ห้องแสดงนิทรรศการ

นิทรรศน์รัตนโกสินทร์ 4 ห้องจัดแสดงใหม่ เทคนิคใหม่ พอเพียง ประหยัด เรียบง่าย


นิทรรศน์รัตนโกสินทร์ ปรับปรุงส่วนจัดแสดงและจัดสร้างห้องนิทรรศการใหม่ จำนวน 4 ห้อง ได้แก่ อุโมงค์เวลา ห้องลือระบิลพระราชพิธี ห้องดวงใจปวงประชา (รัชกาลที่ 8 - 9) และห้องนิทรรศการรัชกาลที่ 10 นำเสนอด้วยเทคนิคทันสมัย


สืบเนื่องจากการเสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติของ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยพระราชพิธีบรมราชาภิเษกมีขึ้นระหว่างวันที่ 4–6 พฤษภาคม พ.ศ.2562 ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญและมีความหมายที่สุดของปวงชนชาวไทย


นิทรรศน์รัตนโกสินทร์ ซึ่งเป็นศูนย์การเรียนรู้และแหล่งรวบรวมข้อมูลเรื่องประวัติศาสตร์ ประเพณี ศิลปวัฒนธรรม และสถาบันพระมหากษัตริย์ ตั้งแต่เริ่มสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ นำเสนอผ่านเทคโนโลยีทันสมัยหลากหลายรูปแบบ จึงร่วมเทิดพระเกียรติและบันทึกประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญดังกล่าว



ปัทมนิธิ เสนาณรงค์ อธิบายห้องนิทรรศการรัชกาลที่ 10


“โดยรวบรวมเนื้อหาพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่ของ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว จัดแสดงด้วยหลักการพอเพียง ประหยัด และเรียบง่ายตามพระราชจริยวัตร ผสมผสานกับเทคนิคการนำเสนอที่แปลกใหม่ จากพระมหากรุณาธิคุณที่พระราชทานพระราชดำริและพระราชกรณียกิจเพื่อปวงชนชาวไทยอย่างต่อเนื่องไม่มีที่สิ้นสุด” ปัทมนิธิ เสนาณรงค์ หัวหน้าฝ่ายบริหาร นิทรรศน์รัตนโกสินทร์ กล่าว


เพื่อการนี้ ‘นิทรรศน์รัตนโกสินทร์’ ดำเนินการจัดทำและเปิดส่วนจัดแสดงและห้องนิทรรศการใหม่ จำนวน 4 ห้อง ได้แก่


1. อุโมงค์เวลา



เริ่มทางเข้าอุโมงค์เวลา


ส่วนจัดแสดงจุดเริ่มต้นก่อนเข้าชมห้องจัดแสดงนิทรรศการ มีลักษณะเป็นโถงทางเดิน ผนังทั้งสองด้านของโถงทางเดินจัดแสดงภาพวาดและภาพถ่ายบอกเล่าประวัติศาสตร์ชาติไทยกับประวัติศาสตร์โลกในช่วงเวลาเดียวกันหรือใกล้เคียงกัน



อุโมงค์เวลา


เริ่มตั้งแต่เมื่อ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เสวยราชสมบัติเป็นปฐมบรมกษัตริย์แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ (รัชกาลที่ 1) โปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาพระนครขึ้นเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2325 จากนั้นจึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระบรมมหาราชวังขึ้นใหม่ สร้างวัดพระแก้ว และฟื้นฟูความเจริญทุกด้าน เพื่อสร้างความเป็นปึกแผ่นให้คืนมาดังเดิม


เป็นช่วงเวลาใกล้เคียงกับประเทศสหรัฐอเมริกาได้ประธานาธิบดีคนแรกชื่อ จอร์จ วอชิงตัน ผู้นำทางทหารที่เก่งกล้าสามารถจนประกาศเอกราชจากอังกฤษ และสถาปนาสหรัฐอเมริกาขึ้นเป็นประเทศหนึ่งในทวีปอเมริกาเมื่อปีพ.ศ.2326 หรือหนึ่งปีให้หลังจากการสร้างกรุงเทพฯ


มีเรื่องราวน่าสนใจในลักษณะดังกล่าวตามลำดับพุทธศักราช โดยมีส่วนที่เพิ่มเข้ามาคือการนำเสนอ พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 และเรื่องการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ด้วยเทคนิค Hollow Display จัดแสดง แบบจำลองรถตรวจโรคติดเชื้อชีวนิรภัย ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พระราชทานให้กระทรวงสาธารณสุข


2. ห้องลือระบิลพระราชพิธี



เทคนิค Slide Screen


จัดแสดงพระราชพิธีสำคัญและหาชมได้ยากตั้งแต่รัชกาลที่ 1 อาทิ พระราชพิธีบรมราชาภิเษกครั้งหลัง รัชกาลที่ 5 พ.ศ.2416, พระราชพิธีบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ 7 พ.ศ.2468, พระราชพิธีสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 150 ปี พ.ศ.2475


พร้อมเพิ่มเนื้อหาจัดแสดงพระราชพิธีเนื่องใน พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว อาทิ พระราชพิธีสมโภชเดือนและขึ้นพระอู่ พระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา


ความพิเศษของการจัดแสดงภายในห้องนี้คือการใช้ เทคนิค Slide Screen โดยเมื่อเคลื่อนจอซึ่งติดตั้งไว้หน้านิทรรศการภาพนิ่งไปยังจุดที่ได้กำหนดไว้ จะเกิดภาพถ่ายหรือคลิปวิดีโอจริงที่เกี่ยวข้องกับพระราชพิธีนั้นๆ ให้ได้รับชม ราวได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในพระราชพิธี


3. ห้องดวงใจปวงประชา



การจัดแสดงใน "ห้องดวงใจปวงประชา"


จัดแสดงพระราชประวัติของ รัชกาลที่ 8 และ รัชกาลที่ 9 แบ่งพื้นที่จัดแสดงออกเป็น 3 ส่วนย่อย คือ


(1) ต้นโพธิ์แห่งแผ่นดิน


จัดแสดงพระราชประวัติรัชกาลที่ 9 จำนวน 9 ช่วงเวลา ด้วยเทคนิค Soft touch Interactive ที่เมื่อผู้เข้าชมสัมผัสข้อความในนิทรรศการ จะปรากฏภาพเคลื่อนไหวเกี่ยวกับพระราชประวัติช่วงนั้นๆ



ห้องดวงใจปวงประชา วีดิทัศน์บนจอโค้ง


(2) ใต้พระบรมโพธิสมภาร


นำเสนอพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจ โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยจัดแสดงบนจอโค้ง ใช้ซอฟต์แวร์ Dataton Watchout ควบคุมการแสดงวิดีโอหลายจอ เพื่อสร้างจอแสดงผลขนาดใหญ่ที่ไร้รอยต่อ พร้อมแถวที่นั่งสำหรับชมราวอยู่ในโรงภาพยนตร์ขนาดเล็ก


เล่าเรื่องด้วยภาพพระบรมฉายาลักษณ์และวีดิทัศน์ประวัติราชสกุลมหิดล การอบรมเลี้ยงดูพระราชโอรสพระราชธิดาตั้งแต่วัยเยาว์ พระราชจริยวัตร ความรักความผูกพันสองพี่น้องระหว่าง รัชกาลที่ 8 และ รัชกาลที่ 9 พระราชดำริในการครองพระองค์ การประกอบพระราชกรณียกิจเพื่อพสกนิกร ฯลฯ พร้อมเสียงดนตรีบรรเลงและเสียงบรรยายประกอบในบางจังหวะ



ห้องดวงใจปวงประชา


ปกติจอในโรงภาพยนตร์ตั้งเผชิญหน้ากับผู้ชม แต่จอภาพใน “ห้องดวงใจปวงประชา” มีลักษณะโค้งเหมือนพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว มีภาพปรากฏทั้งด้านขวาและซ้ายมือของผู้ชม


โดยเฉพาะช่วงแสดงพระราชกรณียกิจนับร้อยนับพันโครงการ ภาพและวีดิทัศน์ที่ทยอยหลั่งไหลมาจากปลายสุดด้านข้างของจอโค้งด้านหนึ่งไปยังอีกด้านนั้นเหมือนจะหมุนไปรอบห้อง ผู้นั่งชมราวได้รับการโอบกอดจากพระหัตถ์และน้ำพระราชหฤทัยที่ทรงมีต่อพสกนิกรของพระองค์


(3) ธ สถิตในดวงใจนิรันดร์


จัดแสดงบันทึกพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ‘รัชกาลที่ 9’ โดยออกแบบผนังห้องนิทรรศการเป็นเส้นทางจากโรงพยาบาลศิริราชสู่พระบรมมหาราชวัง เพื่อการประกอบพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพฯ การถวายอาลัยและไว้ทุกข์เป็นเวลา 1 ปีตามคำประกาศของรัฐบาล จวบถึงพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ณ พระเมรุมาศ ท้องสนามหลวง ระหว่างวันที่ 25-29 ตุลาคม 2560



ส่วนจัดแสดงย่อยที่ (3) ธ สถิตในดวงใจนิรันดร์


เริ่มจากการเปิดวีดิทัศน์ย้อนเวลากลับไปในช่วงบ่ายของวันพฤหัสฯ ที่ 13 ตุลาคม 2559 เสียงและภาพ “โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย” รายงานประกาศสำนักพระราชวัง เรื่องพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามมินทราธิราช บรมนาถบพิตร สวรรคต


วีดิทัศน์ฉายต่อด้วยหมายกำหนดการการเคลื่อนพระบรมศพไปประดิษฐาน ณ พระบรมมหาราชวัง ของวันที่ 14 ตุลาคม 2559


ภาพบนผนังตลอดความยาวของส่วนจัดแสดงนี้ เขียนเป็นภาพลายเส้นพสกนิกรที่พากันออกมานั่งเฝ้าส่งเสด็จด้วยหัวใจที่แตกสลายตลอดสองฟากฝั่งถนนจากโรงพยาบาลศิริราชถึงพระบรมมหาราชวัง เขียนขึ้นจากภาพถ่ายจริงที่ได้รับการบันทึกไว้มากมาย



รวมข้อมูลขบวนพระบรมราชอิสริยยศฯ


บางช่วงบนผนังมีวีดิทัศน์สัมภาษณ์ความรู้สึกของประชาชนชาวไทยและชาวต่างประเทศซึ่งเดินทางไปถวายความอาลัย ณ พระบรมมหาราชวัง รวมทั้งจอวีดิทัศน์แสดงสาสน์จากผู้นำประเทศต่างๆ ที่มีต่อข่าวการเสด็จสวรรคตของรัชกาลที่ 9


บริเวณสุดท้ายของส่วนจัดแสดงนี้มีวีดิทัศน์แบบแตะสัมผัส บันทึก “ขบวนพระบรมราชอิสริยยศ” การถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ ให้ได้ศึกษา จำนวน 6 ริ้วขบวน



เรียนรู้เกี่ยวกับการออกแบบพระเมรุมาศ รัชกาลที่ 9


รวมทั้งวีดิทัศน์ให้เรียนรู้ ศาสตร์และศิลป์แห่งการออกแบบ “พระเมรุมาศ” ของในรัชกาลที่ 9 จำนวน 10 เรื่อง ผ่านกล่องไม้จำนวน 10 กล่อง แต่ละกล่องมีหัวเรื่องเขียนกำกับไว้


อาทิ การออกแบบพระเมรุมาศ ประติมากรรมเทวดา ประติมากรรมบันไดนาค ประติมากรรมพระพิฆเนศ ประติมากรรมพระเมรุมาศ ประติมากรรมคุณทองแดง ประติมากรรมคชสาร ภาพจิตรกรรมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ และฉากบังเพลิง


เมื่อนำกล่องไม้ที่มีหัวเรื่องที่ต้องการศึกษาไปวางยังจุดที่กำหนด ก็จะปรากฏเรื่องนั้นบนจอวีดิทัศน์ที่ติดตั้งอยู่บนผนัง


4. ห้องนิทรรศการรัชกาลที่ 10



การจัดแสดงในส่วน “สืบสาน” หน้าที่แห่งกษัตริย์ของชาติไทย


ถ่ายทอดเนื้อหา 3 ส่วน ตามพระปฐมบรมราชโองการที่ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงประกาศในวันบรมราชาภิเษก 4 พฤษภาคม 2562 คือ


(1) “สืบสาน” หน้าที่แห่งกษัตริย์ของชาติไทย


นำเสนอพระราชประวัติผ่านภาพวาด จำนวน 10 เหตุการณ์ อาทิ พระบรมราชสมภพ, ภาพสถาปนาพระราชอิสริยยศขึ้นเป็นสยามมกุฎราชกุมารเมื่อทรงเจริญพระชนมพรรษา 20 พรรษาบริบูรณ์ พ.ศ.2515, ภาพทรงผนวชเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2521 ณ วัดพระแก้ว



เทคโนโลยีจาก “ภาพวาด” สู่ “ภาพวีดิทัศน์”


ภาพวาดทั้ง 10 เหตุการณ์ วาดโดย ปุณณภพ บุญเกตุ ศิลปินจิตรกรรมซึ่งมีผลงานการวาดพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ในหลวงรัชกาลที่ 9 จัดแสดงในนิทรรศการสำคัญๆ หลายโอกาส


แต่มิใช่เป็นการเดินชมภาพวาดเท่านั้น ทว่าเป็นการนำเสนอในลักษณะจาก “ภาพวาด” สู่ “ภาพวีดิทัศน์” ผู้เข้าชมนิทรรศการฯ เพียงยกแท็บเล็ตที่ติดตั้งไว้ตามจุดต่างๆ หน้าผนังภาพวาด ส่องไปยังภาพวาดที่มี “สัญลักษณ์อาคารนิทรรศน์รัตนโกสินทร์” ประดับอยู่ใกล้ๆ


หน้าจอแท็บเล็ตก็จะปรากฏคลิปวีดิโอเหตุการณ์จริงที่เกี่ยวเนื่องกับภาพวาดนั้นๆ ให้ชมดนตรีที่เปิดประกอบในพื้นที่ส่วนจัดแสดงบริเวณนี้เป็นเพลงบรรเลงชื่อ ลาวคำหอม บทเพลงทรงโปรดในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว


(2) “รักษา” สุขแห่งประชาราษฎร์ให้คงอยู่


นำเสนอพระราชกรณียกิจด้านต่างๆ ในรูปแบบ Interactive Information และ Model Display ผู้ชมสามารถสัมผัสข้อความในนิทรรศการเพื่อชมคำอธิบายเพิ่มเติมได้


ประกอบด้วยพระราชกรณียกิจด้านการเกษตร ศาสนา การต่างประเทศ การศึกษา ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การแพทย์และการสาธารณสุข ด้านสังคม ศิลปะและวัฒนธรรม



เทคโนโลยี Immersive Theatre


(3) “ต่อยอด” แผ่นดินไทยให้ยั่งยืน


นำเสนอพระราชกรณียกิจผ่าน เทคโนโลยี Immersive Theatre โดยเปรียบ การทรงงานแบบปิดทองหลังพระ ของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นเสมือน ดวงดาวในม่านหมอก


ผู้ชมมีส่วนร่วมไปกับนิทรรศการได้โดยการใช้กล้องที่ออกแบบให้มีรูปทรงคล้ายตะเกียงส่องไฟของประภาคาร เมื่อส่องแสงไฟไปยังจอบนผนังห้องที่ออกแบบเหมือนท้องฟ้ายามค่ำที่มีหมอกบดบัง ก็จะปรากฏ ภาพการทรงงาน ของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวกระจ่างออกมาท่ามกลางเมฆหมอก


เรียนรู้การทรงงานแบบปิดทองหลังพระด้านต่างๆ ของพระองค์เพิ่มเติม ผ่านการหมุนกล้องกวาดแสงไฟไปยังท้องฟ้าส่วนอื่นๆ


ภาพ : โสภน สุเสน



ส่วนจัดแสดงใหม่ของนิทรรศน์รัตนโกสินทร์


นิทรรศน์รัตนโกสินทร์ : เปิดให้บริการวันอังคาร - วันอาทิตย์ ไม่เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ (ปิดวันจันทร์) ตั้งแต่เวลา 09.00 -17.00 น.


  •  เฉพาะวันเสาร์- อาทิตย์ เวลา 12.00 - 13.30 น. มีการแสดงด้านศิลปวัฒนธรรม นาฏศิลป์และดุริยางคศิลป์ โดยเด็กและเยาวชนจากสถาบันการศึกษาต่างๆ เข้าชมฟรี ณ เวทีการแสดงเพื่อเด็กและเยาวชน
  •  ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.nitasrattanakosin.com สอบถามเข้าชมนิทรรศการ โทร. 0 2621 0044 สอบถามเวทีการแสดงฯ โทร. 09 5476 5868


แหล่งที่มาข่าวต้นฉบับกรุงเทพธุรกิจ
https://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/art-living/1120229

คลังความรู้อื่นๆ

คลังสกัดซ้ำรอยประกันเจ๊งโควิด คุมออกโปรดักต์ใหม่-เพิ่มอำนาจ คปภ

09/05/2024

ครั้งแรกกับ BAB 2024 ใน พระที่นั่งศิวโมกขพิมาน จากปลาหลีฮื้อข้ามประตูมังกร สู่ไฟบรรลัยกัลป์

08/11/2024

6 ศิลปินส่งต่อแรงบันดาลใจและค้นหาความฝัน ผ่านนิทรรศการเล่าความฝันในวัยเด็ก “Dream a Little Dream”

05/09/2024

เปิดตัวนิทรรศการดนตรีสุดสร้างสรรค์ เมื่อ “One Bangkok Retail” ร่วมกับ “Cat Radio” จัดนิทรรศการ “SONIC VOYAGE A Journey of Rhythmic Flair” นำเสนอวิวัฒนาการของเสียงเพลง จากยุคอนาล็อกสู่ยุคดิจิทัล ที่จะพาทุกคนดื่มด่ำไปกับสีสันความสนุกของโลกดนตรี

26/11/2024

บลูพอร์ต เตรียมจัดงานใหญ่ รับเดือนแห่ง PRIDE ดึงดูดกลุ่ม LGBTQ+ เที่ยวหัวหิน

29/05/2024


X