Everyday knowledge for you
ท่องเที่ยว
03/09/2024
บูคารา (Bukhara) เมืองโบราณอายุกว่า 2,000 ปี ในจังหวัดบูคารา ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศอุซเบกิสถาน ตั้งอยู่บนเส้นทางสายไหม นับเป็นตัวอย่างความสมบูรณ์ของเมืองยุคกลางในเอเชียกลาง มีโครงสร้างแบบเมืองที่ยังคงสภาพสมบูรณ์แทบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น หลุมฝังศพของอิสมาอิล ซามานีอันโด่งดัง ผลงานชิ้นเอกของสถาปัตยกรรมมุสลิมสมัยศตวรรษที่ 10 และโรงเรียนศาสนาจำนวนมากในศตวรรษที่ 17เมืองเปอร์เซียโบราณแห่งนี้เชื่อว่ามาจากภาษาเปอร์เซียมีความหมายว่า สถานที่แห่งความสุข นับเป็นศูนย์กลางสำคัญของวัฒนธรรมอิสลามมานานหลายศตวรรษ และกลายเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมที่สำคัญของศาสนาอิสลามในศตวรรษที่ 8 รวมทั้งเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจเมืองเคยถูกรุกรานจากหลายอาณาจักร นับตั้งแต่กรีกของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช เปอร์เซีย มองโกล เติร์ก จึงกลายเป็นดินแดนที่มีเรื่องราวของประวัติศาสตร์ซับซ้อนน่าสนใจ โดยมียุคทองรุ่งเรืองที่สุดในศตวรรษที่ 10-12 เมื่อถูกปกครองด้วยราชวงศ์ซามานิดของเปอร์เซียปัจจุบัน บูคารา เป็นประจักษ์พยานถึงความเป็นเมืองและสถาปัตยกรรมของยุคชีบานีในการปกครองอุซเบก ตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 16 เป็นต้นไป และมีป้อมปราการที่สร้างขึ้นใหม่ในศตวรรษที่ 16 ถือเป็นศูนย์กลางเมืองนับตั้งแต่ยุคแรกจวบจนถึงปัจจุบันอนุสรณ์สถานสำคัญที่หลงเหลือมาตั้งแต่ยุคแรกเริ่ม ได้แก่ สุสานอิสมาอิล ซามาไน ซึ่งเป็นตัวอย่างสถาปัตยกรรมที่ดีที่สุดในศตวรรษที่ 10 ในโลกมุสลิมที่ยังคงหลงเหลืออยู่ ตั้งแต่สมัยการาคานิดศตวรรษที่ 11 มีหอคอยสุเหร่า Poi-Kalyan ที่โดดเด่น ซึ่งเป็นผลงานชิ้นเอกของการตกแต่งด้วยอิฐ ร่วมกับมัสยิด Magoki Attori และศาลเจ้า Chashma Ayub เป็นต้นอย่างไรก็ตาม ความสำคัญที่แท้จริงของบูคาราไม่ได้อยู่ที่อาคารโบราณแต่ละหลัง แต่อยู่ที่ภูมิทัศน์เมืองโดยรวม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการวางผังเมืองและสถาปัตยกรรมในระดับสูงตั้งแต่อดีต จนได้รับสถานะเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก ตั้งแต่ปี ค.ศ.1993 โดยพื้นที่มรดกมรดกโลกประกอบด้วย Po-i-Kalyan Mosque Complex จตุรัสที่รวมหอคอย The Kalyan Minaret, มัสยิด และโรงเรียนสอนศาสนาทุกวันนี้ บูคารา กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงเมื่อไปเยือนอุซเบกิสถาน เพราะเป็นเสมือนโอเอซิสขอบเส้นทางสายไหมโบราณ โดยบรรยากาศและความงดงามนั้นยังแถบไม่เปลี่ยนแปลงไปจากอดีต และได้รับการกล่าวขานว่าเป็น Museum City หรือเมืองแห่งพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่ยังมีลมหายใจแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับผู้จัดการออนไลน์https://mgronline.com/travel/detail/9670000081209
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ประกันชีวิต
03/09/2024
เอไอเอ ประเทศไทย มอบน้ำดื่มขนาด 600 มล. จำนวน 6,000 ขวด เพื่อให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนแก่ผู้ประสบอุทกภัยใน 2 พื้นที่ของเชียงราย ผ่านสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) โดยมีนางพรทิพย์ อินทวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน คปภ. จังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เพื่อมอบน้ำดื่มสะอาดให้แก่ศูนย์รับบริจาคชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านตำบลบ้านแซวเพื่อพี่น้องประสบภัยน้ำท่วม ตำบลบ้านแซว อำเภอเชียงแสน และศูนย์ประสานงานผู้ประสบภัยเทศบาลตำบลเม็งราย จังหวัดเชียงราย นอกจากนี้ ตัวแทนประกันชีวิต เอไอเอ ประเทศไทยยังได้ลงพื้นที่เพื่อมอบถุงยังชีพที่เพื่อนพนักงานและพลังตัวแทนร่วมกันบรรจุอาหาร น้ำดื่ม และของใช้ที่จำเป็น จำนวนกว่า 2,500 ชุด มอบให้แก่ประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ต่าง ๆ ได้แก่ อ.เมือง อ.ท่าวังผา อ.ปัว อ.เวียงสา จังหวัดน่าน อ.เชียงของ อ.เวียงแก่น อ.เทิง จังหวัดเชียงราย อ.เมือง อ.หนองม่วงไข่ อ.ร้องกวาง อ.สูงเม่น อ.สอง จังหวัดแพร่ อ.เมือง อ.สวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย อ.เชียงม่วง จ.พะเยา และ อ.ฟากท่า อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์สำหรับการเร่งให้ความช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประสบภัยอุทกภัยในครั้งนี้ ถือเป็นการแสดงพลังเพื่อส่งมอบขวัญกำลังใจไปยังพี่น้องประชาชนที่ประสบความยากลำบากได้มีน้ำดื่มสะอาด อาหาร และสิ่งของจำเป็นไว้ใช้อุปโภค-บริโภค ซึ่งตอกย้ำถึงพันธกิจ AIA One Billion ที่เอไอเอมุ่งมั่นอย่างยิ่งในการสนับสนุนให้คนไทยและผู้คนกว่าพันล้านคนมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ตามคำมั่นสัญญา ‘Healthier, Longer, Better Lives’ทั้งนี้ เอไอเอ ขอแสดงความห่วงใยและส่งกำลังใจให้ถึงผู้ประสบภัยน้ำท่วมทุกครอบครัว รวมถึงเจ้าหน้าที่ทุกท่านที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าสถานการณ์น้ำท่วมจะคลี่คลายกลับสู่ภาวะปกติในเร็ววัน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ข่าวการเงิน
30/08/2024
เทคนิคการจัดสรรแนวคิดของตนเองให้มีเงินเก็บ เกิดวางแผนการเงิน และสร้างโอกาสการเป็นเศรษฐีที่มีความสุขได้ในอนาคตฝันในการเป็นเศรษฐีที่เราสามารถสร้างทุกอย่างได้ด้วยตัวเอง คงเป็นเป้าหมายหลักที่ใครหลายๆ คนใฝ่ฝัน แต่มีน้อยคนนักที่จะบรรลุเป้าหมาย อย่างไรก็ตามหากมีการวางแผนในทิศทางที่ถูกต้อง มีกลยุทธ์ที่รอบคอบ และความอุตสาหะ ทั้งหมดนี้สามารถช่วยให้บรรลุเป้าหมายทางการเงินนี้ได้องค์ประกอบหลักสำคัญของแนวคิดนี้คือ การสร้างทัศนคติเชิงบวก และการรักษาความพากเพียร แม้จะเผชิญกับความล้มเหลวก็ตาม แต่สามารถเก็บเกี่ยวประสบการณ์มาสร้างแรงบรรดาลใจได้โดยไม่ย่อท้อปัจจุบันการจะมีเงินเก็บที่เพียงพอ จนไปถึงการเป็นเศรษฐีได้นั้น คือ ทุกคนต้องมีการกำหนดเป้าหมายทางการเงินที่ชัดเจนตั้งแต่อดีต-อนาคต รวมถึงการสร้างรายได้หลายช่องทาง การออม การลงทุนอย่างชาญฉลาด และการพัฒนาทักษะอย่างต่อเนื่อง จะช่วยเพิ่มเส้นทางการสร้างความมั่งคั่งทางการเงินได้อีกด้วย รวมถึงวินัยและความอดทน ทั้งหมดนี้เป็นก้าวพื้นฐานสู่ความสำเร็จทางการเงินที่ใครๆ ก็สามารถก้าวไปสู่การเป็นเศรษฐีได้7 แนวคิดในการมีเงินเก็บให้พอใช้ สู่เส้นทางการเป็นเศรษฐีในอนาคต1. ปลูกฝังแนวคิดของเศรษฐีการที่จะมีเงินเก็บจนมีรายได้เทียบเท่ากับการเป็นเศรษฐีนั้นต้องเริ่มต้นจากกรอบความคิดของตัวเองเป็นลำดับแรก โดยเศรษฐีที่สร้างตัวเองได้และประสบความสำเร็จ มักจะมีลักษณะที่เหมือนกันดังต่อไปนี้แนวคิดเชิงบวก : มองโอกาสที่เข้ามา อย่าเพิ่งกลัวสิ่งที่จะเกิดขึ้น และเชื่อในความสามารถของตัวเองในการบรรลุความมั่งคั่งความพากเพียร : ผู้ที่มุ่งมั่นต่อเป้าหมาย มีความอดทน แม้จะมีความพ่ายแพ้ก็ตาม แต่ก็ไม่ยอมย่อท้อเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง : หมั่นแสวงหาความรู้ และพัฒนาทักษะของคุณอย่างสม่ำเสมอ ความประหยัด : รู้จักประมาณการใช้จ่ายอย่างชาญฉลาด และลงทุนในสิ่งที่มีประโยชน์ ช่วยเพิ่มความมั่งคั่ง2. ตั้งเป้าหมายทางการเงินที่ชัดเจนการที่จะมีเงินเก็บ หรือร่ำรวยได้ ต้องตั้งเป้าหมายทางการเงินที่ชัดเจน โดยถ้าตนเองไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจนการเงิน และการจับจ่ายก็จะขาดทิศทาง ซึ่งการกำหนดเป้าหมายทางการเงินในระยะสั้น และระยะยาวถือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้แน่ใจว่าตนเองมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนว่าจุดหมายของคุณต้องการไปที่ไหน และจะไปถึงจุดนั้นได้อย่างไร ซึ่งท้ายที่สุดจะนำไปสู่ความมั่นคงทางการเงิน และความสำเร็จระยะสั้น : เก็บเงินตามจำนวนที่กำหนดในแต่ละเดือน ลดหนี้ หรือเพิ่มรายได้ เป็นต้นระยะยาว : การวางแผนการลงทุน เพิ่มโอกาสของรายได้ ซื้ออสังหาริมทรัพย์ หรือการวางแผนเกษียณก่อนกำหนด3. สร้างแหล่งรายได้ที่หลากหลายการสร้างแหล่งรายได้ที่หลากหลายเป็นสิ่งสำคัญในการสะสมความมั่งคั่ง และสร้างความมั่นคงทางการเงิน เช่น การลงทุน รายได้เสริม สิ่งเหล่านี้จะช่วยลดความเสี่ยง และภาระจากการพึ่งพาแหล่งรายได้เดียว แหล่งรายได้เหล่านี้ไม่เพียงเพิ่มศักยภาพในการสร้างรายได้ของคุณ แต่ยังสร้างรากฐานทางการเงินที่ยืดหยุ่นมากขึ้น ช่วยให้คุณสามารถจัดการกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ และคว้าโอกาสในการประสบความสำเร็จทางการเงินมากขึ้น4. ออม และลงทุนอย่างชาญฉลาด ปัจจุบันการแค่หาเงินเพิ่มเพื่อใช้จ่ายอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ ตัวเราเองต้องออม และลงทุนอย่างชาญฉลาด เมื่อคุณต้องการมีเงินเก็บ เพราะหากไม่มีวินัยในการออม และการลงทุนอย่างชาญฉลาด รายได้ที่เพิ่มขึ้นของคุณก็จะถูกใช้จ่ายไปโดยไม่จำเป็นการออมเป็นเงิน สำหรับการลงทุนจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากเพื่อทำให้เงินของคุณเติบโตเมื่อเวลาผ่านไป ผ่านดอกเบี้ยทบต้น เงินปันผล และการแข็งค่าขึ้น 5. ลด และจัดการหนี้ หนี้ เป็นอุปสรรคสำคัญในการที่จะมีเงินเก็บใช้อย่างพอเพียง เพราะ หนี้ทั้งหมดต่างมีดอกเบี้ยสูง เช่น ยอดบัตรเครดิต หรือสินเชื่อส่วนบุคคล อาจทำให้รายได้ของคุณลดลงอย่างรวดเร็ว และจำกัดความสามารถในการออมและลงทุนการจัดการและลดหนี้ควรเป็นหนึ่งสิ่งสำคัญที่ทำให้ได้ในอันดับแรก โดยการชำระหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูง-ต่ำ หรือหมั่นชำระหนี้ให้ได้ตามกลยุทธ์ของตนเอง และหลีกเลี่ยงการกู้ยืมเงินเพิ่มขึ้นหากไม่จำเป็น 6. พัฒนาทักษะตนเอง การตลาด หรือธุรกิจเมื่อโลกแห่งเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป การลงทุนกับตัวเองถือเป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรงในปัจจุบัน เพราะการพัฒนาทักษะตนเองเป็นจุดเริ่มต้นของธุรกิจที่สามารถสร้างรายได้มหาศาลมาให้เห็นแล้วหลายรายการได้รับทักษะที่มีความต้องการสูงสามารถเปิดประตูสู่โอกาสในการทำงานที่ร่ำรวย และความก้าวหน้าทางอาชีพได้ ทำให้การมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาส่วนบุคคลและวิชาชีพ คุณจะเพิ่มความสามารถในการสร้างรายได้มากขึ้น และสร้างอนาคตทางการเงินที่ยั่งยืน 7. ตรวจสอบ และปรับแผนทางการเงินของคุณทบทวนแผนทางการเงินของคุณเป็นประจำ และทำการปรับเปลี่ยนตามความจำเป็น และความแปรปรวนของตลาดโลก เพื่อให้เป็นไปตามแผน ด้วยการหมั่นติดตามความคืบหน้าของตลาด, ติดตามมูลค่าสุทธิ และประสิทธิภาพการลงทุนของคุณ ทั้งหมดเพื่อที่จะนำสิ่งเหล่านี้มาประเมินเป้าหมายทางการเงินของคุณใหม่เป็นระยะๆ และปรับเปลี่ยนตามความก้าวหน้า และสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปโดยหากตัวคุณสามารถทำได้ตามคำแนะนำข้างต้นเพียงสักเล็กน้อย จากคำแนะนำ คุณสามารถปูทางสู่อิสรภาพทางการเงิน และความสำเร็จได้ ส่วนความมุ่งมั่นตั้งใจจะพาคุณไปถึงจุดหมายของการเป็นเศรษฐีได้ในที่สุด.ข้อมูล : Forbesภาพ : istockแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับไทยรัฐออนไลน์https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/2801394
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ประกันภัย
30/08/2024
มีรถยนต์ในครอบครองแล้ว สิ่งที่เจ้าของรถไม่ควรมองข้ามคือการทำประกันรถยนต์ มองหากรมธรรม์ที่ตรงกับไลฟ์สไตล์การใช้รถ แถมยังต้องคำนึงถึงเบี้ยประกันที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือนอีก แล้วที่เราจ่ายเบี้ยประกันรถชั้น 1 ไปมีบริการอะไรที่คุ้มครองการใช้รถของเราบ้างนะบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชม. คืออะไรบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชม. บริการที่คุ้มครองการใช้รถยนต์ของเรา หลาย ๆ คนที่ซื้อรถยนต์มาใหม่ อาจจะยังไม่ทราบว่ามีบริการเหล่านี้ รวมอยู่ในกรมธรรม์ที่เราจ่ายเบี้ยประกันรถชั้น 1 ในแต่ละเดือนไปด้วย หากเกิดเหตุฉุกเฉิน ไม่ว่าจะเป็น น้ำมันหมด ยางแตก น้ำมันหมด รถเสียกลางทางในนอกพื้นที่อยู่ของเรา สามารถโทรแจ้งบริษัทประกันภัยได้ 24 ชม. เลยช่วยเหลือในการซ่อมแซมฉุกเฉินขับรถทางไกลนาน ๆ หน้าปัดรถขึ้นแจ้งเตือนสีแดง ต้องซ่อมถึงจะสตาร์ทและไปต่อได้ แต่มองไปทางไหนก็ไม่รู้จักใคร ในกรณีนี้ สามารถโทรแจ้งบริษัทประกันภัยรถว่ารถเราเสียอยู่ตรงไหน จากนั้นเจ้าหน้าที่ประกันจะติดต่อไปที่ศูนย์ประจำจังหวัดนั้น ๆ เพื่อซ่อมแซมรถคุณในกรณีฉุกเฉิน ไม่ว่าจะเกิดเหตุแบตเตอรี่หมด ยางแตก ฯลฯ ก็สามารถโทรเรียกใช้บริการได้เลย ช่วยเหลือกรณีสตาร์ทรถไม่ติดรถสตาร์ทไม่ติดสามารถเกิดได้จากหลายกรณี เช่น แบตเตอรี่รถเสีย เป็นต้น จ่ายเบี้ยประกันรถชั้น 1 ไปทั้งที กรณีนี้ก็ครอบคลุมถึงบริการพ่วงแบตเตอรี่ แต่จะไม่คุ้มครองกรณีแบตเตอรี่หมดอายุ เพราะฉะนั้นควรหมั่นตรวจเช็กสภาพรถก่อนออกเดินทางทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยในการเดินทางด้วยนะ ช่วยเหลือกรณีน้ำมันหมดเหยียบเพลินจนลืมดูน้ำมัน กรณีนี้ก็สามารถเกิดขึ้นได้เช่นกัน ดังนั้น หากเกิดเหตุการณ์นี้ให้ตั้งสติ และโทรแจ้งบริษัทประกันภัยว่าอยู่ตรงไหน และรถคุณใช้น้ำมันประเภทใด แค่นี้ก็จะมีบริการส่งเจ้าหน้าที่พร้อมน้ำมันรถมาเติมให้คุณไปต่อได้เลยช่วยบริการขนส่งรถถึงแม้จะโทรใช้บริการซ่อมแซมฉุกเฉินไปแล้ว แต่รถก็ยังไม่สามารถสตาร์ทได้ ก็มีบริการรถลากจูง หากรถไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ ที่ครอบคลุมอยู่ในงบเบี้ยประกันรถชั้น 1 ที่เราจ่ายไป เพื่อนำไปส่งศูนย์ซ่อมแซมรถยนต์ โดยอาจจะต้องศึกษาเงื่อนไขของแต่ละบริษัท เพราะส่วนใหญ่รถลากจะบริการลากฟรีในระยะทาง 20 กิโลเมตร และมีค่าส่วนต่าง หากระยะทางเกินกว่ากำหนดได้ ประกันรถยนต์ชั้น 1 ความอุ่นใจที่คนมีรถต้องมีเพิ่มความปลอดภัยในการใช้รถด้วยจ่ายเบี้ยประกันรถชั้น 1 เพราะสามารถคุ้มครองและครอบคลุมได้ทุกสถานการณ์ เช่น อุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด กรมธรรม์ที่ยังคุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินส่วนบุคคลภายนอกรถอีกด้วย ไม่ว่าคุณจะเป็นฝ่ายถูกหรือฝ่ายผิด หรือรถเกิดเสียกลางทางก็อุ่นใจได้เลย กับบริการที่ครอบคลุมเพื่อคนใช้รถจริง ๆ ค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 แพงไหมบริการที่ครอบคลุมทั้งตัวรถยนต์ การโจรกรรม อุบัติเหตุ รวมทั้งคุ้มครองค่าเสียหายที่เกิดขึ้น ค่ารักษาพยาบาลของผู้ขับและคนโดยสารแบบนี้ เบี้ยประกันรถชั้น 1 ก็ไม่แพงเลย พร้อมบริการต่าง ๆ ในราคาที่ประหยัดถึง 30% ผ่อนจ่ายได้สูงสุด 10 เดือนโดยไม่มีดอกเบี้ย นอกจากนี้ยังเปรียบเทียบราคาและความคุ้มค่าได้ทันทีสรุปเหตุการณ์ฉุกเฉินบนท้องถนนอาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ไม่ว่าจะรถเสีย สตาร์ทไม่ติด หรืออุบัติเหตุต่างๆ การมีประกันรถยนต์จึงช่วยให้ผู้ขับขี่อุ่นใจในทุกเส้นทาง ด้วยความคุ้มครองที่ครอบคลุม โดยเฉพาะประกันชั้น 1 ที่มาพร้อมบริการฉุกเฉินตลอด 24 ชม.แหล่งที่มาข่าวต้นฉบับสยามรัฐออนไลน์https://www.siamrath.co.th/n/546359
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ห้องแสดงนิทรรศการ
30/08/2024
ธีรยุทธ บุญมี วันเปิดแสดงนิทรรศการเดี่ยว ‘บนเส้นทางศิลปะ: Journey on Art Manifolds’ เผยความในใจทำไมเอกชนไม่จ้างทำงาน รายได้จากการวาดรูปเป็นทุนวัยเกษียณ คนเดือนตุลาคมร่วมแสดงความยินดี, หงา คาราวาน มอบบทเพลง 'แสงดาวแห่งศรัทธา'นิทรรศการ บนเส้นทางศิลปะ : Journey on Art Manifolds สร้างความอัศจรรย์ใจให้ทั้งบุคคลทั่วไปผู้ศรัทธาในการวิเคราะห์วิจารณ์การเมืองไทย แม้แต่มิตรสหายใกล้ตัว มิตรสหายในแวดวงการเมือง ลูกศิษย์เนื่องจากภาพวาดสีน้ำมัน สีน้ำ สีพาสเทล จำนวน 105 ภาพ ในนิทรรศการนี้วาดโดยมือของบุรุษผู้มีนามว่า ธีรยุทธ บุญมี อดีตเลขาธิการศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย และผู้นำนักศึกษาในเหตุการณ์ 14 ตุลา (พ.ศ.2516) บาดแผลประเทศซึ่งถูกจารึกไว้ด้วยคำว่า “วันมหาวิปโยค”ธีรยุทธ บุญมี เป็นนักวิชาการ นักวิจารณ์การเมือง นักเขียนรางวัลศรีบูรพา เคยเป็นอาจารย์ประจำคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้รับแต่งตั้งเป็นศาสตราจารย์ สาขามนุษยวิทยา ในปี พ.ศ.2555 ด้วยวิธีพิเศษธีรยุทธ บุญมี บนเส้นทางศิลปะศาสตราจารย์ธีรยุทธ บุญมี แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ ศิลปะ ไว้ว่า “การสร้างสรรค์หรือนวัตกรรมเป็นส่วนหนึ่งของ DNA ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อการดำรงอยู่ของมนุษย์ ไม่ว่าจะใช้ในทิศทางศิลปะหรือวิทยาศาสตร์มนุษย์สร้างสรรค์วิทยาศาสตร์เพื่อเข้าใจโลก ขณะที่ทำงานศิลปะเพื่อเข้าใจตัวเอง เข้าใจความรู้สึกที่ตัวเองมีต่อโลกและเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ซึ่งทั้งสองด้านล้วนต้องอาศัยการทำความเข้าใจสิ่งที่ตัวเองจะศึกษา สังเกต วิเคราะห์ ทดลอง ลงมือทำ แก้ไข เปลี่ยนแปลง ลองผิดลองถูก ก่อนนำไปสู่บทสรุปถ้าข้อสรุปตรงกับกฎเกณฑ์ของโลก ก็เป็นทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ ถ้าผลงานสื่อสารความหมาย ความงาม อารมณ์อย่างสอดคล้องกับจริตของผู้คนแต่ละยุคสมัย ก็จะเป็นผลงานศิลปะ”นิทรรศการ บนเส้นทางศิลปะ : Journey on Art Manifolds จัดแสดงภาพวาดศิลปะสัจนิยม (Realism) หรืองานที่เหมือนจริงตามที่ปรากฏอยู่ในธรรมชาติที่ศิลปินเดินทางไปถึง เช่น ดอยอ่างขาง ดอยภูคา เชียงดาว ภูชี้ฟ้า หลี่ผี ปาย ภูแว เกาะสีชัง อ่าวนาง น้ำตกพลิ้ว คอนพะเพ็ง ฝั่งอันดามัน ภาพดอกไม้สุภาพ คลี่ขจาย เปิดเส้นทางสายศิลปะของ 'ธีรยุทธ บุญมี'ในงานเปิดนิทรรศการ “บนเส้นทางศิลปะ: Journey on Art Manifolds” เมื่อวันพฤหัสฯ ที่ 22 สิงหาคม 2567 ธีรยุทธ บุญมี กล่าวถึงเหตุการณ์ประทับใจที่เกิดขึ้นกับงาน ศิลปะ เป็นครั้งแรก ไว้ว่า“เริ่มมาจากฉากลิเก พ่อผมเป็นนายทหารจ่าสิบเอกเท่านั้น งานอดิเรกชอบดนตรีไทย ก็รับเป็นโต้โผลิเกด้วย ฉากลิเกก็จะมาวาดอยู่แถวหน้าบ้านผม ผมก็ดูว่าเขาเก่งนะ วาดเสากลมๆ ลายสวย และทำให้ดูลึกเข้าไปในท้องพระโรง ตอนนั้นผมเรียน ป.2-3 ก็อยากจะลองเขียนดู เขาก็ยอมให้เราลองเขียนสีเขียวสีแดง”หลังเข้าศึกษาต่อระดับมัธยมที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย พ.ศ.2512 ผลงานการวาดภาพยังทำให้ ธีรยุทธ บุญมี เป็นที่รักของครูสอนศิลปะประจำโรงเรียน ขนาดลืมนำจานสี-พู่กัน ครูก็มีสำรองเตรียมไว้ให้ แทนที่จะหัก 1 คะแนนพ.ศ.2516 ช่วงเวลาที่ต้องศึกษาต่อระดับปริญญาตรี ธีรยุทธตัดสินใจเลือกเรียนวิศวกรรมไฟฟ้าที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ยอมเก็บความชื่นชอบศิลปะไว้ในใจการอุบัติขึ้นของสถานการณ์การเมืองพ.ศ.2516 และการเดินทางไปใช้ชีวิตในป่าแถบจังหวัดน่าน พ.ศ.2519 ทำให้เขาเดินคู่เคียงกับการเมืองไทยมาจนถึงวันนี้ในฐานะนักวิชาการ-นักคิด ผู้วิเคราะห์วิจารณ์การเมืองไทย โดยมักสวม ‘เสื้อกั๊ก’ ขณะออกมาแสดงความคิดเห็นจนกลายเป็นสัญลักษณ์ประจำตัวศ.ปรีชา เถาทอง ร่วมแสดงความยินดีในการแสดงงานศิลปะของ ธีรยุทธ บุญมี ด้วยการมอบภาพนี้ให้แล้วบอกช่วยวาดภาพนี้ให้เสร็จด้วย ตอนนั้น ศ.ปรีชา วาดไว้แล้ว 90%(บนจอด้านหลัง) ภาพของ ศ.ปรีชา เถาทอง (ซ้าย), ภาพที่วาดต่อเติมโดยธีรยุทธ บุญมี (ขวา)“บนเส้นทางศิลปะ: Journey on Art Manifolds” ไม่ใช่นิทรรศการแสดงผลงานศิลปะครั้งแรกของ ธีรยุทธ บุญมี ก่อนหน้านี้เมื่อปีพ.ศ.2548 เขาเคยจัดแสดงนิทรรศการเดี่ยว สีน้ำ เพื่อนำรายได้มอบให้ผู้ประสบภัยสึนามิครั้งใหญ่ที่ภาคใต้ของไทยตามมาด้วยงานแสดงภาพวาดหารายได้จัดตั้งกองทุนเพื่อสิทธิเสรีภาพ และการปฏิรูปสื่อ พ.ศ.2550 และนิทรรศการเดี่ยว สีน้ำ และสีพาสเทล “อิ่มสี” พ.ศ.2551ภาพสีน้ำมัน ขนาด 60 x 80 เซนติเมตร : Artist Collection (ในความหวงแหนของศิลปิน) นำมาจัดแสดงให้ชม ไม่ได้ตั้งราคาแซป่องไล ภาพสีน้ำมัน 60 x 80 เซนติเมตร ราคา 220,000 บาทภาพดอยภูคา สีน้ำมัน ขนาด 60 x 80 เซนติเมตร ราคา 220,000 บาทธีรยุทธ บุญมี ตอบคำถาม ‘ศิลปะ’ ในมุมมองของเขาเป็นอย่างไร ไว้ว่า“ศิลปะเป็นเรื่องที่พื้นๆ ได้ ใครทำก็ได้ เป็นเหมือนสมบัติร่วม - กิจกรรมร่วมของมนุษย์ เด็กรุ่นใหม่มาทำเป็นไอแพดอาร์ต ไอโฟนอาร์ต อาร์ตทอย เอ็นเอฟที เอาเกมเอากีฬามาร่วมอยู่ในงานศิลปะได้ ดีโมเครไทเซชั่นของศิลปะ (democratization การทำให้เป็นประชาธิปไตย) เกิดขึ้นมากกว่ารุ่นผมในตอนต้นโดยส่วนตัว ผมขบถต่อการแบ่งเป็นศิลปะสูงกับศิลปะขั้นต่ำ พวกศิลปะขั้นต่ำให้เรียกช่าง ช่างไม้ ช่างปูน ขั้นสูงเรียกศิลปิน จิตรกร การขบถนี้เกิดปี 1950-1960s เริ่มจากอังกฤษ และยุโรปแล้วตามมาเมืองไทย ผมร่ำเรียนมนุษยวิทยาก็ศึกษาเรื่องนี้มา เขาลดสูงกับต่ำให้กลายเป็นตัวเดียวคือ มีแค่ ‘วัฒนธรรม’ แปลว่าวิถีชีวิต ไม่ได้แปลว่าของสูง วัฒนธรรมไม่ได้แปลว่าสิ่งที่สูงเด่นมีค่า แต่เป็นอะไรที่เป็นวิถีชีวิตของคนผมอยากจะเห็นศิลปะสื่อออกไปโดยใครก็ได้ และสื่อออกไปในลักษณะไม่ใช่ทำให้ขลังทำให้ศักดิ์สิทธิ์จนเกินไป แต่ผู้คนเสพได้”สีน้ำมัน 50 x 70 เซนติเมตร ราคา 250,000 บาทธีรยุทธ บุญมี เล่าเทคนิคการให้แสงเงาในภาพเจดีย์ วาดด้วยสีน้ำมัน ขนาด 70 x 90 เซนติเมตร (ราคา 300,000 บาท)หลี่ผี 2 : สีน้ำมัน 55 x 75 เซนติเมตร ราคา 200,000 บาทคนเดือนตุลา ธีรยุทธ บุญมี ในวัย 74 ปี กล่าวถึงความเหนื่อยในการเป็นนักวิจารณ์การเมืองที่เก็บไว้เป็นความในใจมาตลอดชีวิต และความรักใน ‘งานศิลปะ’ กำลังช่วยซับเหงื่อ และบำบัดร่องรอยสุขภาพที่ร่วงโรยตามวัย“ผมไปทำงานหากินอะไรอย่างอื่นเกือบไม่ได้เลย ที่วาดรูปส่วนหนึ่งเป็นรายได้ให้ผมเป็นทุนสำหรับวัยเกษียณได้ ถ้าเราจะทำงานเพื่อหารายได้ ต้องไปทำงานที่ไม่อยู่ในกรอบ บริษัทไม่จ้างผม เพราะไม่รู้ว่าวันไหนผมจะออกมาด่ารัฐบาลแบบไหนยังไง อันตรายมาก ผมก็เข้าใจนะเพื่อนทุกคนที่เป็นเจ้าของบริษัท ผมคิดว่าเขารู้จุดนี้ เราจึงต้องเป็นคนซึ่งอยู่ในวัตรปฏิบัติที่ดีพอสมควร นักต่อสู้อาจจะเป็นอย่างนี้ แต่ผมพอใจผมพูดได้ว่า ผมไม่เข้าไปเล่นการเมือง ไม่เคยมีพรรคพวกอยู่ในการเมืองฝ่ายไหน ผมก็วิจารณ์อย่างแฟร์ๆ ของผมไป มีนักการเมืองนั่งอยู่ที่นี่หลายพรรค ผมคิดว่ายืนยันได้ และผมก็ไม่เคยมีผลประโยชน์เกี่ยวข้องกับกลุ่มไหนก๊วนไหน นักธุรกิจหรืออะไรทั้งสิ้น ก็ดำรงตนในส่วนที่ผมเป็นอย่างนี้ ก็ภูมิใจ แต่บอกว่าเหนื่อยไหม ก็เหนื่อย”ดอยอ่างขาง 1 : ภาพสีน้ำมัน 80 x 100 เซนติเมตร ราคา 220,000 บาทสีชัง 1 ,2, 3 : สีน้ำมันบนผ้าใบ ขนาด 60 x 90 เซนติเมตรสีพาสเทล ขนาด 24 x 34 เซนติเมตร (Artist Collection)อานันท์ ปันยารชุน ประธานเปิดนิทรรศการฯในงานเปิดนิทรรศการฯ ได้รับเกียรติจาก อานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงานเมื่อวันพฤหัสฯ ที่ 22 สิงหาคม 2567มีบุคลลในแวดวงการเมือง มิตรสหาย และประชาชนให้เกียรติร่วมแสดงความยินดีและร่วมงาน อาทิ สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์, นิพนธ์ บุญญามณี, สวัสดิ์ หอรุ่งเรือง, รสนา โตสิตระกูล, ดร.สุรพล นิติไกรพจน์, ขวัญสรวง อติโพธิ, สาธิต ปิตุเตชะ, สุรชัย จันทิมาธร (หงา คาราวาน), นิวัติ กองเพียร, ประสาร มฤคพิทักษ์สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์, สาธิต ปิตุเตชะ, สวัสดิ์ หอรุ่งเรืองนิพนธ์ บุญญามณีหงา คาราวาน ร่วมแสดงความยินดีด้วยบทเพลง 'ดอกไม้ให้คุณ' และ 'แสงดาวแห่งศรัทธา'นิวัติ กองเพียรผู้มาให้กำลังใจธีรยุทธ บุญมีผู้ชื่นชอบผลงานศิลปะของ ศ.ธีรยุทธ บุญมี สามารถเข้าชม และเป็นโอกาสอันดีที่จะได้นำผลงานของอาจารย์กลับไปชื่นชมเป็นส่วนตัว ภาพวาดมีหลายขนาดให้เลือก ราคาระหว่างภาพละ 15,000-500,000 บาท เฉพาะวันงานเปิดนิทรรศการฯ มีผู้จองภาพเขียนแล้ว 24 ภาพคนเดือนตุลา 'ธีรยุทธ บุญมี' เล่าด้วยว่า ตั้งแต่นิทรรศการฯ เปิดให้เข้าชมวันแรก (20 ส.ค.2567) เขาแวะเวียนมาสถานที่จัดงานเป็นระยะ เห็นเด็กรุ่นใหม่เข้ามาชมงาน ลองถามเด็กๆ ว่า “รู้จัก ธีรยุทธ บุญมี มั้ย”“ผมดีใจมาก เด็กบอกรู้จัก เพราะเป็นเด็กมัธยม รู้จักเพราะเรียนเอกสังคม มีเรื่องการเมืองเลยรู้จัก นอกนั้นไม่รู้จักหรอก” ธีรยุทธ เล่าไปยิ้มไป“แต่เมื่อวันสองวันเองที่นี่ ผมดีใจมาก มีแขกที่มาดูนิทรรศการฯ ขอถ่ายรูปกับขอลายเซ็น เป็นคนจีน เป็นครั้งแรกที่ผมถูกขอถ่ายรูป และขอลายเซ็นโดยไม่ใช่ธีรยุทธ บุญมี แต่ในฐานะศิลปินเริ่มจะชักแอบอ้างเกินไปแล้วว่าเป็นศิลปิน ตอนแรกเรียกว่า ‘ชายขอบ’ คือรู้สึกดีใจ เขาขอถ่ายรูปเพราะเห็นรูปที่เราทำ แสดงว่ารูปเราพอจะมีความหมายมีคุณค่า”ภูชี้ฟ้า 2 : สีน้ำมันบนผ้าใบ ขนาด 100 x100 เซนติเมตรลายเซ็นศิลปินชายขอบ ธีรยุทธ บุญมี บนภาพวาดของเขาห้อง New Gen Space หอศิลป์ กทม. บรรยากาศก่อนพิธีเปิดนิทรรศการฯนิทรรศการ “บนเส้นทางศิลปะ: Journey on Art Manifolds” ของ ธีรยุทธ บุญมี จัดแสดงในระหว่างวันที่ 20 สิงหาคม - 1 กันยายน 2567 ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ชั้น 3 ห้อง New Gen Space: Space for All Generations โดยมูลนิธิเอสซีจี • เวลา 10.00-20.00 น. • ทุกวันอังคาร-วันอาทิตย์ ปิดบริการทุกวันจันทร์พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์แหล่งที่มาข่าวต้นฉบับกรุงเทพธุรกิจhttps://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/art-living/1141973
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ท่องเที่ยว
30/08/2024
ชวนชมอันซีนไทยแลนด์ “แปลงดอกเอื้องลิ้นมังกร” ที่ภูหมู อช.ภูสระดอกบัว จ.มุกดาหาร ซึ่งช่วงนี้กำลังออกดอกบานสะพรั่งเต็มแปลง คาดบานเยอะที่สุดในเมืองไทย โดยฤดูกาลออกดอกของเอื้องลิ้นมังกรจะอยู่ในช่วง ส.ค.-ต.ค. ของทุกปีถือเป็นอีกหนึ่งอันซีนไทยแลนด์ที่คนส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยรู้จักสำหรับ “ทุ่งดอกเอื้องลิ้นมังกร” ในเขตอุทยานแห่งชาติภูสระดอกบัว บริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติฯ ที่ ภบ.1 (ภูหมู) ท้องที่ตำบลนิคมคำสร้อย อำเภอนิคมคำสร้อย จังหวัดมุกดาหาร ซึ่งช่วงนี้ดอกเอื้องลิ้นมังกรสีชมพูกำลังออกดอกบานสะพรั่งเต็มแปลงดอกเอื้องลิ้นมังกรสีชมพู ที่ภูหมู(ภาพจาก : ช่อง เมืองไทยที่หนึ่ง)เอื้องลิ้นมังกร หรือ ลิ้นมังกร,สังหิน,ปัดแดง เป็นกล้วยไม้ดินหายาก มีหัวในดินแบบมันฝรั่ง ลำต้นบนดินสั้น ใบเป็นรูปรีแถบ รูปขอบขนาน ปลายแหลม แผ่นใบบางส่วนดอกมีสีค่อนข้างหลากหลาย เช่น เหลือง เหลืองอมส้ม แสด แสดงอมแดง และชมพู โดยดอกจะออกเป็นช่อ ในช่อมีจำนวน 3-15 ดอก และจะทยอยบานเป็นเวลา 1-2 สัปดาห์ ทั้งนี้ฤดูออกดอกของเอื้องลิ้นมังกรจะอยู่ในช่วงสิงหาคม-ตุลาคม ของทุกปีแปลงดอกเอื้องลิ้นมังกร ที่ภูหมู อช.ภูสระดอกบัว (ภาพจาก : ช่อง เมืองไทยที่หนึ่ง)สำหรับแปลงดอกเอื้องลิ้นมังกรที่บริเวณ หน่วยพิทักษ์ฯ ภูหมู อุทยานฯภูสระดอกบัว จ.มุกดาหาร ยามเมื่อออกดอกเบ่งบานจะให้สีชมพูสะพรั่งสวยงามเต็มแปลง ซึ่งคาดว่าที่นี่เป็นแหล่งที่เอื้องลิ้นมังกรออกดอกพร้อมกันเยอะที่สุดในเมืองไทยแปลงดอกเอื้องลิ้นมังกร ที่ภูหมู อช.ภูสระดอกบัว (ภาพจาก : ช่อง เมืองไทยที่หนึ่ง)ขณะที่ “ภูหมู” เป็นภูเขาเล็ก ๆ มียอดภูสูง 356 เมตร จากระดับน้ำทะเล เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2513 ที่นี่ถูกสร้างโดยทหารอเมริกันใช้เป็นที่ตั้งสถานีจารกรรมการสื่อสารผาระเบียงตะวัน (ภาพจาก : ช่อง เมืองไทยที่หนึ่ง)ปัจจุบันภูหมูเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวอันโดดเด่นของอุทยานฯภูสระดอกบัว โดยตอนเช้านักท่องเที่ยวสามารถไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ผาระเบียงตะวันส่วนตอนเย็นไปชมพระอาทิตย์ตกที่ผาพบรัก นอกจากนี้ยังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติภูสระดอกบัวที่ พบ.1(ภูหมู) ให้ผู้สนใจได้เดินท่องป่าศึกษาธรรมชาติและสิ่งที่น่าสนใจกันทั้งนี้ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 042 620 615 หรือที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ : อุทยานแห่งชาติภูสระดอกบัว - Phu Sa Dok Bua National Parkผาพบรัก (ภาพจาก : ช่อง เมืองไทยที่หนึ่ง)แหล่งที่มาข่าวต้นฉบับผู้จัดการออนไลน์https://mgronline.com/travel/detail/9670000079795
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ข่าวการเงิน
28/08/2024
บทความโดย "กัลยวีร์ โรจน์สุขพัฒนา" นักวางแผนการเงิน CFP® สมาคมนักวางแผนการเงินไทยสมัยนี้การเลี้ยงลูกหนึ่งคนมีค่าใช้จ่ายไม่น้อย โดยเฉพาะค่าเล่าเรียน ที่เป็นค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่และสำคัญต่ออนาคตของลูก ดังนั้น พบว่าช่วงใกล้เปิดเทอมก็จะเห็นพ่อแม่หลายคนเตรียมเงินเพื่อจ่ายค่าเทอมไม่ทัน หรือมีแต่ไม่เพียงพอจึงต้องวิ่งวุ่น ดิ้นรนหามาให้ทันกำหนดชำระ แม้จะต้องหยิบยืมคนรู้จัก กู้ยืมจากสถาบันการเงิน การนำของไปจำนำที่โรงรับจำนำ หรืออาจเข้าตาจนก็ต้องกู้เงินนอกระบบก่อนตัดสินใจกู้เงินหรือเป็นหนี้ สิ่งแรกที่พึงกระทำ คือ ควรประเมิน/ทบทวนสถานะการเงินของตัวเอง หากมีเงินออมในส่วนอื่นที่สามารถดึงออกมาใช้ได้ก่อนโดยไม่ผิดเงื่อนไข หรือไม่กระทบแผนการเงินในส่วนอื่น วิธีนี้น่าจะเป็นคำตอบที่ดีแม้อาจทำให้สูญเสียวินัยการออม หรือเลื่อนการบรรลุเป้าหมายการเงินอื่นออกไป เพราะอย่างน้อยนี่คือเงินของเราเอง ไม่ต้องพึ่งพาเงินของใคร หรือดึงเงินสำรองฉุกเฉินออกมาใช้ก่อนแต่ก็ต้องรีบสะสมคืนกลับมาด้วย หรือหากไม่มีเงินเก็บออมเพียงพอ ก็ต้องใช้วิธีการหยิบยืมเงินจากคนใกล้ชิดหรือญาติสนิทแต่ถ้าไม่มีทางเลือกจริง ๆ อาจจำเป็นต้องพึ่งพาเงินกู้จากสถาบันการเงิน อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะเป็นทางออกที่ดีแต่ก็ต้องศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจแหล่งเงินกู้บัตรเครดิตหรือบัตรกดเงินสดการจ่ายค่าเทอมด้วยบัตรเครดิตจะทำให้ไม่ต้องจ่ายเงินสดในทันที จึงช่วยเลื่อนระยะเวลาในการจ่ายออกไปได้ เหมาะกับผู้ปกครองที่ไม่มีปัญหาเรื่องสภาพคล่อง สามารถชำระคืนเงินทั้งหมดภายในวันที่กำหนด (ไม่เสียดอกเบี้ยและได้รับคะแนนสะสมด้วย)สำหรับผู้ปกครองที่คิดว่าไม่มีสภาพคล่อง หรือต้องการระยะเวลาชำระคืนหนี้ที่ยาวนาน อาจพิจารณาการกดเงินสดฉุกเฉินจากบัตรกดเงินสดหรือบัตรเครดิต (ปัจจุบันสามารถกดเงินสดผ่านแอปพลิเคชันได้โดยไม่ต้องใช้บัตร) ข้อดีของบัตรสองประเภทนี้คือ ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน สามารกดเงินจากตู้เอทีเอ็มได้ตามวงเงินสินเชื่อที่ได้รับการอนุมัติ ไม่ต้องขอวงเงินกู้บ่อย เมื่อคืนเงินต้นก็จะได้วงเงินสินเชื่อคืนมาอัตโนมัติ แต่ข้อเสียคือ ภาระดอกเบี้ยที่ค่อนข้างสูง จึงควรรีบชำระคืนให้เร็วโดยอัตราดอกเบี้ยของบัตรกดเงินสดไม่เกิน 25% ต่อปี และไม่เกิน 16% ต่อปีสำหรับบัตรเครดิต แต่การกดเงินสดจากบัตรเครดิตจะมีค่าธรรมเนียมในการกด 3% และภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 7% ของค่าธรรมเนียมการกดอีกด้วย ดังนั้น หากต้องการใช้เงินด่วนเพื่อจ่ายค่าเทอมลูก การใช้บัตรกดเงินสดอาจมีค่าใช้จ่ายที่น้อยกว่าสินเชื่อส่วนบุคคลผู้ปกครองสามารถขอสินเชื่อส่วนบุคคล เพื่อนำเงินก้อนมาใช้จ่ายตามความจำเป็นได้ เช่น เพื่อการศึกษาของลูก โดยธนาคารหรือสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร จะพิจารณาจากรายได้ของผู้กู้ โดยบางแห่งอาจมีเงื่อนไขเพิ่มเติมเรื่องบุคคลหรือหลักทรัพย์ค้ำประกันด้วย โดยอัตราดอกเบี้ยจะแตกต่างไปในแต่ละธนาคาร แต่ไม่เกิน 25% ต่อปีโดยมากจะใช้เวลารอผลอนุมัติเพียงไม่กี่วัน ผู้กู้ก็จะได้รับเงินสดเข้าบัญชีธนาคาร วงเงินสูงสุด 5 เท่าของรายได้ และทยอยผ่อนชำระคืนทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นจำนวนงวดตามที่ได้ตกลงกันไว้ ตั้งแต่ 12 – 60 เดือน บางธนาคารสูงสุดถึง 72 เดือน ขึ้นกับนโยบายแต่ละแห่ง นอกจากนี้วงเงินกู้ที่ได้จะอนุมัติเป็นรายครั้ง ต่างกับกรณีวงเงินกู้ของบัตรกดเงินสดและบัตรเครดิตที่เมื่อชำระเงินต้นจะได้จำนวนวงเงินคืนกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษากองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เป็นกองทุนหมุนเวียนที่ช่วยสร้างโอกาสทางการศึกษา ไม่คิดดอกเบี้ยในระหว่างที่ศึกษาอยู่ ชำระเงินคืนหลังจากจบการศึกษาแล้ว มีวัตถุประสงค์ให้กู้ยืมเงินแก่นักเรียนหรือนักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์เพื่อเป็นค่าเล่าเรียน ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการศึกษา และค่าครองชีพระหว่างที่ยังศึกษาอยู่ ตั้งแต่ระดับมัธยมปลายสายสามัญ สายอาชีพ อาชีวศึกษา และอุดมศึกษา มีการแบ่งคุณสมบัติของผู้กู้ยืมเป็น 4 ลักษณะ • นักเรียนนักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ • นักเรียนนักศึกษาในสาขาวิชาที่เป็นความต้องการหลัก มีความจำเป็นต่อการพัฒนาประเทศ • นักเรียนนักศึกษาในสาขาวิชาที่ขาดแคลน • นักเรียนนักศึกษาที่เรียนดีโดย 3 กลุ่มแรกมีระยะปลอดหนี้ภายหลังสำเร็จการศึกษา 2 ปี ผ่อนชำระเงินคืนภายใน 15 ปี อัตราดอกเบี้ย 1% ต่อปี แต่หากกลุ่มที่ 2 และ 3 เป็นผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ จะได้อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0.75% ต่อปี สำหรับนักเรียนนักศึกษาในกลุ่มที่ 4 มีระยะปลอดหนี้ภายหลังสำเร็จการศึกษา 1 ปี ผ่อนชำระเงินคืนภายใน 10 ปี อัตราดอกเบี้ย 1% ต่อปี หากเป็นผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ด้วย จะได้อัตราดอกเบี้ยพิเศษเพียง 0.5% ต่อปีเท่านั้น ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำมาก กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา จึงถือเป็นแหล่งกู้เงินเพื่อการศึกษาที่ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของผู้ปกครองได้มาก ช่วยให้เยาวชนได้รับโอกาสทางการศึกษาเพื่อความก้าวหน้าในชีวิตสินเชื่อเพื่อการศึกษาปัจจุบันมีหลายสถาบันการเงินที่นำเสนอสินเชื่อเพื่อการศึกษาทั้งในและต่างประเทศ แต่ละแห่งอาจมีเงื่อนไขที่แตกต่างกันไป สามารถยื่นกู้ได้ตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลจนถึงระดับบัณฑิตศึกษา ผู้ปกครองที่ส่งบุตรหลานเรียนในหลักสูตร Inter หรือ English Program หากเกิดเหตุที่ทำให้การเงินสะดุดหรือมีปัญหาการเงินชั่วคราว สามารถกู้เงินจ่ายค่าเทอมไปก่อนได้ แล้วค่อยมาผ่อนชำระภายหลัง บางธนาคารสามารถยื่นกู้ได้สูงสุดถึง 10 ปี วงเงินส่วนใหญ่จะเป็นแบบตามค่าใช้จ่ายจริง ผู้กู้ต้องมีรายได้แน่นอนหรือประกอบธุรกิจส่วนตัว อาจเป็นบิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือญาติของนักเรียนนักศึกษา อายุของผู้กู้เมื่อนับรวมกับระยะเวลากู้จะต้องไม่เกิน 60 ปี และมักมีข้อกำหนดให้มีบุคคลค้ำประกันหรือหลักทรัพย์จำนองเป็นหลักประกันด้วยวางแผนชำระหนี้ก่อนตัดสินใจเลือกแหล่งเงินกู้ควรทราบก่อนว่ายอดผ่อนชำระต่อเดือนเป็นเท่าไร และเมื่อเทียบกับกระแสเงินสดที่เหลือต่อเดือนเพียงพอหรือไม่ (อย่าให้เกินกำลัง) เมื่อตัดสินใจกู้แล้ว ต้องวางแผนจ่ายหนี้ให้ดีและเรียงลำดับความสำคัญค่าใช้จ่ายแต่ละรายการ หากจำเป็นต้องดึงเงินสำรองบางส่วนมาใช้ด้วย อย่าลืมทยอยเก็บสะสมคืนกลับไป สิ่งสำคัญคือ ต้องงดก่อหนี้ใหม่และเมื่อรายรับเข้ามาให้จ่ายหนี้ก่อน ไม่อย่างนั้นอาจเผลอใช้จ่ายไปจนหมดควรทำตารางแสดงรายรับรายจ่ายล่วงหน้า 12 เดือน ประเมินดูว่าเดือนไหนที่ติดลบ เดือนไหนที่มีรายรับก้อนใหญ่เข้ามา เช่น โบนัส เช็คจากลูกค้า หรือเงินลงทุนที่ครบกำหนด จะทำให้เห็นภาพรวม วางแผนใช้จ่ายและชำระหนี้ได้ หากรายได้ไม่เพียงพอต้องหารายได้เพิ่มควบคู่ไปกับการลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นนอกจากนี้การเข้าไปเจรจาต่อรองกับทางโรงเรียนเพื่อขอผ่อนผันการชำระค่าเทอม ก็เป็นสิ่งที่ทำได้ไม่เสียหาย โดยปัจจุบันหลายโรงเรียนก็มีทุนการศึกษาช่วยเหลือนักเรียน หรือหลายบริษัทก็มีสวัสดิการกองทุนการศึกษาบุตรพนักงานท้ายที่สุดหากผู้ปกครองต้องไปเป็นหนี้ ก็อยากให้ทำความเข้าใจว่า หนี้การศึกษาคือ หนี้ที่มีความสำคัญในการพัฒนาตนเองและเพิ่มโอกาสในอนาคต ดังนั้น มีความสำคัญและมีคุณค่า เพราะการศึกษาเป็นการลงทุนในความรู้ ความสามารถหากลูกมีการศึกษาที่สูงขึ้น ก็จะทำให้ยิ่งมีโอกาสในชีวิตและหน้าที่การงานที่สูงขึ้น นำมาซึ่งรายได้ที่มากกว่าอย่างไรก็ตาม ถึงแม้หนี้การศึกษาคือ หนี้ที่ดี แต่ก่อนตัดสินใจกู้มาจ่ายค่าเทอม ควรตัดสินใจเลือก “วิธีการกู้ยืม” ที่เหมาะสมกับเงื่อนไขครอบครัวและส่งลูกเรียนอย่างสบายใจและเกิดประโยชน์ในระยะยาว โดยไม่ต้องกังวลเรื่องภาระหนี้แหล่งที่มาข่าวต้นฉบับประชาชาติธุรกิจออนไลน์https://www.prachachat.net/finance/news-1626375
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ประกันชีวิต
28/08/2024
ทุกวันนี้คนทำงานเริ่มตระหนักถึงความจำเป็นในการบริหารการเงินเพื่อเกษียณมากขึ้น ถือเป็นการเตรียมความพร้อมเรื่องค่าใช้จ่ายทั้งเรื่องสุขภาพและชีวิตความเป็นอยู่ให้เพียงพอกับภาวะเงินเฟ้อในอนาคต ซึ่งนอกจากการกระจายลงทุนในหลักทรัพย์ต่างๆ และการทำประกันสุขภาพแล้ว การทำประกันบำนาญก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่จะมาเนรมิตความสุขในวัยเกษียณได้เช่นกันประกันบำนาญคือ ประกันชีวิตที่เน้นการออมเงินคล้ายประกันสะสมทรัพย์ โดยผู้เอาประกันต้องชำระค่าเบี้ยประกันภัยตามระยะเวลาที่ทำสัญญาไว้ และจะได้รับผลประโยชน์ในรูปแบบการคืนเงินระหว่างทาง หรือเปรียบได้กับเงินบำนาญจนถึงอายุ 85 – 90 ปี โดยกรมธรรม์ยังให้ความคุ้มครองหากเสียชีวิตระหว่างสัญญา และเบี้ยประกันภัยที่ชำระยังเอาไปใช้ลดหย่อนภาษีได้อีกด้วยสำหรับคนที่ยังไม่แน่ใจว่าการทำประกันบำนาญจะมีประโยชน์มากเพียงใด เรามี 5 ข้อดีของการทำประกันบำนาญมาเล่าสู่กันฟัง ดังนี้1. ไร้ความกังวลในการใช้ชีวิตเกษียณ เพราะการทำประกันชีวิตแบบบำนาญช่วยการันตีเงินได้ ไม่ต้องกังวลใจว่าใครจะเป็นคนดูแลตอนอายุมากแล้ว โดยผู้ทำประกันบำนาญจะได้รับผลประโยชน์เป็นงวดๆ เท่าๆ กัน นำไว้ใช้เป็นค่าใช้จ่าย ซึ่งเงินส่วนมากที่จะได้รับหลังเกษียณมักเป็นเงินก้อน 2. ฝึกฝนวินัยอดออมตั้งแต่ยังมีแรงทำงาน การส่งเบี้ยประกันบำนาญ ไปเรื่อย ๆ จนครบกำหนดสัญญาเปรียบเหมือนการบังคับตัวเองให้ออมเงินสม่ำเสมอ ซึ่งต่างจากการออมเงินประเภทอื่นๆ ที่เราสามารถหมุนเงินไปใช้จ่ายอย่างอื่นก่อนได้ ดังนั้นหากเราจัดการเงินได้ไม่ดีพอ ก็อาจทำให้เงินที่ตั้งใจจะสมสมไว้ตอนเกษียณหมดไปอย่างรวดเร็ว 3. เลือกรับเงินบำนาญได้ตามใจ ปัจจุบันรูปแบบของเงินรับบำนาญ มีให้เลือกหลากหลาย เช่น แบบเงินรับบำนาญทุกปี ปีละ 15% 24% 36% ของจำนวนเงินเอาประกัน การเลือกจะทำประกันบำนาญที่ให้เงินบำนาญเท่าไหร่นั้น ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละคน ยิ่งได้เงินรับบำนาญมาก ยิ่งทำให้รู้สึกอุ่นใจมากกว่า4. เป็นมรดกทิ้งไว้ให้ลูกหลาน การทำประกันบำนาญนอกจากจะทำให้คุณภาพชีวิตในวัยเกษียณดีขึ้นแล้ว ยังเป็นการคุ้มครองชีวิต หากมีเหตุไม่คาดฝัน ก็ยังมีเงินก้อนเป็นมรดกให้กับผู้ที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ ซึ่งเป็นมรดกที่ได้รับการยกเว้นภาษี โดยหากเสียชีวิตก่อนรับเงินบำนาญ จะได้รับเงินทั้งหมด 105% หรือ 110% ของเบี้ยประกันภัยที่ชำระมาแล้วทั้งหมด5. เบี้ยประกันภัยนำไปลดหย่อนภาษีได้ ประกันบำนาญให้ผลประโยชน์ด้านภาษีด้วย โดยคนทำงานสามารถนำเบี้ยประกันภัยไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 300,000 บาทต่อปีหากคิดว่าการประกันบำนาญน่าเป็นตัวเลือกที่จะทำให้มีความสุขในวัยเกษียณ การเลือกทำประกันบำนาญจำเป็นต้องมองหาบริษัทประกันที่มีความเชี่ยวชาญและสามารถนำเสนอแผนประกันที่เหมาะสมและตรงกับความต้องการของผู้ทำประกันได้ด้วย ซึ่งอลิอันซ์ อยุธยา ได้นำเสนอแผนประกันบำนาญที่ยอดเยี่ยมและเหมาะกับเงื่อนไขด้านอายุและการรับความเสี่ยงที่แตกต่างกันได้ • แผน 1 ออมเงินระยะสั้น แต่มีใช้ไปยาวๆ ใกล้เกษียณแต่ยังออมทัน ใครอยู่ในวัยใกล้เกษียณ หรือผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไปก็อย่าท้อใจ ยังมีแผนประกันบำนาญ “มาย บำนาญ ไฟว์ A90/5 บำนาญแบบลดหย่อนได้ (มีเงินปันผล)“ ที่ใช้ระยะเวลาชำระเบี้ยประกันภัยสั้นเพียง 5 ปี แต่สามารถรับเงินบำนาญ 10% ของจำนวนเงินเอาประกันภัยทุกปี โดยรับได้ตั้งแต่อายุ 60-90 ปี ซึ่งระหว่างการจ่ายค่าเบี้ยประกันภัยยังสามารถนำค่าเบี้ยประกันภัยไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 300,000 บาทต่อปี นานถึง 5 ปี (ทั้งนี้ เป็นไปตามกฎเกณฑ์ของกรมสรรพากร) • แผน 2 วัยเกษียณยังอีกไกล ทยอยออมไว้ตอนนี้ มีเงินใช้หลังอายุ 60 แน่นอน เหมาะสำหรับคนที่เริ่มทำงานไม่นานหรืออายุ 30 ปีขึ้นไป แต่มองเห็นอนาคตวัยเกษียณเป็นเรื่องสำคัญ และต้องการค่อยๆ ออมไปเรื่อยๆ สามารถเลือกแผนประกันบำนาญ “มาย บำนาญ พลัส (บำนาญแบบลดหย่อนได้)” ที่ให้ผู้ทำประกันชำระเบี้ยประกันภัยได้ถึงอายุ 55 ปี จากนั้นรับเงินบำนาญแน่นอน 10% ของจำนวนเงินเอาประกันภัยได้ทุกปี มีใช้ไปยาวๆ ตั้งแต่อายุ 55 – 85 ปี นอกจากนี้ยังสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 300,000 บาทต่อปี (ทั้งนี้ เป็นไปตามกฎเกณฑ์ของกรมสรรพากร) ตลอดระยะเวลาการชำระเบี้ยประกันภัยสำหรับคนที่ต้องการวางแผนทางด้านการเงิน และคนที่ต้องการใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างอิสระ ไม่ต้องเป็นภาระของใคร การวางแผนทางการเงินด้วยการทำประกันบำนาญ ถือเป็นการอดออมตั้งแต่ยังทำงานได้ เพื่ออิสรภาพทางการเงินและสร้างความสุขในช่วงชีวิตหลังเกษียณ อีกทั้งยังสามารถเปลี่ยนเงินก้อนที่บริหารได้ยากให้เป็นผลประโยชน์ที่ได้รับเป็นงวดๆ งวดละเท่า ๆ กัน จึงช่วยป้องกันการใช้เงินเกินความจำเป็นจนอาจเดือดร้อนได้ในอนาคตอีกด้วยหมายเหตุ • มาย บำนาญ ไฟว์ A90/5 บำนาญแบบลดหย่อนได้ (มีเงินปันผล) และ มาย บำนาญ พลัส (บำนาญแบบลดหย่อน ได้) ให้ความคุ้มครอง โดย อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต • เงื่อนไข ความคุ้มครอง และผลประโยชน์ เป็นไปตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ • ลูกค้าควรทำความเข้าใจในรายละเอียด ความคุ้มครองและเงื่อนไข ก่อนตัดสินใจสมัครทำประกันชีวิตแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับประชาชาติธุรกิจออนไลน์https://www.prachachat.net/finance/news-1632185
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ห้องแสดงนิทรรศการ
28/08/2024
ในโอกาสฉลองครบรอบ 12 ปี ที่พิพิธภัณฑ์บ้านดำ (Baandam Museum) ร่วมกับ สยามพิวรรธน์ สร้างสรรค์ผลงานศิลปวัฒนธรรมสืบเนื่องมากว่าทศวรรษ ล่าสุด พิพิธภัณฑ์บ้านดำ ได้ร่วมกับ Wabisabi Spirit ในโปรเจ็กต์ Wabi-Sabi “THE SECRET JAPANESE GARDEN” Inspired by Thawan Duchanee “Back to the origins of Art & Nature“ Represented by Baandam Museum X Wabisabi Spirit เปิดประสบการณ์ใหม่จากผลงานศิลปะภาพฝีแปรงแบบฉับพลัน ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากวิถีแห่งเซน ผสานกับธรรมชาติในรูปแบบการจัดสวนแบบญี่ปุ่น ด้วยผลงานศิลปะระดับมาสเตอร์พีซของศิลปินแห่งชาติชิ้นสำคัญ ที่ไม่เคยแสดงที่ไหนมาก่อน ถอดรหัสการทำงานศิลปะ และเรียนรู้วิธีการออกแบบสวนในรูปแบบของ ถวัลย์ ดัชนี และผู้เชี่ยวชาญการจัดสวนญี่ปุ่นชั้นนำระดับโลก ภูริวัจน์ วรากิติยาวิโรจกุล CEO ของ Wabisabi spirit ที่จะพาไปเข้าถึงธรรมชาติในระดับ DNA และมารับพลังแห่ง The Years of Dragon ไปพร้อมกันกับของสะสมระดับ Museum piece ยุคเอโดะ อายุหลายร้อยปี ณ ชั้น 5 สยามพารากอน วันนี้-15 กันยายน 2567กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่แหล่งที่มาข่าวต้นฉบับผู้จัดการออนไลน์https://mgronline.com/celebonline/detail/9670000076310
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ท่องเที่ยว
28/08/2024
ชวนเที่ยว 'วนอุทยานเขานางพันธุรัต' ผืนป่าชุ่มเย็นที่มีมิติด้าน 'การท่องเที่ยว' 3 ด้าน ทั้งธรรมชาติ แหล่งธรณีวิทยาอายุร้อยล้านปี และตามรอยนางพันธุรัตในวรรณคดีการเดินเรือของคนสมัยก่อน จะอาศัยจุดสังเกตขนาดใหญ่เพื่อระบุทิศทาง อย่างที่ อ. ชะอำ จ.เพชรบุรี มีแนวเขาขนาดใหญ่ทอดยาวสลับซับซ้อน มองแต่ไกลเหมือนคนกำลังนอน จึงเรียกกันว่า เขานางนอน เป็นภาพจำของคนเดินเรือมาตั้งแต่อดีตแต่เรื่องราวของ การท่องเที่ยว ไทยยังมี Story ที่เชื่อมโยงและเล่าสู่กันฟังได้ไม่รู้จบ เช่นเดียวกับที่นี่ วนอุทยานเขานางพันธุรัต ผืนป่าชุ่มเย็นที่มีมิติด้านการท่องเที่ยวถึง 3 ด้านทั้งธรรมชาติสีเขียวชอุ่มซึ่งเป็นบ้านของสัตว์น้อยใหญ่ อีกทั้งยังเป็นแหล่งธรณีวิทยานับร้อยล้านปี และยังเป็นตำนานตามรอยวรรณคดีไทยอีกด้วยศาลแม่นางพันธุรัต ในวนอุทยานเขาพันธุรัตหาดชะอำ ยังคงคึกคักด้วยจำนวนนักท่องเที่ยว ไม่นานมานี้ ททท.ภูมิภาคภาคกลาง ชวนไปเติมความสุขสีฟ้าที่ชายหาดชะอำ และไปพบกับความชุ่มฉ่ำสีเขียวกันต่อ ในปี พ.ศ. 2541 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้เสด็จแปรพระราชฐานประทับที่ วังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในตอนนั้น ทรงมีพระกระแสรับสั่งให้แม่ทัพภาคที่ 1 ฟื้นฟูบริเวณที่เกิดการถล่มของ ภูเขาเจ้าลาย (เขานางพันธุรัต) และจัดการอนุรักษ์พื้นที่ป่าให้เป็นมรดกของชาติ และให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาตำนานตามวรรณคดีไทยทางเดินศึกษาธรรมชาติตามรอยตำนานนางพันธุรัต ชื่อของ วนอุทยานเขานางพันธุรัต มีที่มาจากวรรณคดีเรื่องสังข์ทอง ในตอนที่พระสังข์หลบหนีนางพันธุรัตจนเป็นเหตุให้นางต้องอกแตกตาย เพราะความรักในตัวพระสังข์ สอดคล้องกับลักษณะของ เขานางนอน นั่นเองในเส้นทางศึกษาธรรมชาติ หากเป็นระยะสั้นก็จะใช้เวลาเดินขึ้น-ลงไม่ถึงครึ่งชั่วโมง จากจุดเริ่มต้นเดินขึ้นไปตามบันได ถ้าไม่ใช่สายออกกำลังกายก็พอได้หอบกันเล็ก ๆ แต่ยืนยันว่าทางเดินสบาย แวะชมนกชมไม้ไปเรื่อย ๆร้านกาแฟจุดแรกจะเจอกับ ศาลแม่นางพันธุรัต เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวโดยทั่วไปจะเข้ามาสักการะบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคล ขอพรกันได้แทบทุกด้าน ยกเว้นเรื่องความรักเดินไปอีกนิดจะพบกับ กระจกนางพันธุรัต เป็นช่องเขาที่สามารถเดินผ่านได้ ตามตำนานเล่าว่า หลังจากที่นางพันธุรัตเลี้ยงดูพระสังข์เป็นลูก นางได้แปลงกายเป็นมนุษย์เพื่อไม่ให้พระสังข์รู้ว่าเป็นยักษ์ นางจึงใช้ช่องกระจกแห่งนี้ส่องดูรูปร่างหน้าตากระสุนเมล็ดพันธุ์ใกล้ ๆ กันคือจุดที่มองเห็น เมรุนางพันธุรัต เป็นแท่งหินลักษณะคล้ายเมรุเผาศพ ตามตำนานเล่าว่า หลังจากที่นางพันธุรัตอ้อนวอนพระสังข์จนอกแตกตาย จึงได้ทำศพนางพันธุรัตที่นี่ยิงกระสุนเมล็ดพันธุ์ยิงกระสุนเมล็ดพันธุ์ สืบสานตำนานป่า ย้อนไปตอนมาถึงที่ทำการวนอุทยานฯ หากอยากจะร่วมกิจกรรม ยิงกระสุนเมล็ดพันธุ์ (ค่าใช้จ่ายคนละ 50 บาท) ก็จะได้ลองปั้นกระสุนเมล็ดพันธุ์ที่ทำมาจากดินเหนียว แกลบ ขุยมะพร้าว มูลสัตว์ และเมล็ดพันธุ์พืชอาทิ ตะโกป่า หางนกยูง คูน ฯล ฯ ปั้นแล้วต้องตากแดดจัด ๆ 2 รอบ ก่อนที่จะนำมาใช้งานเมื่อถึงจุดชมวิว เราจะยิงกระสุนเมล็ดพันธุ์ด้วยหนังสติ๊ก เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้คงอยู่สืบไป บางคนไม่เคยยิงหนังสติ๊กมาก่อน จนต้องลองอยู่หลายครั้ง พอยิงออกไปได้ไกล ๆ ก็รู้สึกภูมิใจลึก ๆฟอสซิลปะการังแหล่งธรณีวิทยาอายุกว่า 250 ล้านปี ด้วยสภาพทางธรณีวิทยาปรากฏให้เห็นหลักฐานว่า ในอดีตกาลที่นี่เคยเป็นทะเลมาก่อน บริเวณลานกางเต็นท์จะมีกลุ่มหินที่จัดแสดงหลักฐานทางธรณีวิทยา เป็นซากดึกดำบรรพ์ (ฟอสซิล) อายุประมาณ 250 ล้านปี ประกอบด้วย ปะการัง, พลับพลึงทะเล, คตข้าวสาร และหอยต่าง ๆสำหรับนักท่องเที่ยวสายชิล มาแล้วอยากจะดื่มด่ำบรรยากาศให้เต็มที่ สามารถใช้บริการลานกางเต็นท์ได้ฟรี ภายในวนอุทยานฯ มีห้องน้ำ พร้อมทั้งร้านกาแฟให้บริการอีกด้วยโบราณสถานทุ่งเศรษฐีหรือโคกเศรษฐีแวะชมโบราณสถานทุ่งเศรษฐี ไม่ไกลจากทางเข้าวนอุทยานฯ บริเวณด้านหน้าภูเขา มีแหล่งโบราณคดี ที่คล้าย ๆ กับ เมืองโบราณศรีเทพ เนื่องจากอยู่ในยุคเดียวกัน นั่นคือ โบราณสถานทุ่งเศรษฐี (โคกเศรษฐี) เป็นสถานที่ขุดค้นพบหลักฐานที่แสดงถึงความเป็นศาสนสถานของชุมชน สร้างขึ้นตามรูปแบบสถาปัตยกรรมในวัฒนธรรมทวารวดี มีอายุประมาณพุทธศตวรรษที่ 12 – 16พัฒนพันธ์ เจือจันทร์ หัวหน้าโครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูสภาพพื้นที่เขานางพันธุรัตโบราณสถานแห่งนี้อยู่ห่างจากทะเลประมาณ 4 กิโลเมตร ปัจจุบันยังเหลือฐานของสถูปเจดีย์ขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ด้านหน้าเทือกเขาเจ้าลาย ซึ่งเป็นปราการธรรมชาติ และยังเป็นจุดสังเกตได้ง่ายสำหรับการเดินทางในอดีตกระจกนางพันธุรัตเมื่อคิดถึงชะอำก็จะนึกถึงแต่ความสนุกสนานริมชายหาด รวมทั้งความสดอร่อยของอาหารทะเล เป็นภาพสุขสีฟ้าที่คุ้นเคยกันมานาน แต่อีกมุมก็เต็มไปด้วยความชื่นบานของสีเขียว มาคราวเดียวก็ได้เที่ยวทั้งภูเขาและทะเล...ทางเดินชมธรรมชาติ วัดชะอำคีรีถ้ำโบราณ วัดชะอำคีรี ใครที่ชื่นชอบบรรยากาศสวยเย็นใจ ลองแวะไปที่ วัดชะอำคีรี จุดที่น่าสนใจอยู่ที่ ถ้ำโบสถ์โบราณอายุกว่า 500 ปี สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา เป็นหนึ่งในวัดโบราณของจังหวัดเพชรบุรีพระพุทธรูปปางมารวิชัยในถ้ำโบราณการเข้าชมต้องผ่านบันใดนาคสีทอง 108 ขั้น ขึ้นไปบนภูเขา ภายในถ้ำเป็นที่ประดิษฐานพระประธานและพระนอน บนผนังหินยังมีประติมากรรมที่น่าสนใจ รวมทั้งหินงอกที่มีรูปร่างคล้ายจระเข้ถ้ำลอดใบโพธิ์ออกจากถ้ำยังมีเส้นทางเดินชมวิวผ่าน ถ้ำลอดใบโพธิ์ สำหรับสายมูเชื่อกันว่าให้อธิษฐานแล้วลอดถ้ำจะสมหวังดังปรารถนาบันไดนาคจากนั้นสามารถเดินต่อไปในเส้นทางธรรมชาติ เพลินตาเพลินใจบนหินผา ในช่วงเวลาอันสงบงามถ้ำพระนอน วัดชะอำคีรีหมายเหตุ: วนอุทยานเขานางพันธุรัต และโครงการฯเขานางพันธุรัต อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี โทร.098 686 0989แหล่งที่มาข่าวต้นฉบับกรุงเทพธุรกิจhttps://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/travel/1141919
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
31/07/2024
29/04/2024
03/10/2024
19/09/2024
24/10/2024