ข่าวการเงิน
                    บทความโดย “ศุทธวีร์ มงคลสินธุ์” 
นักวางแผนการเงิน CFP® สมาคมนักวางแผนการเงินไทย
วันที่ 6 พฤศจิกายน 2566 
การเกษียณอายุเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของชีวิต 
ซึ่งต้องมีการวางแผนและเตรียมการอย่างรอบคอบเพื่อให้แน่ใจว่า 
เมื่อเวลานั้นมาถึงเราจะได้มีความพร้อมอย่างรอบด้าน 
สำหรับการใช้ชีวิตในวัยเกษียณ 
สำหรับด้านการลงทุนเพื่อการเกษียณแล้วนอกจากจะมี “แผนการ” ที่ดีแล้ว
สิ่งที่ลืมไม่ได้เลยก็คือ “การลงมือปฏิบัติ” 
เพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามที่ต้องการ 
คำว่าบรรลุเป้าหมายสำหรับการลงทุนเพื่อการเกษียณนั้น 
อาจหมายถึงการมีเงินเพียงพอ ที่จะใช้เพื่อดำรงชีพไปตลอด 
จนถึงวันสุดท้ายของชีวิต ซึ่งการวางแผนการเกษียณ 
และการลงมือทำอย่างมีหลักการจะช่วยให้เรามีความพร้อมทางด้านการเงิน 
ซึ่งมีส่วนสำคัญจะส่งเสริมให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี
วันนี้ผมจะขอนำหลักการ 3 ป. 
ซึ่งเป็นหลักการบริหารที่สามารถใช้ได้ทั้งในระดับองค์กรและระดับบุคคล 
มาประยุกต์ใช้กับการวางแผนการเกษียณ ซึ่งหลัก 3 ป. นั้น ประกอบไปด้วย 
ป.ประสิทธิผล ป.ประสิทธิภาพ และ ป.ประหยัด 
ซึ่งหลักการเหล่านี้จะช่วยเสริมสร้าง ทำให้สามารถสร้างฝันวันเกษียณได้อย่าง
 มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน โดยมีรายละเอียดดังนี้
ป.ประสิทธิผล
ประสิทธิผล (Effectiveness) นั้นหมายถึง 
การบรรลุผลหรือเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ เมื่อมามองในด้านการวางแผนเกษียณแล้ว 
ประสิทธิผลเกี่ยวข้องกับการกำหนดทิศทาง เพื่อให้มั่นใจว่า 
เมื่อถึงวันเกษียณควรจะต้องมีรายได้หลังเกษียณ (Retirement Income) 
และแหล่งการลงทุนต่าง ๆ เพียงพอที่จะดำรงชีวิตในช่วงเกษียณอายุ
ขั้นตอนแรกสู่การบรรลุประสิทธิผล คือ การกำหนดเป้าหมายการเกษียณของตัวเอง 
โดยเป้าหมายจะเป็นทิศทาง (Direction) ให้เห็นแนวทางในการเริ่มต้นลงมือทำ 
และเริ่มจัดการกับอุปสรรคที่จะทำให้ความฝันวันเกษียณไม่ราบรื่น 
สำหรับเป้าหมายในด้านการเกษียณนั้น ผมจะขอแบ่งเป็นประเด็นสำคัญ 3 ประการ 
ที่จะทำให้เป้าหมายมีความชัดเจนมากขึ้น ดังนี้
ประเด็นแรก “เวลา” โดยคำถามสำคัญ คือ เราต้องการเกษียณในช่วงอายุใด 
และจะมีระยะเวลาหลังเกษียณอยู่อีกนานเท่าใด 
(อาจประมาณจากอายุเฉลี่ยของสมาชิกในครอบครัว) 
สำหรับความเสี่ยงจากประเด็นด้านเวลา คือ อายุยืนเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้ 
(Longevity Risk) ทำให้เงินที่เตรียมไว้อาจไม่เพียงพอ 
ดังนั้นในการวางแผนเกษียณควรจะเผื่อเวลาให้อายุยืนยาวออกไปหน่อย
ประเด็นที่สอง คือ “ค่าใช้จ่าย” คำถามประเด็นนี้ คือ 
ในช่วงเวลาหลังเกษียณเราจะใช้เงินทั้งหมดประมาณเท่าไร 
ซึ่งเป็นการประมาณค่าใช้จ่ายในช่วงวัยเกษียณควรจะต้องคำนึงถึง เงินเฟ้อ 
ภาระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่อาจคาดไม่ถึง เช่น ค่าซ่อมแซมบ้าน ดูแลรถยนต์ 
ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพต่าง ๆ
ประเด็นที่สาม “รายได้” แหล่งที่มาของรายได้หลังเกษียณของเรามีอะไรบ้าง 
ซึ่งอาจมีรายได้จาก เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ บำนาญจากประกันสังคม 
บำเหน็จบำนาญข้าราชการ เงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เงินจาก กบข. 
และเงินออมส่วนบุคคลต่างๆ เป็นต้น
สิ่งที่ต้องพิจารณา คือ 
จะบริหารเงินลงทุนเพื่อหาผลตอบแทนจากเงินเหล่านี้ได้อย่างไร 
และในกรณีที่ยังต้องการทำงานอยู่ อาจเลือกงานที่มีชั่วโมงทำงานลดน้อยลง 
เพื่อให้มรายได้จากการทำงานอย่างต่อเนื่อง 
สำหรับท่านใดที่ต้องการวางเป้าหมายการเงินอย่างครอบคลุม 
อาจพิจารณาปรึกษานักวางแผนการเงิน ร่วมกันกำหนดเป้าหมาย 
เพื่อเพิ่มโอกาสให้เป้าหมายได้มี ป.ประสิทธิผล
ป.ประสิทธิภาพ
ประสิทธิภาพ (Efficiency) 
หมายถึงการบรรลุผลตามที่ตั้งใจไว้โดยสิ้นเปลืองทรัพยากรน้อยและได้ผลกลับมามาก
 สำหรับด้านการวางแผนเกษียณ และการลงมือปฏิบัติให้มีประสิทธิภาพนั้น 
เกี่ยวข้องกับการลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการเกษียณอายุ 
และเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนให้มากขึ้น
วิธีหนึ่งในการบรรลุประสิทธิภาพ คือ การบริหารภาษีโดยใช้สิทธิ 
การลงทุนที่สามารถนำมาเป็นค่าลดหย่อนภาษีได้ 
ซึ่งจะทำให้การลงทุนเพื่อการเกษียณอายุมีประสิทธิภาพ เช่น 
หากเป็นข้าราชการให้พิจารณาเลือกใช้ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) 
สำหรับพนักงานเอกชน แนะนำให้พิจารณากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) 
เป็นลำดับต้น ๆ ซึ่งนอกจากจะลดหย่อนภาษีได้แล้ว 
การลงทุนเหล่านี้นับว่าเป็นการสร้างวินัยอัตโนมัติให้กับตัวเรา
หลังจากนั้นหากมีเงินเหลือ พิจารณาลงทุนใน กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ 
(RMF)โดยอาจปรึกษานักวางแผนทางการเงิน ในการเลือกแผนการลงทุน 
การเลือกใช้กลยุทธ์การลงทุนต่างๆ เช่น การจัดสรรสินทรัพย์ลงทุน (Asset 
Allocation) และการกระจายความเสี่ยง (Diversification) 
เพื่อลดความผันผวนและเพิ่มผลตอบแทนในระยะยาว
ป.ประหยัด
การประหยัด (Economy) หมายถึง 
การบรรลุผลตามที่ตั้งใจไว้โดยใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า มีความยับยั้งชั่งใน 
ใช้จ่ายอย่างเหมาะสมกับฐานะ และหากมองในด้านการเกษียณ 
การประหยัดนั้นเกี่ยวข้องกับการลดค่าใช้จ่ายทั้งด้านการใช้ชีวิต 
โดยอาจจะถามตัวเองก่อนใช้จ่ายว่า 
สิ่งที่เราจะซื้อนี้เป็นสิ่งจำเป็นหรืออยากได้ 
แล้วถึงค่อยตัดสินใจซื้อสิ่งนั้น และในการประหยัดค่าใช้จ่ายในด้านการลงทุน
ซึ่งหมายถึง การเลือกผลิตภัณฑ์การลงทุนที่มีต้นทุนไม่สูงนัก 
กองทุนรวมที่มีค่าธรรมเนียมต่ำ เช่น กองทุนรวมดัชนี (Index Fund) 
และในกรณีซื้อขายหลักทรัพย์ก็ควรต้องระวังค่าธรรมเนียมด้วยเช่นกัน
โดยสรุป หลักการทั้ง 3 ป. นั้น ได้แก่ ป. 
ประสิทธิผลเป็นหลักการที่มีนำหนักและสำคัญที่สุด 
เป็นเป้าหมายปลายทางที่ต้องเพียรพยายามเพื่อให้บรรลุผล 
นั่นคือการมีเงินเพียงพอที่จะใช้ดำรงชีวิตในยามเกษียณได้อย่างมีคุณภาพ
สำหรับ ป.ประสิทธิภาพ คือ กระบวนการระหว่างทางที่จะทำให้ไปถึงเป้าหมาย 
โดยหลัก ป.ประหยัดจะคอยเสริมสร้างความแข็งแกร่งแผนการเงินได้ในทุกช่วงวัย 
และเมื่อนำสามหลักการนี้มาประยุกต์ใช้ก็จะส่งเสริมให้ผู้ที่นำไปปฏิบัติประสบความสำเร็จในการเกษียณ
 เรียกได้ว่าจะเกษียณอย่างเกษมแน่นอน
แหล่งที่มาข่าวต้นฉบับประชาชาติธุรกิจออนไลน์
                                    08/10/2024
                                    30/04/2024
                                    30/04/2024
                                    30/04/2024
                                    25/06/2024