คลังความรู้

Everyday knowledge for you

ข่าวการเงิน

แผนเกษียณฉบับฉุกเฉิน

05/09/2024

บทความโดย “มัณทิวา จันทร์แต่งผล”ที่ปรึกษาการเงิน AFPTTM สมาคมนักวางแผนการเงินไทยการวางแผนเพื่อการเกษียณอายุโดยทั่วไป เป็นการวางแผนที่มักจะต้องใช้เวลาจัดทำล่วงหน้าก่อนถึงวันเกษียณเป็นระยะเวลาค่อนข้างยาวนาน อย่างน้อย 10-20 ปี และติดตามผลอย่างสม่ำเสมอ หากเปรียบเทียบแผนเกษียณกับเกมกีฬา ก็คงเปรียบได้กับการวิ่งมาราธอน แต่บางครั้งการวิ่งมาราธอนก็อาจกลายเป็นการวิ่ง 400 เมตร ที่ต้องเร่งฝีเท้าเข้าเส้นชัยในโค้งสุดท้ายได้ ถ้ามีสถานการณ์ไม่ปกติบางอย่างเกิดขึ้นเมื่อสังเกตดูในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา หากวางแผนเกษียณอยู่อาจต้องการปรับแผนเกษียณให้เร็วขึ้น อาจเป็นการปรับโดยลดค่าใช้จ่ายด้านเบี้ยประกันภัยลง ลดเงินลงทุน หรือวางแผนประหยัดภาษีเนื่องจากมีเงินก้อนที่ได้มาด้วยการออกจากงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ส่วนหนึ่งมีสาเหตุมาจากการแพร่ระบาด COVID-19 ที่ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างไปทั่วโลก ทั้งในด้านการลงทุนและในภาคเศรษฐกิจ หลายบริษัทต้องปิดกิจการลง แม้ว่าบางบริษัทจะยังคงอยู่รอดแต่ก็ได้รับผลกระทบทางอ้อมกล่าวคือ COVID-19 เป็นตัวเร่งให้บริษัทหลายแห่งต้องปรับเปลี่ยนวิธีการทำงาน หรือแม้กระทั่งต้องสร้าง Business Model ใหม่ ๆ การใช้นวัตกรรมที่เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตทดแทนคน ทำให้ตำแหน่งงานบางอย่างมีความจำเป็นน้อยลง ส่งผลให้คนจำนวนมากว่างงานสำนักงานประกันสังคมได้รวบรวมข้อมูลจำนวนผู้ว่างงานของไทย ตั้งแต่ปี 2563 ถึงเดือนมิถุนายน 2566 โดยเดือนมิถุนายน 2566 มีผู้ว่างงานจำนวน 250,010 คน อัตราการว่างงานในระบบประกันสังคม อยู่ที่ร้อยละ 2.09 มีผู้ประกันตนที่ขอรับประโยชน์ ทดแทนกรณีว่างงานจากสาเหตุเลิกจ้างจากสำนักงานประกันสังคมจำนวน 35,020 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.18 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมาสถานการณ์การว่างงาน อาจเกิดขึ้นได้กับใครก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนฝูง สมาชิกในครอบครัว หรือแม้แต่ตัวเราเองก็อาจเป็นคนหนึ่งที่ถูกให้ออกจากงานอย่างกะทันหัน ดังนั้น จะทำอย่างไรหากต้องกลายเป็นผู้เกษียณโดยไม่ทันตั้งตัว ในขณะที่ยังมีความจำเป็นต้องหารายได้จากการทำงานเพื่อเลี้ยงชีพ อีกทั้งยังไม่เคยมีการวางแผนเกษียณไว้ก่อนล่วงหน้า บทความนี้จึงได้รวบรวมข้อแนะนำมาให้ลองนำไปพิจารณาดูว่าควรทำอย่างไร และจะทำอะไรได้บ้างเพื่อให้บรรลุแผนการเกษียณได้อย่างราบรื่นเริ่มต้นที่การตั้งสติ พยายามคิดว่าทุกปัญหามีทางออก แล้วตรวจสอบสถานะทางการเงินปัจจุบันว่ามีแหล่งเงินสดสำรองอยู่ที่ใดบ้าง และเพียงพอเป็นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันและรองรับภาระค่าใช้จ่ายคงที่ไปได้อีกนานเท่าใด เช่น กรณีผู้ออกจากงานเป็นลูกจ้างประจำบริษัทเอกชน มีรายได้จากเงินเดือนเพียงอย่างเดียว หากไม่ได้มีการออมเงินไว้เพื่อเป็นเงินสำรองฉุกเฉินขั้นต่ำที่ 6-12 เท่าของค่าใช้จ่ายต่อเดือน แหล่งเงินสำรองที่ควรนึกถึงเป็นอันดับแรกคือ1. ประกันสังคม ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม มาตรา 33 ที่ลูกจ้างจ่ายสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม เดือนละ 750 บาท (5% ของเงินเดือน ซึ่งปัจจุบันใช้ฐานเงินเดือนที่ 15,000 บาท) มีสิทธิได้รับเงินทดแทนการว่างงานในอัตราตามที่กำหนดในแต่ละกรณีดังนี้  1.1 กรณีถูกเลิกจ้างจะได้รับเงินทดแทนการว่างงานร้อยละ 50 ของค่าจ้าง ครั้งละไม่เกิน 180 วัน โดยคำนวณจากฐานเงินสมทบเฉลี่ยและฐานเงินสมทบสูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท (เป็นเงินไม่เกิน 7,500 บาท)1.2 กรณีลาออกหรือสิ้นสุดสัญญาจ้างจะได้รับเงินทดแทนการว่างงานร้อยละ 30 ของค่าจ้างเฉลี่ย ครั้งละไม่เกิน 90 วัน โดยคำนวณจากฐานเงินสมทบเฉลี่ยและฐานเงินสมทบสูงสุด 15,000 บาททั้งนี้ มีเงื่อนไขว่าผู้ประกันตนต้องจ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 เดือนภายในระยะเวลา 15 เดือนก่อนว่างงานจึงจะได้รับสิทธิดังกล่าว วิธีการในการขอรับเงินทดแทนจากประกันสังคม ท่านสามารถศึกษารายละเอียดได้จากเว็บไซต์ของสำนักงานประกันสังคม (2)2. เงินชดเชยกรณีให้ออกจากงาน ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน ฉบับที่ 7 พ.ศ. 25622.1 สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า (ค่าตกใจ) หากลูกจ้างถูกนายจ้างเลิกจ้างกรณีเลิกจ้างทั่วไป นายจ้างจะต้องแจ้งการเลิกจ้างล่วงหน้าเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างน้อย 30 วัน หากไม่แจ้งต้องจ่ายค่าบอกกล่าวล่วงหน้า 1 งวดของการจ่ายค่าจ้างถ้าได้จ่ายเป็นราย 30 วัน (หรือจ่ายเงินให้เท่ากับเงินเดือน 1 เดือน)2.2 เงินชดเชยที่นายจ้างจ่ายให้แก่ลูกจ้างเมื่อเลิกจ้าง นอกเหนือจากเงินประเภทอื่นซึ่งนายจ้างตกลงจ่ายให้แก่ลูกจ้าง โดยพิจารณาอัตราค่าชดเชยตามอายุงานของลูกจ้าง ซึ่งได้ทำงานครบ 120 วันเป็นอย่างน้อย ลูกจ้างมีสิทธิได้รับค่าชดเชย หากนายจ้างเลิกจ้างโดยลูกจ้างไม่มีความผิด ดังนี้ลำดับต่อมา ควรตรวจสอบหนี้สินและภาระผูกพันทางการเงินต่าง ๆ โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายคงที่ อาทิ เงินผ่อนชำระหนี้บ้าน รถ หรือทรัพย์สินต่าง ๆ ที่ต้องชำระในระยะเวลา 1 ปีข้างหน้า หากไม่เคยจดบันทึกค่าใช้จ่ายหรือทำสรุปรายรับ-รายจ่ายมาก่อน แนะนำให้ท่านทดลองทำ โดยแยกหมวดหมู่ของค่าใช้จ่ายคงที่และค่าใช้จ่ายผันแปรให้ชัดเจน เพื่อให้ง่ายต่อการบริหารจัดการหลังจากสำรวจเงินสำรองฉุกเฉิน ตรวจสอบภาระทางการเงินแล้วขั้นตอนต่อมาคือรวบรวมแหล่งรายได้หลังเกษียณ สำหรับกรณีลูกจ้างบริษัทเอกชน แหล่งรายได้เพื่อใช้ในยามเกษียณที่สำคัญ ได้แก่1. บำนาญชราภาพ/บำเหน็จชราภาพ ประกันสังคม – กรณีที่ได้จ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 180 เดือน และอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์แล้ว มีสิทธิได้รับบำนาญชราภาพตามอัตราที่กำหนด กล่าวคือ ส่งครบ 180 เดือน จะได้รับบำนาญร้อยละ 20 ของฐานเงินสมทบ 15,000 บาท หากส่งมากกว่า 180 เดือน จะได้รับเพิ่มอีกร้อยละ 1.5 ต่อปี– กรณีจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมเป็นเวลาไม่ถึง 180 เดือน แต่เกิน 12 เดือน มีสิทธิได้รับบำเหน็จ2. เงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (Provident Fund) หากได้เข้าเป็นสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่นายจ้างได้จัดตั้ง มีอายุงานไม่น้อยกว่า 5 ปี เป็นสมาชิกกองทุนไม่ต่ำกว่า 5 ปี และอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ เมื่อออกจากการเป็นสมาชิกกองทุนด้วยเหตุเกษียณจากงาน เงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพจะได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ แต่หากไม่ครบเงื่อนไข บางข้ออาจจะมีผลให้ไม่ได้รับยกเว้นภาษี ดังนั้นผู้ที่ถูกเลิกจ้างควรศึกษาเรื่องเงินกองทุน PVD ส่วนของนายจ้างที่จะได้รับ และศึกษาข้อบังคับกองทุนของแต่ละบริษัทเพิ่มเติมด้วย3. แหล่งเงินออมภาคสมัครใจอื่น ๆ อาทิ กองทุน RMF, SSF, กองทุน LTF ที่ใกล้ครบกำหนดขายคืน เงินฝากธนาคาร ประกันออมทรัพย์ ประกันแบบบำนาญ และสินทรัพย์ลงทุนอื่น ๆขั้นตอนสุดท้ายหลังจากรวบรวมข้อมูลเรียบร้อยแล้ว คือการคำนวณเงินกองทุนเกษียณที่ต้องการ เปรียบเทียบกับแหล่งเงินเพื่อการเกษียณที่มีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งจะทำให้ทราบว่าท่านสามารถบรรลุเป้าหมายการเกษียณได้หรือไม่ตัวอย่างคุณบี เพศหญิง อายุ 52 ปี ทำงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งมา 23 ปี ก่อนจะถูกเลิกจ้างมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเป็นสมาชิกกองทุนมา 5 ปี1. เนื่องจากคุณบีมีภาระเงินกู้ที่อยู่อาศัยคงค้างอยู่จำนวนไม่มาก เพื่อขจัดความกังวลเกี่ยวกับภาระหนี้ในระหว่างที่ยังว่างงาน และไม่มีรายได้ประจำ ให้นำเงินค่าชดเชยกรณีให้ออกจากงานไปปิดหนี้เงินกู้ที่อยู่อาศัย โดยใช้เงินชดเชยตามกฎหมายกรณีออกจากงาน หลังจากชำระหนี้เสร็จสิ้นจะเหลือเงินอีกก้อนหนึ่ง เพื่อนำไปใช้วางแผนเกษียณต่อได้ และสามารถตัดค่าใช้จ่ายคงที่จากค่าผ่อนชำระหนี้บ้านที่หมดภาระไป2. ขอรับเงินทดแทนกรณีว่างงาน จากประกันสังคม ซึ่งจะได้รับเงินทดแทนเดือนละ 7,500 บาท เป็นเวลาไม่เกิน 6 เดือน ตามรายละเอียดในข้อ 1.1.1) สำหรับวิธีการและขั้นตอนอ่านรายละเอียดได้จากเว็บไซต์ของสำนักงานประกันสังคม และในระหว่างที่รอหางานใหม่ ให้ใช้เงินทดแทนเป็นเงินหมุนเวียนใช้จ่าย นอกจากเงินทดแทนจากประกันสังคม คุณบีคาดว่าสามารถรับงานอิสระได้ ครอบคลุมค่าใช้จ่ายส่วนที่ขาดไป หากไม่เพียงพอส่วนที่ขาดสามารถถอนจากเงินส่วนที่เหลือจากก้อนแรกได้ไม่เกินเดือนละ 13,000 บาท  3. ให้คุณบีโอนเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพไปเข้า RMF for PVD จนถึงอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ เพื่อไม่ให้เงินส่วนนี้ต้องนำมาเสียภาษี และได้ลงทุนต่อเนื่องใน RMF for PVD ซึ่งมีนโยบายการลงทุนให้เลือกหลากหลายมากกว่า กองทุน PVD หรือคงเงินไว้ที่กองทุนเดิมจนครบกำหนดขายได้ จึงขายออกมาและนำเงินไปลงทุนต่อ4. สำหรับประกันสังคม คุณบีส่งเงินสมทบเข้ากองทุนมานานเกิน 180 เดือนแล้ว จึงมีสิทธิรับบำนาญชราภาพเมื่ออายุ 55 ปีบริบูรณ์ กรณีไม่สามารถหางานประจำใหม่ได้ ไม่ควรไปเปลี่ยนจากผู้ประกันตนมาตรา 33 เป็นมาตรา 39 เนื่องจากจะทำให้ฐานเงินเดือน 5 ปีสุดท้ายที่ใช้คำนวณบำนาญลดลง จึงควรหยุดส่งเงินสมทบและรอรับบำนาญเมื่ออายุ 55 ปีบริบูรณ์จากการคำนวณเงินกองทุนเกษียณที่ต้องมี เปรียบเทียบกับแหล่งเงินเพื่อเกษียณที่มีอยู่ พบว่าคุณบีไม่สามารถเกษียณได้ในขณะนี้ แนะนำว่าควรขยายเวลาเกษียณและทำงานต่อไปอีก 10 ปี และอาจขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากนักวางแผนการเงินเพื่อจัดทำการวางแผนออมเงินและลงทุนอย่างละเอียดจนบรรลุเป้าหมายการเกษียณได้ในที่สุดต่อไปแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับประชาชาติธุรกิจออนไลน์https://www.prachachat.net/finance/news-1577730

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ประกันชีวิต

สาวโอดซื้อประกันวงเงิน 10 ล้าน มาปีนี้ไม่ให้ต่อกรมธรรม์ อ้างป่วยบ่อยความเสี่ยงสูง

05/09/2024

สกลนคร - สาวสกลนครร้องสื่อถูกบริษัทประกันชีวิตแห่งหนึ่งแจ้งยกเลิก ทั้งที่ทำประกันสุขภาพเหมาจ่าย 10 ล้านต่อปี พอเข้าปีที่ 4 ส่งเบี้ยไปแล้ว 46,000 บาทกลับถูกบริษัทเทและโอนเบี้ยคืน อ้างผู้เอาประกันมีความเสี่ยงสูง เจ็บป่วยบ่อย จึงอยากขอความเป็นธรรมและให้สังคมรับทราบว่าใครที่ซื้อประกันก่อนกฎหมายใหม่ปี 2564 เตรียมถูกเทได้ทุกเมื่อน.ส.เจ (นามสมมติ) ชาว จ.สกลนคร อายุ 40 ปี เข้าร้องทุกข์ต่อผู้สื่อข่าวว่าถูกบริษัทประกันแห่งหนึ่งเท โดยแจ้งยกเลิกอ้างว่าผู้เอาประกันมีความเสี่ยงสูง ตนคิดว่าถูกเอาเปรียบ ไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงได้มาร้องเรียนเพื่อให้สังคมรับทราบ โดยเมื่อปี 2563 ตนได้ทำประกันชีวิตกับบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งได้ตรวจสอบแล้วมีความน่าเชื่อถือ ประเภทประกันสุขภาพ ก่อนทำแถลงประวัติการรักษาทั้งหมด และยื่นสเตทเมนต์ 6 เดือน ถึง 1 ปีน.ส.เจกล่าวต่อว่า ทั้งครอบครัวมี 5 คน พ่อแม่ ลูก 3 คน ก่อนนี้ไม่ได้สนใจจะซื้อประกัน แต่ไปโรงพยาบาลเอกชนบ่อย จนรู้จักพยาบาล พยาบาลแนะนำประกัน เลยซื้อช่วยไม่คิดว่าการมีประกันสุขภาพจะใช้ได้จริง หลายเดือนต่อมาลูกไม่สบาย ไปหาหมอที่โรงพยาบาลเอกชน ค่ารักษาทั้งหมด 6 หมื่น ประกันอนุมัติ จ่ายเพิ่มเองไม่กี่พัน หลังจากนั้นจึงเห็นคุณค่าของการมีประกัน ต่อมาจึงซื้อประกันให้ทั้งบ้าน หลายบริษัท แต่ละคนทำไม่เหมือนกันวันที่ 8 มิถุนายน 2563 ตอนนั้นร่างกายแข็งแรงดี จึงมั่นใจ เลือกที่จะทำประกันสุขภาพเหมาจ่าย 10 ล้านกับบริษัทประกันแห่งหนึ่ง พอปี 2564 ได้คลอดลูกคนที่ 3 ทำให้ภูมิของร่างกายตก บวกกับให้นมบุตรมาตลอด พอปี 2565 ติดโควิดทั้งบ้าน ไปแอดมิตที่โรงพยาบาล ค่ารักษาทั้งหมด 5 คนรวมกัน 8 แสนบาท บริษัทประกันก็จ่ายให้ (แต่ละคนใช้บริษัทประกันไม่เหมือนกัน) ปี 2566 เหตุที่เพิ่งคลอดลูก และให้นมบุตรจึงทำให้มีฮอร์โมนแปรปรวน เป็นรอบเดือนนานถึง 8 เดือน พอหายจากโควิด ก็เป็นลองโควิด ทำให้ทั้งบ้านป่วยบ่อย บวกกับโรงเรียนเปิดเรียนปกติหลังโควิด บุตรคนที่ 1 ไปโรงเรียน กลับมาติดไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์หนึ่งมา คนเป็นแม่และคนในบ้านก็ติดด้วยทั้งๆ ที่ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ประจำปีแล้วและเด็กทุกคนในบ้านฉีดวัคซีนหลักและวัคซีนเสริมทุกตัว พอหายได้ไม่กี่เดือน ลูกคนที่ 2 ไปโรงเรียนก็ติดไข้หวัดคนละสายพันธุ์แล้วก็ยังมาติดทั้งบ้าน จึงทำให้เข้าออกโรงพยาบาลบ่อยมากและเข้าแต่ละครั้งจะแอดมิต 2-3 คนปี 2567 เนื่องจากเป็นหวัดบ่อยทำให้เป็นไซนัส จึงจะทำการผ่าตัดไซนัสและจมูกคด แต่พอเลิกให้นมบุตร คุณหมอเปลี่ยนยาที่แรงขึ้น จึงเปลี่ยนวิธีเป็นการจี้จมูกลดบวมแทน ขณะรอห้องพักฟื้น ร่างกายเกิดชาครึ่งซีก อ่อนแรง มีอาการเหมือนคนสโตรก โชคดีที่อยู่โรงพยาบาลเอกชนชั้นนำถึงได้เข้ารับการรักษาได้ทันที สุดท้ายได้แอดมิต ประกันก็จ่ายค่ารักษาให้ทั้งหมด 180,000 บาท จึงภูมิใจมากที่คิดถูก เลือกถูกบริษัทที่มั่นคงทางการเงินและการทำงานอย่างมีความเที่ยงตรง บอกญาติพี่น้องให้ซื้อตามหลายคนแต่แล้วเมื่อเดือน มิ.ย. 2567 ครบอายุกรมธรรม์ บริษัทไม่ให้ต่ออายุกรมธรรม์ ทั้งๆ ได้โอนเงินค่าเบี้ยประจำปีไปแล้ว 46,000 บาท แต่แล้วบริษัทก็โอนคืน แล้วอ้างสาเหตุว่า 1. ลูกค้ามีความเสี่ยงภัยสูง เคลมเยอะ หากลูกค้าคนไหนนอนโรงพยาบาลมากกว่า 3 ครั้งต่อปี บริษัทนับว่ามีความเสี่ยงภัยสูง บริษัทประกันไม่สามารถรับความเสี่ยงภัยนี้ได้ 2. ในวัย 35-40 ปี ไม่ควรป่วยกว่าคนทั่วไปในวัยเดียวกัน 3. มีครั้งหนึ่งไปนอนโรงพยาบาลด้วยอาการปวดศีรษะ บริษัทมองว่าไม่มีความจำเป็น แต่ความเป็นจริงคือ ปวดศีรษะรุนแรง ตาลืมไม่ขึ้น ปากพูดไม่ได้ และบริษัทก็อนุมัติเคลมค่ารักษาตั้งแต่วันนั้นแล้วสุดท้ายบริษัทบอกว่า บริษัทสามารถยกเลิกได้ ต่อให้เราก่อนทำแถลงประวัติทั้งหมด ไม่เคยปกปิด และมีความจำเป็นต้องนอนโรงพยาบาล เพราะมีคำว่า “แต่ ขึ้นกับการพิจารณาของบริษัท”คุณเจโอดครวญด้วยว่า ทำไมในเมื่อเราบริสุทธิ์ใจก่อนทำ เลือกบริษัทประกันชีวิตแล้วด้วย ก่อนทำแข็งแรงดี พอเราป่วยเยอะแล้วจึงมายกเลิก อ้างว่ามีความเสี่ยงสูง ทั้งๆ ที่บริษัทบอกขายความเสี่ยงในอนาคต ให้เอาความเสี่ยงมาให้บริษัท ปีที่แล้วทั้งบ้านป่วยเยอะ เคลมคนละหลายแสน บริษัทที่ลูกๆ ทำเป็นบริษัทประกันภัย ปีนี้ก็สามารถต่ออายุกรมธรรม์ได้ปกติ เว้นตัวเอง ที่ใช้อีกบริษัทที่เป็นประกันชีวิตวงเงิน 10 ล้าน แต่กลับถูกยกเลิกสามีตนก็ทำหลายบริษัท ไม่ได้แอดมิต 2 ปี มาต้นปีนี้ป่วย นอนโรงพยาบาลไป 2 คืน ตอนกลับส่งแฟลกเคลมบริษัทประกันแรกเหมาจ่าย 10 ล้าน ผลคือบริษัทแจ้งว่า ไม่พบข้อบ่งชี้จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาล บริษัทไม่จ่าย โชคดีที่เธอซื้ออีกบริษัทที่เป็นบริษัทประกันภัยให้สามีที่เหมาจ่ายแค่ 700,000 บาท จึงให้โรงพยาบาลแฟลกเคลมบริษัทที่ 2 ในวันเดียวกัน ผลคือบริษัทประกันที่ 2 ชำระให้ครบทุกบาท ไม่ต้องสำรองจ่ายเลยวันนี้จึงออกมาร้องสื่อ อยากให้ประชาชนชาวไทยหลายคนที่เห็นคุณค่าของประกัน กลับไปดูกรมธรรม์ที่ถือมาหลายปีก่อนวันที่ 8 พ.ย. 2564 (กฎหมายเพิ่งออกมาคุ้มครอง คนที่ทำประกันหลัง 8 พ.ย. 2564) ว่าบริษัทสามารถยกเลิกได้ หากเราถือมา 3 ปี 5 ปี หรือมากกว่า 10 ปี ถ้าปีที่ 11 เราป่วยเยอะ เคลมเยอะ บริษัทสามารถยกเลิกได้ แล้วคนที่ป่วยมาเยอะแล้ว จะไปทำต่อที่ไหนก็ยาก เหมือนติดเครดิตบูโรของการซื้อประกันสุขภาพ รวมถึงโรคร้ายแรงได้อีกด้วยอยากให้มีหน่วยงานมาช่วยคนกลุ่มนี้ กลุ่มที่ทำประกันสุขภาพมาก่อน 2 ปีที่ผ่านมานี้ด้วย (ก่อนวันที่ 8 พ.ย. 2564) ไม่ใช่แค่เพิ่งจะคุ้มครองคนที่ทำหลังจาก คปภ.คุ้มครอง เพราะประชาชนชาวไทยหลายคนไม่ทราบว่าประกันสามารถยกเลิกได้ ถ้าคนไหนยังแข็งแรงดี แนะนำรีบไปเปลี่ยนเป็นแผนใหม่ ร่างกายที่ป่วยอยู่แล้ว กลับมาโดนประกันที่มั่นคงยกเลิก สุขภาพจิตใจก็ย่ำแย่ตาม ไม่อยากให้ใครต้องเจอแบบตนเอง ยืนยันตนป่วยจริงมีประวัติการรักษาทุกอย่างจากสถานพยาบาล ไม่ได้ป่วยทิพย์หวังเงินประกัน ส่วนการฟ้องร้องตนเองอยู่ระหว่างปรึกษาทนายเพื่อดำเนินการแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับผู้จัดการออนไลน์https://mgronline.com/local/detail/9670000081305

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ห้องแสดงนิทรรศการ

6 ศิลปินส่งต่อแรงบันดาลใจและค้นหาความฝัน ผ่านนิทรรศการเล่าความฝันในวัยเด็ก “Dream a Little Dream”

05/09/2024

เวลานี้ ห้องสตูดิโอสีขาวขนาดย่อมของทรู ดิจิทัล พาร์ค อัดแน่นไปด้วยความฝันของศิลปินรุ่นใหม่ 6 คน ที่แม้มีสไตล์ผลงานที่แตกต่างกัน แต่มารวมตัวกันเพื่อส่งต่อแรงบันดาลใจด้วยงานศิลปะ ในนิทรรศการ “Dream a Little Dream” ที่พาทุกคนย้อนเวลากลับไปรำลึกถึงความสุขและความฝันอันไร้ขอบเขตในวัยเด็ก และชวนให้เราลองหยุดคิดว่า ความหลงใหลใฝ่ฝันในวัยนั้นได้จางหายไป หรือเราทำฝันเหล่านั้นให้เป็นจริงได้แล้วผู้อยู่เบื้องหลังงานนิทรรศการครั้งนี้ คือ Madskills แกลเลอรี่สตาร์ทอัพสัญชาติไทยที่ทำหน้าที่เสาะหา คัดสรร และจัดแสดงงานของศิลปิน โดยเน้นงานด้าน Pop Art และ Contemporary Art ทั้งในไทยและต่างประเทศ และอาจเรียกได้ว่า Madskills เองก็ก่อร่างสร้างขึ้นจากความฝันของ พิชย วิวัฒน์รุจิราพงศ์ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งเช่นกัน“จริงๆ แล้วผมเป็นวิศวกรขุดเจาะน้ำมัน ที่ได้เข้ามาทำงานในแวดวงของ Tech และธุรกิจ แต่โดยส่วนตัวชอบถ่ายรูปมาก ถึงขนาดเคยจัดแสดงงานภาพถ่ายของตัวเองมาแล้ว ในช่วงโควิดที่ไปเที่ยวถ่ายรูปที่ไหนไม่ได้ ผมจึงเริ่มสะสมงานศิลปะหลากหลายรูปแบบ สุดท้ายก็ทำให้ความฝันของการมีแกลเลอรี่ของตัวเองให้เกิดขึ้นจริงก่อนไปถึงวัยเกษียณ นิทรรศการนี้นับเป็นครั้งที่ 4 ของ Madskills แล้ว” พิชย กล่าวนิทรรศการ Dream a Little Dream จัดขึ้นในพื้นที่สานต่อความฝันของศิลปินให้เป็นจริง ในห้อง Studio 2 บนชั้นสองของทรู ดิจิทัล พาร์ค ฝั่งเวสต์ และเปิดเข้าชมฟรีทุกวัน โดยเป็นความตั้งใจที่จะให้ผู้ที่สนใจหรือผู้ที่ผ่านมาได้เข้ามาชื่นชมงานศิลปะอย่างใกล้ชิด ในขณะเดียวกันก็เป็นการสนับสนุนสตาร์ทอัพในด้าน Art & Culture และส่งเสริมงานของศิลปินและครีเอเตอร์รุ่นใหม่ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ซึ่งเป็นสิ่งที่ทรู ดิจิทัล พาร์คทำมาอย่างต่อเนื่องก่อนเดินทางไปชมงานนิทรรศการ ขอพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ 6 ศิลปินให้มากขึ้น ผ่านตัวตน เรื่องราวความฝัน และแรงบันดาลใจ ในการสร้างสรรค์ผลงาน เพื่อส่งต่อความหมายของการมีฝันให้กับทุกคน1. หูยาว (HUUYAOW)“ไม่จำเป็นต้องทำให้ทุกฝันสำเร็จ แต่ขอให้จับสักฝันให้แน่น แล้วทำให้เป็นจริง”ปิ๊ง - มัณฑนา เลิศกรกิจจา หรือศิลปินที่รู้จักในชื่อของ หูยาว ชื่อนี้มาจากตุ๊กตากระต่ายที่เธอรักมากในวัยเยาว์ และเป็นตัวแทนความกล้าหาญและความอยากรู้อยากเห็นที่เธอมีในวัยนั้น ผลงานจึงโดดเด่นด้วยคาแรกเตอร์เด็กผู้หญิงหูยาวสีส้มอยู่ท่ามกลางฉากความฝันที่นำเสนอผ่านภาพก้อนเมฆ ดวงจันทร์ และกลุ่มดาวงานที่จัดแสดงนับเป็นงานเพ้นท์อะคริลิคบนแคนวาสครั้งแรกของปิ๊ง จากที่ก่อนหน้านี้ทำงาน Digital Art มาตลอด เธอเล่าว่า 12 ชั่วโมงก่อนส่งงานเรื่องไม่คาดฝัน ขณะที่รอให้สีเคลือบชิ้นงานแห้งสนิทเกิดมีฝุ่นพัดเข้ามาทำให้ชิ้นงานมีส่วนเสียหาย เธอต้องรีบลงมือแก้ไขให้ทันเวลา แต่ที่ทำได้สำเร็จก็เพราะมีหูยาวคอยบอกว่า อย่ากลัวที่จะลุกขึ้นใหม่อีกครั้ง2. ฉ่อกุง (CHORKUNG)“แม้ว่าฝันในวัยเด็กอาจไม่ถึงเส้นชัย แต่ความฝันเล็กๆ เหล่านั้นได้มาเป็นส่วนหนึ่งของเราในวันนี้”กุง – ศศิวิมล สุนทรวิกรานต์ เจ้าของนามปากกา ฉ่อกุง ศิลปินที่เคยวาดภาพประกอบหนังสือเด็กกว่า 20 เล่ม ผลงานของเธอเล่าถึงความฝันและความสุขในวัยเด็กผ่านคาแรกเตอร์ Red Loving Wolf ที่ประกอบด้วยสองตัวละครหลักคือ Rinny Red หนูน้อยหมวกแดง และ Milo หมาป่า ไม่ว่าจะเป็นการชิมไอศครีมรสชาติใหม่ ไปจนถึงการฝึกเล่นกีตาร์เพื่อตามความฝันที่อยากเป็นนักดนตรีเธออยากให้ผลงานที่มีความสดใสเป็นตัวแทนที่ชวนให้ทุกคนกลับไปทำสิ่งเล็กๆ ที่แสนสนุกในวันวาน หรือหวนคิดถึงความฝันที่อาจไปไม่ถึงเป้าหมาย แต่ก็เคยมอบความสุขให้ในเวลานั้น เพราะเธอว่า เชื่อว่าทุกความฝันที่เคยมีได้หลอมรวมกลายมาเป็นตัวตนของเราในวันนี้3. น้อยหน่า (NoiNah)“ความฝันคือสิ่งหล่อเลี้ยงชีวิต ทำให้อยากตื่นขึ้นมาแล้วมีลมหายใจ เพื่อทำสิ่งที่ฝันต่อไปเรื่อยๆ ”น้อยหน่า - สุริยา อุทัยรัศมี อดีตนักเขียนการ์ตูนขำขันในนิตยสารการ์ตูนรายสัปดาห์ ต่อมาได้ผันตัวมาเป็นเจ้าของสตูดิโอและแกลเลอรี่เล็กๆ ในชุมชนเก่าริมแม่น้ำจันทบุรี ผลงานที่จัดแสดงในนิทรรศการนี้ เขาสร้างสรรค์ผ่านลายเส้นปากกา สีน้ำ และสีอะคริลิค โดยสร้างนัยยะผ่านการเล่นกับประเภทของสี ส่วนที่มีสีสันเด่นชัดจากการฉาบทาด้วยสีอะคริลิคแสดงถึงความเป็นจริงที่เกิดขึ้นแล้ว ส่วนที่ฟุ้งจางของสีน้ำคือตัวแทนของ ความฝัน ซึ่งทั้งสองสิ่งนั้นอยู่ร่วมกันได้เสมอเขาหวังว่าผลงานชุดนี้จะเป็นกุญแจให้ผู้ชมกลับไปไขลิ้นชักความทรงจำ รื้อค้นความฝันมาปัดฝุ่นอีกครั้ง และหากใครสักคนได้เข้ามาชมผลงาน แล้วเกิดมีเมล็ดพันธุ์แห่งความฝันผลิบานในใจ ได้กลับไปจำความฝัน หรือเริ่มต้นทำในสิ่งที่เคยหลงลืมไป ก็ถือว่างานได้ทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์แล้ว4. Humbly“ไม่สายเกินไปที่จะลองทำตามความฝัน แม้จะก้าวไปได้อย่างช้าๆ แต่ก็เป็นความก้าวหน้าที่พาไปสู่ความจริง”Humbly คือชื่อที่รู้จักกันดีของ Bryan Reynald C. Antonio นักวาดภาพประกอบชาวฟิลิปปินส์ ที่ในวัยเด็กหลงใหลในเรื่องราวแฟนตาซีของการเดินทางไปยังดินแดนต่างโลก ต่างมิติ และย้อนไปในอดีต จากจินตนาการอันไร้ขอบเขตกลายเป็นแรงบันดาลใจให้เขาสร้างสรรค์ผลงาน โดยนำองค์ประกอบจากวัฒนธรรมป๊อบยุค 90 ของนิยายวิทยาศาสตร์ การ์ตูน และของเล่นมาผสานรวมกันผลงานเหล่านี้พาเขาโลดแล่นไปแสดงงานยังต่างประเทศได้ดังความฝันในวัยเยาว์ ที่ผ่านมา Bryan เคยจัดแสดงผลงานในนิทรรศการที่สหรัฐอเมริกา โตเกียว ปารีส และเคยจัดแสดงงานเดี่ยวในเมืองสำคัญ เช่น เซี่ยงไฮ้ ลอนดอน สิงคโปร์ และที่กรุงเทพมหานครในเวลานี้5. Jmons“เส้นทางสู่ความฝัน อาจมีเรื่องท้าทาย แต่ขอให้มีความเชื่อมั่นและลงมือทำอย่างเต็มที่”Jmons คือนามปากกาของ ตุ่ย - บุญสิทธิ์ อยู่ถาวร ศิลปินชาวไทยที่เติบโตมาในครอบครัวที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับศิลปะ เขาจึงได้ฝึกฝนทักษะงานศิลป์มาตั้งแต่เด็ก โดยมีสีเป็นเครื่องมือสุดโปรดปราน ผลงานของเขาโดดเด่นด้วยการผสมผสาน Abstract Art ผ่านการวาดและสาดสี เข้ากับคาแรกเตอร์ STARBUZZ ที่สะท้อนถึงความสนุกสนานและความหวังในชีวิตประจำวันผลงานในครั้งนี้เขาตั้งใจที่จะมอบความสุขและแรงบันดาลใจผ่านความงามและความหมายที่ซ่อนอยู่ในแต่ละสีและรูปทรง และอยากใช้งานศิลปะเชื่อมโยงผู้คนให้มองเห็นโลกในแง่มุมที่แตกต่างและหลากหลายมากขึ้น6. Wood You Mind“เพราะมีฝันที่หลากหลาย ทำให้เปิดกว้างต่อทุกสิ่ง และสร้างสรรค์งานแบบไม่มีข้อจำกัด”Wood You Mind คือชื่อที่คนรู้จัก ป่าน – อนิวรรต อัครสุทธิกร ศิลปินที่เชี่ยวชาญการแกะสลักไม้ ที่มีจุดเริ่มต้นจากการที่รอซ่อมเตาเซรามิกที่ใช้ทำงาน ทำให้เขาลองแกะสลักไม้เพราะคิดถึงช่วง ม.ปลายที่เคยแกะสลักดินสอเป็นสโนว์แมน ในที่สุดเขาหันมาทำงานแกะสลักไม้ตั้งแต่ปี 2019 ก่อนย้ายไปอยู่ที่สหรัฐอเมริกาตั้งแต่ปี 2020สำหรับนิทรรศการนี้ ป่านได้ส่งผลงานมาร่วมแสดงทั้งภาพวาดบนผ้าใบและงานแกะสลักไม้ โดยต้องวางแผนเวลาทำงานล่วงหน้าอย่างถี่ถ้วนเนื่องจากเป็นขนส่งทางเรือที่ใช้เวลานาน ผลงานทั้งหมดตั้งใจถ่ายทอดความฝันในมุมมองของความปรารถนาดีกับสิ่งที่เคยพลาด หลงลืม หรือไม่ได้สานต่อ โดยมอบความรู้สึกเป็นมิตร ไม่ได้บอกเล่าสิ่งใดตายตัว เพราะอยากเป็นผู้ฟังหรือกระจกสะท้อนให้กับผู้ชมงานได้ตั้งคำถามหรือระบายความรู้สึกนิทรรศการ “Dream a little Dream” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 16 สิงหาคม - 22 กันยายน 2567 ณ TDPK Studio 2 ชั้น 2 ทรู ดิจิทัล พาร์ค ฝั่งเวสต์ (BTS ปุณณวิถี) เปิดให้เข้าชมนิทรรศการทุกวัน เวลา 11.00 - 19.00 น. โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ติดตามรายละเอียดกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://www.truedigitalpark.comแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับผู้จัดการออนไลน์https://mgronline.com/travel/detail/9670000079672

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ท่องเที่ยว

One Day Trip เที่ยวชุมพร ทะเล ธรรมชาติ ชมวิวสวย

05/09/2024

หนึ่งในจังหวัด เมืองรอง ที่อยากให้ทุกคนได้มาลองเที่ยวกัน ก็คือ ชุมพร จังหวัดที่มีทะเลสวยๆ ธรรมชาติงามๆ งั้นอย่ารอช้าดีกว่า เพราะเราจะไปเที่ยวจัดเต็มแบบหนึ่งวันเต็มๆ ไปเลยจ้า ได้เวลาเดินทางไป One Day Trip เที่ยวชุมพร กันแล้วที่เที่ยวชุมพร One Day Trip พิกัดดัง ธรรมชาติครบแจกทริปเที่ยว 1 วัน ชุมพร  •  น้ำตกกะเปาะ  •  หาดทุ่งวัวแล่น  •  สะพานไม้เคี่ยม  •  จุดชมวิวเขามัทรีน้ำตกกะเปาะมาเปิดที่เที่ยวสวยๆ กันที่ ธรรมชาติงามๆ ดีกว่า สถานที่แรกในวันนี้ ก็คือ น้ำตกกะเปาะ น้ำตกสวยที่อยู่ในความดูแลของ วนอุทยานน้ำตกกะเปาะ เป็นน้ำตกขนาดเล็กๆ จากต้นน้ำเขากะเปาะ ซึ่งมีรูปร่างคล้ายฝายรูปโค้ง กว้าง 20 เมตร สูง 2 เมตร และมีน้ำไหลกันตลอดทั้งปีเลยด้วย สามารถมาเล่นน้ำชิลๆ พักผ่อนหย่อนใจได้ดีมากๆ  •  ที่อยู่ : ตำบลหงษ์เจริญ อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร  •  พิกัด : https://maps.app.goo.gl/oWxAfFxardDm9u1M8     •  เปิดให้เข้าชม : 08.00-18.00 น.  •  เว็บไซต์ : -หาดทุ่งวัวแล่นมา ชุมพร จะไม่มาชมทะเล ก็คงจะไม่ได้ เราไปต่อกันที่ หาดทุ่งวัวแล่น ชายหาดที่สวยงามชื่อดังของ ชุมพรแห่งนี้ ที่มีทรายเม็ดสีขาวนวลสวยละเอียด และน้ำทะเลก็มีความใสสะอาดน่าเล่นอย่างมาก รวมถึงหาดนี้เป็นแหล่งดำน้ำตื้นที่มีชื่อเสียงมากๆ ด้วยนะ เพราะมีปะการังและปลาหลากหลายชนิด อีกพิกัดที่ต้องมา!  •  ที่อยู่ : ตำบลสะพลี อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร  •  พิกัด : https://maps.app.goo.gl/5etMzvjKzhH6HMjR8   •  เปิดให้เข้าชม : สามารถเข้าชมได้ตลอดทั้งวัน  •  เว็บไซต์ : -สะพานไม้เคี่ยมชมวิวทะเลเสร็จแล้ว ก็แวะมาอีกสถานที่ที่มีชื่อว่า สะพานไม้เคี่ยม หนองใหญ่ เป็นจุดชมวิวที่สวยงาม และมีอากาศที่บริสุทธิ์มากๆ แห่งหนึ่งในจังหวัดชุมพรเลยค่ะ ตัวของสะพานที่นี่จะทำจากไม้เคี่ยม ทอดตัดผ่านแก้มลิงขนาดใหญ่ เชื่อมต่อกับเกาะกลางน้ำเล็กๆ เอาไว้ ล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติของป่าเขาและป่าพรุ รวมถึงที่นี่เป็นโครงการแก้มลิงแห่งแรกในประเทศไทย ที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงออกแบบ และควบคุมการสร้างด้วยพระองค์เลยค่ะ  •  ที่อยู่ : โครงการพัฒนาพื้นที่หนองใหญ่ ตําบลบางลึก อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร  •  พิกัด : https://maps.app.goo.gl/nXQthm1URFsHBmNGA   •  เปิดให้เข้าชม : 06.00-18.00 น.  •  เว็บไซต์ : -จุดชมวิวเขามัทรีใกล้จะหมดวันแล้ว ก็ต้องมาจบทริปวันเดียวเที่ยว ชุมพร ที่นี่เท่านั้นเลย จุดชมวิวเขามัทรี ตรงบริเวณนี้จะเป็นจุดที่เราสามารถมองเห็นวิวของจังหวัดชุมพรได้แบบเต็มๆ 360 องศา แถมทั้งมีร้านอาหาร และคาเฟ่บรรยากาศดีๆ ให้บริการครบเลย และมี องค์เจ้าแม่กวนอิม ให้ได้สักการะด้วย ด้วยความเชื่อของชาวประมงที่นี่ว่า องค์เจ้าแม่กวนอิมปางนี้ จะคอยปกปักษ์รักษาคนที่เดินทางออกทะเลให้แคล้วคลาดปลอดภัยนั่นเองค่ะ ปิดทริปสวยๆ ด้วยวิวพระอาทิตย์ตกดิน บอกเลยดีงามอย่าบอกใครเลยค่า  •  ที่อยู่ : ตำบลปากน้ำ อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร  •  พิกัด : https://maps.app.goo.gl/3gELAh6QYfoxnjVP7   •  เปิดให้เข้าชม : 06.00-21.00 น.  •  เว็บไซต์ : -แหล่งที่มาข่าวต้นฉบับ travel.trueidhttps://travel.trueid.net/detail/0l5yr3DzaLql

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ธุรกิจ

วางแผนสืบทอดธุรกิจครอบครัว ต้องรู้อะไรบ้าง

04/09/2024

วางแผนสืบทอดธุรกิจครอบครัว ต้องรู้อะไรบ้าง : Family Business Thailand รศ.ดร.เอกชัย อภิศักดิ์กุล คณบดีคณะวิทยพัฒน์ และผู้อำนวยการศูนย์ธุรกิจครอบครัว มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย akachai@famzgroup.comการวางแผนการสืบทอดกิจการเป็นเรื่องสำคัญของความยั่งยืนและความต่อเนื่องของธุรกิจครอบครัว แต่กลับเป็นปัญหาท้าทายที่หลายครอบครัวยังคงเผชิญอยู่ การวางแผนการสืบทอดกิจการมีความสำคัญมากกว่าแค่การระบุชื่อผู้สืบทอดเท่านั้นเป็นเรื่องเชิงกลยุทธ์และเกี่ยวข้องกับอารมณ์ องค์ประกอบสำคัญของการวางแผนการสืบทอดกิจการที่สำคัญนั้นมีหลายประการ ดังนี้การระบุผู้สืบทอดที่มีศักยภาพ ซึ่งหมายถึงการประเมินสมาชิกในครอบครัวหรือพนักงานคนสำคัญ เพื่อดูว่าใครมีทักษะ ประสบการณ์ และความสนใจที่แท้จริงในการนำพาธุรกิจ เมื่อระบุผู้สืบทอดได้แล้ว การฝึกอบรมและพัฒนาก็จะมีความสำคัญมาก ทั้งการให้ความรู้และการให้คำปรึกษาที่จำเป็นถือเป็นสิ่งสำคัญในการเตรียมผู้นำในอนาคตให้พร้อมสำหรับความซับซ้อนของโลกธุรกิจการมีช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านที่ชัดเจนและเป็นจริง เป็นอีกปัจจัยสำคัญของการวางแผนการสืบทอดกิจการที่มีประสิทธิภาพ ไทม์ไลน์ที่กำหนดขึ้นจะช่วยป้องกันการเปลี่ยนแปลงที่ฉับพลันซึ่งอาจทำให้ธุรกิจไม่เสถียร เนื่องจากมีการวางแผนล่วงหน้าและการเตรียมความพร้อมอย่างค่อยเป็นค่อยไป นอกจากนี้การกำหนดบทบาทและความรับผิดชอบสำหรับทั้งผู้นำปัจจุบันและอนาคตจะช่วยให้การเปลี่ยนผ่านราบรื่น ลดความสับสนและการทับซ้อนของหน้าที่ความรับผิดชอบ อีกทั้งยังช่วยให้ผู้นำในอนาคตพัฒนาทักษะที่เหมาะสมเพื่อรองรับความต้องการในอนาคตของธุรกิจด้วยการจัดการด้านกฎหมายและการเงินในช่วงเปลี่ยนผ่าน เช่น การโอนกรรมสิทธิ์ ผลกระทบทางภาษี และการวางแผนมรดก เป็นสิ่งสำคัญเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหากฎหมายและการเงินในอนาคต ตลอดกระบวนการนี้การสื่อสารอย่างเปิดเผยและโปร่งใสกับสมาชิกครอบครัวและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมดเป็นสิ่งสำคัญ การสื่อสารที่ชัดเจนจะช่วยจัดการความคาดหวังและลดความเสี่ยงของความขัดแย้งได้เป็นอย่างดีการวางแผนสำรองสำหรับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด เช่น การเจ็บป่วยหรือการเสียชีวิตกะทันหันของผู้นำปัจจุบัน จะช่วยให้ธุรกิจสามารถดำเนินต่อไปได้อย่างราบรื่นไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันใดๆสำหรับความท้าทายในการวางแผนการสืบทอดกิจการที่เป็นภารกิจซับซ้อนและเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก แม้การวางแผนสืบทอดกิจการจะมีความสำคัญ แต่ก็เป็นเรื่องที่ยากมากเช่นกัน ซึ่งอุปสรรคสำคัญหลักๆ ได้แก่ปัจจัยทางอารมณ์ความรู้สึก ความสัมพันธ์ในครอบครัวและความสัมพันธ์ส่วนบุคคลมักทำให้การตัดสินใจที่ควรจะเป็นกลางและเป็นไปตามความเหมาะสมถูกเบี่ยงเบนไปเนื่องจากความรู้สึกส่วนตัว ซึ่งกระบวนการนี้อาจกระตุ้นอารมณ์ความรู้สึกที่อยู่ลึกในใจของบุคคล จนนำไปสู่ความขัดแย้งและความไม่เห็นพ้องกันในที่สุดความยากในการวางมือของผู้ก่อตั้งและผู้นำปัจจุบัน เนื่องจากผู้ก่อตั้งและผู้นำปัจจุบันมักมีความผูกพันกับธุรกิจ จึงทำให้ยากที่จะวางมือ นอกจากนี้ยังมีความกลัวเกี่ยวกับการเกษียณและความกังวลเกี่ยวกับความสามารถของผู้สืบทอด ซึ่งอาจขัดขวางกระบวนการเปลี่ยนผ่านได้ขาดผู้สืบทอดที่มีความเหมาะสม ไม่ใช่สมาชิกทุกคนในครอบครัวที่มีความสนใจหรือความสามารถในการเข้ามาดูแลธุรกิจ จึงอาจทำให้ขาดผู้นำที่พร้อมจะเข้ามาบริหารงานการรักษาความยุติธรรมและความเสมอภาคระหว่างสมาชิกในครอบครัว โดยเฉพาะเมื่อบางคนมีส่วนร่วมในธุรกิจและบางคนไม่มี เป็นเรื่องที่ต้องจัดการอย่างละเอียดอ่อน สิ่งสำคัญคือการหลีกเลี่ยงข้อพิพาทเรื่องมรดกและควรทำให้ทุกฝ่ายรู้สึกว่าได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นธรรมความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนในครอบครัว ทำให้การวางแผนสืบทอดกิจการยากขึ้น เนื่องจากความแตกต่างในเรื่องวิสัยทัศน์ ค่านิยม และความสนใจของสมาชิกในครอบครัวอาจนำไปสู่ความขัดแย้งรุนแรง รวมถึงการไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงของพนักงานและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่ภักดีต่อผู้นำปัจจุบัน ก็อาจส่งผลกระทบต่อขวัญกำลังใจและประสิทธิภาพในการทำงานในช่วงการเปลี่ยนผ่านเช่นกันการวางแผนที่ไม่ดีพอ ธุรกิจครอบครัวหลายแห่งขาดการวางแผนอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการสืบทอดกิจการ ซึ่งอาจนำไปสู่วิกฤติหากจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน ทำให้อนาคตของธุรกิจตกอยู่ในความเสี่ยงดังนั้นจะเห็นได้ว่าการวางแผนการสืบทอดกิจการเป็นสิ่งจำเป็นต่อความยั่งยืนของธุรกิจครอบครัว การจัดการกับความท้าทายที่เกิดขึ้นจึงต้องการการวางแผนอย่างละเอียดถี่ถ้วน การสื่อสารที่ชัดเจน และบ่อยครั้งต้องอาศัยคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญภายนอกเพื่อช่วยให้สามารถจัดการกับความรู้สึกที่หลากหลายและซับซ้อนที่เกิดขึ้นในสถานการณ์ต่างๆ ได้ที่มา: Paul Andrews. The Intricacies Of Succession Planning In Family Businesses.  Retrieved 24 June 2024 From: https://www.familybusinessunited.com/post/the-intricacies-of-succession-planning-in-family-businessesข้อมูลเพิ่มเติม: http://www.famz.co.thแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับฐานเศรษฐกิจhttps://www.thansettakij.com/columnist/designing-business/602167

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ห้องแสดงนิทรรศการ

เยาวชนไทยคนเก่งคว้ารางวัล ผลงานศิลปะจากญี่ปุ่น

04/09/2024

บริษัท เพนเทล (ประเทศไทย) จำกัด จัดงาน “นิทรรศการศิลปะเด็กนานาชาติ ครั้งที่ 54” ปีที่ 54 รวบรวมผลงานภาพวาดของเยาวชนไทยคนเก่ง พร้อมมอบรางวัลแก่ผู้ชนะในประเภทต่างๆ จากโครงการประกวดศิลปะนานาชาติ ครั้งที่ 54 (54th International Children’s Art Exhibition) ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยเยาวชนไทยคว้ามาได้ถึง 101 รางวัล รวมถึงรางวัลสูงสุดแห่งปี Japanese Foreign Minister’s Award จากการประกวด 35 ประเทศทั่วโลก รวมผลงานกว่า 37,517 ชิ้นปีนี้เยาวชนไทยส่งภาพเข้าร่วมประกวดกว่า 2,090 ภาพ จากทั่วประเทศ ซึ่งแบ่งเป็นรางวัลต่างๆ ดังนี้ รางวัลสูงสุดจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ประเทศญี่ปุ่น 1 รางวัล, รางวัลเหรียญทองยอดเยี่ยม 4 รางวัล, รางวัลเหรียญทอง 14 รางวัล, รางวัลเหรียญเงิน 19รางวัล, รางวัลเหรียญทองแดง 25 รางวัล และรางวัลชมเชย 38 รางวัล โดยมีพิธีมอบรางวัลจะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 24 ส.ค. 67 เวลา 13.00 น. ณ ลานกิจกรรมชั้น M ศูนย์การค้าเกทเวย์ เอกมัย โดยมี โบว์-เมลดา สุศรี นักแสดงสาวสวยมากความสามารถ ร่วมแชร์แรงบันดาลใจพร้อมแสดงความยินดีกับน้องๆ คนเก่งที่ได้รับรางวัล และร่วมทำกิจกรรมระบายสีกับน้องๆร่วมเปิดโลกแห่งจินตนาการไปพร้อมกับผลงานศิลปะของเยาวชนไทยคนเก่งได้ในวันที่ 27 ส.ค.-8 ก.ย. 67 ณ ชั้น 4 หอศิลปะและวัฒนธรรมกรุงเทพ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับผู้จัดการออนไลน์https://mgronline.com/celebonline/detail/9670000077166

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ท่องเที่ยว

นับถอยหลัง “น้ำตกทีลอซู” เตรียมเปิดให้เข้าเที่ยวชมในวันที่ 1 ก.ย. เป็นต้นไป

04/09/2024

น้ำตกทีลอซู เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง จ.ตาก เตรียมประกาศเปิดการท่องเที่ยวอีกครั้ง ในวันที่ 1 ก.ย. 67 เป็นต้นไปเฟซบุ๊กเพจเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง - Umphang Wildlife Sanctuary โพสต์ข้อความประกาศเตรียมเปิดการท่องเที่ยว “น้ำตกทีลอซู” หลังปิดการท่องเที่ยวประจำปีไป เพื่อให้ธรรมชาติฟื้นตัวไปตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. - 31 ส.ค. 67สำหรับ “น้ำตกทีลอซู” อยู่ภายในเขตสงวนพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง จ.ตาก เกิดจากลำห้วยกล้อทอที่อยู่ด้านบน ซึ่งได้ไหลมารวมกัน และไหลตกลงมายังช่องเขาขาดที่สูงประมาณ 300 เมตร กว้างประมาณ 500 เมตร เกิดเป็นน้ำตกทีลอซูอันสวยงามอลังการ โดยสายน้ำตกแห่งนี้ได้ไหลโจนทะยานลงมาจากโตรกผา ลดหลั่นลงมาเป็นชั้น ๆ ท่ามกลางขุนเขาแมกไม้ที่เขียวขจีด้วยองค์ประกอบความงดงามของสายน้ำและสภาพธรรมชาติแวดล้อมที่เกื้อหนุนเสริมส่งกัน ทำให้น้ำตกทีลอซูได้รับการยกย่องจากคนส่วนใหญ่ให้เป็น “น้ำตกที่สวยที่สุดในเมืองไทย”สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เขตฯ อุ้มผาง โทร. 0-5550-8780 และ 06-5002-7637 ในเวลาราชการแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับผู้จัดการออนไลน์https://mgronline.com/travel/detail/9670000077460

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ประกันชีวิต

เอไอเอ ประเทศไทย จับมือ แมกซ์ โซลูชัน มอบประกันอุบัติเหตุฟรี คุ้มครองสูงสุด 100,000 บาท พร้อมจัดเต็มสิทธิประโยชน์มากมาย สำหรับสมาชิกแอปพลิเคชัน Max Me และ PT Max Card

04/09/2024

กรุงเทพฯ, 4 กันยายน 2567 - เอไอเอ ประเทศไทย จับมือกับ บริษัท แมกซ์ โซลูชัน เซอร์วิส จำกัด ในเครือบริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) ร่วมมอบประกันอุบัติเหตุฟรี ผลประโยชน์ความคุ้มครองสูงถึง 100,000 บาท พร้อมค่าชดเชยรายได้เมื่อนอนโรงพยาบาลจากอุบัติเหตุวันละ 500 บาท* คุ้มครองนาน 30 วันนับจากวันลงทะเบียน พิเศษสำหรับสมาชิก แอปพลิเคชัน Max Me โดยสามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน  ถึง 31 ตุลาคม 2567 เพื่อสนับสนุนให้ผู้ขับขี่บนท้องถนนได้มีประกันอุบัติเหตุเพื่อคุ้มครองความเสี่ยงที่อาจขึ้นได้แบบไม่คาดคิดนอกจากนี้ เอไอเอ ประเทศไทย ยังได้มอบสิทธิพิเศษ กรมธรรม์ประกันชีวิตวงเงินคุ้มครอง 50,000 บาท ให้แก่สมาชิก PT Max Card Plus อีกด้วย สอดคล้องกับพันธกิจของเอไอเอ ที่ต้องการสนับสนุนให้ผู้คนกว่าหนึ่งพันล้านคนมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ตามคำมั่นสัญญา ‘Healthier, Longer, Better Lives – เพื่อสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น’นายเอกรัตน์ ฐิติมั่น ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด เอไอเอ ประเทศไทย กล่าวว่า “ในนามของเอไอเอ ประเทศไทย เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับพันธมิตรที่มีวิสัยทัศน์เดียวกันอย่าง กลุ่มบริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี ในการมอบสิทธิประโยชน์ด้านประกันอุบัติเหตุให้แก่สมาชิก แอปพลิเคชัน Max Me รวมทั้งมอบกรมธรรม์ประกันชีวิตแก่สมาชิก PT Max Card Plus โดยไม่มีค่าใช้จ่าย และนอกเหนือจากนี้ เรายังร่วมกันอำนวยความสะดวกให้กับสมาชิก PT Max Card ได้เข้าถึงข้อมูลประกันชีวิตและประกันสุขภาพได้ง่าย ๆ ผ่าน แอปพลิเคชัน Max Me อีกทั้งเพื่อสนับสนุนให้คนไทยได้มีประกันเพื่อป้องกันความเสี่ยง โดยเฉพาะความเสี่ยงจากการขับขี่บนท้องถนน เรายังได้นำเสนอแบบประกันออนไลน์  อาทิ แบบประกันอุบัติเหตุ Micro100 ให้แก่สมาชิก PT Max Cardผู้ที่สนใจสามารถศึกษาข้อมูลประกันต่าง ๆ ผ่านช่องทางของ แอปพลิเคชัน Max Me ได้ และในอนาคตอันใกล้นี้  เอไอเอ และ บริษัท แมกซ์ โซลูชัน เซอร์วิส ยังมีแผนร่วมกันนำเสนอสิทธิประโยชน์อื่น ๆ ที่น่าสนใจแก่สมาชิก PT Max Card อีกมากมาย เพื่อเดินหน้าส่งเสริมให้คนไทยมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น”นายพร้อมศักดิ์ จรัญญากรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แมกซ์ โซลูชัน เซอร์วิส จำกัด เปิดเผยว่า “ความร่วมมือกับ เอไอเอ เป็นการต่อยอดความสำเร็จของการให้บริการเงินแก่สมาชิก PT Max Card ผ่านแอปพลิเคชัน Max Me นอกเหนือจากบริการสินเชื่อ และประกันวินาศภัย ซึ่งเป็นการดำเนินงานภายใต้วิสัยทัศน์ของ กลุ่ม บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี ที่ต้องการเชื่อมให้ทุกคนมีโอกาสเข้าถึงชีวิตที่ “อยู่ดี มีสุข" ในทุกด้านของช่วงชีวิต โดยเรามองว่า ประกันชีวิตเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่มีความสำคัญกับคนไทยทุกคน เป็นทั้งหลักประกันความมั่นคงในชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงเป็นเครื่องมือทางการเงินที่ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งเราอยากเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าและสมาชิก PT Max Card เข้าถึงข้อมูล ความรู้ และเข้าใจถึงความสำคัญของประกันชีวิตผ่านช่องทางแอปพลิเคชัน Max Me พร้อมรับสิทธิประโยชน์มากมาย เพื่อตอบแทนลูกค้าและสมาชิกผู้มีอุปการะคุณเสมอมา จึงได้เกิดความร่วมมือกับ เอไอเอ ในครั้งนี้ขึ้น”นอกจากนี้เรายังมอบสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมในกรณี สมาชิก PT Max Card ซื้อประกันเอไอเอที่ร่วมรายการ โดยมีเบี้ยประกันภัยรวมต่อปีขั้นต่ำ 10,000 บาท รับ Max Point สุดคุ้ม สูงสุด 1,000 แต้ม* เมื่อลงทะเบียนรับสิทธิ์ผ่านช่องทางที่กำหนดผู้ที่สนใจรับสิทธิ์ประกันอุบัติเหตุฟรี สามารถลงทะเบียนได้ที่ แอปพลิเคชัน Max Me ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน  ถึง 31 ตุลาคม 2567สำหรับสมาชิก PT Max Card Plus สามารถลงทะเบียนรับกรมธรรม์ประกันชีวิตวงเงินคุ้มครอง 50,000 บาท ได้ที่ website : https://crmpartner.pt.co.th/maxplus  ตั้งแต่ วันที่ 1 กันยายน ถึง 31 ธันวาคม 2567หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลงทะเบียนรับสิทธิ์สามารถติดต่อ PT Call Center โทร 1614 หรือ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความคุ้มครอง กรุณาติดต่อ เอไอเอ คอลเซ็นเตอร์ โทร. 1581หมายเหตุ:*ข้อกำหนดและเงื่อนไขของความคุ้มครองจะระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยที่ออกให้กับผู้ถือกรมธรรม์**เงื่อนไขโปรโมชันเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด เอไอเอขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลง ยกเลิก แก้ไขรายละเอียดหรือเงื่อนไขต่างๆ โดยแจ้งให้ทราบล่วงหน้าผ่านช่องทางสื่อสารของบริษัท****ผู้ขอเอาประกันภัยควรศึกษาทำความเข้าใจรายละเอียดข้อกำหนดและเงื่อนไขของความคุ้มครอง รวมทั้งข้อยกเว้นไม่คุ้มครอง ของผลิตภัณฑ์ประกันภัย และเงื่อนไขที่เอไอเอประกาศ ก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ข่าวการเงิน

Gen Z Gen Y อาจผิดหวัง เมื่อพ่อแม่รุ่นบูมเมอร์ส่วนใหญ่ จะไม่ทิ้งมรดกไว้ให้

03/09/2024

  •  คนรุ่นมิลเลนเนียล และ Gen Z ในสหรัฐอเมริกา ที่คาดหวังว่าตนเองจะได้รับมรดกจากพ่อแม่รุ่นบูมเมอร์ พวกเขาอาจผิดหวัง! เพราะบูมเมอร์ส่วนใหญ่ไม่มีแผนที่จะทิ้งมรดกใดๆ ไว้เลย  •  มีเทรนด์การใช้ชีวิตแบบใหม่ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นคือ การเพลิดเพลินไปกับทรัพย์สมบัติทั้งหมดขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ และตายไปโดยมีเงินในบัญชีธนาคารเป็นศูนย์  •  ค่าใช้จ่ายในการใช้ชีวิตวัยชรานั้นสูงขึ้นเรื่อยๆ จึงไม่น่าแปลกใจที่คนรุ่นบูมเมอร์ ไม่มีแผนที่จะส่งต่อมรดกให้ลูกหลาน แต่มีแผนสำหรับค่าใช้จ่ายในโรงพยาบาลและบ้านพักคนชราก่อนหน้านี้มีรายงานระบุว่าในอนาคตอีก 10-20 ปีจากนี้ ประชากรชาว Gen Y หรือรุ่นมิลเลนเนียล กำลังจะขึ้นแท่นเป็นคนรุ่นที่ร่ำรวยที่สุด เนื่องจากจะได้รับมรดกตกทอดจากรุ่นพ่อแม่ โดยมูลค่าทรัพย์สินมรดกรวมแล้วสูงถึง 90 ล้านล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3,080 ล้านล้านบาท) ขณะที่รายงานอีกชิ้นจาก NielsenIQ ชี้ว่า ภายในปี 2573 ชาว Gen Z อาจกลายเป็นรุ่นที่มีความร่ำรวยมากที่สุดในโลก ด้วยค่านิยมไม่มีลูกและมีกำลังซื้อสูงกว่าคนรุ่นก่อนๆ แต่ล่าสุด..(ว่าที่)คนรวยชาว Gen Z และ Gen Y อาจฝันสลาย เพราะเมื่อเร็วๆ นี้ นิตยสารฟอร์จูน รายงานอ้างถึงผลสำรวจของ Northwestern Mutual ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการทางการเงิน ระบุว่า ทายาทรุ่นมิลเลนเนียล และ Gen Z ในสหรัฐอเมริกา ที่คาดหวังอย่างกระตือรือร้นว่าตนเองจะได้รับการโอนมรดกจากพ่อแม่ ซึ่งเป็นทรัพย์สินมหาศาล มูลค่ารวมถึง 90 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ นั้น พวกเขาส่วนใหญ่อาจต้องผิดหวัง! เนื่องจากมีเพียง 1 ใน 5 ของคนรุ่นเบบี้บูมเมอร์เท่านั้นที่ตั้งใจว่าจะทิ้งมรดกไว้ให้ลูกหลาน แปลว่าที่เหลืออีกส่วนใหญ่อาจไม่ต้องการทิ้งมรดกใดๆ ไว้เลย  •  ประชากรรุ่นเบบี้บูมเมอร์ คือ รุ่นที่ร่ำรวยที่สุดในยุคปัจจุบันผลสำรวจของบริษัท Northwestern Mutual ครั้งนี้ ทีมวิจัยได้ทำการสำรวจข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างที่เป็นคนทำงานวัยผู้ใหญ่จำนวนกว่า 4,500 คนในสหรัฐอเมริกา และพบว่ามีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่คาดว่าจะได้รับเงินสดก้อนโตหลังจากพ่อแม่ของพวกเขาเสียชีวิตลงขณะที่ข้อมูลจาก Visual Capitalist เผยว่า ความมั่งคั่งของผู้คนในอเมริกามากกว่าครึ่งหนึ่ง เป็นของประชากรรุ่นเบบี้บูมเมอร์ โดยส่วนใหญ่เป็นทรัพย์สินที่ผูกติดกับอสังหาริมทรัพย์ เช่น การมีบ้านหลังใหญ่ หรือมีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อื่นๆ เป็นหลัก นอกจากนั้นก็เป็นความมั่งคั่งที่งอกเงยมาจากหุ้น กองทุนรวม เงินบำนาญ ฯลฯ นี่อาจเป็นสาเหตุที่คนรุ่น Gen Z มากกว่า 50% และคนรุ่น Millennial เกือบ 60% รายงานว่า พวกเขาหวังพึ่งพามรดกของพ่อแม่ในอนาคต เพื่อให้ตนเองมีความมั่นคงทางการเงินและใช้ชีวิตเกษียณอย่างสุขสบายอย่างไรก็ตาม ชาว Gen Z Gen Y ที่เคยจับจ้องทรัพย์สินของพ่อแม่หรือปู่ย่าตายายเอาไว้ อาจจะต้องตกใจอย่างมาก เนื่องจากผลสำรวจดังกล่าว พบว่า มีคนรุ่นเบบี้บูมเมอร์เพียง 20% เท่านั้นที่วางแผนว่าจะทิ้งมรดกไว้ให้ลูกหลาน ส่วนที่เหลืออีก 50-80% ต่างบอกตรงกันว่า พวกเขาตั้งใจที่จะไม่ทิ้งมรดกใดๆ ไว้ให้คนข้างหลังเลย ยิ่งไปกว่านั้น มีเพียง 11% ของกลุ่มเบบี้บูมเมอร์เท่านั้น ที่บอกว่าการทิ้งมรดกไว้ให้ลูกๆ เป็นเป้าหมายทางการเงินสูงสุดของพวกเขานอกจากนี้ ผลสำรวจเผยข้อมูลอีกว่า 60% ของชาวบูมเมอร์ได้ทำพินัยกรรมเอาไว้ให้ลูกหลานแล้ว แต่ในพินัยกรรมนั้นอาจมีเนื้อหาเกี่ยวกับความต้องการในการจัดงานศพของพวกเขา มากกว่าจะระบุถึงการแจกแจงเงินสด บ้าน หรือทรัพย์สินอื่นๆ ให้แก่ลูกหลานในครอบครัว  •  ค่านิยมชาวบูมเมอร์ย้ำชัด “หากมีเงิน จงใช้มันเพื่อตัวเองตอนนี้ อย่ารอจนตาย”ทั้งนี้ผลสำรวจข้างต้น ไม่ได้เจาะลึกถึงเหตุผลที่แท้จริงว่าทำไมคนรุ่นบูมเมอร์ถึงไม่อยากส่งต่อมรดกใดๆ ให้ลูกหลาน อย่างไรก็ตาม มีเทรนด์การใช้ชีวิตแบบใหม่ของคนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ที่พยายามจะเสียชีวิตโดยไม่มีเงินติดตัวเลย หรือพูดง่ายๆ ก็คือ เพลิดเพลินไปกับทรัพย์สมบัติทั้งหมดขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ และตายไปโดยมีเงินในบัญชีธนาคารเป็นศูนย์ดอลลาร์คนวัยเกษียณบางคนบอกกับนิตยสารฟอร์จูน ว่า แทนที่จะทิ้งเงินก้อนโตไว้ให้คนรุ่นต่อไป พวกเขาเลือกที่จะพาคนที่พวกเขารักไปเที่ยวในวันหยุดในขณะที่พวกเขายังมีชีวิต เพื่อสัมผัสถึงความสุขที่เงินของพวกเขาสามารถซื้อได้“หากคุณมีเงินตอนนี้ จงใช้มันเพื่อตัวเองตอนนี้ อย่ารอจนตาย” เอเลนา นูเญซ คูเปอร์ (Elena Nuñez Cooper) หนึ่งในคนรุ่นบูมเมอร์กล่าว โดยเธอวางแผนจะจ่ายเงินค่าทริปฮันนีมูนให้เพื่อนของเธอ และทุ่มเงินเก็บของตนเองบางส่วนให้กับองค์กรการกุศลนอกจากนี้คนวัยเกษียณอีกหลายคน ก็ยอมรับว่า หลังจากทำงานหนักมานานหลายสิบปี พวกเขาอยากใช้เงินที่หามาอย่างยากลำบาก เพื่อเพลิดเพลินไปกับชีวิตบั้นปลายอย่างเต็มที่ รวมถึงการเดินทางไปเม็กซิโกและเทศกาลดนตรี Glastonbury แทนที่จะใช้ชีวิตโดยยึดติดหรือกังวลกับความตายที่ใกล้เข้ามา นอกจากนี้ รายงานของ Northwestern Mutual ยังเน้นย้ำว่า ค่าใช้จ่ายในการใช้ชีวิตวัยชรานั้นสูงขึ้นเรื่อยๆ ในปี 2020 ผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่า พวกเขาต้องการเงิน 951,000 ดอลลาร์เพื่อใช้ชีวิตเกษียณอย่างสบาย แต่ปัจจุบัน ตัวเลขดังกล่าวพุ่งสูงถึง 1.46 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าอัตราเงินเฟ้อมาก จึงไม่น่าแปลกใจที่จะพบว่า คนรุ่นบูมเมอร์ไม่มีแผนที่จะส่งต่อมรดกให้ลูกหลาน แต่พวกเขามีแผนสำหรับจัดการค่ารักษาพยาบาลในช่วงวัยเกษียณอายุ และใช้จ่ายไปกับโรงพยาบาลและบ้านพักคนชรามากกว่า  •  คนรุ่นใหม่สมัยนี้ใช้เงินในบัญชีธนาคารของพ่อกับแม่กันเป็นปกติอยู่แล้วแม้ว่าคนรุ่น Gen Z และ Millennials ส่วนใหญ่จะไม่ได้รับประโยชน์จาก Great Wealth Transfer หรือ ‘การส่งต่อความมั่งคั่งระหว่างรุ่นครั้งใหญ่' แต่ก็มีคนจำนวนมากในประชากรกลุ่มนี้ ที่ได้รับมรดกไปแล้วในขณะที่พ่อแม่ของพวกเขายังอยู่การวิจัยข้างต้นยังแสดงให้เห็นว่า มากกว่า 1 ใน 3 ของคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ที่กำลังวางแผนซื้อบ้าน คาดหวังว่าพ่อแม่หรือครอบครัวของตนจะช่วยจ่ายเงินดาวน์ในรูปแบบของเงินสดเป็นของขวัญ นอกจากนี้ ตามรายงานยังแสดงให้เห็นว่า กลุ่มคนรุ่นมิลเลนเนียลมีแนวโน้มที่จะใช้เงินฝากจากธนาคารของพ่อและแม่เพื่อซื้อบ้านมากกว่าคนรุ่นก่อนหน้ายิ่งไปกว่านั้น ยังพบว่าคนรุ่นเบบี้บูมเมอร์บางส่วน ยังคงให้การสนับสนุนทางการเงินแก่ลูกๆ ในวัยทำงานแล้ว และไม่ใช่การช่วยเหลือในเรื่องใหญ่ๆ อย่างการดาวน์บ้าน ดาวน์รถยนต์ หรือช่วยซื้อสินทรัพย์อื่นๆ เท่านั้นแต่จากข้อมูลของ ศูนย์วิจัย PEW รายงานไว้ด้วยว่า คนรุ่นมิลเลนเนียลหนึ่งในสามที่มีอายุ 30 ปีต้นๆ ยังคงได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากพ่อแม่ แม้จะเป็นค่าใช้จ่ายเล็กๆ น้อยๆ เช่น ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน หรือค่าสมาชิกบริการสตรีมมิ่งออนไลน์ เป็นต้นแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับกรุงเทพธุรกิจhttps://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/1143088

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ห้องแสดงนิทรรศการ

อมรพิมล วีรวรรณ ลูกไม้ใต้ต้นด้านศิลปะถ่ายภาพ

03/09/2024

นิทรรศการภาพถ่ายจากการเดินทาง ผลงานแสดงเดี่ยวครั้งแรกของ อมรพิมล วีรวรรณ บุตรี ดร.อำนวย วีรวรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรีและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง “คงเป็นเพราะคุณพ่อชอบถ่ายรูป ชมพิพิธภัณฑ์”EXPLORATION: Framing the World through My Lens เป็นชื่อนิทรรศการภาพถ่าย ก่อนถึงเวลาที่นิทรรศการจะเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2567 พื้นที่นิทรรศการยังปิดอยู่ แต่ใครเดินผ่านก็มักต้องหยุดมอง หรือเดินผ่านไปแล้วก็ย้อนกลับมาดูใหม่ภาพถ่ายแต่ละภาพนอกจากสวยงามสะดุดตา ยังชวนให้สงสัยช่างภาพถ่ายภาพนี้มาได้อย่างไร ภาพส่วนใหญ่ยังมีอารมณ์บางอย่างที่ชักชวนผู้ชมให้มีจินตนาการต่อEXPLORATION: Framing the World through My Lens เป็นนิทรรศการภาพถ่ายจำนวน 45 ภาพ จากการเดินทางท่องเที่ยว 12 ประเทศ ผลงานแสดงเดี่ยวครั้งแรกของเซเลบริตี้-นักธุรกิจ ‘คุณแหมว’ อมรพิมล วีรวรรณ บุตรีของ ดร.อำนวย วีรวรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรีและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังผลงานภาพถ่ายสวย จนเพื่อนๆ ยุให้จัดแสดงงาน ขณะเดียวกันก็ถือเป็นโอกาสอันดีที่จะเปิดประมูลภาพถ่ายสีอัดขยายพิเศษแบบ E-Auction นำรายได้มอบมูลนิธิรามาธิบดี โครงการเพื่อผู้ป่วยยากไร้Blue Hour and the Sea, ชายหาดปากบารา จ.สตูล, 2020 : ถ่ายภาพโดย อมรพิมล วีรวรรณLeopard Family, Maasai Mara National Reserve, Kenya 2018 : ถ่ายภาพโดย อมรพิมล วีรวรรณ  •  รวมผลงานภาพถ่ายตั้งแต่ปีพ.ศ.2560นิทรรศการ EXPLORATION: Framing the World through My Lens เป็นการรวมผลงานภาพถ่ายตั้งแต่ปีพ.ศ.2560 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ ‘อมรพิมล วีรวรรณ’ ให้สัมภาษณ์ว่า เริ่มถ่ายภาพจริงจังจากการเดินทางท่องเที่ยวอมรพิมล วีรวรรณ“ก่อนหน้านี้ก็ถ่ายภาพบ้าง แต่ความที่ตอนนั้นทำงานประจำจึงยังไม่ได้มีเวลาเดินทางไปไหนไกลๆ แต่หลังออกจากงานประจำมาลงทุนส่วนตัวและดูแลธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของครอบครัวแล้วก็มีเวลาที่จะเดินทาง มีเวลาที่จะศึกษาเรื่องการถ่ายภาพ ศึกษาเรื่องกล้อง เวลาเดินทางไปเที่ยวกับเพื่อนๆ ไปเที่ยวกับครอบครัว ก็จะนำกล้องตัวใหญ่ไปฝึกฝนทักษะการถ่ายภาพด้วยตัวเอง แต่ภาพถ่ายที่นำมาจัดแสดงครั้งนี้ส่วนใหญ่เดินทางด้วยตัวเองแรกๆ พยายามชวนเพื่อนไป จนเพื่อนบอกไปไม่ไหวแล้ว ต้องตื่นเช้าเหลือเกิน ไม่เป็นไร เราก็ไปเอง ไปร่วมโฟโต้ทริปกับคนที่เราไม่รู้จักเลย ก็โอเค ได้เพื่อนใหม่ๆ เพราะเข้ากับคนได้ง่ายอยู่แล้ว”  •  บังเอิญหรือตั้งใจThe Waterfall of the Gods, Godafoss Iceland, 2024 : ถ่ายภาพโดย อมรพิมล วีรวรรณ“หลายๆ ภาพเป็นโลเคชั่นที่เราตั้งใจเข้าไปถ่าย แต่หลายๆ ภาพที่ได้มาเราไปโดยไม่แน่ใจว่าอากาศในวันนั้นจะเป็นอย่างไร ในแง่ของช่างภาพ landscape (ถ่ายภาพทิวทัศน์) เราก็อยากได้ช่วงแสงเช้า แสงเย็น เพราะภาพที่ออกมาจะมีมีติมากกว่าถ่ายตอนกลางวันก็ต้องมีความพยายาม ต้องอดทนบ้าง ต้องไปรอแสง ต้องเดินทางเข้าไปในสถานที่ที่เราไม่คุ้นชิน เดินเข้าไปในระยะทางที่ไกลๆ เดินขึ้นเขาบ้าง ก่อนเดินทางเราต้องทำการบ้านพอสมควร หาข้อมูล และฟิตร่างกายให้พร้อมทริปที่เดินไกลๆ ก็มีที่หมู่เกาะแฟโร (Faroe Islands) อยู่ทางตอนเหนือของยุโรป เป็นเขตปกครองตนเองของประเทศเดนมาร์ก เป็นเกาะที่มีความเป็นธรรมชาติสุดๆ อยู่บนเขา แวดล้อมด้วยมหาสมุทรแอตแลนติกPuffin with a Mouthful of Fish, Faroe Islands, 2022 : ถ่ายภาพโดย อมรพิมล วีรวรรณเราก็เดินขึ้นเนินไปประมาณ 5-6 กิโลเมตร ไปกลับก็สิบกว่ากิโล ก็มีความพยายามที่จะต้องไป เป็นเดสทิเนชั่นที่คนไทยเริ่มรู้จัก จริงๆ จะไปตั้งแต่ช่วงก่อนโควิด พอโควิด ทริปต่างๆ ก็แคนเซิลไปสองปีพอไปก็ได้ ภาพถ่ายนก Puffin ที่นำมาจัดแสดง เราไปช่วงฤดูร้อน ฤดูหนาวไปไม่ได้ อากาศหนาวจัดมาก และนกชนิดนี้บินมาเฉพาะช่วงฤดูร้อนของยุโรป กรกฎา-สิงหาเป็นช่วงดีที่สุด ก่อนหน้ากรกฎาก็ยังหนาวอยู่ ฤดูร้อนของเขาเราพูดถึง 5-10 องศาเซลเซียส”  •  ความหมายในภาพซึ่งนำออกประมูลเพื่อการกุศลNew Dawn, New Hope ชาดหาดหัวหิน, ประเทศไทย, 2023นอกจากความตั้งใจจัดแสดงภาพถ่ายสวยๆ จากการเดินทางท่องเที่ยวในสถานที่ต่างๆ ‘อมรพิมล วีรวรรณ’ ยังประสงค์ให้งานนี้เป็นแรงบันดาลใจให้หลายคนมองหา ‘โอกาส’ ทำสิ่งที่ตนเองรักให้ประสบความสำเร็จ ตลอดจนต้องการให้ภาพถ่ายจากฝีมือตนเองได้ขยายประโยชน์ สร้างโอกาสในการรักษาพยาบาลให้ผู้ป่วยยากไร้จึงนำภาพถ่าย จำนวน 2 ภาพ อัดขยายพิเศษ จัดประมูลแบบ E-Auction รายได้มอบมูลนิธิรามาธิบดี โครงการเพื่อผู้ป่วยยากไร้ ภาพแรกชื่อ New Dawn, New Hope ภาพรุ่งอรุณของวันใหม่ที่เปี่ยมไปด้วยความหวังจากทะเลหัวหิน“เป็นภาพทะเลหัวหินตอนพระอาทิตย์ขึ้นเช้าตรู่ ภาพนี้ที่เลือกมาเพราะมีความผูกพันกับตัวเอง ที่บ้านจะพาครอบครัวไปหัวหินช่วงปีใหม่ทุกปีเป็นคนชอบตื่นเช้าอยู่แล้ว วันนั้นเป็นวันที่ 29 ธันวาคม 2566 นั่งอยู่ตรงม้านั่งหน้าบ้าน ใช้กล้องใหญ่ ขาตั้งกล้องมือถือถ่าย time-lapse ไว้ ตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่พ้นขอบน้ำ ก็ได้ภาพจากไทม์แล็ปส์และภาพนิ่งช่วงพระอาทิตย์ขึ้น รุ่งขึ้นอีกวันไปถ่ายใหม่ก็ไม่ได้อารมณ์แบบนี้ ไม่เหมือนกัน ภาพวันที่ 29 (ธันวา) สวยกว่า ภาพนี้มีทั้งความสงบและมีทั้งความตื่นเต้นของคลื่น ในแง่ของมีความหวังที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันรุ่งขึ้นหรือกำลังจะเกิดขึ้นในปีใหม่ที่จะมาถึง จึงตั้งชื่อภาพนี้ว่า New Dawn, New Hope”Reflection of Nature, Patagonia, Chile, 2024ภาพถ่ายที่เลือกนำออกประมูลภาพที่สอง ชื่อภาพ Reflection of Nature ภาพถ่ายจากดินแดนปาตาโกเนีย (Patagonia) ในประเทศชิลี มนต์เสน่ห์แห่งอเมริกาใต้อมรพิมลกล่าวว่า ปาตาโกเนีย เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางของช่างภาพแลนด์สเคปที่ครั้งหนึ่งควรต้องไป ธรรมชาติสวยงามแปลกตาสำหรับทุกคน และยังถูกใจนักท่องเที่ยวประเภท hiking หรือการเดินป่าระยะไกลเพื่อความเพลิดเพลิน สูดอากาศบริสุทธิ์“ภาพ Reflection of Nature เป็นภาพภูเขาที่ปาตาโกเนีย ประเทศชิลี ซึ่งไปมาล่าสุดเมื่อเดือนเมษายนปีนี้ ถ่ายภาพนี้มาได้แบบไม่คาดคิด เราเดินกันไปเรื่อยๆ บนเนินเขา ระหว่างทางก็นั่งพักกันบนก้อนหินขนาดเล็กพอนั่งได้พอดีจุดที่นั่งพักข้างหน้าเป็นทะเลสาบ ช่วงนั้นเวลาประมาณเก้าโมงเช้าเศษๆ แสงอาทิตย์ส่องกระทบภูเขา สะท้อนเงาภูเขาลงน้ำในทะเลสาบปิดที่น้ำนิ่งมาก ก็ลองถ่ายภาพตรงนี้มุมนี้ถ่ายมาประมาณ 4-5 ช้อต เวลาต่างกัน 5-10 นาที ก็จะได้ composition (การจัดวางองค์ประกอบ) ของเมฆต่างกัน ลักษณะและตำแหน่งของเมฆที่เคลื่อนไป แสงต่างกัน ก็ใช้เวลาตรงนี้ค่อนข้างเยอะ ภาพนี้ทำให้เรารู้สึกเหมือนอยู่ในสมาธิ”ผู้ชนะการประมูลได้ภาพถ่าย New Dawn, New Hope ไปครอบครองได้แก่ คงภัทร จิรมณีกุล และผู้ชนะการประมูลภาพถ่าย Reflection of Nature ได้แก่ วรุตม์ สมะลาภา รวบรวมรายได้จากการประมูลภาพมอบให้มูลนิธิรามาธิบดี โครงการเพื่อผู้ป่วยยากไร้ จำนวน 500,000 บาท  •  คอนเซปต์การถ่ายภาพของ อมรพิมล วีรวรรณMoroccan Lady, Morocco, 2019“จะเน้นเรื่องการวางคอมโพซิชั่นของภาพ ให้ภาพเล่าเรื่องราวออกมาได้ ณ โมเมนต์นั้นที่เราไปและเราเก็บภาพนั้นมาให้อยู่ในความทรงจำได้ตลอดไปภาพหลายๆ ภาพที่แหมวถ่าย เราสื่ออารมณ์ให้ภาพได้ แต่ภาพก็สื่ออารมณ์กลับมาให้เราได้ถ้าเราจ้องเขาภายใน 5-10 วินาที เราสัมผัสถึงโมเมนต์ของสถานที่หรือสิ่งที่เกิดขึ้นขณะที่เราถ่ายภาพนั้นได้เช่นภาพ Moroccan Lady (2019) ตอนนั้นไปเมืองเล็กๆ เมืองหนึ่งในประเทศโมร็อกโก เป็นจุดที่เรานั่งพักระหว่างรอรถบัสมารับ ก็มีคุณยายคนนี้เดินมา เป็นขอทาน เดินมาพูดภาษาท้องถิ่นของเขา เรารู้สึกต้องถ่ายรูป คุณยายก็เดินไปเดินมา เราก็ถ่ายเป็นสิบช้อต แล้วให้เหรียญคุณยายไปพอดูภาพที่ถ่ายได้ เราก็แปลกใจ ภาพได้อารมณ์มาก ทำให้เรารู้สึกน่าจะเริ่มหัดถ่ายภาพในเรื่องของ environmental portrait คือถ่ายภาพคนแต่อยู่ในสถานการณ์นั้นๆ เพราะจะเล่าเรื่องได้เหมือนเป็นตัวตนของคนๆ นั้น”  •  ‘ดร.อำนวย วีรวรรณ’ กับแรงบันดาลใจคุณหญิงสมรศรี - รศนาภรณ์ - ถกลเกียรติ วีรวรรณ มาให้กำลังใจ อมรพิมล วีรวรรณ“คุณพ่อเป็นคนชอบถ่ายรูปคนหนึ่ง สมัยเราเด็กๆ เวลาไปเที่ยว คุณพ่อก็จะให้ลูกๆ มาถ่ายภาพ รูปที่บ้านก็จะมีค่อนข้างเยอะ ได้ซึมซับมาจากตรงนั้นเหมือนกันคุณพ่อมีมุมมองที่ดี เป็นคนชอบงานศิลปะ ชอบไปพิพิธภัณฑ์ คิดว่าตัวเองก็คงได้มุมมองศิลปะตรงนั้นมาจากคุณพ่อเหมือนกันตอนที่เราเริ่มถ่ายภาพจริงจัง คุณพ่อป่วยแล้ว ก็เลยไม่ค่อยได้คุยกันเรื่องถ่ายภาพ ถ้าคุณพ่อยังอยู่ในวันนี้ก็คงภูมิใจ ก็อยากให้ท่านเห็นเหมือนกัน ตัวเราลุกขึ้นมาถ่ายภาพและจัดนิทรรศการได้ทุกครั้งที่ไปถ่ายภาพ ต่อให้มีอุปสรรคในการเดินทาง เหนื่อยล้า ครั้งที่เราได้ภาพจากกล้องของเราเอง ความรู้สึกเหนื่อยล้าหายไปหมด แทบจะกระโดดไชโย เป็นความภูมิใจของตัวเองเหมือนกัน”Frozen Moment, Jokulsarlon, Iceland, 2023Autumn Colors, Fukushima Japan, 2019Catching the Eyes, หมู่บ้านชาวมอแกน, หมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา, 2020  •  การถ่ายภาพให้มุมมองอะไรกับชีวิตอย่างไรหรือไม่“เป็นการไปเรียนรู้วัฒนธรรมของแต่ละสถานที่ที่เราไป ได้เห็นได้สัมผัสกับคนท้องถิ่นและภูมิประเทศของเขา ได้เห็นโลกที่กว้างขึ้น ทำให้เรารู้สึก fresh กลับมา บางทีเราอยู่แบบนี้ แล้วเราไปเที่ยว เหมือนออกจาก comfort zone ของตัวเอง ดีกว่าที่เราจะอยู่สบายๆ ในบ้านเรา หรือไปเที่ยวที่เราคุ้นเคย แต่เวลาเราออกนอกประเทศเหมือนเราได้ค้นพบสิ่งใหม่ๆ ในชีวิต ทำให้รู้สึกดี ถึงแม้จะเหนื่อยบ้าง แต่ทำให้เราได้เปิดโลกทัศน์ตัวเองมากขึ้น”The Shy Fuji, Kawaguchiko Japan 2019เชิญชมภาพถ่ายผลงาน 'คุณแหมว-อมรพิมล วีรวรรณ' มากกว่านี้ได้ใน นิทรรศการภาพถ่าย EXPLORATION: Framing the World through My Lens จัดแสดงระหว่างวันที่ 27 สิงหาคม - 9 กันยายน 2567 ณ สเฟียร์แกลเลอรี 1, ชั้น M ศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์นอกจากนี้ ผู้ชื่นชอบการถ่ายภาพ พลาดไม่ได้กับกิจกรรมเวิร์คช็อปการถ่ายภาพโดยผู้เชี่ยวชาญจาก SONY ในวันพุธที่ 4 กันยายน 2567 เวลา 19.00 - 20.00 น.  •  แขกในพิธีเปิดนิทรรศการ EXPLORATION: Framing the World through My Lensอมรพิมล วีรวรรณ และศุภลักษณ์ อัมพุชกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูรม.ล.สุทธิ์ธรทิพย์ วรวรรณ และ วัลลิยา ปังศรีวงศสมนึก – ณิชาพร คลังนอก, อมรพิมล วีรวรรณ, อรธิรา ภาคสุวรรณ์ และก้องธนัตถ์กุล เศรษฐีสถาพรคงภัทร จิรมณีกุล และ วรุตม์ สมะลาภา ผู้ชนะการประมูลภาพถ่ายสุดถนอม กรรณสูตปวรดา - ถกลเกียรติ และกณิการ์ วีรวรรณดารานักแสดงที่สนใจการถ่ายภาพ แจม รชตะ, ตงตง กฤษกร, เฟิร์น นพจิรา, เบญ เรวิญานันท์, แอ๊ค โชคชัย, โตโต้ ธนเดช, ก้อง วิทยา และ เพิร์ล ศัจกรแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับกรุงเทพธุรกิจhttps://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/art-living/1142791

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

X