุบัติเหตุหลังจากไปเที่ยวบ้านญาติที่  อ.โพทะเล และได้ตกไปในเตาเผาถ่าน ต้องถูกตัดนิ้วเท้าไป 3 นิ้ว และมีบาดแผลหลายแห่งอาการสาหัส ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตั้งแต่เดือนมกราคม 68 และได้เข้ารักษาตัวที่ รพ.  ปรากฏว่าเมื่อต้องการเรียกร้องสินไหมและค่ารักษาจากบริษัทประกันไม่สามารถทำได้ เนื่องจากไม่มีชื่อในการทำประกัน และตัวแทนที่มาทำประกันให้กับโรงเรียนก็ไม่มีตัวตนในบริษัท         ซึ่งทาง นางสาวธนียา นัยพินิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ได้สั่งการนางสาว สาวิตรี สร้อยอุทา นายอำเภอวังทรายพูน พาพ่อแม่ของเด็กหญิงรายนี้  ไปแจ้งความดำเนินคดี กับตัวแทนประกันคนดังกล่าวคนนี้ที่มาหลอกลวง ฉ้อโกงประชาชน โดยแอบอ้างว่า เป็นตัวแทนจากบริษัทมาเก็บเงินค่าประกันจากทางโรงเรียน               ทางด้าน นายวิทยาธร (สงวนนามสกุล)อายุ 36 ปี   พ่อของเด็กหญิงปรีญากมล กล่าวว่า หลังจากลูกเกิดอุบัติเหตุ  ตนเอง ได้พยามติดต่อนายหน้าประกันของทางโรงเรียนศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ดังกล่าว ซึ่งกว่าจะติดต่อได้ ปรากฏว่านายหน้าที่มาแอบอ้างจะขอจ่ายเองโดยจะจ่ายเงิน ค่ารักษาพยาบาลที่ถูกตัดนิ้ว 3 นิ้ว  เป็นเงิน 1,800 ค่านอนรักษาตัวในโรงพยาบาล 25,000 บาท ซึ่งตนเองมองว่าจ่ายน้อยเกินไป ซึ่งก็ไม่เข้าใจว่าทำไมทางโรงเรียนศูนย์เด็กเล็ก ก่อนจะให้มีคนมาทำประกันทำไมไม่ตรวจสอบให้ดีก่อนว่า เป็นนายประกันจริงหรือไม่ ตอนนี้ลูกสาวของตนเองมีอาการซึมเศร้าน่าสงสารมาก ส่วนตนเองก็ไม่มีเงินที่จะพาลูกไปรักษาอย่างต่อเนื่องจาก เพราะตอนนี้ก็กู้หนี้ยืมสินรักษาลูกหมดเงินไปแล้วกว่า 60,000 บาท ดังกล่าวอีกด้วยแหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับสยามรัฐออนไลน์https://siamrath.co.th/n/628843

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ห้องแสดงนิทรรศการ

นิทรรศการแห่งความสดใส “ดอกไม้ ม(า)หานคร” ณ TCDC

13/06/2025

นิทรรศการแห่งความสดใสของ “4 ดอกไม้ประจำจังหวัด: ทองกวาว ราชพฤกษ์ กัลปพฤกษ์ ชบา” ที่พร้อมใจกันมาเบ่งบานกลางมหานคร ผ่านผลงานศิลปะหลากรูปแบบ เชื่อมโยงอัตลักษณ์ท้องถิ่นกับหัวใจของมหานคร ณ TCDC กรุงเทพฯนิทรรศการจะนำความสดใสของดอกไม้ประจำ 4 จังหวัด ได้แก่ ทองกวาว (จังหวัดเชียงใหม่) ราชพฤกษ์ (จังหวัดขอนแก่น) กัลปพฤกษ์ (จังหวัดราชบุรี) และชบา (จังหวัดปัตตานี) มาเนรมิตเป็นกิจกรรมสุดสร้างสรรค์ มากมายในงาน เช่นInteractive & Immersive Art: ศิลปะสื่อใหม่เล่าเรื่องดอกไม้แบบสุดล้ำLive Printing Installation: ศิลปะพิมพ์ภาพผ้าสดในบรรยากาศของการร่วมมือร่วมใจลายผ้าดอกไม้: ลวดลายดอกไม้ร่วมสมัยแรงบันดาลใจมาจาก 4 ดอกไม้ประจำจังหวัดนำร่องนิทานดอกไม้: 4 เรื่องราวแห่งจินตนาการสุดเพลิดเพลินและน่าจดจำมุมระบายสี: พื้นที่พลังศิลปะให้เบ่งบานสำหรับผู้ร่วมงานทุกเพศทุกวัยสื่อส่งสารของโครงการ: สื่อเล่าเรื่องดอกไม้ประจำจังหวัดบนโลกออนไลน์ในนาม “ลีลาดอกไม้”และชวนชาวมหานครร่วมกันตอบคำถามสนุกๆ ว่า ถ้า “ถ้ากรุงเทพฯ มีดอกไม้ประจำเมือง จะเป็นดอกอะไร?”พิเศษสำหรับชาวกรุงเทพมหานคร! ในวันศุกร์ที่ 13 มิถุนายน 2568 ตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป ขอเชิญชวนผู้ที่สนใจมาร่วมเดินชมและรับฟังแนวคิดเบื้องหลังนิทรรศการลีลาดอกไม้ ตอน “ดอกไม้ม(า)หานคร” ความสดใสของ 4 ดอกไม้ประจำจังหวัดที่พร้อมใจกันเบ่งบานกลางมหานครพร้อมร่วมกิจกรรม “พิมพ์ผ้าสดลายดอกลงบนผืนผ้าขนาดยาวร่วมกัน” นำกิจกรรมโดย ดร.วิจิตร อภิชาติเกรียงไกร(ศิลปินเจ้าของแนวคิดสาธารณศิลป์และแนวคิดนิเวศสุนทรีย์) ด้วยกระบวนการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ “ภาพพิมพ์” สร้างการมีส่วนร่วมในพื้นที่สาธารณะ ผ่านผืนผ้าพิมพ์สดที่ความยาวเพิ่มขึ้นทุกครั้งในการพิมพ์ กลายเป็นปรากฏการณ์ทางสุนทรีย์ให้เกิดขึ้นในบรรยากาศของการร่วมมือร่วมใจ หลังจบกิจกรรมสามารถรับผ้ากลับไปได้เลยผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมได้ ณ จุดลงทะเบียนด้านหน้านิทรรศการและผู้ที่สนใจสามารถเข้าชมนิทรรศการ ลีลาดอกไม้ ตอน “ดอกไม้ม(า)หานคร” ได้ระหว่างวันที่ 13 มิถุนายน – 6 กรกฎาคม 2568 ณ TCDC กรุงเทพฯ ห้องแกลเลอรี ชั้น 1 เวลา 10.30 – 19.00 น.กิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ ลีลาดอกไม้ – พัฒนาอำนาจนุ่มนวลของไทย ผ่านการสรรสร้างและเล่าเรื่องดอกไม้ประจำจังหวัด สนับสนุนโดย กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ และดำเนินงานโดย บริษัท สุโต จำกัดหมายเหตุไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้าชม และสามารถจอดรถได้ที่อาคาร NT บางรัก ในอัตรา 20 บาท/ชั่วโมงTCDC ร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยและสร้างเครือข่ายนักสร้างสรรค์ด้วยโครงการ Open Space @ TCDC ให้กลุ่มคนครีเอทีฟได้แสดงศักยภาพผ่านการโชว์ผลงานและจัดกิจกรรมสร้างสรรค์รูปแบบต่าง ๆ ที่ TCDC กรุงเทพฯแหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับผู้จัดการออนไลน์https://mgronline.com/travel/detail/9680000054491

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ท่องเที่ยว

"เหมืองหินเก่าถ้ำทองหลาง" สวิสเมืองไทย เดินหน้าสู่ "ป่านันทนาการ" สร้างรายได้ให้ชุมชน

13/06/2025

ชวนตื่นตาทะเลสาบสีฟ้ากลางป่าสนและหุบเขาที่ “เหมืองหินเก่าถ้ำทองหลาง” ที่ถูกยกให้เป็นสวิตเซอร์แลนด์เมืองไทยแห่งใหม่ในพังงา ซึ่งวันนี้กำลังเดินหน้าสู่ “ป่านันทนาการ” ที่จะสร้างรายได้ให้กับชุมชนในอนาคตท่ามกลางขุนเขาเขียวขจีของอำเภอทับปุด จังหวัดพังงา มีสถานที่อันซีนซ่อนตัวอยู่คือ “เหมืองหินเก่าถ้ำทองหลาง” ที่วันนี้ได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวน้องใหม่มาแรงของจังหวัดพังงา กับวิวทิศทัศน์ที่มีบรรยากาศคล้ายต่างประเทศจนถูกยกให้เป็น “สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย” แห่งใหม่ของบ้านเรา“เหมืองหินเก่าถ้ำทองหลาง” หรือ "เหมืองหินเก่าบ้านถ้ำทองหลาง” ตั้งอยู่ที่ หมู่ 2 ตำบลถ้ำทองหลาง อำเภอทับปุด จังหวัดพังงา เหมืองหินเก่าแห่งนี้ตั้งอยู่ริมถนนเข้าหมู่บ้านเขาตำหนอน ม.1 และบ้านในวัง ม.4 ห่างจากถนนเพชรเกษมสายเขานางหงส์ ประมาณ 1.5 กิโลเมตรในอดีตพื้นที่แห่งนี้เคยเป็นเหมืองหินมาก่อน แต่เมื่อหมดอายุสัมปทานการทำเหมืองยุติลง ธรรมชาติก็ค่อย ๆ ฟื้นฟูตนเอง กลายเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ที่มีน้ำใสสีฟ้าอมเขียว มีความลึกราว 10-20 เมตร ทอดตัวเป็นแนวยาวริมภูเขา ด้านหนึ่งเป็นภูเขาหินปูนสูงตระหง่านส่วนอีกด้านเป็นป่าสนที่ปลูกเรียงรายเป็นแนวยาวอย่างมีระเบียบ ยามแสงแดดในช่วงเช้าสาดแสงส่องกระทบผิวน้ำ จะเกิดเป็นประกายระยิบระยับ ตัดกับฉากหลังของภูเขาเขียวและหมอกบาง ๆ ดูงดงามโรแมนติกไม่น้อยด้วยวิวทิวทัศน์อันงดงามและบรรยากาศที่ดูคล้ายต่างประเทศทำให้ที่นี่ถูกยกให้เป็น “สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย” แห่งใหม่ของบ้านเรา ซึ่งหลังเปิดตัวเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ได้ไม่นานเมื่อราว 2 ปีที่แล้ว เหมืองหินเก่าแห่งนี้กลายเป็นอีกหนึ่งจุดเช็กอินน้องใหม่มาแรงของจังหวัดพังงา มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาถ่ายรูปและสัมผัสกับฟีลเมืองนอกในพังงากันไม่ได้ขาดอย่างไรก็ดีวันนี้เหมืองหินเก่าถ้ำทองหลางยังไม่ได้เปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการ เนื่องจากอยู่ระหว่างการพัฒนาเป็น “ป่านันทนาการ” ที่จะสร้างรายได้ให้กับชุมชนในอนาคตสำหรับใครที่กำลังมองหาจุดหมายใหม่ ๆ ที่งดงามน่าเที่ยว มีความเป็นธรรมชาติและได้บรรยากาศคล้ายเมืองนอก ปักหมุดรอเหมืองหินเก่าถ้ำทองหลาง จังหวัดพังงา ไว้ในลิสต์ได้เลยเพราะในอนาคต หลังเหมืองเก่าแห่งนี้เปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการ คาดว่าที่นี่จะเป็นพชรเม็ดงามแห่งใหม่ของภาคใต้ฝั่งอันดามัน ซึ่งจะมีคนมาเที่ยวชมความงามกันเป็นจำนวนมาก และสามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชนได้ไม่น้อยแหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับผู้จัดการออนไลน์https://mgronline.com/travel/detail/9680000051756

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

การวางแผนทางการเงิน

เมื่อชีวิตไม่มีแบบแผนที่ตายตัว การวางแผนการเงินจึงเป็นสิ่งจำเป็น

10/06/2025

บทความโดย "ภาดร สุขสวัสดิ์" นักวางแผนการเงินCFP®สมาคมนักวางแผนการเงินไทยจากการที่ผู้เขียนเป็นที่ปรึกษาทางการเงินมาตลอด 10 ปี ได้มีคนมาขอคำปรึกษาและพูดคุยถึงการจัดการแผนการเงินเป็นจำนวนมาก พบว่าส่วนใหญ่ผู้รับการวางแผนที่มีแผนการเงินอยู่แล้ว แต่พบว่าประมาณ 80% จะมีแผนการจัดการเงินในระยะสั้นเท่านั้น เช่น มีการบริหารเงินให้รายรับมากกว่ารายจ่าย และถึงแม้จะมีการจัดการเรื่องเงินเก็บ เงินออม แต่ก็ยังขาดเรื่องการเก็บเงิน และนำไปลงทุนระยะยาวเผื่อสำหรับค่าใช้จ่ายที่สำคัญในอนาคต และยังไม่ได้คิดถึงเรื่องการป้องกันความเสี่ยง วิกฤติการเงินต่าง ๆ ที่อาจจะมากระทบกับแผนการเงินในระยะยาวดังนั้น จากประสบการณ์ที่ผ่านมาขอสรุปคำแนะนำที่เคยให้ไว้กับผู้ขอรับคำปรึกษา ในการปรับแก้แผนการเงินที่มีอยู่ในปัจจุบันให้พร้อมรับมือกับความเสี่ยงและความผันผวนได้ดีขึ้นในอนาคต และทำให้ไปถึงเป้าหมายที่วางไว้ได้ไม่ยาก หากดำเนินการได้ตามคำแนะนำ ดังนี้แผนการเงินที่มี ดีแล้วหรือยังการวางแผนทางการเงินจะเป็นเหมือนเข็มทิศที่จะบอกว่า ควรจะมีรายได้เท่าไร ใช้จ่ายอย่างไร รวมไปถึงวิธีการเก็บออมและลงทุนที่เหมาะสม เพื่อให้ไปได้ถึงเป้าหมายได้ตามที่ตั้งใจไว้ โดยแผนการเงินที่ดี นอกจากจะชัดเจนแล้วยังต้องสามารถทำได้จริง ไม่ยากหรือกดดันตัวเองจนเกินไป ไม่ทำให้ท้อถอยหรือหยุดทำตามแผนไปกลางคันการเริ่มต้นวางแผนการเงินที่ดี ควรเริ่มจากทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายของตนเองออกมาก่อน เพื่อให้เห็นภาพรวมของ รายได้หลัก รายจ่ายต่าง ๆ สถานะทางการเงิน ความสามารถในการออมเงินและลงทุนเพื่อเก็บไว้สำหรับใช้จ่ายในอนาคต หากปรับเป็นแผนการเงินที่ดีแล้ว ก็จะนำมาเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางเพื่อเป้าหมายที่วางไว้ได้อย่างมั่นใจขึ้นเตรียมแผนการเงินให้รับมือกับความผันผวนได้จากวิกฤติโควิด-19 จะเห็นว่าสร้างความเสียหายเป็นวงกว้างทั้งผู้ประกอบการและพนักงานประจำ แต่หากมีการเตรียมแผนการเงินที่มีความยืดหยุ่นสูงและปรับเปลี่ยนได้ไม่ยาก จะเป็นข้อได้เปรียบในการช่วยกู้สถานการณ์ฉุกเฉิน การเกิดเหตุไม่คาดฝันกับครอบครัวได้ เช่น หากรายได้ลดลง แผนสำรองเงินฉุกเฉิน จากการเก็บออมไว้ 6 เท่าของค่าใช้จ่ายรายเดือน ก็จะสามารถปรับเปลี่ยนออกมาบางส่วนเพื่อช่วยเหลือครอบครัวให้ผ่านพ้นวิกฤติไปได้ หรือหากยังไม่พอก็อาจจะทำการหยิบยืมออกมาจากแผนการเงินอื่น ๆ เช่น แผนเกษียณออกมาใช้กู้วิกฤติก่อน เมื่อผ่านพ้นไปได้ก็ค่อยนำเงินไปคืนให้กับแผนเกษียณของตนเองที่วางไว้แผนการลงทุนในแต่ละแผนการเงิน มีความเสี่ยงที่เหมาะสมแผนการเงินที่ดีไม่จำเป็นต้องลงทุนแต่สินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงเสมอไป หากระยะเวลาของแผนการเงินนั้นสั้นก็ไม่ควรเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงเกินไป ถึงแม้จะให้ผลตอบแทนในระยะยาวที่สูง เช่น แผนการศึกษาบุตร ควรเลือกลงทุนโดยคำนึงถึงระยะเวลาการลงทุนด้วย ค่าใช้จ่ายการศึกษาที่ไม่เกิน 3 – 5 ปี ก็ไม่ควรเลือกการลงทุนที่เสี่ยงจนเกินไปทั้งจำนวนเช่น กองทุนหุ้น เพราะหากเกิดวิกฤติทางการเงินที่ทำให้สินทรัพย์เสี่ยงที่ลงทุนขาดทุนในช่วงเวลาที่ต้องถอนเงินออกมาชำระค่าเทอม ก็จะกระทบกับแผนที่วางไว้ แต่หากเป็นการเก็บเงินระยะยาวสำหรับการศึกษาของบุตร ในระดับชั้นปริญญาตรีและโท ในอีก 10 ปีข้างหน้า ก็อาจเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงเพิ่มได้ เพื่อสร้างผลตอบแทนในระยะยาวที่มากขึ้นได้เช่นกัน ทั้งนี้ก็ต้องพิจารณาจากความเสี่ยงที่รับได้ของตนเองด้วย ต้องไม่ทำให้รู้สึกกังวลจนเกินไป และกระทบกับชีวิตประจำวันปิดความเสี่ยงที่มีค่าใช้จ่ายสูงที่มีโอกาสกระทบแผนการเงินแผนการเงินของผู้รับคำปรึกษามักหยุดชะงักและไปไม่ถึงเป้าหมาย มักเป็นเพราะเรื่องของค่าใช้จ่ายจากอุบัติเหตุหรือการเจ็บป่วยจากโรคที่ไม่คาดคิด และไม่ได้เลือกที่จะปิดความเสี่ยงนี้ไว้ก่อน คนส่วนใหญ่จะมองข้ามแผนประกันเพราะคิดว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น มองว่ามีโอกาสเกิดขึ้นกับตนเองน้อย แต่ลืมไปว่าหากเกิดขึ้นแล้วจะเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงมาก ซึ่งจะทำให้เงินทั้งหมดที่สะสมไว้ในแผนการเงินต่างๆ หมดลงได้อย่างรวดเร็วการมีประกันจะเปรียบเสมือนเกราะคุ้มกันเวลาเกิดเหตุที่มีค่าใช้จ่ายสูงมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นประกันสุขภาพ ประกันรถ หรือประกันอัคคีภัย เป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรก ๆ ในการเริ่มต้นวางแผนการเงิน และรวมไปถึงประกันชีวิต ที่จำเป็นต้องทำหากเป็นการวางแผนการเงินที่เกี่ยวข้องกับบุคคลสำคัญ เช่น การวางแผนการศึกษาบุตรเลือกใช้เครื่องมือทางการเงินให้เหมาะกับแผนการใช้เครื่องมือให้เหมาะสมก็เป็นตัวที่จะสร้างผลลัพธ์ที่ดีให้กับแผนในอนาคตได้ เช่น การวางแผนเกษียณ เป็นการเก็บเงินเพื่อใช้ในอนาคต ซึ่งจะสามารถเลือกใช้เครื่องมือทางการเงินระยะยาวที่มีผลประโยชน์ทางด้านภาษีเพิ่มเติม เช่น กองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) หรือประกันบำนาญ ที่ถูกออกแบบมาสำหรับการเก็บเงินไว้ใช้หลังเกษียณ โดยได้สิทธินำไปลดภาษีได้ทุกครั้งที่ลงทุนหรือจ่ายเบี้ยประกันตามเกณฑ์ที่ถูกวางไว้ และสำหรับกองทุนลดหย่อนภาษีก็สามารถเลือกลงทุนตามระดับความเสี่ยงและนโยบายการลงทุนที่สนใจได้อีกด้วย ถือเป็นการใช้เครื่องมือทางการเงินได้อย่างคุ้มค่าและตรงกับเป้าหมายที่วางไว้ทบทวนและปรับปรุงตลอดเวลาถึงจะมีแผนการเงินที่ดีแล้ว ก็ยังต้องนำมาทบทวนทุก ๆ 6 เดือนหรือ 1 ปีอยู่เสมอ เพราะชีวิตก็ไม่ได้หยุดนิ่งมีการปรับเปลี่ยนตลอด เช่น มีรายได้สูงขึ้น หรือมีภาระที่ต้องรับผิดชอบมากขึ้น เมื่อตัวแปรในแผนการเงินเปลี่ยน แผนการเงินก็จำเป็นต้องปรับ หรือแม้แต่สถานการณ์ภายนอกที่ไม่คาดคิด เช่น ภัยธรรมชาติ วิกฤติการเงิน ที่มาส่งผลกระทบกับแผนการเงิน ก็ต้องนำมาพิจารณาที่จะปรับปรุงหรือแก้ไขแผนการเงินให้เป็นปัจจุบัน การศึกษาเครื่องมือทางการเงินใหม่ ๆ และเห็นว่าเป็นประโยชน์ ก็นำมาพิจารณาปรับใช้กับแผนการเงิน เพื่อให้ไปถึงจุดหมายได้ดีขึ้นก็ทำได้เช่นกันปรับแผนทางการเงินให้ มีความต้านทานต่อวิกฤติ มีความยืดหยุ่นสูง ใช้เครื่องมือที่เหมาะสม มีการทบทวนสม่ำเสมอ จะทำให้พร้อมที่จะรับมือวิกฤติทางการเงินในอนาคตได้ดีขึ้น และพร้อมที่จะไปถึงเป้าหมายได้ตามแผนที่วางไว้อย่างแน่นอนแหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับประชาชาติธุรกิจออนไลน์https://www.prachachat.net/finance/news-1817263

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

การวางแผนทางการเงิน

วางแผนการเงินคนวัย 30 ไม่ใช่แค่ลงทุน แต่ต้องป้องกันความเสี่ยง 5 เรื่องต้องคิด วางรากฐานชีวิต

10/06/2025

"สิ่งสำคัญที่คนวัย 30 ต้องให้ความสำคัญคือการสร้างรากฐานทางการเงินที่แข็งแกร่งและป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการสร้างกองทุนสำรองฉุกเฉิน การมีประกันที่จำเป็น หรือแม้แต่การลงทุนในความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้าง เพราะสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้คุณพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์และสร้างความมั่นคงทางการเงินได้อย่างแท้จริง"การเข้าสู่วัย 30 ไม่ได้หมายถึงแค่การมีรายได้ที่มั่นคงขึ้นเท่านั้น แต่ยังมาพร้อมกับภาระหน้าที่และความรับผิดชอบที่เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสร้างครอบครัว การผ่อนบ้าน หรือการเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัว ทำให้การวางแผนการเงินในวัยนี้ซับซ้อนกว่าแค่การลงทุนให้เงินงอกเงยเพียงอย่างเดียวสิ่งสำคัญที่คนวัย 30 ต้องให้ความสำคัญคือการสร้างรากฐานทางการเงินที่แข็งแกร่งและป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการสร้างกองทุนสำรองฉุกเฉิน การมีประกันที่จำเป็น หรือแม้แต่การลงทุนในความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้าง เพราะสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้คุณพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์และสร้างความมั่นคงทางการเงินได้อย่างแท้จริง1. ตั้งเป้าหมายทางการเงินให้ชัดเจนจุดเริ่มต้นของการตั้งเป้าหมายการเงิน หรือการวางแผนชีวิต คือการจัดลำดับความสำคัญก่อนหลัง ว่าเป้าหมายใดมีความจำเป็นเร่งด่วนมากกว่ากัน จากนั้นจึงนำแผนนี้มาจัดสรรเงินตามลำดับ เพื่อให้เราทราบว่ารายได้ที่มีนั้นเพียงพอหรือไม่ และขาดเหลือตรงไหนบ้าง2. สร้างกองทุนสำรองฉุกเฉิน ป้องกันการเกิดวิกฤติชีวิตเราเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ด้วยภาวะเศรษฐกิจไทยที่ไม่ได้เฟื่องฟูเหมือนในอดีต และมีกระแสการปลดคนอยู่มากมาย ดังนั้นการเตรียมเงินสำรองไว้ในภาวะวิกฤติย่อมเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งแนวโน้มในเวลานี้ การสำรองเงินไว้ใช้ 6 เดือนอาจไม่เพียงพออีกแล้ว คุณอาจต้องขยับเป็น 12 เดือนเลยทีเดียว การเก็บเงินไว้เป็นทุนสำรองไม่จำเป็นต้องเก็บเป็นเงินสดทั้งหมด แต่เราสามารถเก็บเงินไว้ในกองทุนรวมตลาดเงิน หรือกองทุนรวมที่เน้นลงทุนหุ้นกู้ระยะสั้น ที่มีสภาพคล่องสูง ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการสูญเสียเงินต้น แต่ยังมีโอกาสได้รับผลตอบแทนกลับมา3. ประกันชีวิตคือสิ่งที่ขาดไม่ได้การมีประกันที่จำเป็นจึงสำคัญมาก ทั้งประกันชีวิต ประกันสุขภาพ หรือประกันอุบัติเหตุ จะช่วยลดความเสี่ยงทางการเงิน โดยเฉพาะในด้านค่ารักษาพยาบาล เพราะด้วยราคาค่ารักษาพยาบาลในเวลานี้ที่สูงมาก ซึ่งในวัย 30+ แม้ความเสี่ยงที่จะเป็นโรคประจำตัว หรือโรคร้ายแรงอาจจะยังไม่มากนัก แต่ในอีกด้านหนึ่ง ชีวิตคุณอาจเจอจุดเปลี่ยนจากการต้องเข้ารักษาพยาบาล หากไม่เตรียมตัวก็อาจเกิดวิกฤตทางการเงินได้4. วางแผนการลงทุนให้เหมาะสมกับความเสี่ยงเมื่อเราแบ่งเงินเป็นส่วน ๆ และกำหนดเป้าหมายการลงทุนที่ชัดเจนแล้ว ลำดับต่อมาคือการวางแผนการลงทุน ซึ่งในวัย 30 ยังไม่ถือว่าช้าเกินไปสำหรับการลงทุน และสินทรัพย์เสี่ยงยังคงเป็นโอกาสที่คุณสามารถเลือกลงทุนได้ แต่สิ่งที่คุณควรรู้จักและเป็นเพื่อนรักในการลงทุนคือ ดอกเบี้ยทบต้น การนำผลตอบแทนกลับมาลงทุนใหม่ จะช่วยให้คุณมีผลตอบแทนที่ดีมากขึ้นในระยะยาวอย่างที่คุณอาจไม่คาดคิด5. ลงทุนในความสัมพันธ์นอกเหนือจากการลงทุนในสินทรัพย์ทางการเงินแล้ว การลงทุนในความสัมพันธ์ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม การมีเครือข่ายเพื่อนฝูง ครอบครัว และเพื่อนร่วมงานที่ดี จะเป็นเหมือน "ทุนทางสังคม" ที่สำคัญในชีวิตของคุณไม่ว่าจะเป็นการลงทุนกับเพื่อนและคนรู้จัก ความสัมพันธ์ที่ดีกับครอบครัว ซึ่งเป็นรากฐานที่มั่นคงทางจิตใจ หรือการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนร่วมงาน ซึ่งช่วยให้การทำงานราบรื่นการลงทุนในด้านความสัมพันธ์ไม่ใช่แค่ประโยชน์ในด้านสุขภาพจิตเท่านั้น แต่อาจช่วยยกระดับให้เราค้นพบโอกาสใหม่ ๆ ในด้านเศรษฐกิจได้เช่นกันแหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับไทยรัฐออนไลน์https://www.thairath.co.th/money/personal_finance/financial_planning/2860408

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ห้องแสดงนิทรรศการ

PERFECT STORM นิทรรศการเดี่ยวครั้งแรกในรอบ 9 ปี ของ LINECENSOR เกียรติอนันต์ เอี่ยมจันทร์ ที่ ‘ช่างชุ่ย’

10/06/2025

เกียรติอนันต์ เอี่ยมจันทร์ หรือที่รู้จักกันในนาม ‘LINECENSOR’ เป็นศิลปินไทยที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในโลกของศิลปะดิจิทัลและ NFT (Non-Fungible Token) สร้างสถิติการประมูลแตะหลักล้านในแพลตฟอร์มระดับสากล จนมีแฟนคลับและผู้ติดตามจากทั่วโลกห่างหายจากการแสดงผลงานเดี่ยวนานถึง 9 ปี กลับมาครั้งนี้ เกียรติอนันต์ เอี่ยมจันทร์ หรือ LINECENSOR ฉายาที่ได้รับขณะเรียนคณะจิตรกรรม ประติมากรรม และภาพพิมพ์ ม.ศิลปากร ที่กลายเป็นชื่อที่เรียกขานกันในวงการศิลปะ ตั้งใจสร้างสรรค์ผลงานจิตรกรรม ประติมากรรม และของสะสม รวมทั้งแอพพลิเคชั่นให้สนุกไปกับเกมของของเหล่าคาแรคเตอร์อย่างเต็มอิ่มกันเลยทีเดียวประติมากรรมไฟเบอร์กลาสคนคู่สีดำ-ขาว ขนาดชวนปะทะ บริเวณทางเข้าแกลเลอรี่ผลงานจิตรกรรมขนาดกว้าง 4 เมตร x ยาว 8 เมตร พร้อมด้วยประติมากรรมสนุก ๆเริ่มต้นก็ชวนปะทะสายตากันด้วยประติมากรรมไฟเบอร์กลาสสูง 3.5 เมตร คาแรคเตอร์คู่ชายหญิงสีดำและขาวตัดกันยืนอยู่ทางเข้าห้องนิทรรศการที่ไม่ว่าใครเห็นแล้วต้องร้องว้าว ! มาแต่ไกล แต่อยากบอกว่าในห้องนิทรรศการนั้น ว้าว ! ยิ่งกว่าเพราะไฮไลท์จะอยู่ที่ผลงานจิตรกรรมขนาดกว้าง 4 เมตร x ยาว 8 เมตร ที่เจ้าตัวกล่าวว่า เป็นผลงานชิ้นที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตที่เคยทำมา โดยใช้เวลาวาดอยู่นาน 4 ปี“ผมไม่ได้แสดงนิทรรศการเดี่ยวที่เมืองไทยมาหลายปี ครั้งนี้จึงอยากนำผลงานจิตรกรรมที่เป็นมาสเตอร์พีซมีทั้งงานที่สร้างขึ้นมาใหม่และงานที่อยู่ในคอลเลคชั่นของนักสะสมที่หลายคนไม่เคยเห็นมาก่อน 7- 8 ชิ้น โดยมีจิตรกรรมขนาด 8 เมตรเป็นไฮไลท์ ควบคู่ไปกับประติมากรรมที่ออกแบบใหม่อีก 20 ชิ้น เพื่อทำให้เนื้อหาในนิทรรศการมีความสนุกมากยิ่งขึ้น” ศิลปินบอกกับเรา‘LINECENSOR’ เกียรติอนันต์ เอี่ยมจันทร์รายละเอียดของผลงานจิตรกรรมที่บอกเล่าเรื่องราวที่ได้พบเห็นผ่านลายเส้นที่เป็นเอกลักษณ์“นิทรรศการครั้งนี้มีชื่อว่า ARCH OF LINECENSOR PART 1: PERFECT STORM ใช้เวลาคิดชื่อค่อนข้างนาน PERFECT STORM บางคนอาจตีความว่าเป็นพายุที่สมบูรณ์แบบ ในอีกมุมหนึ่งอาจมองถึงสถานการณ์ วิกฤติต่างๆ ที่ถาโถมเข้ามาในชีวิตที่ยากลำบาก ผมนำสิ่งเหล่านั้นมาแปรเป็นพลังแห่งการสร้างสรรค์ที่สะท้อนความสุขความทุกข์และความหมายของชีวิต” กว่าจะมาเป็น LINECENSOR ศิลปินไทยคนแรกๆที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในตลาด NFT (Non-Fungible Token) ระดับสากล ด้วยมูลค่าผลงานในหลักล้านบาท เจ้าตัวบอกว่า“ผมเป็นเด็กติดเกมมาก่อน ชอบวาดรูป ชอบวาดการ์ตูน ชีวิตไม่ได้มีเป้าหมายอะไร จน ม.3 ต้องเลือกแล้วว่าจะเรียนสายไหน”LINECENSOR เลือกเข้าเรียนวิทยาลัยเทคนิคลพบุรี แผนกเทคนิคการก่อสร้าง เพราะครอบครัวทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง เรียนอยู่ได้หนึ่งปีชีวิตเปลี่ยนเมื่อได้ไปเห็นผลงานของแผนกวิจิตรศิลป์ที่อยู่ด้านหลังตึกเรียนเทคนิคก่อสร้าง จึงย้ายแผนกมาเรียนศิลปะ แล้วสอบเข้าเรียนในคณะจิตรกรรม ประติมากรรม และภาพพิมพ์ ม.ศิลปากร ได้ในที่สุด“เรียนอยู่ปี 3 แล้วยังเป็นเด็กติดเกมอยู่เหมือนเดิม นั่งเล่นเกมจนถึงเช้า ชีวิตไม่มีเป้าหมาย เห็นเพื่อนส่งผลงานเข้าประกวด ลองส่งบ้าง พอผลงานได้รับรางวัลผมเลิกเล่นเกมเลย เปลี่ยนตัวเองมาตั้งใจทำงานศึกษาผลงานของรุ่นพี่ที่ได้รับรางวัลที่ 1 จนเข้าใจว่า การทำงานศิลปะต้องมีคอนเซ็ปต์ มีสิ่งที่เราอยากจะพูดชัดเจน ขยันและต้องทำงานให้เยอะ และกลายเป็นพื้นฐานในการทำงานของผมจนถึงวันนี้”จากเด็กติดเกมสู่การสร้างงานศิลปะที่สะท้อนตัวตนของศิลปินและต้องตานักสะสมภายในห้องจัดแสดงความรักในเกม การ์ตูน พัฒนามาสู่ความคิดสร้างสรรค์ และกลายมาเป็นเอกลักษณ์ในผลงานของ LINECENSOR ที่ร้อยเรื่องราวในหลากหลายเหตุการณ์ผ่านตัวละครในภาพที่เต็มไปด้วยรายละเอียดที่ชวนติดตาม ใบหน้าของบุคคลที่มีชื่อเสียง ตัวละครในวรรณคดีไทย คาแรคเตอร์ที่ใครเห็นก็จำได้ รวมทั้งคาแรคเตอร์ที่ศิลปินสร้างขึ้นมาใหม่อยู่เสมอ ทำให้ผลงานของเขามีเสน่ห์น่าติดตามและเชื่อมโยงกับผู้คนหลากรุ่นได้อย่างน่าสนใจ“2-3 ปีที่เข้าไปอยู่ในตลาด NFT ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง ดิจิทัลอาร์ตเป็นงานที่สนุกและท้าทาย พองานมีมูลค่าสูงขึ้น ผู้คนก็มองเราเปลี่ยนไป ทำให้เรารู้จักชีวิตมากขึ้น เห็นคุณค่ากับสิ่งที่เราทำอยู่ในแต่ละวัน มีเป้าหมายในการทำงานที่ชัดเจนมากขึ้น”ประติมากรรมเรซิ่นเพ้นต์มือทุกชิ้นที่เกิดจากจินตนาการที่ลื่นไหลเห็นภรรยาชอบทุเรียนศิลปินจึงสร้างผลงานชิ้นนี้หนังชีวิตที่ว่ายาว ดราม่าที่ต้องปูเสื่อเล่า หากจะชมเนื้อหาที่ผูกไว้ในผลงานจิตรกรรมชิ้นไฮไลท์ยาว 8 เมตร น่าจะได้คู่แข่งที่น่าเกรงขาม ไม่นับรวมผลงานจิตรกรรม ประติมากรรมขนาดเล็ก ใหญ่ ที่ตัดทอนมาจากรายละเอียดในภาพวาด ร่วมด้วยอาร์ตทอยส์ตัวเล็กตัวน้อยจากจินตนาการที่แตกหน่อออกไปไม่มีซ้ำที่นำมาจัดแสดงในตู้พร้อมยกตู้จำหน่าย กล่าวได้ว่าเป็นงานนิทรรศการศิลปะที่สนุกและส่งต่อแรงบันดาลใจให้กับผู้ชมได้อย่างไม่รู้จบนอกจากนี้ศิลปินยังมี แอปพลิเคชั่น LINECENSOR มาให้เล่นสนุกกับเกม AR “Pluto” ที่ชวนตามหามอนสเตอร์ตัวตึงเพื่อสะสมคะแนนและแลกรับของรางวัลพิเศษในนิทรรศการให้ได้ร้องว้าว ! กันอีกฝนจะตก แดดจะร้อนยังไง อยากชวนไปชมกันค่ะภาพ : สมัชชา อภัยสุวรรณ“สิ่งที่ผมประทับใจใน LINECENSOR คือความเป็นคนมองโลกในแง่ดี สามารถเปลี่ยนพลังลบให้กลายเป็นพลังขับเคลื่อนการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะได้  Perfect Storm เหมือนศิลปะที่ระเบิดอารมณ์ออกมาจากแรงปะทุที่อัดแน่นภายใน เต็มไปด้วยความเซ็กซี่ที่เร่าร้อนจนยากจะละสายตา” สมชัย ส่งวัฒนา ผู้ก่อตั้งแบรนด์แฟชั่น FLYNOW และผู้เนรมิตช่างชุ่ย Creative Park ให้เป็นพื้นที่แห่งศิลปะและความคิดสร้างสรรค์นิทรรศการ ARCH OF LINECENSOR PART 1: PERFECT STORM” SOLO EXHIBITION BY LINECENSOR  •  วันเวลาจัดแสดง  : 10 พฤษภาคม -15  มิถุนายน 2568  •  อังคาร - ศุกร์ 14.00 - 22.00 น.   •  เสาร์ - อาทิตย์: 11.00 - 22.00 น. (ปิดทุกวันจันทร์)  •  สถานที่ : ChangChui Gallery ในโครงการ “ช่างชุ่ย Creative Park” ย่านปิ่นเกล้า (ใกล้ประตู 3)   •  เฟซบุ๊ก Line Censor Kiatanan   •  เฟซบุ๊ก ช่างชุ่ย ChangChuiเกี่ยวกับ LINECENSOR : เกียรติอนันต์ เอี่ยมจันทร์เกิด 13 พฤษภาคม 2525การศึกษา  วิทยาลัยเทคนิคลพบุรี ปริญญาตรีและโท ภาควิชาวิจิตรศิลป์ คณะจิตรกรรม ประติมากรรม และภาพพิมพ์ ม.ศิลปากร ส่วนหนึ่งของรางวัลที่ได้รับ    •  รางวัลเกียรตินิยม เหรียญเงิน ศิลป์ พีระศรี การแสดงงานศิลปกรรมร่วมสมัยของศิลปินรุ่นเยาว์ครั้งที่ 22 (พ.ศ.2548)   •  รางวัลยอดเยี่ยมอันดับ 1 การประกวดจิตรกรรมร่วมสมัย PANASONIC ครั้งที่ 8 (พ.ศ.2549)   •  รางวัลเกียรตินิยมอันดับ 3 เหรียญทองแดง ประเภทจิตรกรรม การแสดงศิลปกรรมแห่งชาติครั้งที่ 52 (พ.ศ.2549)แหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับกรุงเทพธุรกิจhttps://www.bangkokbiznews.com/blogs/lifestyle/art-living/1180717

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ท่องเที่ยว

เที่ยว 'ทุ่งกะมัง' ต้นเหมือด เนื้อทราย ชมดาวในเขตท้องฟ้ามืด

10/06/2025

หน้าฝนอันงดงามเหมาะกับการเที่ยวป่า เข้าชมสัตว์ป่าตามธรรมชาติที่ 'ทุ่งกะมัง' ใน 'เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว' อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ตกดึกนับดาวในเขตท้องฟ้ามืดทุ่งกะมัง อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว ต.ทุ่งลุยลาย อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ มีเนื้อที่ราว 5,000 ไร่ สภาพส่วนใหญ่เป็นทุ่งหญ้าธรรมชาติ เป็นเนินสูงต่ำลดหลั่นกันไป สัญลักษณ์ของทุ่งกะมัง คือ ต้นเหมือด ที่ยืนหยัดอย่างเดียวดาย มีทางเดินทอดยาวสร้างภาพจำให้กับผู้มาเยือนความงดงามของต้นเหมือด อวดโฉมตั้งแต่แสงเช้าไปถึงยามเย็น ประดับเด่นเป็นนางเอกจนถึงยามราตรีทุ่งกะมังทุ่งกะมัง ยังได้ชื่อว่าเป็น เขตท้องฟ้ามืด (Dark Sky) ในคืนข้างแรมจะมองเห็นดวงดาวเต็มฟ้าสัญลักษณ์ทุ่งกะมัง ‘เนื้อทราย’สัตว์ป่าที่เราพบเจอแทบทุกครั้งที่เดินทางมายังทุ่งกะมังคือ เนื้อทราย สายพันธุ์หนึ่งของกวางขนาดกลาง รูปร่างป้อม ๆ มีขาค่อนข้างสั้น พวกมันเป็นประชากรสัตว์ป่าที่ช่วยสร้างสมดุลให้ระบบนิเวศ เหล่าเนื้อทรายตัวผู้จะมีเขา 3 กิ่งคล้ายกับเขาของกวางป่า และมีการผลัดเขาในทุกปี เนื้อทรายแรกเกิดจะมีจุดขาว ๆ ตามลำตัว แต่พอโตขึ้นก็จะจางหายไปต้นเหมือดกับแสงยามเย็นในช่วงเช้าและช่วงเย็น เนื้อทรายจะออกมาหากินในทุ่งกว้างและตามแหล่งน้ำ เพราะธรรมชาติของเนื้อทรายไม่ชอบอยู่ในป่าทึบมากนัก จึงทำให้มีโอกาสเจอกับผู้คนได้ง่ายกว่าสัตว์ป่าโดยทั่วไปเนื้อทรายยังมีวิธีการเอาตัวรอดแบบที่เราคาดไม่ถึง แม้ว่าพวกมันจะชอบรวมตัวกันเป็นฝูงใหญ่ แต่เมื่อมีภัยมาเยือน พวกมันจะใช้กลยุทธ์แยกกันเราอยู่ เป็นการหนีแบบกระจัดกระจาย ไม่ยอมให้ตกที่นั่งลำบากไปพร้อมกันเหล่าเนื้อทรายที่ทุ่งกะมัง อาจจะคุ้นเคยกับผู้คนแบบมีระยะห่าง แต่ส่วนลึกในใจ พวกมันเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างหวาดระแวง เมื่อเราขยับตัวเข้าใกล้ พวกมันก็จะถอยห่าง แค่ส่งสายตาออกไป พวกมันก็มักจะจ้องมองกลับมา เหมือนหยั่งเชิงในใจอยู่ตลอดเวลาที่มาของชื่อทุ่งกะมังทุ่งหญ้าในแอ่งกระทะ ลักษณะคล้ายกะละมัง เป็นที่มาของชื่อ ทุ่งกะมัง ในบางครั้งแอ่งน้ำเล็ก ๆ กลางทุ่ง จะมี เป็ดก่า หรือนกเป็ดน้ำชนิดหนึ่งที่หาได้ยากมาลงเล่น  ส่วนอีกกลุ่มที่มักจะออกมาโชว์ตัวหรือส่งเสียงร้องอยู่บ่อย ๆ คือนกยูงสภาพของทุ่งโล่งในป่าใหญ่ กับเหล่าสัตว์ผู้อิสระทั้งหลายเป็นเสน่ห์ที่หาชมได้ยาก ข้อแลกเปลี่ยนอันเรียบง่ายคือการให้เกียรติเจ้าบ้านด้วยความสงบทุ่งกะมังเปิดประตูต้อนรับนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติที่เข้าใจถึงความเป็นธรรมชาติเป็นอย่างดี หากต้องการพักค้างแรมก็มีที่พักให้บริการ ไฟฟ้าในบ้านพักเปิดให้ใช้ตามเวลา 18.00 - 21.00 น. ทุกอย่างผ่านการจัดการอย่างเป็นระบบระเบียบ เพื่อให้บ้านของเหล่าสัตว์ป่า ยังคงสงบงามสำหรับทุกคนค่ำคืนที่ทุ่งกะมังผ่านไปอย่างเย็นใจ อากาศกำลังสบาย ๆ เป็นกลางปีที่ไม่ร้อนรนเหมือนในเขตเมือง หลังจากไฟฟ้าดับลง ในความมืดมิดไม่มีอะไรดีไปกว่าการได้นอนฟังเสียงสัตว์ร้องระงม แม้จะไม่เชี่ยวชาญพอที่จะรู้ว่าเป็นสัตว์ชนิดใดบ้าง แต่ก็อุ่นใจในการขับกล่อมของเจ้าบ้านในป่าใหญ่แห่งนี้เมื่อถึงเช้าวันใหม่ ทุกอย่างเริ่มต้นขึ้นอย่างเรียบง่าย แสงที่ค่อย ๆ ฉาบทาทั่วท้องทุ่ง เป็นช่วงเวลาที่สัมผัสถึงความอบอุ่นได้อย่างอ่อนโยน กิจกรรมที่น่าสนใจคือการเดินป่าศึกษาธรรมชาติ มีทั้งระยะสั้นและระยะยาว รวมทั้งจุดเช็คอินชวนฝัน เดินอ้อยอิ่งบน สะพานแขวน กลางป่าอันงดงามหากสายฝนมาเยือนแล้วโปรดจงรู้ว่า ไม่ว่าจะอีกกี่ครั้ง ทุ่งกะมังก็ยังอบอุ่นอยู่ในความทรงจำเสมอ...ทอดมันหัวปลีพาข้าวคอนสารแซ่บให้ถึงถิ่นวิถีกินไทคอนสารมาเยือน อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ แนะนำให้แวะไปสัมผัสวิถีถิ่นแบบ ชาวไทคอนสาร ไม่ว่าจะเป็นการเก็บผักสด ๆ ปลอดสารพิษจากท้องทุ่ง หรือการจับปลามาปรุงเป็นมื้อพิเศษที่ บ้านสวน อ.ศิลป์ชัยฟาร์มสเตย์ (คอนสารฟาร์มสเตย์)ลาบปูนาหรือจะไปลิ้มลองคอนสารซิกเนอเจอร์ ในเซ็ต พาข้าวคอนสาร ที่มีทั้ง คั่วเนื้อคั่วปลา อาหารโบราณผสานคุณค่าสมุนไพรพื้นบ้าน ที่นิยมรับประทานในงานประเพณีสำคัญของชาวคอนสารวิถีความเป็นอยู่ของชาวไทคอนรวมทั้ง ลาบปูนา ซึ่งปัจจุบันมีฟาร์มปูออร์แกนิค พร้อมวัตถุดิบสมุนไพรปลอดสารพิษ เป็นเมนูที่พร้อมเสิร์ฟในร้าน ปูนาแสนสวย กับเมนูจากปูนาอีกนานาชนิดแหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับกรุงเทพธุรกิจhttps://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/travel/1180771

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

การดำเนินชีวิต

5 วิธีจัดการกับความเครียดและภาวะวิตกกังวล

06/06/2025

ในยุคที่โลกหมุนไวกว่าความคิด ความเครียดและความวิตกกังวลก็เหมือนแขกไม่ได้รับเชิญที่มาเยือนชีวิตเราบ่อย ๆ วันนี้เรามี 5 วิธีเด็ด ๆ ที่จะช่วยให้คุณรับมือกับความเครียดเหล่านั้นได้อย่างมือโปร เตรียมพร้อมที่จะเปลี่ยนชีวิตให้สดใสไร้กังวลกันเลย1. การฝึกสติและสมาธิ: พลังแห่งจิตใจที่สงบนิ่งเคยสงสัยไหมว่าทำไมพระในวัดถึงดูสงบเย็นนัก ? คำตอบก็คือการฝึกสติและสมาธินั่นเอง การฝึกสติไม่ใช่แค่การนั่งหลับตาสวดมนต์เท่านั้น แต่มันคือการฝึกให้เราอยู่กับปัจจุบันขณะ รับรู้ความคิดและความรู้สึกโดยไม่ตัดสินวิธีง่าย ๆ ที่คุณสามารถเริ่มได้เลย คือ การฝึกหายใจอย่างมีสติ ลองนั่งในท่าที่สบาย หลับตาลง แล้วโฟกัสที่ลมหายใจเข้าออก สังเกตความรู้สึกของลมที่ผ่านเข้าออกทางจมูก ท้องที่พองยุบ หากทำแบบนี้สัก 5-10 นาทีทุกวัน รับรองว่าคุณจะรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจนนอกจากนี้ ยังมีแอปพลิเคชันดี ๆ อย่าง Headspace หรือ Calm ที่จะช่วยแนะนำการฝึกสติและสมาธิให้คุณได้อย่างเป็นระบบ แล้วคุณจะพบว่า จิตใจที่สงบนิ่งนั้นมีพลังมหาศาลในการจัดการกับความเครียดและความวิตกกังวล2. การออกกำลังกาย: ยาวิเศษที่ไม่ต้องกินถ้าคุณคิดว่าการออกกำลังกายมีไว้แค่ลดน้ำหนัก คุณคิดผิดถนัด การออกกำลังกายเป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการจัดการกับความเครียดและความวิตกกังวล เพราะจะช่วยกระตุ้นการหลั่งสารเอนดอร์ฟิน (Endorphins) หรือที่เรียกว่า “ฮอร์โมนแห่งความสุข” นั่นเองไม่ต้องถึงขนาดไปวิ่งมาราธอนหรือยกเวทหนัก ๆ แค่การเดินเร็ววันละ 30 นาที หรือเต้นแอโรบิกสนุก ๆ หรือเดินให้ได้อย่างน้อยวันละ 12,000 ก้าว ก็ช่วยได้แล้ว หรืออาจจะลองหากิจกรรมที่คุณชื่นชอบ เช่น โยคะ ว่ายน้ำ หรือแม้แต่การเต้นตามจังหวะเพลงโปรดในห้อง ขอให้ทำอย่างสม่ำเสมอ แล้วคุณจะรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงทั้งทางร่างกายและจิตใจมีงานวิจัยจาก Harvard Health Publishing ระบุว่า การออกกำลังกายสม่ำเสมอสามารถลดอาการของโรคซึมเศร้าและความวิตกกังวลได้เทียบเท่ากับการใช้ยาในบางกรณี และไม่มีผลข้างเคียงอีกต่างหาก3. การจัดการเวลาและการวางแผน: กุญแจสู่ชีวิตที่สมดุลบ่อยครั้งที่ความเครียดและความวิตกกังวลเกิดจากความรู้สึกว่าเราควบคุมชีวิตไม่ได้ หรือมีงานล้นมือ นี่แหละคือเหตุผลว่าทำไมการจัดการเวลาและการวางแผนถึงสำคัญนักลองใช้เทคนิค “กินกบตัวใหญ่ก่อน” (Eat That Frog) ของ Brian Tracy ดู โดยเทคนิคนี้แนะนำให้เราทำงานที่ยากหรือสำคัญที่สุดเป็นอันดับแรกของวันก่อน เหมือนกับการกินกบตัวใหญ่ให้หมดตั้งแต่เช้า แล้วหลังจากนั้นงานอื่น ๆ ก็จะดูง่ายขึ้นเองนอกจากนี้ การใช้แอปฯ จัดการงานอย่าง Todoist หรือ Trello ก็สามารถช่วยให้คุณมองเห็นภาพรวมของงานทั้งหมดได้ชัดเจนขึ้น ทำให้รู้สึกควบคุมได้มากขึ้น และลดความวิตกกังวลลงได้ที่สำคัญ เมื่อวางแผนการทำงานแล้ว ก็อย่าลืมวางแผนเวลาพักผ่อนไว้ด้วย เพราะการทำงานหนักตลอดเวลาไม่ใช่วิธีที่ดีในการจัดการความเครียด เราต้องมีเวลาให้ตัวเองได้ชาร์จแบตฯ ด้วยเช่นกัน4. การสร้างความสัมพันธ์ที่ดี: พลังแห่งการเชื่อมต่อมนุษย์เราเป็นสัตว์สังคม การมีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่นจึงเป็นกุญแจสำคัญในการจัดการกับความเครียดและความวิตกกังวล แต่ในยุคดิจิทัลที่เราติดต่อกันผ่านหน้าจอเป็นส่วนใหญ่ เราอาจหลงลืมความสำคัญของการเชื่อมต่อแบบตัวต่อตัวไปลองหาเวลาพูดคุยกับเพื่อนสนิทหรือครอบครัวแบบเห็นหน้ากันบ้าง ไม่ต้องทำอะไรใหญ่โต แค่ชวนกันไปเดินเล่นในสวน ทานข้าวด้วยกัน หรือแม้แต่โทรคุยกันสักครู่ ก็ช่วยได้มากแล้วมีงานวิจัยจาก National Institutes of Health พบว่าการมีความสัมพันธ์ทางสังคมที่ดีช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวลได้อย่างมีนัยสำคัญนอกจากนี้ การเข้าร่วมกลุ่มหรือชมรมที่มีความสนใจเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือ การทำอาหาร หรือการเล่นกีฬา ก็เป็นวิธีที่ดีในการสร้างความสัมพันธ์ใหม่ ๆ และลดความเครียดไปพร้อมกัน5. การปรับเปลี่ยนมุมมองและความคิด: พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด การปรับเปลี่ยนมุมมองและความคิดเป็นเครื่องมือทรงพลังในการจัดการกับความเครียดและความวิตกกังวล บ่อยครั้งที่ความทุกข์ของเราไม่ได้เกิดจากเหตุการณ์ แต่เกิดจากวิธีที่เรามองมันดังนั้น ลองใช้เทคนิค “การตั้งคำถามกับความคิด” (Thought Challenging) คือ เมื่อเกิดความคิดด้านลบ ให้ถามตัวเอง 3 ข้อ ดังนี้  •  มีหลักฐานอะไรสนับสนุนความคิดนี้ ?  •  มีมุมมองอื่นในการมองสถานการณ์นี้ไหม ?  •  ถ้าเพื่อนสนิทเจอสถานการณ์แบบนี้ เราจะแนะนำอย่างไร ?การฝึกมองหาด้านบวกในทุกสถานการณ์ถือเป็นอีกวิธีที่ช่วยได้มาก แม้ในวันที่แย่ที่สุด ก็ยังมีสิ่งดี ๆ เล็ก ๆ น้อย ๆ ให้เราขอบคุณเสมอ ลองจดบันทึกสิ่งดี ๆ 3 อย่างทุกคืนก่อนนอน แล้วคุณจะเห็นว่าชีวิตมีอะไรให้ยิ้มได้มากกว่าที่คิดนักจิตวิทยา Martin Seligman ผู้บุกเบิกด้านจิตวิทยาเชิงบวก ได้แสดงให้เห็นว่าการฝึกมองโลกในแง่บวกอย่างสม่ำเสมอสามารถเพิ่มความสุขและลดอาการซึมเศร้าได้อย่างมีประสิทธิภาพความเครียดและความวิตกกังวลอาจเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต แต่ไม่จำเป็นต้องครอบงำชีวิตคุณ ด้วย 5 วิธีที่เราได้แนะนำไป ไม่ว่าจะเป็นการฝึกสติและสมาธิ การออกกำลังกาย การจัดการเวลาและการวางแผน การสร้างความสัมพันธ์ที่ดี และการปรับเปลี่ยนมุมมองและความคิด คุณสามารถเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงชีวิตให้สดใสไร้กังวลได้ตั้งแต่วันนี้จำไว้ว่า การเปลี่ยนแปลงต้องใช้เวลาและความอดทน อย่าคาดหวังผลลัพธ์ในชั่วข้ามคืน แต่ถ้าคุณทำอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ รับรองว่าคุณจะเห็นความเปลี่ยนแปลงที่น่าทึ่งในชีวิตแน่นอนไม่ว่าคุณจะเลือกใช้วิธีไหน จงจำไว้ว่าทุกก้าวเล็ก ๆ ล้วนมีความสำคัญ การเปลี่ยนแปลงอาจไม่เกิดขึ้นในทันที แต่เมื่อคุณมองย้อนกลับไป คุณจะประหลาดใจกับระยะทางที่คุณได้เดินทางมา ดังคำกล่าวของเล่าจื๊อ (Lao Tzu) ที่ว่า “การเดินทางพันลี้เริ่มต้นด้วยก้าวแรก”ก้าวแรกของคุณในการจัดการกับความเครียดและความวิตกกังวลเริ่มต้นแล้วตั้งแต่คุณอ่านบทความนี้ ต่อจากนี้ไป ขอให้คุณมีความกล้าที่จะก้าวต่อไป สู่ชีวิตที่สมดุล มีความสุข และไร้กังวลหมายเหตุ: แม้ข้อมูลในบทความนี้จะมาจากแหล่งที่เชื่อถือได้ แต่ไม่ควรใช้แทนคำแนะนำทางการแพทย์ หากคุณกำลังประสบปัญหาความเครียดหรือความวิตกกังวลอย่างรุนแรง ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตเพื่อรับการดูแลที่เหมาะสมพิสูจน์อักษร : รัชนี สังข์แก้วแหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับ beartaihttps://www.beartai.com/life/1411922

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

สุขภาพ

เปิด 10 เรื่องต้องรู้ “มะเร็งปอด” หลัง “เอ๋ พรทิพย์” ประกาศเป็นมะเร็ง

06/06/2025

นพ.เจษฎ์ เผย 10 เรื่องต้องรู้เกี่ยวกับมะเร็งปอด ไม่สูบบุหรี่ก็ป่วยได้ เผยฝุ่น PM2.5 และควันจากการทำอาหารในบ้าน ก็เพิ่มความเสี่ยงได้ แนะเป็นภัยเงียบ ไม่มีอาการ จนกว่าจะลามนายแพทย์เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา เปิดเผยผ่าน Facebook หมอเจด เผย 10 เรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับ มะเร็งปอด หลัง “ป๋อ ณัฐวุฒิ สกิดใจ” พระเอกชื่อดัง สามี “เอ๋ พรทิพย์ สกิดใจ” ดาราสาว ประกาศภรรยาป่วยเป็นมะเร็งเมื่อวานนี้ (3 มิถุนายน 2568) ภายหลังทราบว่า เป็นมะเร็งปอด โดยหมอเจด ระบุ เรื่องต้องรู้ว่า  •  ไม่สูบบุหรี่ก็เป็นมะเร็งปอดได้ และก็ไม่ใช่บุหรี่อย่างเดียวบุหรี่ไฟฟ้าหรือพอตก็ทำให้เกิดมะเร็งปอดได้ เพราะคนที่ไม่สูบได้รับควันจากพวกคนที่สูบนั่นแหละ  •  การเอกซเรย์ปอดธรรมดาอาจไม่พอ ต้องใช้ Low-dose CT ถึงจะเห็นระยะต้น มันมีหลายเหตุผลเนื่องจากว่าบางครั้งก้อนมันเล็กเกินไปหรือบางครั้งเงาหัวใจก็บังก้อนมะเร็งได้ แต่ในประเทศไทยยังไม่ได้ให้ตรวจแบบนี้ทุกคน  •  มะเร็งปอดมักเงียบ ไม่มีอาการ จนกว่าจะลาม หลายคนกว่าจะมีอาการก็มาเป็นเรื่องไอเรื้อรังหรือหลายๆคนที่เป็นโควิดมาก่อนก็อาจจะบอกว่าเป็นอาการหลังโควิดซึ่งจริงๆแล้วบางครั้งอาจจะเป็นมะเร็งปอดระยะ 3 หรือระยะ 4 ก็ได้  •  ไอเรื้อรัง เสียงแหบ น้ำหนักลดเร็ว ต้องรีบตรวจ ถ้าโชคดีอาจจะเป็นแค่วัณโรคปอดถ้าโชคร้ายก็ไม่ต้องพูด  •  ฝุ่น PM2.5 และควันจากการทำอาหารในบ้าน ก็เพิ่มความเสี่ยงได้ เอาจริงๆทุกวันนี้อยากจะบอกว่าถ้าไม่เห็นควันก็ไม่ได้แปลว่า PM 2.5 มันดีนะ บางครั้งถ้าต้องออกแดดออกข้างนอกบ้านอย่าลืมพกหน้ากากเถอะ  •  มะเร็งปอดเป็นสาเหตุการตายอันดับต้น ๆ ของคนไทย ซึ่งที่ผ่านมาเป็นมะเร็งอันดับ 2 ของคนไทยแต่เชื่อว่าก็น่าจะอยู่แบบนี้แหละเพราะฝุ่น PM 2.5 มันเป็นปัญหาที่สำคัญจริงๆ  •  การตรวจคัดกรองเร็วช่วยให้รักษาหายได้ในบางราย ซึ่งการตรวจคัดกรองถ้าให้ดีที่สุดก็อย่างที่เขียนไว้ในข้อ 2 ครับแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าไม่ได้ก็เอกซเรย์ธรรมดายังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย  •  ผู้หญิงที่ไม่สูบบุหรี่ก็เป็นได้ โดยเฉพาะคนอยู่ในเมืองเป็นเพราะแฟนผู้ชายชอบสูบบุหรี่ใกล้ๆ แต่จริงๆแล้วผมก็ต้องบอกว่ามลภาวะในมือมันแย่กว่าที่นอกเมืองหรือชานเมือง รวมทั้ง สิ่งในบ้านที่ทำให้เสี่ยงมะเร็งปอด: ควันธูป, ควันจากการทอดอาหาร, น้ำหอมปรับอากาศ, สเปรย์ทำความสะอาด, ฝุ่นสะสมในห้องแอร์  •  อย่ารอให้คนดังเป็นก่อนแล้วค่อยดูแลตัวเอง... ปอดของคุณก็สำคัญเหมือนกัน เพราะทุกคนก็มีคนที่รักและก็มีคนที่รักเรา เพราะฉะนั้นหันมาดูแลตัวเองครับแหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับ pptvhd36https://www.pptvhd36.com/news/%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A1/250004

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ห้องแสดงนิทรรศการ

ช้าง ประติมากรรมสุดแฟนตาซีสะท้อนวัฒนธรรมใน The Art of Chang

06/06/2025

The Art of Chang Exhibition พาชมพาเหรดช้าง 36 ผลงานสุดแฟนตาซีโดยศิลปินดังทั่วโลกในโครงการสากล Elephant Parade สะท้อนวัฒนธรรม - ไลฟ์สไตล์ จัดแสดงที่ ‘มันมัน ศรีนครินทร์’อีกหนึ่งอาร์ตเวิลด์ทัวร์ที่เดินทางมาถึงประเทศไทย หลังจากเดินทางอวดโฉมมาแล้วในหลายประเทศ ครั้งนี้ถึงคิว MunMun Srinakarin (มันมัน ศรีนครินทร์) ห้างสรรพศิลป์คราฟท์ ที่จะเปลี่ยนพื้นที่ให้กลายเป็นแกลอรีมีชีวิตกับ The Art of Chang Exhibition นิทรรศการภายใต้คอนเซ็ปต์ From Nature to the Extraordinary หรือ ‘จากธรรมชาติ สู่ความไม่ธรรมดา’ เชิญชวนสัมผัสความงดงามของขบวน ประติมากรรมช้าง ผลงานคอลแล็ปส์ของ 36 ศิลปิน กันแบบใกล้ชิดพิมลพรรณ งามขำ และ เจเนท โวลิงกานิทรรศการนี้เกิดจากความร่วมมือกันระหว่าง ‘มันมัน ศรีนครินทร์’ นำโดย พิมลพรรณ งามขำ ผู้จัดการฝ่ายกิจกรรมการตลาด มันมัน ศรีนครินทร์ ร่วมกับ Elephant Parade (เอเลฟเฟนท์ พาเหรด) นำโดย เจเนท โวลิงกา (Jeannette Woelinga) กรรมการผู้จัดการ Elephant Parade ประจำเอเชียและตะวันออกกลาง โครงการเพื่อสังคมที่ผสมผสานศิลปะ ธุรกิจ และการอนุรักษ์โครงการ Elephant Parade ระบุว่า ช้าง คือสัญลักษณ์ที่เปี่ยมไปด้วยพลัง ความสง่างาม และความเชื่อมโยงทางวัฒนธรมและจิตวิญญาณของมนุษย์กับธรรมชาติ ข้างไม่ได้เป็นเพียงแต่สัตว์ป่า แต่คือ สัญลักษณ์ของการดํารงอยู่ร่วมกับธรรมชาติ มักถูกมองว่าเป็นสัตว์ที่มี ความคิดลึกซึ้ง สุขุม แข็งแรง เมตตาไว้ในตัวเดียวกัน และมีความรู้สึกใกล้เคียงกับมนุษย์ จึงมักเป็นแรงบันดาลใจให้ ศิลปินใช้สื่อถึง ‘ความคิด’ ที่เคลื่อนไหวอย่างมีความหมายนิทรรศการ The Art of Chang ที่ มันมัน ศรีนครินทร์ช้างในเชิงคิลปะ คือรูปธรมของ ‘พลังความเงียบ’ และคือภาพแทนของโลกธรรมชาติที่บอกเราว่า “ศิลปะไม่จำเป็นต้อง เสียงดัง ถ้ามันพูดจากหัวใจ" เมื่อธรรมชาติ ‘สร้างชีวิต’ ศิลปะจึงทำหน้าที่ ’สร้างลมหายใจ’ ธรรมชาติสร้างช้างมา เพื่อให้ระลึกว่า ทุกชีวิตคือ ‘ศิลปะที่ควรถูกเคารพ’นิทรรศการนี้ไม่ใช่เพียงการจัดแสดงงานแต่เพียงเท่านั้น แต่คือบทสนทนาระหว่าง มนุษย์ และ ธรรมชาติ ผ่านลวดลายที่บรรจงวาดลงบนสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังที่สุดในป่าใหญ่สร้างสรรค์ผิวของช้างให้กลายเป็นพื้นที่แห่งการสื่อสาร ทำให้งานศิลปะไม่ใช่เพียงแค่ภาพวาด แต่คือจิตวิญญาณของธรรมชาติที่ถูกวาดด้วยหัวใจของศิลปินนิทรรศการ The Art of Chang ที่ ‘มันมัน ศรีนครินทร์’ จัดแสดงผลงานประติมากรรมช้างที่มีลวดลายต่างๆ ซึ่งสร้างสรรค์โดย 36 ศิลปินจากทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทยRu-Dee โดย INK Teamอาทิ ผลงานชื่อ Ru-Dee ประติมากรรมช้างที่เต็มไปด้วยรอยพิมพ์รูปมือหลากสีสัน สร้างสรรค์โดย INK Team ซึ่งอธิบายผลงานออกแบบชิ้นนี้ว่า“เราตั้งชื่อช้างของเราว่า ฤดี หรือ ‘ใจ’ ซึ่งหมายความว่าหัวใจหรือจิตวิญญาณในภาษาไทย พนักงานที่บริษัทอิงค์ (INK) มีความหลากหลายทั้งด้านเชื้อชาติ และวัฒนธรรมโดยเฉพาะอย่างยิ่งภายในสำนักงานใหญ่ในเอเชียของเราเราทาช้างเป็นสีขาวเพื่อที่จะให้เป็นตัวแทนของความสงบสุข รวมทั้งช้างยังเป็นสัญลักษณ์ของโลกนี้อีกด้วย นอกจากนี้เรายังเพ้นท์รูปมือหลากหลายสีบนตัวช้าง อันแสดงถึงความสมัครสมานสามัคคี ความเป็นหนึ่งเดียว และความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน”ประติมากรรมช้าง Catrina Elefanteไปสนทนากับธรรมชาติกันต่อกับผลงาน Catrina Elefante ประติมากรรมช้างในท่านั่ง มีลวดลายหัวกะโหลกสีขาวแวววาวและดอกไม้สีสันสดใสที่หมุนวนบนตัวช้างสีดำ สื่อถึงแก่นแท้ของ La Catrina สัญลักษณ์อันสง่างามของ 'วันแห่งความตาย' ของเม็กซิโก “การออกแบบนี้ยกย่องความงามของชีวิตและจิตวิญญาณแห่งการรำลึก เตือนให้เราตระหนักว่าความรักและความทรงจำนั้นอยู่เหนือกาลเวลา ช้างตัวนี้ประดับด้วยสีสันสดใส เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองศิลปะ วัฒนธรรม และสายสัมพันธ์อันยาวนานระหว่างรุ่นต่อรุ่น” นริน กันทะวงศ์ ผู้ออกแบบผลงาน Catrina Elefante อธิบายไว้ในเว็บไซต์ Elephant Paradeประติมากรรมช้าง Ayutthaya Silverขณะที่ 'ปาริชาติ อินใจมา' ชวนสนทนากับผลงานชื่อ Ayutthaya Silver ประติมากรรมช้างที่สะท้อนถึงหัวใจของศิลปะและอาณาจักรล้านนาผ่านวัสดุเงินอันล้ำค่าและ 'ภิมทร์ เขมะสิงคิ' สร้างสรรค์ผลงานชื่อ Khao Soy ประติมากรรมช้างลวดลาย ‘ข้าวซอย’ อาหารขึ้นชื่อภาคเหนือของไทย เพื่อเป็นเกียรติแก่ขบวนฟ้อนเชียงใหม่ที่แสดงออกถึงศิลปวัฒนธรรมและวิถีชีวิตประติมากรรมช้าง Khao  Soyประติมากรรมช้าง The Third Eyeอาจารย์ศิลปะซึ่งเติบโตจากการประกวดศิลปกรรม ปตท. 'เกรียงไกร กงกะนันทน์' เชิดชูช้างด้วยผลงาน The Third Eye ตามความเชื่อที่ว่าช้างเป็นช้างมงคลตามหลักฮวงจุ้ย ช้างเป็นสัญลักษณ์ของภูเขาที่แข็งแรง เต็มไปด้วยพละกำลัง ปัญญา โชคลาภ และคุณธรรมประติมากรรมช้าง Night Safariเมื่อมนุษย์เข้านอน สัตว์หลายชนิดก็ตื่นขึ้นและเริ่มกิจวัตรประจำวันในตอนกลางคืน ความแตกต่างที่สวยงามระหว่างกลางวันและกลางคืนเป็นแรงบันดาลใจให้ ‘วันเฉลิม หมื่นแปง’ สร้างสรรค์ประติมากรรมช้างชื่อ Night Safari ที่หาชมได้ยาก ธรรมชาติมีความหลากหลาย และไม่มีสิ่งมีชีวิตใดในโลกที่หลับใหลได้อย่างสมบูรณ์ประติมากรรม Joaquina ของศิลปิน Lucas Milk ได้รับแรงบันดาลใจจากผลไม้ Amarula ของแอฟริกา ทั้งรูปร่าง รสชาติ และประวัติศาสตร์ขณะที่ ศิลปิน Edith Rollinger-Simon สร้างสรรค์ประติมากรรม Sista น้องสาวของ Iro Iro ชื่อในภาษาญี่ปุ่นหมายถึงความหลากหลาย ส่วน Sista  เป็นตัวแทนของการทำงานที่ยอดเยี่ยมและมีสีสันที่มอบให้กับเด็กๆ ซิสต้าต้องการแบ่งปันความสุขและความยินดีกับเราประติมากรรมช้าง Joaquinaประติมากรรมช้าง Sistaเตรียมกล้องให้พร้อม แล้วไปดื่มด่ำกับความสวยสะกดใจ ‘ที่ไม่ธรรมดา’ ในนิทรรศการศิลปะที่ ‘มีชีวิต’ เปิดโลกแห่งแรงบันดาลใจครั้งใหม่ ที่จะทำให้คุณตกหลุมรักช้างในแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อนปักหมุดโซนไฮไลท์ ห้ามพลาด! พบกับลวดลายช้างที่บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ Culture & Lifestyle และ ช้างที่คอลแล็ปส์กับแบรนด์และคาแรคเตอร์ดัง สร้างสรรค์โดยศิลปินชาวไทยและต่างชาติทั่วโลกเวิร์คช็อปเพ้นท์ช้างนอกจากนี้ยังมีโซนกิจกรรมที่จะชวนทุกคนมาออกตามล่าหา ‘อักษรช้าง’ กับ The Treasure Hunt Game เพื่อลุ้นรับรางวัลพิเศษจาก Elephant Parade พร้อมรับส่วนลด 10% ในการซื้อสินค้าจาก Elephant Parade Shopกิจกรรมเติมจินตนาการไปกับกิจกรรมเวิร์คช็อปเพ้นท์ช้าง ที่จะได้เนรมิตช้างในแบบที่ไม่เหมือนใครเป็นของตัวเองThe Art of Chang Exhibition จัดแสดงระหว่างวันที่ 16 พฤษภาคม - 27 กรกฎาคม 2568 เวลา 11.00-19.00 น. บริเวณชั้น 1 ‘มันมัน ศรีนครินทร์’ ตั้งอยู่ที่ ซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ เข้าชมฟรีแหลงที่มาข่าวและภาพต้นฉบับกรุงเทพธุรกิจhttps://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/art-living/1181303

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

X