ข่าวทั่วไป
                    แนวคิดทางจิตวิญญาณยอดนิยม 
ที่ถูกนำมาประยุกต์ใช้แก้ปัญหาเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ 
ของผู้คนกันมากที่สุดในโลกยุคปัจจุบัน เห็นจะได้แก่ความเชื่อใน 
“กฎแรงดึงดูด” (law of attraction) 
ซึ่งใช้พลังในการคิดบวกดึงดูดโอกาสสร้างความมั่งคั่งร่ำรวยเข้ามาหาตนเอง
คนจำนวนไม่น้อยที่เชื่อถือศรัทธาในเนื้อหาของหนังสือ “เดอะ ซีเคร็ต” (The 
Secret) ซึ่งเขียนโดยรอนดา เบิร์น เมื่อปี 2006 
ต่างเชื่อมั่นว่าการคิดบวกโดยวาดฝันจินตนาการถึงอนาคตทางการเงินที่สดใส 
จะดึงดูดพลังบวกทั้งมวลในจักรวาลให้มาหนุนเสริมโอกาสสร้างฐานะเพื่อเป็นมหาเศรษฐีได้
 ซึ่งน่าสงสัยอย่างยิ่งว่า 
ในชีวิตจริงจะมีสักกี่คนที่ประสบความสำเร็จทางการเงินด้วยเทคนิคนี้ ?
เพื่อตอบคำถามข้างต้นและพิสูจน์ว่ากฎแรงดึงดูดใช้ได้ผลจริงหรือไม่ 
คณะนักจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ของออสเตรเลีย 
ได้ทำการศึกษากับชาวอเมริกัน 1,023 คน โดยให้ตอบแบบสอบถามทางออนไลน์ 
เพื่อวัดระดับความเชื่อถือศรัทธาต่อกฎแรงดึงดูดของคนเหล่านี้ 
ทั้งยังศึกษาวิเคราะห์พฤติกรรมของพวกเขาในการ “แมนิเฟสต์” (manifest) 
หรือการตั้งจิตแน่วแน่เพื่อแสดงเจตนารมณ์ของตนเองต่อจักรวาล 
ซึ่งมักจะทำกันโดยใช้วิธีนั่งสมาธิสร้างภาพในใจหรือเขียนบันทึกประจำวันด้วย

รายงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร 
“จดหมายข่าวบุคลิกภาพและจิตวิทยาสังคม” (Personality and Social Psychology
 Bulletin) เผยว่าบรรดาสาวกของลัทธิกฎแรงดึงดูด 
มักไม่ประสบความสำเร็จทางการเงินในชีวิตจริง โดยหลายคนถึงกับต้องล้มละลาย 
เนื่องจากชอบเข้าไปเกี่ยวข้องกับการลงทุนความเสี่ยงสูง
ทีมผู้วิจัยระบุว่า 
แม้คนเหล่านี้จะเชื่อมั่นสูงว่าตนเองกำลังประสบความสำเร็จทางการเงินอยู่ในปัจจุบัน
 และจะมีอนาคตทางการเงินที่ดีขึ้นไปอีกอย่างแน่นอนในวันข้างหน้า 
แต่ทว่าผลวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงินส่วนบุคคลกลับชี้ว่า 
ไม่พบหลักฐานเชิงประจักษ์ซึ่งพิสูจน์ยืนยันว่ามีความสำเร็จทางการเงินเพิ่มขึ้นเลย
 ซ้ำยังมีแนวโน้มของพฤติกรรมทางการเงินที่น่าเป็นห่วงอีกด้วย
“คนที่มีความศรัทธาในระดับสูงต่อการแมนิเฟสต์ 
มองว่าตนเองมีความมุ่งมั่นแน่วแน่ที่จะประสบความสำเร็จให้ได้ 
และจะบรรลุถึงความสำเร็จดังใจปรารถนาอย่างแน่นอนในอนาคต” ดร.ลูคัส ดิกสัน 
ผู้นำทีมวิจัยกล่าว 
“แต่ความตั้งใจเช่นนี้ทำให้พวกเขามีแนวโน้มจะเชื่อมั่นว่า 
ตนเองสามารถประสบความสำเร็จในระดับที่เหลือเชื่อได้ในเวลาอันรวดเร็ว 
ส่งผลให้ถูกหลอกล่อเข้าไปลงทุนในภาคการเงินที่มีความเสี่ยงสูง 
อย่างเช่นสกุลเงินดิจิทัลหรือคริปโตเคอร์เรนซีได้ง่าย”
“แม้อยู่ในภาวะทางการเงินที่ย่ำแย่ 
แต่คนเหล่านี้กลับศรัทธาในกฎแรงดึงดูดต่อไปอย่างไม่สั่นคลอน 
จนการมองโลกในแง่ดีซึ่งมีประโยชน์ในบางครั้ง 
กลับพรางตาทำให้คนกลุ่มนี้มองไม่เห็นความเป็นจริง 
โดยละทิ้งการคิดแบบใช้เหตุผลรวมทั้งสามัญสำนึกหรือคอมมอนเซนส์ไปพร้อมกัน 
ทำให้มีความเชื่อมั่นต่อการลงทุนความเสี่ยงสูงมากเกินไป” ดร.ดิกสัน 
กล่าวสรุป
ทีมผู้วิจัยยังบอกว่า สื่อสังคมออนไลน์หรือโซเชียลมีเดีย 
มีอิทธิพลอย่างยิ่งต่อการเผยแพร่แนวคิดเรื่องกฎแรงดึงดูดให้เป็นที่นิยมของคนหมู่มาก
 
โดยมีบรรดาอินฟลูเอนเซอร์พากันออกมาชี้ช่องรวยทางลัดด้วยเทคนิคนี้อย่างไม่ขาดสาย
 โดยสถิติของติ๊กต็อก (TikTok) เมื่อเดือน พ.ค. ของปีนี้ 
มีผู้เข้าชมคลิปวิดีโอเกี่ยวกับการแมนิเฟสต์แล้วถึง 34,600 ล้านครั้ง
แหล่งที่มาข่าวต้นฉบับBBC NEWSไทย
                                    29/04/2024
                                    30/04/2024
                                    29/04/2024
                                    16/01/2024
                                    30/04/2024