Everyday knowledge for you
การวางแผนทางการเงิน
06/11/2025
เคยหรือไม่? อยาก “ออมเงิน” แต่คิดว่ารายได้น้อยไม่น่าไหว! ซึ่งนั่นเป็นความเชื่อที่ผิด เพราะจริง ๆ แล้ว ไม่ว่าจะมีรายได้มากหรือน้อยก็สามารถออมเงินได้ และยิ่งเริ่มไวยิ่งดี วันนี้ fintips by ttb #เรื่องเงินที่รู้จริงแบบเพื่อนที่รู้ใจ ชวนทุกคนมาเปลี่ยนมุมมองด้วยเทคนิคออมเงินง่าย ๆ และสนุก ไม่ต้องบีบบังคับตัวเองจนไม่มีความสุข โดยเลือกให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง เพื่อช่วยให้ออมเงินได้จริงอย่างยั่งยืนรายได้น้อยก็ออมได้ แชร์ 12 วิธีออมเงินง่าย ได้ผลจริง1. เก็บเงินจากแบงก์ที่ชอบ ช่วยสร้างกำลังใจในการออมเงินหนึ่งในเคล็ดลับออมเงินฉบับคนเพิ่งเริ่มทำงานที่นำไปใช้ได้จริง ซึ่งวิธีเก็บเงินรายวันแบบนี้เหมาะกับคนยังไม่มีแผนทางการเงินที่ชัดเจน แต่อยากเก็บเงินอย่างมีความสุขและสนุกกับการได้เห็นเงินเก็บเพิ่มขึ้น เช่น ตั้งกฎการออมเงินด้วยการเก็บแบงก์ 50 บาท ได้มาเมื่อไหร่แยกเก็บไว้ รอครบระยะเวลาที่กำหนดได้เห็นเงินเก็บเพิ่มขึ้นแน่นอน2. เก็บเงินตามวันที่ เคล็ดลับการออมเงินดี ๆ สำหรับคนขี้ลืมเทคนิคเก็บเงินตามวัน เป็นทางเลือกที่เหมาะกับคนขี้ลืม ช่วยบังคับให้เก็บเงินตามเป้าหมายได้ง่าย แค่ดูปฏิทินว่าวันที่เท่าไหร่และเก็บทุกวันให้ได้ตามวันนั้น ๆ เช่น วันที่ 10 เก็บเงิน 10 บาท ส่วนวันที่ 11 ก็เก็บ 11 บาท หากมีรายได้มากขึ้น และคิดว่าจำนวนเงินที่เก็บน้อยไป อาจคูณจำนวนเท่าเข้าไปตามกำลังทรัพย์ของตัวเอง3. เก็บเงินแบบคงที่ หักเงินออมทันทีก่อนใช้จ่ายใครที่รู้ตัวว่าใช้เงินเก่ง และกลัวว่าสิ้นเดือนจะไม่มีเงินเหลือเก็บ ต้องใช้วิธีหักเงินออมทันทีที่ได้รับเงินเดือน ด้วยการโอนเงินเข้าบัญชีผ่านโทรศัพท์ แล้วค่อยนำเงินส่วนที่เหลือไปใช้จ่าย ซึ่งสัดส่วนของเงินออมที่หักไว้ก็ขึ้นอยู่กับภาระทางการเงินของแต่ละคน โดยแนะนำให้หักเงินเก็บอย่างน้อย 10% ของรายได้ ฝึกการเก็บเงินโดยหักจากเงินเดือน 10% ให้เป็นนิสัยจะช่วยให้เรามีเงินเก็บไว้ใช้ยามฉุกเฉินได้เยอะอย่างแน่นอน4. เก็บเงินทอนหยอดกระปุก สูตรเก็บเงินสำหรับคนใช้เงินสดคนที่ใช้เงินสดบ่อย ๆ อย่ามองข้ามคุณค่าของเหรียญที่ได้รับจากเงินทอนเด็ดขาด เพราะการค่อย ๆ สะสมเงินทอนก็ช่วยให้มีเงินเก็บเป็นก้อนได้เช่นกัน โดยควรหากระปุกออมสินที่แคะยาก จะได้ไม่เผลอหยิบเงินออกมาใช้ก่อนเวลาอันควร 5. ออมก่อนใช้ อยากช้อปเท่าไหร่ เก็บเงินให้ได้เท่านั้นเป็นวิธีออมเงินที่ฉลาดของคนมีเป้าหมายชัดเจน ว่าอยากเก็บเงินเพื่อซื้อของบางอย่าง ซึ่งนำไปใช้สอนลูกหลานให้รู้จักคุณค่าของเงินได้ หลักการคือ เวลาที่อยากซื้อของ ควรพยายามเก็บเงินให้ได้เท่ากับมูลค่าของที่อยากได้ แล้วจึงนำเงินเก็บไปใช้ โดยวิธีนี้จะทำให้ภูมิใจที่ได้ใช้ความพยายามเพื่อให้ได้ของที่ต้องการ และดูแลสิ่งของนั้นดีเป็นพิเศษ6. แอปฯ ช่วยออม เก็บเงินง่าย ได้ผลเร็วขึ้นวิธีเก็บเงินในบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ คือ ช่องทางช่วยเก็บเงินที่ได้ดอกเบี้ยด้วย และหากติดตั้งแอปพลิเคชันธนาคาร จะช่วยให้เห็นการเคลื่อนไหวของเงินได้ตลอดเวลา ซึ่งปัจจุบันแอปฯ ช่วยออมมีการพัฒนาลูกเล่นให้น่าใช้มากขึ้น โดยมีฟีเจอร์ที่ช่วยสรุปและจัดหมวดหมู่รายรับหรือรายจ่ายได้อย่างสะดวก โดยที่ไม่ต้องมานั่งทำตารางออมเงินด้วยตัวเอง รวมถึงใช้เพื่อวางแผนการใช้จ่ายและเป็นวิธีเก็บเงินแต่ละเดือนที่ได้ผลดี7. เปิดบัญชีเงินฝากประจำแบบปลอดภาษี เทคนิคออมเงินดอกเบี้ยดีการเปิดบัญชีเงินฝากประจำแบบปลอดภาษี คือ วิธีเก็บเงินของคนที่มีวินัยสูง เพราะการฝากเงินเข้าบัญชีเป็นประจำทุกเดือนจะช่วยให้ได้ดอกเบี้ยที่สูงกว่าการฝากออมทรัพย์ทั่วไป และดอกเบี้ยที่ได้ก็ไม่ต้องเสียภาษีอีกด้วย ซึ่งบัญชีประเภทนี้อาจจะมีระยะเวลาการฝากตั้งแต่ 24 เดือน 36 เดือน หรือ 48 เดือน ที่ยิ่งฝากนานเท่าไหร่ก็จะได้รับอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ เท่านั้น 8. แยกบัญชีให้เป็นสัดส่วน ลดปัญหาใช้เงินเกินตัววิธีแบ่งเงินเก็บแยกบัญชีช่วยให้จัดการเงินได้อย่างเป็นระเบียบและมีประสิทธิภาพ โดยอาจจะเปิดบัญชีแยกกันระหว่างบัญชีค่าใช้จ่าย บัญชีเงินออม และบัญชีการลงทุน ซึ่งจะช่วยให้คุณจัดการเงินแต่ละก้อนได้เป็นระบบ ลดปัญหาการใช้เงินเกินตัว และเป็นเทคนิคการเก็บเงินที่ช่วยเพิ่มโอกาสการออมเงินเพื่ออนาคตด้วย9. ลงทุนในพันธบัตร เก็บเงินอย่างปลอดภัยและความเสี่ยงต่ำการลงทุนในพันธบัตรเป็นวิธีที่ทําให้มีเงินเก็บเยอะ ปลอดภัย และมีความเสี่ยงต่ำ โดยเฉพาะพันธบัตรรัฐบาลซึ่งออกโดยกระทรวงการคลัง วิธีนี้จะช่วยให้ได้รับดอกเบี้ยเป็นประจำและได้เงินต้นคืนเมื่อครบกำหนด แต่พันธบัตรมีหลายประเภทให้เลือกลงทุน ควรศึกษารายละเอียดและเลือกพันธบัตรที่มีผลตอบแทนและความเสี่ยงให้เหมาะสมกับตัวเอง10. ออมในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ฉบับมนุษย์เงินเดือนบางบริษัทจะให้สวัสดิการในรูปแบบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพแก่พนักงาน ซึ่งกองทุนนี้จะหักเงินออมจากเงินเดือน และยังมีส่วนที่บริษัทสมทบเพิ่มอีกด้วย ทำให้การเลือกออมในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเป็นวิธีเก็บเงินที่ยอดเยี่ยม ช่วยให้ได้รับประโยชน์สูงกว่าวิธีเก็บเงินแบบอื่น ๆ และช่วยให้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีอีกด้วย11. ซื้อประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ ได้ทั้งออมเงินและความคุ้มครองในอนาคตการซื้อประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์เป็นวิธีเก็บเงินที่มีประโยชน์ 2 ต่อ ได้แก่ การสะสมเงินทุนที่จะได้รับคืนเมื่อครบสัญญา และความคุ้มครองในชีวิต ด้วยเหตุนี้ การซื้อประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์จึงเป็นแนวทางการออมเงินที่ช่วยเสริมความมั่นคงทางการเงิน และช่วยให้มีเงินก้อนเพื่ออนาคต ทั้งนี้ ต้องเลือกประกันที่มีเงื่อนไขและผลตอบแทนที่เหมาะกับตัวเองด้วย12. ซื้อประกันบำนาญ บริหารความเสี่ยงพร้อมลดหย่อนภาษีการซื้อประกันบำนาญเป็นวิธีเก็บเงินสำหรับคนที่มองการณ์ไกล และอยากเกษียณอย่างมีความสุข เพราะช่วยให้ได้รับเงินบำนาญอย่างสม่ำเสมอหลังเกษียณ และลดความกังวลเรื่องการเงินในอนาคตได้ นอกจากนี้ เงินที่จ่ายค่าประกันบำนาญในแต่ละปียังสามารถลดหย่อนภาษีได้ด้วย ซึ่งมนุษย์เงินเดือนรายได้สูงไม่ควรพลาดเชื่อว่าแต่ละคนคงมีแนวทางการเก็บเงินในใจสักวิธีแน่ ๆ ไม่ว่าจะวิธีไหนก็สามารถทำให้เรามีเงินเก็บได้ เพียงแค่เลือกในวิธีที่คิดว่าเหมาะกับตัวเอง และไม่บังคับมากเกินไป แต่หากใครที่ยังไม่แน่ใจ และอยากเริ่มต้นการออม อาจเริ่มง่าย ๆ ด้วยการเปิดบัญชีเงินฝาก ttb all free (ทีทีบี ออลล์ ฟรี) ที่มาพร้อมความคุ้มครองประกันอุบัติเหตุเมื่อฝากเงินเริ่มตั้งแต่ 5,000 บาท (ฝากคงที่ ทุกวันตลอดเดือน) และใช้คู่กับบัตรเดบิต ttb all free ได้ทั้งในและต่างประเทศ ฟรีค่าธรรมเนียม กด โอน จ่าย เติมทุกตู้เอทีเอ็มในไทย ที่สำคัญยังสามารถติดตามยอดการใช้จ่ายและยอดเงินเก็บคงเหลือได้ตลอดเวลาผ่านแอป ttb touch อีกด้วยแหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับ pptvhd36https://www.pptvhd36.com/wealth/monetary/257642
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
สุขภาพ
06/11/2025
พลอย-เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ ร่วมงานเปิดตัวโครงการ Princess Collection 2025 “Pink Bloom” โดยแบรนด์ SIRIVANNAVARI ร่วมกับWACOAL คอลเลกชันชุดชั้นในและชุดเลานจ์แวร์ทรงออกแบบ รายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายสนับสนุนการดำเนินงานด้านมะเร็งเต้านม แม้เจ้าตัวเพิ่งตรวจพบมะเร็งเต้านมและมะเร็งต่อมน้ำเหลือง แต่ยังคงมีกำลังใจเข้มแข็งร่วมแบ่งปันประสบการณ์และส่งต่อพลังใจให้ผู้ป่วยคนอื่นๆพลอย เล่าประสบการณ์ต่อสู้มะเร็งฯ ว่า “ครั้งแรกที่ตรวจพบพลอยเจอก้อนเนื้อ หมอบอกว่ายังไม่เป็นอะไรแค่ให้ติดตาม แต่เพราะกลัวเข็มและคิดว่าร่างกายแข็งแรงออกกำลังกายสม่ำเสมอเลยชะล่าใจไม่ได้ตรวจต่อเนื่องจนผ่านไปปีครึ่ง ผลตรวจพบว่าเนื้อมีการเจริญเติบโตลักษณะชัดเจนว่าเป็นมะเร็ง ตอนนั้นช็อกมากจึงเปลี่ยนโรงพยาบาลและเข้ารับการผ่าตัด พบก้อนทั้งสองข้างด้านขวาเป็นเพียงหินปูน แต่ด้านซ้ายยืนยันว่าเป็นมะเร็ง เมื่อส่งตรวจชิ้นเนื้อหมอบอกว่ายังไม่จบ เพราะพบว่าเป็นมะเร็งสองชนิดคือมะเร็งเต้านมและต่อมน้ำเหลือง อยู่ในระยะที่ 2หลังจากนั้นเข้ารับการรักษา ฉายแสง และทานยาต่อเนื่อง ล่าสุดผลตรวจไม่พบเซลล์มะเร็งแล้ว แต่ยังต้องติดตามอาการและทานยาต่ออีกประมาณ 3 ปี ตอนนี้อยู่ในปีที่ 2 ของการรักษาค่ะพลอยอยากชวนผู้หญิงทุกคนรักตัวเองให้มากขึ้น ด้วยการตรวจสุขภาพเต้านมด้วยตัวเองเป็นประจำทุกเดือน เพราะการรู้ทันคือก้าวแรกของการรักษา หากพบสิ่งผิดปกติรีบพบแพทย์เพราะพบเร็ว รักษาไว มีโอกาสหายและกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจค่ะ และขอส่งกำลังใจให้ผู้ป่วยมะเร็งเต้านม ทุกคน การรักษาอาจใช้เวลาอย่าหมดหวังอย่ายอมแพ้นะคะ กำลังใจจากตัวเองและคนรอบข้าง จะพาคุณผ่านมันไปได้ พร้อมกลับมาแข็งแรงได้อีกครั้งค่ะ”‘Princess Collection SIRIVANNAVARI x Wacoal’ ลิมิเต็ด อิดิชั่น ประจำปี 2025 รายได้จากการจำหน่ายส่วนหนึ่งมอบแก่ 3 องค์กร ได้แก่ ศูนย์สิริกิติ์บรมราชินีนาถเพื่อมะเร็งเต้านม โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย, มูลนิธิกาญจนบารมี และสถาบันมะเร็งแห่งชาติ เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานช่วยเหลือผู้ป่วยมะเร็งเต้านม และสร้างความตระหนักรู้แก่ผู้หญิงไทยทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลผลิตภัณฑ์ เพิ่มเติม โทร.02-296-9979แหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับผู้จัดการออนไลน์https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000102672
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ห้องแสดงนิทรรศการ
06/11/2025
• นิทรรศการ “How Do You Do, Snoopy?” จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองในโอกาสครบรอบ 75 ปีของการ์ตูน Peanuts (พีนัทส์) • นำเสนอเรื่องราวเบื้องหลังและพัฒนาการของตัวละคร Snoopy (สนูปปี้) รวมถึงประวัติของ ชาร์ลส์ เอ็ม. ชูลซ์ ผู้สร้างสรรค์การ์ตูนเรื่องนี้ • ภายในงานจัดแสดงผลงาน 4 ส่วนหลัก คือ คอมิกส์ต้นฉบับ, ผลงานศิลปะร่วมสมัย, แฟชั่นดีไซน์ และภารกิจอวกาศร่วมกับ NASAหลายครั้งที่ ‘ตัวละคร’ ได้รับความนิยมในการเรียกชื่อมากกว่าชื่อเรื่อง ตัวละคร Snoopy (สนูปปี้) ก็เป็นหนึ่งในนั้น หลายคนรู้จักและเรียกชื่อสนูปปี้ซึ่งเป็นตัวละครเอกในการ์ตูนเรื่อง Peanuts (พีนัทส์)ปีนี้ใครอายุยังไม่ถึง 75 ปี คุณคือรุ่นน้องของ ‘สนูปปี้’ ตัวละครอันเป็นที่รักและเป็นเสมือนเพื่อนของคนทุกวัยตัวละครแก๊ง Peanutsผู้สร้างตัวละครสนูปปี้คือ ชาร์ลส์ เอ็ม. ชูลซ์ (Charles M. Schulz) นักวาดภาพประกอบชาวอเมริกันผู้สร้างสรรค์และวาดการ์ตูนคอมิกส์ (การ์ตูนช่อง) เรื่อง Peanuts ขึ้นมาครั้งแรกให้กับหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นในเมืองมินนีแอโปลิส รัฐมินนิโซตา ในปี ค.ศ.1950วันเปิดนิทรรศการ “How Do You Do, Snoopy?หวัง อวี่หลิง (Wang Yu-Ling) ผู้จัดการทั่วไป Blue Dragon Art Company บริษัทไต้หวันซึ่งทำงานหลักด้านศิลปะร่วมสมัย และ มร.ไดสึเกะ คุซาคาริ (Daisuke Kusakari) ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ พิพิธภัณฑ์สนูปปี้ โตเกียว ร่วมกันจัดทำ นิทรรศการ “How Do You Do, Snoopy? 75 Years: A Journey of Friendship Through Art” เพื่อฉลองครบรอบ 75 ปีของการ์ตูนพีนัทส์นิทรรศการนี้เปิดโอกาสให้แฟนสนูปปี้ได้ทำความรู้จักสุนัขบีเกิ้ลที่คนทั่วโลกหลงรักกันอีกครั้ง แฟนตัวยงอาจรู้จักสนูปปี้ทุกแง่มุมดีอยู่แล้ว แต่สำหรับผู้เพิ่งติดตาม ไปทำความรู้จักสนูปปี้ที่เป็นเสมือนตัวแทนพีนัทส์ตั้งแต่จุดกำเนิดได้ในนิทรรศการนี้ • ชูลซ์ ผู้สร้างคาแรคเตอร์สนูปปี้ชาร์ลส์ เอ็ม. ชูลซ์ เกิดเมื่อวันที่ 26 พ.ย.1922 ในเมืองมินนีแอโปลิส ไปเติบโตที่เมืองเซนต์พอล เป็นลูกคนเดียวของคาร์ลและดีน่าเจ้าของร้านตัดผม ได้รับอิทธิพลมาตั้งแต่วัยเยาว์จากบิดาผู้หลงใหลในหนังสือการ์ตูน ทำให้เขารอคอยที่จะได้อ่านการ์ตูนในหนังสือพิมพ์ทุกเช้าห้องนิทรรศการ “How Do You Do, Snoopy?นอกจากชื่นชอบในการวาดภาพ ชูลซ์ยังรักการชมภาพยนตร์และเล่นกีฬา โดยเฉพาะ เบสบอล ฮอกกี้น้ำแข็ง กอล์ฟ ซึ่งภาพความทรงจำเหล่านี้กลายเป็นแรงบันดาลใจสำคัญที่สะท้อนอยู่ในผลงานการ์ตูนเรื่อง พีนัทส์ ในเวลาต่อมาเมื่อชูลซ์อายุ 13-14 ปี เขาส่งภาพวาดสุนัขส่วนตัวชื่อ สไปค์ ไปยังคอลัมน์ชื่อดังระดับประเทศของสหรัฐฯ คือ Ripley’s Believe It or Not นับเป็นครั้งแรกที่ผลงานของเขาได้รับการตีพิมพ์ลงสิ่งพิมพ์พออายุ 17 ปี เขาเรียนรู้พื้นฐานศิลปะเป็นระยะเวลา 1 ปี ผ่านหลักสูตรทางไปรษณีย์จากสถาบัน Art Instruction Schools ซึ่งเป็นโรงเรียนฝึกฝนศิลปินโดยเฉพาะในปี 1943 เขาถูกเรียกตัวเข้ารับราชการทหารและเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่สอง ประจำการอยู่ในทวีปยุโรปเป็นเวลา 3 ปีประสบการณ์ในสมรภูมิ พร้อมกับการสูญเสียมารดาในช่วงเวลาเดียวกัน ส่งอิทธิพลอย่างลึกซึ้งต่อชีวิตของเขา ความทรงจำเหล่านี้ได้รับการถ่ายทอดลงในการ์ตูนพีนัทส์ สะท้อนช่วงเวลาแห่งการเติบโต ความสูญเสีย และความเข้มแข็งภายในใจของเขาเอง • จุดเริ่มต้นของสนูปปี้หรือการ์ตูนพีนัทส์หลังปลดประจำการจากกองทัพ ชูลซ์กลับไปยังรัฐมินนิโซตา เริ่มเขียนการ์ตูนช่องเดียวในชื่อเรื่อง Li’l Folks ได้รับการตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นในปี 1947 ผลงานนี้นำพาเขาไปสู่การพบกับ United Feature Syndicate (UFS) หน่วยงานจัดจำหน่ายการ์ตูนรายใหญ่ของสหรัฐฯห้องนิทรรศการ “How Do You Do, Snoopy?ส่วนหนึ่งของผนังในนิทรรศการออกแบบสำหรับนั่งถ่ายรูปเป็นที่ระลึกลายเส้นของชูลซ์เป็นที่เข้าตา แต่ UFS ไม่ถูกใจชื่อเรื่อง จึงตั้งชื่อการ์ตูนของชูลซ์ให้ใหม่ว่า Peanutsชูลซ์ไม่ค่อยพึงพอใจกับชื่อเรื่องพีนัทส์ รู้สึกคำนี้มีความหมายว่า “ไม่สำคัญ” หรือ “เล็กน้อย” แต่ในฐานะนักวาดหน้าใหม่จึงไม่มีอำนาจต่อรองมากนักในที่สุดเมื่อวันที่ 2 ต.ค.1950 การ์ตูนช่อง พีนัทส์ ที่วาดโดยชื่อ ชาร์ลส์ เอ็ม. ชูลซ์ ก็เริ่มตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ 7 ฉบับเป็นครั้งแรก ด้วยเนื้อหาที่โดนใจและเสน่ห์เฉพาะตัวของเหล่าตัวละคร ความนิยมของพีนัทส์ค่อยๆ ขยายวงกว้าง โดยในปี 1952 ก็ได้ตีพิมพ์ในฉบับวันอาทิตย์ด้วยชูลซ์ ได้รับ รางวัลรูเบน (Reuben Award) จากสมาคมนักวาดการ์ตูนแห่งชาติของสหรัฐฯ ในปี 1955 นับเป็นเกียรติสูงสุดสำหรับนักวาดการ์ตูนมืออาชีพชาร์ลส์ เอ็ม. ชูลซ์ ขณะรับรางวัลรูเบน • สนูปปี้เป็นสุนัขแบบไหนเมื่อการ์ตูนเรื่องนี้ปรากฏตัวเป็นครั้งแรก Snoopy เป็นแค่ลูกสุนัขน่ารักธรรมดาที่วิ่งสี่ขาไปรอบๆ และเห่าต่อมา ชูลซ์พัฒนาคาแรคเตอร์ให้สนูปปี้เดินสองขา โดยปูพื้นให้สนูปปี้ใช้เวลากับเด็กๆ แถวบ้าน จินตนาการของสนูปปี้รุ่มรวยขึ้น เริ่มฝันที่จะเป็นสิ่งมีชีวิตอย่างอื่นนอกจากสุนัข บางครั้งแสร้งทำตัวเป็นสัตว์อื่นๆ เช่น ยีราฟ อีแร้งคอมิกส์พีนัทส์ 5 ก.ย.1952 สนูปปี้ยังเป็นลูกสุนัข : A สำหรับ Alligator จระเข้, B สำหรับ Bear หมี และ C สำหรับ Cat แมว, และ D สำหรับ... Deer กวางคอมิกส์พีนัทส์ 7 ก.พ.1956 สนูปปี้เริ่มโตแต่ยังเดินสี่ขา : บางครั้งฉันก็หวังว่าจะเป็นยีราฟ ฉันจะได้ยืดสูงขึ้นดูทุกอย่าง อ๊ากก! วู้! นั่นมากเกินไปสำหรับคอ!ในที่สุด สนูปปี้ก็เริ่มเดินสองขาและเคลื่อนไหวราวกับเป็นคน มีความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ เริ่มแสดงบุคลิกที่ชัดเจนไปสู่คาแรคเตอร์ที่ซับซ้อนแต่เข้าถึงได้สนูปปี้เป็นสุนัข จึงไม่พูด แต่ใช้บอลลูนความคิดเพื่อแสดงสิ่งที่คิด ตัวละครคาแรคเตอร์อื่นไม่ได้ยินเขา แต่ดูเหมือนจะเข้าใจสนูปปี้สามารถแสดงความรู้สึกและอารมณ์หลากหลาย บางครั้งโกรธและแสดงสีหน้าน่ากลัว บางทีร้องไห้น้ำตานอง บางครั้งหัวเราะจนท้องแข็งมักปลอมตัวหลายแบบและวางตัวราวเป็นคน เช่น เดินเล่นไปรอบๆ วิทยาลัยในฐานะนักศึกษาคนหนึ่ง เขียนนิยายบนบ้านสุนัขของตัวเอง และกลายเป็นบีเกิ้ลตัวแรกที่ได้เหยียบดวงจันทร์ในฐานะนักบินอวกาศมีสุนัขตัวใดบ้างที่แสดงอารมณ์และมีอารมณ์ขัน(เจือการเสียดสี)ได้เท่าสนูปปี้ • สไตล์ภาพวาดลายเส้นแบบตะวันออกหรือไม่ด้วยลายเส้นที่เรียบง่าย สะอาด ไม่เหมือนศิลปินคนใดของสหรัฐฯ ช่วงเวลานั้น แต่เมื่อเทียบกับภาพวาดคลาสสิกของจีนและญี่ปุ่น เห็นความคล้ายคลึงหลายประการในการเล่าเรื่องลายเส้นการ์ตูนพีนัทส์เทียบกับภาพวาดหมีกจีน/ญี่ปุ่นไม่มีบันทึก ว่าชูลซ์เคยเดินทางมาเอเชีย แต่ภาพคอมิกส์ขาวดำของเขาที่ใช้แค่ปากกาและหมึกในการวาด กลับทำให้คิดถึงสไตล์ภาพวาดเอเชียดั้งเดิม เช่น ภาพวาดหมึกและภาพเขียนทิวทัศน์ ภาพวาดแบบลัทธิเซนบางครั้งเส้นหมึกหนาและหนักก็ถูกใช้เพื่อสื่ออารมณ์ตัวการ์ตูน เพราะการเล่าเรื่องที่เรียบง่ายนี้หรือไม่ที่ทำให้คนเอเชียคุ้นเคยกับพีนัทส์ • การเติบโตของ Peanutsนับตั้งแต่การ์ตูนพีนัทส์เริ่มต้นขึ้นในปี ค.ศ.1950 ตัวละครที่รู้จักกันในนาม “แก๊งพีนัทส์” ก็ได้ถือกำเนิดขึ้น และกลายเป็นที่รักของผู้คนมากมายทั่วโลกผู้คนผูกพันกับ ชาร์ลี บราวน์, สนูปปี้, ไลนัส, ลูซี่, ชโรเดอร์, แซลลี่, วูดสต็อค ฯลฯ และต้องการให้คาแรคเตอร์เหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันสนูปปี้ในรูปแบบของสะสมในช่วงปลายทศวรรษ 1950 นั่นเอง สินค้าที่มีตัวละครจากพีนัทส์ ปรากฏขึ้นเป็นครั้งแรก ทั้งตุ๊กตา เสื้อผ้า ของใช้ในบ้าน และผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทยอยออกวางจำหน่ายอย่างต่อเนื่องต่อมาในปี 1962 หนังสือภาพต้นฉบับเล่มแรก Happiness Is a Warm Puppy ได้รับการตีพิมพ์ และในปี 1965 ภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องแรกของพีนัทส์ ก็ได้ออกอากาศทางโทรทัศน์ ต่างก็ประสบความสำเร็จอย่างงดงามและได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วนอกจากนี้ ในปี 1969 สนูปปี้และชาร์ลี บราวน์ ยังได้รับเกียรติให้เป็น ชื่อรหัสของยานลงจอดดวงจันทร์ และยานบัญชาการของภารกิจอะพอลโล 10ทำให้พีนัทส์กลายเป็นส่วนหนึ่งของหน้าประวัติศาสตร์การสำรวจอวกาศและได้รับการจารึกไว้ในฐานะตัวละครการ์ตูนที่ได้ “เดินทางสู่อวกาศ” อย่างแท้จริงโรนัลด์ เรแกน, ชาร์ลส์ เอ็ม. ชูลซ์ และนักบินอวกาศจากภารกิจ Apollo 10 ในงานแถลงข่าวที่เมืองแซคราเมนโต รัฐแคลิฟอร์เนีย มิถุนายน ค.ศ.1969โดนัลด์ “ดีค” สเลย์ตัน ผู้อำนวยการด้านปฏิบัติการของลูกเรือ NASA และนักบินอวกาศชาร์ลส์ ดยุค พร้อมตุ๊กตาสนูปปี้และชาร์ลี บราวน์ วางเด่นอยู่ที่ศูนย์บัญชาการภารกิจในฮุสตัน รัฐเท็กซัส • 4 หัวข้อหลักในนิทรรศการนิทรรศการ “How Do You Do, Snoopy? 75 Years: A Journey of Friendship Through Art” ตามรอยการเดินทางที่แสนน่าทึ่งของ ‘สนูปปี้’ จากคาแรคเตอร์ในคอมิกส์สู่การเป็นไอคอนทางวัฒนธรรมระดับโลก มีเรื่องราวให้ค้นหาอีกมากมายครอบคลุม 4 หัวข้อหลัก คือ • ศิลปะในคอมิกส์ต้นฉบับ : พบกับลายเส้นต้นฉบับอันเป็นเอกลักษณ์ ย้อนเวลาการ์ตูนช่อง บุคลิกตัวละคร ประวัติชูลซ์ สนูปปี้ในรูปแบบของสะสมหาชมยาก มุมถ่ายภาพ • ความร่วมมือสร้างสรรค์งานศิลป์ : สัมผัสสนูปปี้ในมุมมองใหม่ผ่านความคิดของ 10 ศิลปินไทยร่วมสมัย ได้แก่ Mackcha, Tum Ulit, KENZ, Munins, Tuagomstudio, julibaker and summer, FAHFAHS, 2CHOEY, Yamada และ Poorboy • แฟชั่นดีไซน์ : จัดแสดงคอลเลคชั่น Snoopy and Belle in Fashion ชุดกูตูร์ออกแบบโดยแบรนด์แฟชั่นระดับตำนานของโลก อาทิ Pierre Balmain, Emanuel Ungaro, Balenciaga, Fendi, Philip Treacy, DKNY by Donna Karan, Anna Sui, Dries Van Noten, Swarovski และ Thierry Mugler รังสรรค์ผลงานสุดเอ็กซ์คลูซีฟให้กับ Snoopy และ Belle น้องสาวของเขา • ภารกิจอวกาศของ NASA : ค้นหาความผูกพันระหว่างสนูปปี้กับ NASA ที่เริ่มต้นขึ้นในยุค60 ยุคทองของการสำรวจอวกาศของอเมริกาFendi ออกแบบชุดกูตูร์ในคอลเลคชั่น Snoopy and Belle in FashionSnoopy and Belle in Fashion โดย Anna SuiPeanuts ไม่ใช่แค่คอมิกส์ แต่ยังเป็นงานศิลปะที่ก้าวข้ามขอบเขตทางวัฒนธรรม งานลายเส้นที่เด่นชัด รูปแบบเรียบง่ายและธีมปรัชญาที่แยบคายของ ชาร์ลส์ เอ็ม. ชูลซ์ เข้าถึงใจผู้อ่านทั่วโลกสินค้าที่ระลึกประจำนิทรรศการ How Do You Do, Snoopy? มีด้วยกันหลากหลายผ่านการคอลลาบอเรชั่นกับบริษัทต่างๆ อาทิ แบรนด์เครื่องประดับ RAVIPA นำคาแรคเตอร์สนูปปี้กับวูดสต็อคมาสร้างสรรค์เป็น แหวน กำไลข้อมือ สร้อยคอ ต่างหู พวงกุญแจผู้แทนแบรนด์ RAVIPA ระบุว่า เครื่องประดับในคอลเลคชั่น Peanuts ทำด้วยวัสดุเงินแท้ 925 ชุบทองคำขาว 18k เคลือบไมครอน 3 ชั้น ไม่ผสมนิกเกิล วัสดุอีกประเภทคือไนลอนเกาหลี นำมาถักให้เป็นสร้อยข้อมือแบบ มาคราเม่ (Macrame) ศิลปะการถักเชือกแบบโบราณของชาวอาหรับสำหรับชิ้นที่เป็นกำไลข้อมือมีการผสมงานพลอยธรรมชาติแท้ มีการลงสีอีนาเมลด้วยมือบนคาแรคเตอร์สนูปปี้และวูดสต็อคด้วยมือสร้อยข้อมือโดยแบรนด์ RAVIPAนิทรรศการ “How Do You Do, Snoopy? 75 Years: A Journey of Friendship Through Art” จัดแสดง ณ RCB Galleria 1–2 ชั้น 2 ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก วันที่ 6 ก.ย. - 7 ธ.ค. 2568 เวลา 10.00-20.00 น. บัตรราคา 450 บาท นักเรียน (แสดงบัตร) และผู้สูงวัยอายุ 60 ปีขึ้นไป 350 บาทไปทำความรู้จักสนูปปี้ในแบบที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน ไม่ช้าคุณจะพบว่าเขาเป็นมากกว่าสุนัขที่น่ารักแหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับกรุงเทพธุรกิจhttps://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/art-living/1200546
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ท่องเที่ยว
06/11/2025
เชื่อว่าหลายคนต้องเคยผ่านเหตุการณ์นี้ เมื่อเรารับประทาน อาหารบนเครื่องบิน แล้วจะรู้สึกได้ว่า รสชาติของอาหารจะมีความแตกต่างจากการกินบนพื้นดิน เนื่องจากปัจจัยหลายอย่างที่ส่งผลต่อประสาทรับรสและกลิ่นของเรา มาดูกันว่า ทำไมอาหารบนฟ้ามักจะไม่อร่อยเท่ากับที่เรากินบนดินทำไมอาหารบนเครื่องบิน ถึงมีรสชาติแตกต่าง?ความกดอากาศที่ลดลงบนเครื่องบิน ความกดอากาศภายในห้องโดยสารจะต่ำกว่าระดับน้ำทะเล ส่งผลให้การรับรู้รสชาติของลิ้นลดลง โดยเฉพาะรส หวาน และ เค็ม ที่มักจะจืดลงไปถึง 30%ความชื้นในอากาศต่ำอากาศในห้องโดยสารของเครื่องบินมีความชื้นเพียง 10-20% ซึ่งต่ำกว่าทะเลทรายซาฮาร่าเสียอีก! ความชื้นต่ำทำให้ เยื่อบุจมูกแห้ง ลดความสามารถในการรับกลิ่น ซึ่งมีผลต่อการรับรสอาหารโดยตรงเสียงรบกวนจากเครื่องยนต์งานวิจัยพบว่าเสียงรบกวนบนเครื่องบิน ซึ่งอาจดังถึง 85 เดซิเบล (พอ ๆ กับเสียงจราจรคับคั่ง) ส่งผลให้ลิ้นของเรารับรส อูมามิ (รสกลมกล่อม เช่น เนื้อ ซุป ซีอิ๊ว) ได้ดีขึ้น แต่กลับลดความสามารถในการรับรู้รสหวานและเค็มอุณหภูมิและการเก็บรักษาอาหารอาหารบนเครื่องบินต้องผ่านกระบวนการทำให้สุกและแช่แข็งก่อนนำมาอุ่นใหม่ การเก็บรักษาในอุณหภูมิต่ำอาจทำให้เนื้อสัมผัสเปลี่ยนไป และเมื่อนำมาอุ่นใหม่ อาจไม่อร่อยเหมือนเพิ่งทำสด ๆแล้วสายการบิน แก้ปัญหานี้อย่างไร? • ปรุงอาหารให้รสชาติเข้มข้นกว่าปกติ โดยใส่ เกลือและเครื่องเทศมากขึ้น • ใช้วัตถุดิบที่มี รสอูมามิสูง เช่น มะเขือเทศ ซอสถั่วเหลือง และเห็ด เพื่อช่วยเพิ่มความเข้มข้นของรสชาติ • พัฒนาเมนูให้เหมาะกับสภาวะการรับรสบนเครื่องบินเคล็ดลับทำให้อาหารบนเครื่องบินอร่อยขึ้น • ดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อลดอาการปากแห้งและเพิ่มความสามารถในการรับรส • หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์และกาแฟ เพราะทำให้ร่างกายขาดน้ำมากขึ้น • ลองเลือกเมนูที่มีรสชาติจัดจ้าน เช่น อาหารอินเดียหรือไทย ซึ่งมักจะยังคงความอร่อยแม้อยู่บนเครื่องบินครั้งหน้าที่ขึ้นเครื่อง ลองสังเกตดูว่ารสชาติอาหารของคุณเปลี่ยนไปอย่างไร!แหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับ sanookhttps://www.sanook.com/travel/1451887/
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ประกันชีวิต
05/11/2025
• การขยายความร่วมมือครั้งนี้จะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสององค์กรยาวนานเกือบสองทศวรรษ ถือเป็นหนึ่งในความร่วมมือกับสโมสรพรีเมียร์ลีกที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ • เอไอเอ จะกลายเป็นพันธมิตรด้านการฝึกซ้อมระดับโลกของสโมสรฟุตบอลท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ตั้งแต่กรกฎาคม 2570 เป็นต้นไปฮ่องกง, 4 พฤศจิกายน 2568 – กลุ่มบริษัทเอไอเอ (“บริษัท”) ประกาศขยายความร่วมมือกับสโมสรฟุตบอลท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ (“สเปอร์ส” หรือ “สโมสร”) โดยเอไอเอ จะกลายเป็นพันธมิตรด้านการฝึกซ้อมระดับโลกของสโมสร ตั้งแต่กรกฎาคม 2570 จนถึงมิถุนายน 2575โดยเอไอเอ จะเปลี่ยนบทบาทเป็นพันธมิตรด้านการฝึกซ้อมระดับโลกของสโมสรฟุตบอลท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ตั้งแต่กรกฎาคม 2570 เป็นต้นไป ซึ่งโลโก้ของเอไอเอ จะปรากฏอยู่บนชุดฝึกซ้อมของนักเตะสเปอร์สทุกคน รวมถึงชุดของทีมโค้ชด้วย นอกจากนี้ แบรนด์เอไอเอ จะยังคงปรากฏบนป้าย LED ภายในสนามท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ สเตเดียม และแคมเปญต่าง ๆ ของเอไอเอ จะครอบคลุมทั้งทีมนักเตะชายและหญิงของสโมสร สำหรับความร่วมมือในฐานะพันธมิตรด้านการฝึกซ้อมระดับโลกนี้ ถือเป็นการตอกย้ำพันธกิจร่วมกันของเอไอเอ และสโมสร ในการส่งเสริมด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้คนนับตั้งแต่เริ่มต้นความร่วมมือในปี 2556 เอไอเอ และสโมสร ได้ร่วมกันสร้างความสำเร็จครั้งสำคัญทั้งในและนอกสนามแข่งขัน ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา สโมสรมีการเติบโตอย่างโดดเด่นในระดับโลก รวมถึงการเปิดสนามแข่งขันแห่งใหม่ที่ทันสมัย พร้อมเดินหน้าสู่ความสำเร็จด้านกีฬาอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดสามารถคว้าแชมป์ยูฟ่า ยูโรปา ลีก ได้เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา และในช่วงเวลาเดียวกันนี้ แบรนด์เอไอเอ ได้ถูกปรากฏอยู่บนหน้าอกเสื้อแข่งขันของทีมท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ผู้คนทั่วโลกนับพันล้านต่างได้เห็นแบรนด์เอไอเอ ซึ่งเป็นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งในฐานะแบรนด์ประกันชีวิตชั้นนำในตลาดต่าง ๆ ทั่วโลกได้อย่างมั่นคงจนถึงปัจจุบัน มีเยาวชนมากกว่า 175,000 คนทั่วเอเชียเข้าร่วมฟุตบอลคลินิกของเอไอเอ ซึ่งได้รับความนิยมอย่างสูงและดำเนินการโดยทีมโค้ชจากสเปอร์ส ภายใต้ความร่วมมือที่ขยายออกไปนี้ เอไอเอ และสเปอร์สจะยังคงเดินหน้าสร้างการมีส่วนร่วมกับสาธารณชนในวงกว้าง ผ่านกิจกรรมด้านการฝึกซ้อม ด้านสุขภาพ และความเป็นอยู่ที่ดีในภูมิภาคเอเชีย ทั้งนี้ ในปี 2565 เอไอเอได้เปิดตัวพันธกิจ AIA One Billion (AOB) โดยมีเป้าหมายในการสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนกว่าพันล้านคนให้มีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ภายในปี 2573 จวบจนปัจจุบัน พันธกิจดังกล่าวสามารถเข้าถึงผู้คนได้มากกว่าครึ่งพันล้านคนแล้ว และความร่วมมืออย่างต่อเนื่องกับสเปอร์สจะมีบทบาทสำคัญในการบรรลุเป้าหมายของพันธกิจนี้นายสจ๊วต เอ สเปนเซอร์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด กลุ่มบริษัทเอไอเอ กล่าวว่า “เอไอเอ มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ขยายความร่วมมืออันแข็งแกร่งกับสโมสรฟุตบอลท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ไปจนถึงปี 2575 ความเปลี่ยนแปลงในรูปแบบความร่วมมือครั้งนี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นร่วมกันของเราต่อพลังของกีฬาที่จะสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้คน ส่งเสริมให้ผู้คนมีสุขภาพที่ดีขึ้น และพัฒนาตนเองได้อย่างต่อเนื่อง เอเชียเป็นภูมิภาคที่มีฐานแฟนบอลพรีเมียร์ลีกมากที่สุด และเมื่อเราก้าวเข้าสู่บทใหม่ของความร่วมมือ เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ต่อยอดจากความสำเร็จที่ผ่านมา พร้อมทั้งริเริ่มโครงการใหม่ ๆ ที่จะช่วยส่งเสริมให้ผู้คนทั่วเอเชียมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น“ความมุ่งมั่นของเอไอเอ ในการพัฒนาโครงการฝึกซ้อมที่มีมาตรฐานระดับแนวหน้า สะท้อนถึงหลักการเดียวกันกับที่สโมสรยึดถือ อันประกอบด้วยการทำงานเป็นทีม การพัฒนาตนเอง และมุ่งเน้นความเป็นเลิศ ซึ่งเอไอเอ ยังคงสร้างสถิติใหม่อย่างต่อเนื่อง ด้วยการครองอันดับหนึ่งของโลกในการเป็นบริษัทประกันชีวิตที่มีสมาชิกล้านเหรียญโต๊ะกลม (Million Dollar Round Table: MDRT) มากที่สุดติดต่อกันถึง 11 ปี ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการฝึกอบรมคือรากฐานแห่งความสำเร็จของพลังตัวแทนมืออาชีพของเรา ซึ่งมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาและหล่อหลอมบุคลากรที่มีคุณภาพที่สุดในอุตสาหกรรมนี้”นายไรอัน นอรีส์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายรายได้ สโมสรฟุตบอลท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลาอันยาวนานของความร่วมมือระหว่างท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ และเอไอเอ เราได้ร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์ ทั้งสองแบรนด์ต่างเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ พร้อมกับแบ่งปันช่วงเวลาอันน่าจดจำทั้งในและนอกสนามแข่งขัน รวมถึงเหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ ที่นับเป็นความสำเร็จในประวัติศาสตร์ของสโมสรเรา“ที่สำคัญ ความร่วมมือครั้งนี้สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่เป็นรูปธรรมและเชิงบวกในชีวิตของเยาวชนหลายพันคนทั่วเอเชีย โดยเราต้องการที่จะนำเสนอรูปแบบการฝึกสอนฟุตบอลที่เป็นเอกลักษณ์ของเราไปยังภูมิภาคที่มีความหลงใหลในกีฬาฟุตบอลอย่างมาก พร้อมส่งต่อความมุ่งมั่นที่ชัดเจนในการส่งเสริมให้ผู้คนมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น“เรารู้สึกตื่นเต้นอย่างยิ่งที่ได้ก้าวสู่บทใหม่ของความร่วมมืออันพิเศษนี้ ซึ่งจะทำให้สองแบรนด์ระดับโลกของเรายังคงเดินเคียงข้างกันต่อไปอีกหลายปีข้างหน้า”
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ประกันชีวิต
31/10/2025
ฮ่องกง, 31 ตุลาคม 2568 –กลุ่มบริษัทเอไอเอ (“บริษัท”) ประกาศผลประกอบการมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) เติบโตขึ้นร้อยละ 25 รายงานจากอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ (CER) สำหรับไตรมาสที่ 3 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2568อัตราการเติบโตรายงานตามอัตราแลกเปลี่ยนคงที่: • มูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) เติบโตร้อยละ 25 คิดเป็น 1,476 ล้านเหรียญสหรัฐ ทำสถิติสำหรับไตรมาสที่สาม • อัตรากำไรของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB Margin) ร้อยละ 58.2 เพิ่มขึ้น 5.7 จุด • มูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) เติบโตแบบเลขสองหลักในวงกว้าง ทั้งในฮ่องกง จีนแผ่นดินใหญ่ อาเซียน และอินเดีย • การเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) ผ่านช่องทางตัวแทนเพิ่มขึ้นร้อยละ 19 จากการสรรหาตัวแทนที่แข็งแกร่งมาก เพิ่มขึ้นร้อยละ 18นายหลี่ หยวน ซยอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัทเอไอเอ กล่าวว่า “เอไอเอ ยังคงดำเนินกลยุทธ์การเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ส่งผลให้ไตรมาสนี้ประสบความสำเร็จอย่างยอดเยี่ยมอีกครั้ง ขณะที่เราคว้าโอกาสอันดีในตลาดประกันชีวิตและสุขภาพทั่วเอเชีย ในไตรมาสที่สามของปี 2568 นี้ เราสามารถเพิ่มมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) ได้ถึงร้อยละ 25 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และมีการเติบโตแบบเลขสองหลักใน 11 ประเทศ“ช่องทางการขายของเรานับเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญ ครอบคลุมถึงทั้งช่องทางพรีเมียร์ เอเจนซี่ และช่องทางพันธมิตรซึ่งสามารถสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งมากในไตรมาสนี้ ผมมั่นใจว่าการลงทุนในธุรกิจใหม่ที่มีคุณภาพอย่างต่อเนื่องจะช่วยขยายพอร์ตธุรกิจที่มีอยู่ และผลักดันให้รายได้และการสร้างกระแสเงินสดเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว“และเรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับเซอร์ มาร์ค ทักเกอร์ กลับสู่เอไอเอในตำแหน่งประธานกรรมการอิสระตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 ด้วยประสบการณ์ด้านการนำเชิงกลยุทธ์ที่โดดเด่น ความเข้าใจลึกซึ้งในภูมิภาคเอเชีย และชื่อเสียงระดับโลกของเซอร์ มาร์ค ผมมั่นใจว่าเราจะสามารถต่อยอดจากรากฐานแห่งความสำเร็จที่นิยาม เอไอเอในวันนี้ และเดินหน้าสร้างคุณค่าอย่างยั่งยืนในระยะยาวให้กับผู้ถือหุ้นทุกคนของเราต่อไป”สรุปไตรมาสที่สามเอไอเอ สร้างการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) ได้ถึงร้อยละ 25 เป็นจำนวน 1,476 ล้านเหรียญสหรัฐใน ไตรมาสที่ 3 ของปี 2568 ด้วยตัวเลขการเติบโตสองหลักใน 11 จากทั้งหมด 18 ประเทศ จากช่องทางการขายหลักของเอไอเอ ธุรกิจ พรีเมียร์ เอเจนซี่ ของเราอยู่ในฐานะผู้นำอุตสาหกรรม โดยมีส่วนสร้างการเติบโตในมูลค่าธุรกิจใหม่ได้ถึงร้อยละ 19 คิดเป็นมากกว่าร้อยละ 70 ของมูลค่าธุรกิจใหม่จากทั้งกลุ่มบริษัท ซึ่งมาจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนตัวแทน การสรรหาตัวแทนใหม่ที่เติบโตขึ้นร้อยละ 18 ช่วยสนับสนุนให้จำนวนตัวแทนที่ปฏิบัติงานอยู่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน ช่องทางพันธมิตรได้มีการเติบโตอย่างรวดเร็วของมูลค่าธุรกิจใหม่ถึงร้อยละ 46 โดยได้รับแรงหนุนจากผลการดำเนินงานที่ยอดเยี่ยมของช่องทางที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ (IFA) และ โบรกเกอร์ในฮ่องกง รวมถึงช่องทางการขายผ่านธนาคารเอไอเอ ฮ่องกง มีการเติบโตระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาสนี้ ด้วยมูลค่าธุรกิจใหม่ร้อยละ 40 โดยมีการเติบโตที่โดดเด่นจากทั้งกลุ่มลูกค้าภายในประเทศและนักท่องเที่ยวจากจีนแผ่นดินใหญ่ รวมถึงช่องทางพรีเมียร์ เอเจนซี่ซึ่งเป็นช่องทางหลักในฮ่องกง มีการเติบโตขึ้นร้อยละ 20 จากจำนวนตัวแทนที่ปฏิบัติงานเพิ่มขึ้นแบบเลขสองหลัก และประสิทธิภาพการขายที่สูงขึ้น นอกจากนี้เรายังเห็นการเติบโตที่ยอดเยี่ยมของมูลค่าธุรกิจใหม่ของช่องทางการขายผ่านธนาคารพันธมิตร ขณะที่ช่องทางที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ (IFA) และช่องทางโบรกเกอร์เติบโตมากกว่าสองเท่าจากปีที่ผ่านมาเอไอเอ ประเทศจีน มีอัตราการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) ที่ยอดเยี่ยมถึงร้อยละ 27 ที่รายงานหลังจากผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสมมติฐานทางเศรษฐกิจ ทั้งความร่วมมือกับโปรแกรมพรีเมียร์ เอเจนซี่ ที่โดดเด่นและความร่วมมือกับธนาคารชั้นนำของเราต่างเติบโตอย่างแข็งแกร่งตลอดจนผลิตภัณฑ์ด้านความคุ้มครองที่เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 20 การกลับมาเติบโตอย่างแข็งแกร่งในไตรมาสที่สาม ทำให้ผลประกอบการเก้าเดือนของมูลค่าธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โปรแกรมพรีเมียร์ เอเจนซี่ ของเราเป็นรากฐานแห่งความสำเร็จของเราในจีนแผ่นดินใหญ่ ด้วยการผสมผสานตัวแทนมืออาชีพที่ผ่านการฝึกอบรมมาอย่างดีร่วมกับผลิตภัณฑ์ที่ทันสมัย ซึ่งตอบสนองความต้องการทางการเงินของกลุ่มลูกค้าชนชั้นกลางและลูกค้าที่มีสินทรัพย์สูง โปรแกรมพรีเมียร์ เอเจนซี่ ของเราเติบโตขึ้นร้อยละ 23 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยมีอัตรากำไรของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB margin) มากกว่าร้อยละ 60 การสรรหาตัวแทนใหม่เติบโตแข็งแกร่ง โดยจำนวนผู้สมัครใหม่เพิ่มขึ้นร้อยละ 17 ส่งผลให้จำนวนตัวแทนที่สร้างผลงานโดยรวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 9 การขยายตัวทางภูมิศาสตร์ของเรายังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมูลค่าธุรกิจใหม่จากพื้นที่ใหม่ที่เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2562 เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าเมื่อเทียบกับปีก่อน และคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 11 ของมูลค่าธุรกิจใหม่ของ เอไอเอ ประเทศจีนในประเทศไทย เรายังคงครองตำแหน่งผู้นำตลาดอย่างชัดเจนและมีอัตราการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) อยู่ที่ร้อยละ 20 ในไตรมาสที่สามของปี 2568 ความต้องการผลิตภัณฑ์คุ้มครองแบบดั้งเดิมและผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุน (ยูนิต ลิงค์) ของเราที่ยังคงแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้อัตรากำไรของมูลค่าธุรกิจใหม่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับที่รายงานในช่วงครึ่งปีแรกการมุ่งมั่นสรรหาตัวแทนที่มีคุณภาพของเราส่งผลให้จำนวนผู้สมัครตัวแทนใหม่และผู้นำหน่วยงานเพิ่มขึ้นเอไอเอ สิงคโปร์ ประสบความสำเร็จในการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) โดยได้รับแรงสนับสนุนจากทั้งช่องทางการขายผ่านตัวแทนและพันธมิตรของเรา ตัวแทนที่มีประสิทธิภาพสูงและมีความเป็นมืออาชีพของเรายังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งในด้านการสรรหาบุคลากรใหม่เพิ่มขึ้นร้อยละ 9 ผลการดำเนินงานที่ยอดเยี่ยมจากช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านพันธมิตรของเรานั้นเกิดจากการขายที่แข็งแกร่งของข้อเสนอด้านความมั่งคั่งของเราให้กับลูกค้าที่มีสินทรัพย์สูง และความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากลูกค้าต่างประเทศเอไอเอ มาเลเซีย กลับมามีอัตราการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) ในเชิงบวกอีกครั้งในไตรมาสที่สาม ของปี 2568 เนื่องจากการลดลงของจำนวนตัวแทนมีสัดส่วนน้อยลงเมื่อเทียบกับช่วงครึ่งแรกของปี โดยได้รับการสนับสนุนจากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของช่องทางการขายผ่านพันธมิตรที่ยังคงเติบโตในระดับสองหลักในช่องทางตัวแทน เราประสบความสำเร็จในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของตัวแทนและมูลค่าธุรกิจใหม่ยังคงเติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสที่สองของปี 2568 ช่องทางการขายผ่านธนาคารของเรามีการเติบโตในเชิงบวก ซึ่งเป็นผลมาจากความสำเร็จในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับลูกค้าที่มีสินทรัพย์สูงโดยรวม ตลาดอาเซียนมีการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) สูงขึ้นร้อยละ 15 โดยได้รับแรงสนับสนุนจาก การเติบโตสองหลักจากทั้งช่องทางตัวแทนและช่องทางพันธมิตรกลุ่มตลาดอื่นของเรามีมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) อยู่ในระดับเดียวกับปีที่แล้ว การเติบโตแบบเลขสองหลักจากเกาหลีใต้ เวียดนาม และอินเดีย ที่ช่วยชดเชยการลดลงในออสเตรเลียและไต้หวัน (จีน) สำหรับ Tata AIA Life ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนของเราในอินเดีย ยังคงสร้างการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ได้อย่างยอดเยี่ยมในทุกช่องทางการขาย และยังคงรักษาอันดับหนึ่งในอุตสาหกรรมด้านประกันชีวิตประเภทคุ้มครองรายย่อยในไตรมาสที่สามของปี 2568(13)โดยรวมแล้ว มูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) ของกลุ่มบริษัทเพิ่มขึ้นร้อยละ 25 เป็น 1,476 ล้านเหรียญสหรัฐ เบี้ยประกันภัยรับปีแรก (ANP) เพิ่มขึ้นร้อยละ 14 เป็น 2,550 ล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะที่อัตรากำไรของมูลค่าธุรกิจใหม่ เพิ่มขึ้น 5.7 จุด เป็นร้อยละ 58.2 จากการปรับสัดส่วนในส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ที่ดีเยี่ยม อัตรากำไรที่รายงานตามมูลค่าปัจจุบันของเบี้ยประกันภัยธุรกิจใหม่ (PVNBP) เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 10 เป็นร้อยละ 11 ในขณะที่เบี้ยประกันภัยรับรวม (TWPI) เพิ่มขึ้นร้อยละ 14 เป็น 11,910 ล้านเหรียญสหรัฐกำไรจากการให้บริการตามสัญญาของธุรกิจใหม่ (NB CSM) สำหรับไตรมาสที่สามของปี 2568 เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 25 ธุรกิจใหม่ที่มีกำไรอย่างต่อเนื่องช่วยเพิ่มเข้ามาเสริมรายได้ที่เกิดขึ้นประจำจากธุรกิจที่มีอยู่แล้ว ตอกย้ำความเชื่อมั่นของเราในการบรรลุเป้าหมายของกำไรจากการดำเนินงานหลังหักภาษี (OPAT) ต่อหุ้นที่ร้อยละ 9 ถึง11 ต่อปี ตั้งแต่ปี 2566 ถึง 2569ภาพรวมเอเชียเป็นภูมิภาคที่มีความน่าสนใจมากที่สุดในโลกสำหรับธุรกิจประกันชีวิตและสุขภาพ โดยมีปัจจัยสนับสนุนเชิงโครงสร้าง เช่น ความมั่งคั่งที่เพิ่มขึ้น ระดับการเข้าถึงประกันที่ยังต่ำ และความครอบคลุมของสวัสดิการสังคมที่จำกัด ซึ่งถือเป็นแรงขับเคลื่อนการเติบโตในระยะยาว แม้จะมีความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจมหภาคในระยะสั้นก็ตาม เอไอเออยู่ในตำแหน่งที่โดดเด่นในการคว้าโอกาสสำคัญเหล่านี้ ด้วยข้อได้เปรียบในการแข่งขันที่แข็งแกร่งและความหลากหลายของตลาดที่เราดำเนินงานผลงานที่ยอดเยี่ยมของเราแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของกลยุทธ์การเติบโต และความสามารถในการดำเนินงานอย่างมีวินัยเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ ผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่องรายงานพอร์ตโฟลิโอการลงทุนสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและมีความยืดหยุ่นของเอไอเอเป็นปัจจัยสำคัญที่สร้างความแตกต่างและข้อได้ เปรียบในการแข่งขันโดยมีพื้นฐานจากการบริหารพอร์ตที่มีอยู่และแนวทางการลงทุนที่สอดคล้องกับภาระผูกพันณ วันที่ 30 กันยายน 2568 อันดับความน่าเชื่อถือเฉลี่ยของพอร์ตตราสารหนี้ที่ถือเพื่อรองรับทั้งผู้ถือกรมธรรม์และ ผู้ถือหุ้นยังคงอยู่ในระดับ A เช่นเดียวกับเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2568 พอร์ตตราสารหนี้ภาคเอกชนมีการกระจายความเสี่ยงอย่างดี ครอบคลุมผู้ออกตราสารกว่า 1,700 ราย โดยมีมูลค่าการถือครองเฉลี่ยประมาณ 40 ล้านเหรียญสหรัฐต่อรายณ วันที่ 30 กันยายน 2568 สัดส่วนตราสารหนี้ที่มีอันดับต่ำกว่าระดับลงทุนหรือไม่มีการจัดอันดับอยู่ที่ 2% ของพอร์ตทั้งหมด คิดเป็นมูลค่าประมาณ 2.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งใกล้เคียงกับข้อมูลเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2568 ในไตรมาสที่สาม ของปี 2568 มีตราสารหนี้ถูกปรับลดอันดับลงต่ำกว่าระดับลงทุนประมาณ 8 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือน้อยกว่า 0.01% ของพอร์ตตราสารหนี้ทั้งหมดการตั้งผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) ของพอร์ตตราสารหนี้ลดลง 118 ล้านเหรียญสหรัฐใน ไตรมาสที่สามของปี 2568 โดยยอดตั้งสำรอง ECL อยู่ที่ 196 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 0.2% ของพอร์ตตราสารหนี้ ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 สะท้อนถึงพอร์ตการลงทุนของเอไอเอที่มีคุณภาพโดยรวมอยู่ในระดับที่สูงณ วันที่ 30 กันยายน 2568 การลงทุนของกลุ่มบริษัทในจีนแผ่นดินใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับผู้ถือกรมธรรม์และผู้ถือหุ้น ประกอบด้วยตราสารของหน่วยงานจัดหาเงินทุนของรัฐบาลท้องถิ่น (LGFVs) มูลค่า 1.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ รวมถึงตราสารหนี้และหุ้นในภาคอสังหาริมทรัพย์ (ไม่รวม LGFVs) มูลค่า 0.9 พันล้านเหรียญสหรัฐณ วันที่ 30 กันยายน 2568 พอร์ตการลงทุนของเอไอเอ ประเทศจีน ที่เกี่ยวข้องกับผู้ถือกรมธรรม์และผู้ถือหุ้นอื่น ๆ มีสัดส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ถึงร้อยละ 80 โดยในจำนวนนี้กว่าร้อยละ 90 เป็นพันธบัตรรัฐบาลและพันธบัตรหน่วยงานของรัฐ อันดับความน่าเชื่อถือเฉลี่ยในระดับสากลของพอร์ตตราสารหนี้ดังกล่าวยังคงอยู่ที่ระดับ A เช่นเดียวกับเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2568ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเอไอเอ รับเบี้ยประกันส่วนใหญ่ในสกุลเงินท้องถิ่น และมีการจับคู่สินทรัพย์และหนี้สินในแต่ละประเทศอย่างใกล้ชิด เพื่อลดผลกระทบทางเศรษฐกิจจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน อย่างไรก็ตาม เมื่อรายงานผลประกอบการรวมของกลุ่มบริษัท จะมีผลจากการแปลงค่าเงิน เนื่องจากรายงานเป็นดอลลาร์สหรัฐ ดังนั้นจึงให้ข้อมูลอัตราการเติบโตและคำอธิบายโดยอ้างอิง CER (COnstant Exchange Rates) เว้นแต่จะระบุเป็นอย่างอื่น เพื่อสะท้อนภาพรวมผลการดำเนินงานที่แท้จริงของธุรกิจได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
การวางแผนทางการเงิน
24/10/2025
เติมความรู้เรื่องเงิน อยากเป็นอิสระทางการเงิน และมั่งคั่งอย่างยั่งยืน ลงทุนอย่างไรให้พอดีและดีพอในเศรษฐกิจยุคใหม่ เกษียณแล้วไม่ลำบาก สามารถส่งต่อได้จากรุ่นสู่รุ่นผ่านการทำประกันชีวิตและการออมที่ให้ผลตอบแทนสูงและคงที่คุณภฤตยา สัจจศิลา กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาคเนย์ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ SE Life ขึ้นเวที SX Talk Stage ภายในงาน Sustainability Exp0 2025 หรือ SX2025 ในหัวข้อ Wealth Wisdom for Modern Economy แนะแนวทางการลงทุนอย่างไรให้พอดีและดีพอในเศรษฐกิจยุคใหม่คุณภฤตนา เผยว่า เมื่อพูดถึง Wealth หลายคนมักจะนึกถึงเรื่องเงิน แต่ในนิยามส่วนตัวคือ ความมั่งคั่งที่ยั่งยืนและส่งต่อให้กับผู้อื่นได้ โดยไม่ได้เป็นเรื่องของเงินเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องของคุณค่าและสิ่งที่เราสร้างขึ้นมา ซึ่งสามารถส่งต่ออย่างมีคุณค่าให้กับคนข้างหลังและสังคมได้4 ต้นทุนสำคัญ รากฐานแห่งความมั่งคั่งที่ยั่งยืนความมั่งคั่งในชีวิตเกิดจากปัจจัย 4 ประการ ที่เป็นรากฐานแห่งความมั่งคั่งที่ยั่งยืน ได้แก่ ทุนทางการเงิน (Financial) คือ สินทรัพย์ที่เป็นตัวเงิน เช่น เงินสด, การลงทุน, หุ้น ทุนด้านสุขภาพ (Health) คือการมีสุขภาพที่แข็งแรงทั้งกายและใจ ทุนด้านสังคม (Social) ครอบครัว เพื่อนพ้องที่อยู่อาศัย การเป็นพลังของกันและกัน การเกื้อกูลกัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน อาจจะทำให้เรามีความมั่งคั่งในชีวิตได้มากกว่ามีเงินเพียงอย่างเดียว และ ทุนด้านธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (Natural) การสร้างความมั่งคั่งและการเงินก็คือในเรื่องของธรรมชาติรอบตัว เราสร้างความมั่งคั่งสร้างเงินขึ้นมาเพื่อไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีที่สุด ในบ้านหลังที่ดีที่สุดและอบอุ่นที่สุด ในบรรยากาศการใช้ชีวิตที่มีคุณภาพและดีที่สุด ทั้ง 4 ทุนของความมั่งคั่ง เป็นทุนที่สำคัญมากในการที่เราจะสร้างสถานะแล้วก็สร้างความมั่นคงและมั่งคั่งทางการเงิน จะขาดสิ่งใดไปไม่ได้ต้องทำให้ครบทั้ง 4 ด้านทุกคนเข้าใจว่าสุขภาพนั้นสำคัญเพื่อสร้างความมั่งคั่ง มนุษย์ทุกคน ทุกเชื้อชาติ ทุกศาสนา ล้วนมีความกลัว กลัวเจ็บ กลัวจน กลัวจากไปก่อนวัยอันควร กลัวจะอยู่นานเกินไป เพราะว่าเราเข้าสู่ยุคที่มีอายุยืนยาวมากยิ่งขึ้น การแพทย์ที่พัฒนามากขึ้น ทำให้เราสามารถที่จะอยู่ยืนยาวมากกว่าเมื่อในอดีต ผู้หญิงนี้ 78-80 ปี ผู้ชายก็ประมาณ 70 ปี บางคนอยู่ถึง 100 ปี แล้วจะอยู่อย่างไรในวันที่เราไม่ทำงานแล้ว ไม่มีรายได้ ไม่มี passive income ที่ SE Life อาคเนย์ประกันชีวิต เราออกแบบผลิตภัณฑ์ที่เรียกว่า Beyond Protection 989 ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงแค่กรมธรรม์ประกันชีวิต แต่เป็นของขวัญที่ส่งต่อถึง 3 เจเนอเรชั่นBeyond Protection 989 มากกว่ากรมธรรม์ชีวิตBeyond Protection 989 ออกแบบมาให้สามารถคุ้มครองครอบคลุมทั้ง 3 เจเนอเรชั่น แล้วปิดความกลัวทั้ง 4 ด้านของมนุษย์ได้ในหนึ่งเดียว คุ้มค่ามากสำหรับการสร้างความมั่งคั่งที่ยั่งยืน ไม่ต้องเป็นภาระของใคร และสามารถส่งต่อคุณค่าให้กับรุ่นสู่รุ่นได้ด้วยGenX คือคนที่เป็นรุ่นพ่อรุ่นแม่ สามารถที่จะเริ่มสร้างความมั่งคั่งและความมั่นคงในชีวิตด้วย Passive Income ตั้งแต่วัยที่ยังทำงาน เมื่ออายุครบ 60 ปีก็สามารถมีรายได้หลังเกษียณ 15% ของทุน ทุนล้าน 1 ล้านบาท ก็จะได้ 150,000 ทุกปีGenY คนวัยทำงาน จะมีรายได้จากทุน 10% ตั้งแต่ปีแรกที่ออมเงินกับ Beyond Protection 989 ซึ่งคนที่อยู่ในช่วงวัยทำงานจะมีความเสี่ยงสูงเพราะชีวิตกำลังสนุกสนาน กำลังเอ็นจอยกับไลฟ์สไตล์ในมิติต่าง ๆ เราเพิ่มความคุ้มครองให้ถึง 1800% ในกรณีที่จากไปก่อนวัยอันสมควรด้วยอุบัติเหตุGenZ เด็กรุ่นใหม่ที่กำลังเติบโตทุกวันนี้เข้าถึงเรื่องของการสร้างความมั่งคั่งช้าไป เพราะอาจจะมองว่าชีวิตมันง่าย ไม่น่าจะมีอะไร แต่ในแง่มุมของธุรกิจประกันชีวิต การออมตั้งแต่เดือนแรกที่ได้รับเงินเดือนหลังเรียนจบเป็นสิ่งที่ดีที่สุดและคุ้มที่สุด สามารถที่จะสร้าง Peace of Mind ไปจนถึงอายุ 89 ปี เริ่มออมตั้งแต่อายุ 25 ไปจนถึงอายุ 60 ก็มีเงิน 10% เป็นเงิน Emergency Fund เล็กๆ สำหรับ GenZ หลังอายุ 60 ไม่ต้องกังวลว่าเราจะต้องพึ่งพาอาศัยใคร และยังมีอีก 15% ไว้ดูแลตัวเองจนเกษียณอายุอย่างไรก็ตาม ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง การลงทุนขึ้นอยู่กับความพอใจของแต่ละคน และความเสี่ยงก็ขึ้นอยู่กับความสามารถในการรับความเสี่ยงของแต่ละคน ทุกวันนี้มันมีทางในการช่องทางในการลงทุนมากมาย แต่ถ้าอยากจะลงทุนให้มีความมั่นคงและมั่นใจจริง ๆ ไม่เสียภาษี แล้วเงินนั้นได้รับการรับรองจากรัฐบาลก็คือการลงทุนแล้วก็การออมในรูปแบบของการประกันชีวิต ทั้งให้กับตัวเอง แล้วก็ให้กับคนที่อยู่ข้างหลัง ซึ่งเป็นเรื่องของความสะดวกใจและความพอใจของแต่ละคนการออมคือวินัย ทุก Gen ยึดกฎ "เก็บก่อนใช้"สำหรับเรื่องการออม การออมเป็นวินัยเล็กๆ น้อยๆ ขออนุญาตยกตัวอย่างตัวเองซึ่งเป็นคนที่ออมเงินตั้งแต่วัยเด็ก โดยออมเงินจากค่าขนมที่คุณพ่อคุณพ่อให้ เอาไว้ซื้อหนังสือที่เราอยากอ่าน เป็นคนชอบอ่านหนังสือมาก ได้เงินมาเท่าไหร่ก็จะเก็บส่วนหนึ่งเอาไว้สิ้นเดือนก็จะเอาไปซื้อหนังสือสักเล่ม 1 เพื่อมาอ่านนั่ นเป็นวินัยที่ฝึกตั้งแต่เล็กๆ พอเริ่มทำงานก็ออมให้ได้อย่างน้อยเดือนละ 10-15% ของเงินได้ ตอนที่อายุยังน้อยๆ ก็ออมแค่ 10% พออายุมากๆ ก็เปลี่ยนเป็น 20% ทุกเดือน ทำแบบนี้มา 20 กว่าปีแล้ว เราต้องใช้กฎ “เก็บก่อนใช้” ใส่เข้าไปเงินฝากประจำและเข้าไปในผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต กองทุนต่างๆ เพื่อการลดหย่อนภาษี ทำแบบนี้อย่างต่อเนื่อง เก็บก่อนใช้เป็นสิ่งที่ต้องทำและทำเป็นวินัยตั้งแต่วัยเยาว์คน GenXอย่าง GenX หากออมเงินผ่าน Beyond Protection 989 จะได้ผลตอบแทนเหมือนเป็นเงินเกษียณอายุปีละ 15% ถ้าทุน 1 ล้านก็คือจะได้ 1.5 แสนในทุกๆ ปี ตั้งแต่อายุ 60 ปีจนถึงอายุ 89 ปี และเมื่ออายุครบ 89 ปี เราจ่ายให้อีก 989% ใครที่เป็นเจนเอ็กซ์ในตอนนี้แล้วอยากจะเริ่มเก็บเงินยังไม่สายเกินไป เป็น Passive Income ที่เราสามารถสร้างได้ตั้งแต่วันนี้ อายุ 60 ก็สบาย และอย่าลืมประกันสุขภาพเอาไว้ด้วยอีกหนึ่งตัว เพราะมีเงินและสุขภาพไม่ดี เดี๋ยวต้องเอาเงินตรงนี้ไปรักษาสุขภาพหมด ต้องซื้อประกันสุขภาพอีกหนึ่งตัว แล้วประกันสุขภาพมีให้เลือกมากมายนะคะ สามารถซื้อหาได้จากตัวแทนที่เราคิดว่าเราไว้วางใจ และเรามั่นใจ แล้วก็รวมถึงตัวแทนของ เอสซีไลฟ์ อาคเนย์ประกันชีวิต ก็สามารถให้บริการในเรื่องของการประกันสุขภาพได้คน GenYส่วนคน GenY กรมธรรม์ Beyond Protection 989 ให้ผลตอบแทนปีละ 10% ตั้งแต่วันเข้าสู่โครงการ เป็นเงินเลี้ยงดูตัวเองในยามเกษียณอายุ เป็นสิ่งที่ต้องวางแผน GenY คือชีวิตกำลังเริ่มต้น กำลังสร้างเนื้อสร้างตัว สร้างครอบครัว สร้างบ้าน บ้านหลังแรก รถคันแรก ลูกคนแรก เป็นช่วงของการเริ่มต้นชีวิต เพราะฉะนั้นการใช้เงินก็จะเยอะ แต่ต้องเก็บก่อนใช้ ต้องไม่ประมาทในชีวิต ต้องรู้จักระมัดระวังและเก็บออมเพื่อเอาไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน เราเรียกว่า Emergency Fund บีซึ่งควรต้องเก็บอย่างน้อยอย่างน้อย 6 เดือนของรายได้ทั้งปี เอาไว้ใช้จ่ายในกรณีฉุกเฉิน ไม่มีงานทำ หรือว่าเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น บวกกับอีก 10% ของ Beyond Protection 989 ถ้าหากว่าคุณไม่ได้เป็นอะไร ชีวิตสวยสดงดงาม เงินก้อนนี้ก็สามารถใช้ชีวิตได้อีกระดับหนึ่ง อยากท่องเที่ยว อยากใช้อะไรก็ได้ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับ GenYนอกจากนี้ การออมเงินด้วยผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้คือดูแลคุ้มครองชีวิต เพราะเราเข้าใจความเสี่ยงของคนกลุ่มนี้ที่จะเกิดขึ้น ถ้าหากว่าจากไปด้วยโรคร้ายแรงหรือว่าการจากไปแบบปกติก็ 900% แต่ถ้าเป็นอุบัติเหตุก็จะได้รับ 1800% เพราะว่าเป็นช่วงของการสร้างเนื้อสร้างตัว มีภาระหนี้สิน มีครอบครัว มีคนที่เขาจะต้องดูแล ถ้าหากว่าวันหนึ่งที่เขาจากไปเท่ากับว่าช่องทางในการหาเงินที่มาหล่อเลี้ยงครอบครัวมันสิ้นสุดลง เพราะฉะนั้นการเพิ่มความคุ้มครองที่เกิดอุบัติเหตุแบบฉับพลันทันทีให้กับลูกและครอบครัวของเขา จึงเป็นทางเลือกที่ดีมากเลยสำหรับ GenY ถ้าคุณวางแผนไว้แล้วมันสามารถคุ้มครองจ่ายหนี้สินที่มีอยู่ แล้วก็สามารถส่งต่อลูกหรือคนข้างหลังของเราให้สามารถเรียนต่อหรือมีชีวิตต่อได้อย่างมั่นคงและก็ยั่งยืน นั่นคือคุณค่าที่แท้จริงของคำว่า Wealth สำหรับคน GenYคน GenZส่วนคน GenZ บางคนอาจจะเข้าใจว่าระยะเวลาการส่งประกันนั้นยาวนาน ต้องส่งเบี้ยไปตลอดชีวิตเลย คนซื้อไม่ได้ใช้ คนใช้ไม่ได้ซื้อ แต่กรมธรรม์ตัวนี้ส่งแค่ 9 ปี ทำงานหนักหน่อย เหนื่อยแค่ 9 ปี แล้วก็สามารถฝากชีวิต ความมั่นคง ความมั่นใจ ลดความกังวลและความกลัวไว้กับ Beyond Protection 989 แล้วใช้ชีวิตที่เหลือจนถึงอายุ 89 ปีอย่างสบายได้เลย เพราะได้ตั้งแต่ปีแรก เราจ่าย 10% จนถึงอายุ 60 พอหลังจากนั้นจนถึงอายุ 89 ปี จะได้ 15% GenZ คือได้ประโยชน์สูงสุดเลยการทำประกันชีวิตเนี่ย หรือการวางแผนการออม ยิ่งทำตอนอายุน้อยน้อยยิ่งกำไร ยิ่งทำตอนอายุน้อย เบี้ยยิ่งถูก ความคุ้มครองยิ่งสูง คนที่วางแผนเพื่อการเกษียณแล้วซื้อประกันชีวิตฉบับแรกกับเงินเดือนแรก คนนั้นจะมีโอกาสในการสร้างความมั่งคั่งได้สูงกว่าคนอื่นขออนุญาตยกตัวอย่าง CFO ของบริษัทเราชื่อ “คุณนพ” เขาเริ่มออมตั้งแต่วันแรกที่ทำงาน เขาเรียนจบคณิตศาสตร์ประกันภัย จึงรู้จักเรื่องของประกันชีวิตและประกันภัยเป็นอย่างดี ในวันที่สัมภาษณ์งานคุณนพบอกว่าผมจะมาทำงานให้จนถึงอายุ 45 ปี เขาบอกว่าจริงๆ แล้วเขาไม่ต้องทำงานแล้วก็ได้ แต่จะอยู่บ้านเฉยๆ 5 ปีก็รู้สึกน่าเบื่อ เลยกลับมาทำงาน แต่ขอทำงานแค่ 5 ปี เพราะมีอิสระทางการเงินแล้ว เริ่มออมตั้งแต่เงินเดือนแรกของชีวิต แล้ววันนี้สามารถมีชีวิตอยู่ไปได้จนถึงเกษียณ นี่เป็นการวางแผนของคนคนหนึ่งที่รู้ว่าวันข้างหน้าจะเจออะไร เป็นเรื่องราวของคนที่เข้าใจวิธีการสร้างกระแสเงินสดในอนาคต แล้วรู้ว่าตัวเองจะเกษียณเมื่ออายุเท่าไหร่ ก็เป็นหนึ่งในตัวอย่างคนที่รู้จักและมีวินัยในการออมและการใช้ประกันชีวิตเป็นเครื่องมือในการสร้างเงินออมหลังเกษียณต้นไม้ของชีวิต ต้นไม้ของความมั่งคั่งที่ยั่งยืนอยากให้ทุกคนคิดว่าความมั่งคั่งคือ ต้นไม้ของเรา เริ่มจาก Wisdom คือ ราก ความรู้และอุปนิสัยเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เราสั่งสมมาแล้วเราทำเป็นกิจวัตรประจำวัน เช่น เก็บก่อนใช้ ออมเงินทีละเล็กทีละน้อย ออกกำลังกาย ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง มันจะเป็นปัญญาญาณที่เราสามารถกำหนดรู้ได้ตั้งแต่วันแรกของชีวิต ถ้ารากมันแข็งแรง รากมันไม่เน่า ไม่ผุพัง มันก็จะหล่อเลี้ยงลำต้นให้แข็งแรงส่วนลำต้นเสมือน Wealth ก็คือความมั่งคั่ง ความมั่งคั่งนี้สร้างอย่างไร นอกจากมีทัศนคติ มีวิธีคิด และมีละเอียดอ่อนแล้วเข้าใจแล้ว จึงรู้จักออม รู้จักใช้ รู้จักหาเพื่อนดี ๆ รู้จักสร้างความมั่งคั่งผ่านการประกันชีวิต ผ่านการลงทุน ผ่านการออมและอื่น ๆ จนเราสามารถอยู่ได้อย่างมั่นคง ไม่ต้องพึ่งพาอาศัยคนอื่นเมื่อมีรากที่ดี มีลำต้นที่แข็งแรง ก็จะสามารถพาสารอาหารไปหล่อเลี้ยงใบไม้ แล้วก็ผลของต้นไม้นั้นได้ เราเรียกว่า Well-being เราสามารถเก็บเกี่ยวสิ่งที่เราสร้างมาได้อย่างมั่งคั่งและยั่งยืน ผลไม้หรือว่าผลผลิตที่เราได้มา เราสามารถส่งต่อให้กับคนอื่นได้ ไม่ใช่เพียงแค่เราเพียงผู้เดียวเท่านั้น นี่คือ Welath Wisdom อย่างแท้จริง ทุกอย่างเริ่มจากราก รากแข็งแรง ส่งถึงลำต้น ลำต้นที่แข็งแรง หล่อเลี้ยงกิ่งก้านใบและผลของต้นไม้นั้น อยากให้ทุกคนจำภาพนี้ง่าย ๆ แล้วให้เป็นภาพของต้นไม้ของชีวิตในการสร้างความมั่งคั่ง แล้วก็ความเป็นอยู่ที่ดีอย่างยั่งยืนแหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับ amarintvhttps://www.amarintv.com/spotlight/sustainability/526862
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ห้องแสดงนิทรรศการ
24/10/2025
• UNHCR ร่วมกับ MOCA Bangkok จัดนิทรรศการ "ศิลปกรรมเพื่อผู้ลี้ภัย ครั้งที่ 3" โดยรวบรวมผลงานจากศิลปินไทย 31 ท่าน • เป็นผลงานศิลปะที่สร้างสรรค์ขึ้นภายใต้แนวคิดหลักคือ "ความหวัง" (Hope) เพื่อส่งต่อกำลังใจและสร้างความตระหนักเกี่ยวกับสถานการณ์ผู้ลี้ภัย • มีเป้าหมายเพื่อระดมทุนจากการจำหน่ายผลงานศิลปะ สนับสนุนแคมเปญ Aiming Higher ของ UNHCR มอบเป็นทุนการศึกษาแก่เยาวชนผู้ลี้ภัย • นิทรรศการจัดแสดง ณ พิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัย (MOCA Bangkok) ให้เข้าชมโดยไม่มีค่าใช้จ่าย จนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2568แทมมี่ ชาร์ป ผู้แทนข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ประจำประเทศไทย กล่าวว่า ในระยะ 10 ปีที่ผ่านมา จำนวนผู้ลี้ภัยทั่วโลกยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องกว่า 123 ล้านคน ที่ถูกบังคับให้พลัดถิ่นเพราะความขัดแย้ง การประหัตประหาร ความรุนแรง และการละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยเฉพาะ ‘เด็กและเยาวชนผู้ลี้ภัย’ การศึกษา เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยสร้างความมั่นคง ความปลอดภัย ช่วยให้พวกเขาได้มีโอกาสเริ่มต้นชีวิตใหม่ และเปิดโอกาสให้มีส่วนร่วมอย่างมีความหมายต่อชุมชนของตนเองแทมมี่ ชาร์ป กล่าวเปิดงานสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR : Office of the United Nations High Commissioner for Refugees), พระเมธีวชิโรดม ผู้อุปถัมภ์ด้านสันติภาพและเมตตาธรรมของ UNHCR และ พิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัย (The Museum of Contemporary Art - MOCA Bangkok) จึงได้ร่วมกันจัด นิทรรศการศิลปกรรมเพื่อผู้ลี้ภัย ครั้งที่ 3 (The 3rd Art for Refugees) ภายใต้แนวคิด “ความหวัง ใช้ชีวิตให้ดี ทำโลกให้งาม”จัดแสดงผลงานศิลปะของ ศิลปินไทย จำนวน 31 ท่าน สร้างสรรค์ผลงานภายใต้คอนเซปต์ Hope พร้อมเปิดโอกาสให้คนรักงานศิลปะและนักสะสมมีโอกาสเป็นเจ้าของ โดยมีเป้าหมายในการระดมทุนสนับสนุน แคมเปญ Aiming Higher ของ UNHCR ที่จัดขึ้นทั่วโลกเพื่อมอบเป็นทุนการศึกษาให้เยาวชนผู้ลี้ภัยที่มีความรู้ความสามารถได้สานต่อความหวังและความฝันสำหรับการเรียนต่อในระดับอุดมศึกษาและฝึกทักษะวิชาชีพเฉพาะด้านบุญชัย เบญจรงคกุล ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MOCA Bangkok และ 21 ศิลปินจิตสาธารณะสุริยา นามวงษ์ ศิลปินไทยและภัณฑารักษ์ MOCA Bangkok ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับ นิทรรศการศิลปกรรมเพื่อผู้ลี้ภัย ครั้งที่ 3 ว่า เป็นโครงการศิลปะเพื่อสาธารณประโยชน์ที่เน้นให้ ‘ศิลปะ’ เป็นตัวนำ โดยคัดสรร ศิลปินที่มีความสามารถและมีจิตสาธารณะ มาร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานอย่างอิสระแม้ว่าศิลปินทั้ง 31 ท่านจะได้รับอิสระในการสร้างสรรค์ แต่ก็ใช้คำว่า Hope (ความหวัง) เป็นแกนกลางในการตีความผลงาน ซึ่ง ‘ความหวัง’ ที่แสดงออกมานั้นสามารถเป็นไปได้หลากหลาย ไม่จำกัดอยู่แค่เพียงประเด็นผู้ลี้ภัยเท่านั้นโครงการนี้แตกต่างจากกิจกรรมการกุศลทั่วไปตรงที่เน้นให้ผลงานมีคุณภาพสูง เพื่อให้ผู้คนมีโอกาสสะสมงานศิลปะดีๆ ทั้งยังตั้งใจให้กิจกรรมนี้เป็นไปเพื่อการทำบุญตามจุดมุ่งหมายหลักของการจัดงาน คือระดมทุนเพื่อกิจกรรมสาธารณประโยชน์“ผู้สนใจสามารถเป็นเจ้าของผลงานศิลปะได้ทุกชิ้น รายได้ส่วนหนึ่งนำไปช่วยเยาวชนผู้ลี้ภัยให้เขามีโอกาสเรียนในระดับอุดมศึกษา เราได้มีโอกาสไปเยี่ยมค่ายผู้ลี้ภัย ในขณะที่เราเดือดร้อนยังมีคนที่เดือดร้อนมากกว่า ขาดโอกาสทางการศึกษา อยู่บ้านเล็กๆ เบียดเสียดกัน ในฐานะที่เราเป็นเพื่อนมนุษย์ ทำอะไรได้ก็อยากจะทำ สมัยก่อนเรามองว่าสงครามอยู่ไกลตัว แต่จริงๆ สงครามอยู่ใกล้ตัวเรามากขึ้น” สุริยา กล่าวสุริยา นามวงษ์ กับผลงาน ‘หนุมานแห่งยุคโฮโลซีน’ในนิทรรศการนี้ ภัณฑารักษ์สุริยาร่วมสร้างสรรค์ผลงานศิลปะชื่อ หนุมานแห่งยุคโฮโลซีน (Hanuman: Spirit of the Holocene) ประติมากรรมบรอนซ์ ขนาด 90 x 65 x 90 เซนติเมตร“โฮโลซีนเป็นยุคทางธรณีวิทยาที่โลกมีอุณหภูมิสมดุลและคงที่ จึงเกิดสิ่งมีชีวิตต่างๆ เกิดวัฒนธรรมมนุษย์ แต่ตอนนี้โลกเดินทางมาถึงจุดที่อุณหภูมิโลกเริ่มแปรปรวน สิ่งแวดล้อมเริ่มแย่ลงผมก็เลยมองว่าอะไรที่จะสามารถทำให้โลกเยียวยาได้ เพราะทั้งหมดทั้งสิ้นเกิดจากมนุษย์ ผมนึกถึงวรรณกรรมเก่าเกี่ยวกับหนุมานซึ่งปกป้องพระรามแต่พระรามสำหรับผม หมายถึง ‘สมดุลของจักรวาล’ หนุมานเป็นทหารเอกมีอาวุธทรงพลังเพื่อปกป้องจักรวาล เหมือนกับเราทุกคนล้วนมีอาวุธมีพลัง นำพลังนั้นไปฆ่าคนไปทำสงครามก็ได้ ในทางตรงข้ามก็สามารถนำอาวุธไปช่วยคนก็ได้ เช่นช่วยคนน้ำท่วม เหมือนทหารที่นำยุทโธปกรณ์ออกไปช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยพิบัติ” ศิลปินและภัณฑารักษ์อธิบายผลงานคณชัย เบญจรงคกุล กับผลงาน Hope และ Fear จัดแสดงพร้อมจดหมายจากเยาวชนในค่ายผู้ลี้ภัยคณชัย เบญจรงคกุล ช่างภาพและผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัย ร่วมสร้างสรรค์ผลงานศิลปะในนิทรรศการชุดนี้จำนวน 2 ชิ้น คือ Hope (ความหวัง) และ Fear (ความกลัว) สื่อสารผ่านภาพถ่ายและจัดแสดงร่วมกับ ‘จดหมายจากเด็กในค่ายผู้ลี้ภัย’ ที่เขียนถึงความหวังในอนาคต“ผมขออนุญาตไปทางค่ายผู้ลี้ภัย อยากจะให้น้องๆ ในค่ายฯ เขียนจดหมายให้หน่อยว่าความหวังเขาคืออะไร และมีความหวังในอนาคตอะไรบ้าง บางคนอยากโตไปเป็นหมอ เป็นอาชีพอื่นๆ มีจดหมายหลายฉบับที่สะเทือนใจ แต่มีอยู่ฉบับหนึ่งที่ติดอยู่ในใจผม เขาเขียนเป็นภาษาอังกฤษ แปลได้ประมาณว่า‘คุณจะต้องมีความหวัง ถึงจะเขียนแล้วก็วาดมันออกมาได้ แต่เขาไม่มี(ความหวัง) ก็เลยไม่สามารถเขียนออกมาได้’ผมก็เลยเอาตรงนั้นมาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างงาน ก็คือภาพถ่ายชื่อ Hope กับ Fearภาพ Hope ผมใช้เศษแก้วที่แตกแล้วมาเรียงเป็นคำว่า Hope หมายถึงความหวังของเขาจริงๆ มันเปราะบางมาก พร้อมจะแตกทุกเมื่อ หรือจริงๆ มันสลายไปแล้วด้วยซ้ำ เราในฐานะเพื่อนมนุษย์ต้องช่วยประสานความหวังให้กับเขาหรือไม่ส่วนภาพ Fear ผมใช้ดอกเดซี่ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ ‘ความหวัง’ มาเรียงเป็นคำว่า Fear สะท้อนความกลัวที่มีอยู่ในตัวผู้ลี้ภัยทุกคน แต่การใช้ดอกเดซี่ที่มีความหมายและความสวยงาม ก็เพื่อแสดงความสวยงามจากเรื่องที่มันน่ากลัว มีความทับซ้อนกันอยู่ ระหว่างความหวังกับความกลัวครับ” คณชัย กล่าวแทน โฆษิตพิพัฒน์ กับผลงาน Homeland and The Journeyแทน โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินไทยผู้มีผลงานโดดเด่นด้านจิตรกรรมและศิลปะดิจิทัล ร่วมสร้างสรรค์ผลงานศิลปะภาพวาดชื่อ Homeland and The Journey จำนวน 2 ภาพ คือภาพภูเขาและภาพทะเล โดยใช้สีถ่านวาดบนบล็อคดิน ซึ่งเปรียบเสมือนการวาดภาพบนแผ่นดิน“ดินที่ผมนำมาอัดเป็นบล็อค ผมนำมาจากพื้นที่จริงที่มีปัญหาเรื่องการลี้ภัยเยอะมากๆ แต่ผมไม่อยากระบุว่าเป็นประเทศไหน เอาเป็นว่าอยู่ในโซนเอเชียนี่แหละ จริงๆ ไกลบ้านเรามาก แต่ปัญหานั้นอยู่ใกล้ประเทศเราผลงานนี้ผมไม่ได้พูดเรื่องการเมือง แต่เป็นเหมือนการบันทึกและอยากให้ระลึกถึงผลของการที่ผู้คนต้องหนีออกไปจากพื้นที่ของเขาเพื่อที่จะไปพื้นที่ใหม่ที่อาจจะปลอดภัย แต่ความจริงแล้วเขาถูกบังคับด้วยซ้ำให้เดินทางออกมาจากบ้านเขา” แทน กล่าวถึงภาพวาดรูปภูเขาซึ่งเป็นภาพสถานที่ที่เขานำดินมาทำบล็อค ซึ่งก็คือแผ่นดินที่ผู้ลี้ภัยถูกบังคับให้ออกมาจากพื้นที่ที่เขาอยู่มาเป็นร้อยปีสำหรับภาพวาดรูปทะเล เป็นการวาดลงบนบล็อคดินที่เป็นดินของประเทศไทย รูปนี้สื่อถึงการเดินทาง การติดต่อกับทั่วโลก"ภาพวาดภูเขาเปรียบเสมือน Homeland หรือ ‘บ้านเกิด’ ส่วนภาพวาดทะเลเปรียบเสมือน Journey หรือ ‘การเดินทาง’ แทนจึงตั้งชื่อผลงานทั้งสองชิ้นนี้ของเขาว่า Homeland and The Journeyผลงาน ‘สายสัมพันธ์แห่งมิตรภาพ 03’ โดย เญอรินดา แก้วสุวรรณ เญอรินดา แก้วสุวรรณ ศิลปินจิตรกรรมและศิลปะประดิษฐ์ที่มีผลงานโดดเด่นในด้านการใช้เทคนิคเย็บปักถักร้อย เพื่อสะท้อนประเด็นสิ่งแวดล้อมและความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติในนิทรรศการนี้ เญอรินดาสร้างสรรค์ผลงานชื่อ สายสัมพันธ์แห่งมิตรภาพ 03 ขนาด 130 x 180 เซนติเมตร โดยใช้เทคนิคเย็บปักถักร้อยจากจุดเล็กๆ สร้างเป็นผลงานชิ้นใหญ่ อิงจากแนวคิดการประสานจุดเล็กๆ หรือการร่วมมือกันของคนกลุ่มเล็กๆ จะทำให้โลกน่าอยู่มากขึ้น“งานชิ้นนี้พยายามสื่อสารเกี่ยวกับสิ่งเล็กๆ ที่มีชีวิตอยู่รอบโลก ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นมาพร้อมสายโยงเชื่อมความสัมพันธ์และมิตรภาพซึ่งกันและกัน เห็นคุณค่าความงามของกันและกัน ให้คุณค่ากับสิ่งรอบข้าง เพราะเราไม่ได้อยู่คนเดียวบนโลกแต่เราอยู่กับสิ่งมีชีวิตต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ ดอกไม้ ใบไม้ ล้วนแต่เป็นเพื่อนมนุษย์กับเรา เราควรพยายามเห็นคุณค่าของกันและกัน เห็นความสำคัญและเคารพซึ่งกันและกัน สร้างโลกให้น่าอยู่” เญอรินดา กล่าวผลงาน ‘สันติภาพ’ โดย เกียรติอนันต์ เอี่ยมจันทร์เกียรติอนันต์ เอี่ยมจันทร์ ศิลปินเจ้าของฉายา LINECENSOR มีชื่อเสียงด้านงานประติมากรรมและภาพพิมพ์ รวมทั้งเป็นผู้บุกเบิกศิลปะ NFT ในไทย ครั้งนี้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะชื่อ สันติภาพ (Peace, 2025) ภาพวาดสีอะคริลิคบนลินิน ขนาด 100 x 100 เซนติเมตรศิลปินให้สัมภาษณ์ว่า ‘สันติภาพ’ เป็นผลงานศิลปะชิ้นล่าสุดสร้างขึ้นในช่วงเวลาที่ประเทศไทยเผชิญหน้ากับปัญหาชายแดน และความรู้สึกรักชาติ“งานชิ้นนี้ผมพยายามบันทึกสังคมและอารมณ์ในปัจจุบัน รวมถึงประเด็นความคลุมเครือของข้อมูล ข่าวปลอมและประวัติศาสตร์”ในผลงาน ศิลปินใช้ ‘สัญลักษณ์’ มากมายแทนบุคคล เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจ และบริบทแวดล้อมต่างๆ เพื่อสะท้อนความซับซ้อนของชีวิตและการแสวงหาความจริงในขณะที่ต้องยืนหยัดอย่างมีสติ และหลีกเลี่ยงอคติทางอารมณ์ เช่น ความโกรธ ความเกลียดชังพร้อมเน้นย้ำถึงความสำคัญของการ ‘ทำความดี’ และ ‘ความบริสุทธิ์ใจ’ ในสังคมปัจจุบันที่เต็มไปด้วยผลประโยชน์ศ. เกียรติคุณ ปรีชา เถาทอง กับผลงานศิลปกรรมเพื่อผู้ลี้ภัย จำนวน 2 ชิ้นของท่านรักษา ชีวิต จิตวิญญาณ : อนันต์ยศ จันทร์นวลMy hope is a flowers : เอกชัย ลวดสูงเนินนิทรรศการ ศิลปกรรมเพื่อผู้ลี้ภัย ครั้งที่ 3 ยังมีผลงานศิลปะของศิลปินท่านอื่นอีก ดังนี้ พระเมธีวชิโรดม, ศ. เกียรติคุณ ปรีชา เถาทอง, ปัญญา วิจินธนสาร, กิตติศักดิ์ เทพเกาะ, จักรพงษ์ เทพเกาะ, จักรี คงแก้ว, ชัชวาล รอดคลองตันชัชวาลย์ วรรณโพธิ์, ชัยรัตน์ แสงทอง, ธงชัย ศรีสุขประเสริฐ, ธณกฤษภ์ ทิพย์วารี, ธนชัย อุชชิน, ธีร์พาทิศ บุญวิจิตรนิธิธร, นที อนันทะประดิษฐ์, ปรีชา ชัยสร, พลวัฒน์ สามิดีภาราดา วิรัสวีร์, ลำพู กันเสนาะ, วรสันต์ สุภาพ, วิษณุพงษ์ หนูนันท์, สุรสิทธิ์ เสาว์คง, สุวัฒน์ชัย ทับทิม, เสงี่ยม ยารังษี, อนันต์ยศ จันทร์นวล, เอกชัย ลวดสูงเนิน, โอม รัชเวทย์“ศิลปกรรมเพื่อผู้ลี้ภัย ครั้งที่ 3” เปิดให้เข้าชมตั้งแต่ วันนี้ถึง 31 ตุลาคม 2568 ณ ห้องนิทรรศการหมุนเวียน ชั้น G พิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัย โดยไม่มีค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัย (MOCA Bangkok) • เลขที่ 499 ถนนกำแพงเพชร 6, แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพฯ • เปิดบริการวันอังคารถึงวันอาทิตย์ (ปิดทุกวันจันทร์) เวลา 10.00-18.00 น. • โทร.0 2016 5666 • ประมาณ 90 เมตรจากรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง สถานีบางเขนแหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับกรุงเทพธุรกิจhttps://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/art-living/1202802
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ท่องเที่ยว
24/10/2025
แลนด์มาร์กสำคัญแห่ง สปป.ลาว ที่ใครมาเยือนนครหลวงเวียงจันทน์ก็ต้องแวะมาถ่ายภาพเช็กอิน ต้องยกให้ “ประตูชัย” อนุสรณ์สถานที่สร้างมาจากปูนของอเมริกาหวังจะนำไปสร้างสนามบิน“อนุสาวรีย์ประตูชัยแห่งนครเวียงจันทน์” ซึ่งคนนิยมเรียกสั้นๆว่า “ประตูชัย” หรือ ปะตูไซ (Patuxai) สร้างขึ้นในสมัยรัฐบาลราชอาณาจักร ที่มีพระเจ้าสีสะหว่างวงเป็นองค์พระประมุข เพื่อรำลึกถึงทหารลาว ที่เสียชีวิตในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และ ทหารลาวที่เสียชีวิตหลังจากนั้น ในช่วงปีแห่งการต่อสู้ให้ประเทศพ้นจากการเป็นอาณานิคมฝรั่งเศส เมื่อปี พ.ศ.2492ประตูแห่งนี้ก่อสร้างด้วยเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลสหรัฐอเมริกา โดยใช้ปูนซีเมนต์ ซึ่งความตั้งใจแรกเตรียมไว้เพื่อก่อสร้างสนามบิน ทำให้มีเรื่องเล่าเรียกกันขำๆ ว่า “รันเวย์แนวตั้ง” เพราะการก่อสร้างประตูชัยได้ใช้ปูนซิเมนต์ที่สหรัฐอเมริกาซื้อมาเพื่อนำมาสร้างสนามบินใหม่ในนครเวียงจันทน์ระหว่างสงครามอินโดจีน แต่ไม่ทันสร้างอเมริกาก็แพ้เวียดนามเสียก่อน จึงนำปูนเหล่านั้นมาสร้างประตูชัยแทนประวัติการก่อสร้าง มีการระบุชื่อ “นายทำ ไซยะสิดเสนา” สถาปนิกชาวลาวเป็นผู้ออกแบบ โดยชนะในการแข่งขันที่กรมโยธาจัดขึ้นในปี พ.ศ. 2500 ซึ่งการก่อสร้างอนุสาวรีย์เริ่มขึ้นในปีนั้น รวมมูลค่าก่อสร้างราว 63 ล้านกีบ"ประตูชัย" ที่ว่านี้ เป็นซุ้มประตูขนาดใหญ่ สร้างเสร็จเมื่อ พ.ศ.2512 เป็นอนุสรณ์สถานลักษณะสถาปัตยกรรมได้รับอิทธิพลของประตูชัยในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส แต่มีรายละเอียดที่แสดงถึงเอกลักษณ์ของศิลปะแบบล้านช้าง ไม่ว่าจะเป็นยอดปราสาทบนประตู ลวดลายปูนปั้น เทพพนม และภาพจิตรกรรมบนเพดาน เป็นต้น และบนประตูชัยยังเดินขึ้นไปได้ ความสูงเท่ากับตึก 7 ชั้น เป็นจุดชมวิวเมืองเวียงจันทน์มุมสูงได้แบบ 360 องศา ส่วนบริเวณรอบๆมีการจัดภูมิทัศน์เป็นสวนสวยงาม และมีแสดงน้ำพุประกอบดนตรีแหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับผู้จัดการออนไลน์https://mgronline.com/travel/detail/9680000099996
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ประกันสุขภาพ
24/10/2025
น้องวิน ภาสวิน นักวางแผนการเงินวัย 14 ปี จากไปอย่างสงบ หลังต่อสู้กับโรคมะเร็งและโรคหัวใจ กับเรื่องราวที่แรงบันดาลใจให้ผู้คนภาพจาก Instagram win_phassawinวันที่ 23 ตุลาคม 2568 เพจเฟซบุ๊ก Win Phassawin เพจของ น้องวิน ภาสวิน นักวางแผนการเงินอายุน้อย วัย 14 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคมะเร็งตั้งแต่ 3 ขวบ โพสต์แจ้งข่าวเศร้าเกี่ยวกับการจากไปของ น้องวิน ระบุว่า "นักสู้ตัวน้อยของแม่ ได้ออกเดินทางแล้วนะคะ เช้านี้ 5.18 รักสุดใจ"สำหรับน้องวิน เป็นที่รู้จักจากการเปิดใจผ่านรายการ มนุษย์ต่างวัย Talk เมื่อตอนอายุ 3 ขวบ ได้รับการตรวจพบว่าเป็นโรคมะเร็ง ต้องรับการคีโมจนหายดี จากนั้นเมื่อ 5 ขวบ ยังป่วยเป็นโรคหัวใจและมีภาวะปอดข้างเดียว ซึ่งการรักษาส่งผลต่อพัฒนาการทางร่างกาย แต่น้องยังคงมีเป้าหมายชีวิตคือการสนใจเรื่องของการวางแผนการเงินและการลงทุน ช่วงหนึ่งในรายการ น้องวินเผยว่า "ผมมีโรคตั้งแต่เด็ก เรามีระเบิดเวลาในตัว ที่ไม่เหมือนคนอื่น วันนี้เราไม่สามารถจะมองสุขภาพ เป็นต้นทุนได้แล้ว เราก็เลยมองเรื่องเวลาที่เราเริ่มเร็วกว่าเป็นต้นทุน"น้องวิน ตั้งใจเก็บเงินไว้ให้กับตัวเองในอนาคต แต่ก็มองในเรื่องของเงินเฟ้อที่จะทำให้มูลค่าของเงินลดลง ทำให้น้องสนใจนำเงินไปสะสมซื้อทองคำ โดยตั้งเป้าหมายเก็บเงินซื้อทองให้ได้ปีละ 1 บาท ค่อย ๆ หาเงินจากการนำของไปขายที่โรงเรียน และรับงานรีวิวผ่านช่องทางโซเชียล จนทำให้เมื่อไม่นานนี้ น้องวิน สามารถเก็บทองได้ถึง 2 บาท กับอีก 2 สลึงแล้วด้วยวัย 14 ปีภาพจาก Instagram win_phassawinอย่างไรก็ดี ด้วยสภาพร่างกายที่ต้องเจอกับอาการป่วย ทำให้หลาย ๆ คลิป น้องวิน ออกมาอัปเดตและเล่าเรื่องราวพูดคุยกับผู้ติดตามขณะที่ยังต้องรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล โดยช่วงต้นเดือนตุลาคม 2568 น้องวิน โพสต์แจ้งหยุดลงคลิปสักพักเพราะต้องเข้ารักษาตัว ก่อนจะลงภาพเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม ที่ผ่านมา เป็นบรรยากาศการอัดรายการหนึ่ง ซึ่งได้เป็นแขกรับเชิญร่วมพูดคุย และเตรียมจะออกอากาศในช่วงเดือนพฤศจิกายน นี้แต่ล่าสุด (23 ตุลาคม) ทางครอบครัวได้เผยข่าวเศร้าว่า น้องวิน ได้จากไปแล้วป๊อป ศิวาภัทรพ์ ไว้อาลัยเศร้าถึงการจากไปของ น้องวินภาพจาก Instagram win_phassawinป๊อป ศิวาภัทรพ์ นักเขียนและนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ ผู้ก่อตั้ง White Road Academy โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Pop Siwapat ระบุว่า ถึงน้องวินที่รัก พี่ป๊อบมาส่งในการเดินทางไกลนะครับ ตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน วินคือสัญลักษณ์ของความตั้งใจและความมุ่งมั่น วินมาคนแรก ๆ ของคลาสเรียน วินนั่งหน้าสุด จดทุกอย่างอย่างตั้งใจ พี่ป๊อบจำประโยคที่เราคุยกันได้เลยว่า ทำไมผมถึงร้องไห้วินถามพี่ป๊อบหลังจากทำเวิร์กชอป และพี่ป๊อบบอกว่า รู้สึกถึงมันไปนะ ยอมรับอารมณ์ตัวเอง แล้วเราจะได้ใช้ชีวิต หลังจากนั้นเราก็เจอกันทุกคลาสเรียน วินตั้งใจมากจนผู้ใหญ่ทุกคนชื่นชม วินคือผลลัพธ์ที่งดงามมาก ๆ ทั้งกับพี่ป๊อบและพี่แน๊ค Nack Siwakorn เวลาใครท้อใจหรือถอดใจ พวกเขาจะหันมามองวิน เพื่อเห็นว่าวินตั้งใจเรียนขนาดไหน หลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ถ้าเด็กตัวแค่นี้ยังตั้งใจเรียนขนาดนี้ ฉันแก่ขนาดนั้นยังถอดใจ ก็ไม่รู้จะว่ายังไงหลายครั้งที่พี่ป๊อบเองก็ถอดใจกับการใช้ชีวิต แม่ก็จะบอกพี่ป๊อบว่า ดูสิ ขนาดเด็กน้อยยังสู้เลย วินเป็นแรงบันดาลใจให้พี่ป๊อบกลับมาหลาย ๆ ครั้งนะครับ เราสองคนไม่ใช่แค่อาจารย์กับนักเรียน แต่เรารู้สึกถึงกันในความเป็นเพื่อนและพี่น้อง เป็นครอบครัวที่ห่วงใยกันเสมอ ตอนวินเข้าโรงพยาบาล พี่ป๊อบไปเยี่ยมตอนพี่ป๊อบเข้าโรงพยาบาล วินก็ส่งข้อความมาเยี่ยมมันกลายเป็นส่วนหนึ่งของกันและกันไปแล้วครับ วิน มันไม่เคยง่ายเลยที่จะต้องทำใจกับเรื่องนี้วันที่วินเสี่ยงจะไปหลายครั้ง พี่ป๊อบอยู่ตรงนั้น วินบอกว่าพี่ป๊อบคือครูที่ดีที่สุดในชีวิต พี่แน๊คก็ด้วย วินถามพี่ป๊อบว่า เมื่อไหร่ผมจะได้กลับไปใช้ชีวิต พี่ป๊อบก็ตอบอย่างล้ม ๆ แล้ง ๆ ว่า เมื่อร่างกายวินพร้อม วินจะได้ใช้ชีวิตเต็มที่เลย เพราะขนาดวินป่วย วินยังอัปคลิป ถ่ายทอดความรู้ให้กำลังใจผู้คนมากมายจิตใจและความคิดของวินคือมรดกของโลกเสมอมันเยียวยา มันเป็นต้นแบบ มันเป็นพลังใจภาพจาก Instagram win_phassawinหลายครั้งวินชอบบ่นว่าทำไม่เต็มที่ พี่ป๊อบบอกวินทั้งต่อหน้า และขอบอกอีกครั้งในนี้ว่าวิน เต็มที่มากแล้วจริง ๆ นะ มากจนบางทีพี่ป๊อบยังทำสู้วินไม่ได้เลย วินหาเงินใช้เองตั้งแต่เด็ก วินรู้วิธีเก็บออมเงิน ออมทอง วินมีความตั้งใจแรงกล้าที่จะแบ่งเบาภาระพ่อแม่ วินเต็มที่จนเกินคำว่าเต็มที่ไปแล้วนะครับวินคือสัญลักษณ์ของการ ทลายขีดจำกัดอย่างไร้ข้ออ้าง วิน อยู่เหนือต้นทุนชีวิตทางร่างกายไปมาก วินมีแต่ทำ ทำให้เต็มที่ ทำเสมอ เรียนรู้ไปจากร้อยวิวมาเป็นล้านวิว จากคนไม่รู้จักกลายเป็นคนที่ทั้งโลกได้รู้จักวินไม่ต้องติดค้างคาใจอะไรทั้งนั้น วินวางใจได้เลยครับเมื่อวาน วันสุดท้ายที่เราอยู่ด้วยกันวินยังเรียกหาพี่ป๊อบ เราได้ชื่นชมกัน บอกลากัน ยิ้มให้กัน สัมผัสกันวินยังฟังคลิปความรู้รอบตัวเกี่ยวกับโลกอยู่เลยวินบอกว่า อยากไปเที่ยวทุกประเทศเลยเสาร์นี้พวกเราทำได้แค่ยิ้มเอ็นดู และหดหู่ในใจ วินขอหมอกลับมาที่บ้าน เพราะวินรู้ตัวว่าอยากจะจากไปในอ้อมอกพ่อแม่และญาติ ๆภาพจาก Instagram win_phassawinท้ายที่สุดวินคงได้เห็นแล้วนะครับว่า ทุกคนรักวินมาก ๆ เลยนะครับมีญาติ ๆ เดินทางมาจากไกล ๆ เพื่อวินพี่ป๊อบ พี่แน๊ค ก็อยู่ด้วยเสมออยู่นานพอที่จะได้บอกลากันอย่างงดงามวินสอนให้พี่ป๊อบเห็นสัจธรรมของชีวิตว่าท้ายที่สุด ก็มีแต่เรากับร่างกายและเรากับครอบครัวใกล้ชิดไม่กี่คนเมื่อวานบ้านวินอบอุ่นมากนะครับแม้ว่าทุกคนจะเศร้าเสียใจแต่ทุกคนพร้อมจะอยู่กับวินอย่างถึงที่สุดจริง ๆแม่กับพ่อรักวินมากนะไม่ต้องห่วงนะ พี่ป๊อบเชื่อว่าพวกเขาอยู่ได้ วินเกิดมามีพ่อแม่ที่งดงามจริง ๆขอบคุณแม่โอ๊ตด้วยนะครับ ที่คอยรายงานข่าวและมีส่วนให้ผมได้เห็นความงดงามในชีวิตของวินจากนี้ขอให้วินได้เดินทางไปยังที่ที่วินฝันใฝ่นะครับทุกสิ่งที่วินบันทึกไว้ใน สมุดเบาใจพี่ป๊อบเชื่อเหลือเกินว่าพ่อแม่จะสานต่ออย่างดี วันหนึ่งถ้า ไวท์โรด ก่อตั้งเสร็จ จะมีห้องชื่อ ภาสวินเพื่อรำลึกถึงความมุ่งมั่น ความตั้งใจ ความกตัญญู และการใฝ่รู้ของวิน วินไม่ต้องห่วงว่าใครจะลืมวินไหมนะครับ แน่นอนว่าทุกคนย่อมมีเรื่องส่วนตัวให้ต้องคิดและจัดการแต่พี่ป๊อบเชื่อว่า ในหลาย ๆ แว่บ วินจะปรากฏในใจของพวกเขาทั้งคำพูด ความรู้ รอยยิ้ม ความน่ารัก และการสู้เพื่อใช้ชีวิตต่อไปพี่ป๊อบจะจดจำทุกอ้อมกอด ทุกขณะที่เราคุยกันทุกคลิปที่วินส่งมาให้ จะไม่มีวันลบมันไปเด็ดขาด กะว่าจะไม่ร้องไห้เมื่อเขียนโพสต์นี้ แต่ก็ร้องเดี๋ยวพี่ป๊อบจะไปหา ไปบอกเป็นครั้งสุดท้ายนะครับ วินวินคือผู้ชนะในใจของพ่อแม่ ครอบครัว พี่ป๊อบ พี่แน๊ค และเพื่อนร่วมโลกนะวินคือสัญลักษณ์ของการก้าวผ่านขีดจำกัดวินมหัศจรรย์เหลือเกินครับพี่ป๊อบเคยพูดต่อหน้าวินไปแล้ววันนี้ขออวดให้โลกรู้นะครับหลับให้สบายนะครับน้องชาย สักวันเราคงได้พบกันอีกครับแหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับกระปุก.คอมhttps://hilight.kapook.com/view/250046
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
23/06/2025
18/06/2024
29/05/2025
30/04/2024
29/04/2024