คลังความรู้

Everyday knowledge for you

ท่องเที่ยว

ไม่ธรรมดา “Phangnga Bay SUP Fest 2024” ตอกย้ำภาพลักษณ์พังงาเมืองแห่ง Surf Town

22/08/2024

ททท.พังงาจัด Phangnga Bay SUP Fest 2024 กระตุ้นท่องเที่ยวช่วงกรีนซีซั่น ดนตรีมันจนฝรั่งขาหักออกลีลาอย่างสนุกการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)สำนักงานพังงา ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลกะไหล,ชมรมกีฬากระดานจังหวัดพังงา, ชุมชนท่องเที่ยวบ้านสามช่องเหนือ, YEC หอการค้าจังหวัดพังงา, อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา และหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง จัดกิจกรรม “Phangnga Bay SUP Fest 2024 #Season2” ขึ้น ในวันอาทิตย์ที่ 18 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา บริเวณท่าเรือท่องเที่ยวชุมชนบ้านสามช่องเหนือ ต.กะไหล อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงาPhangnga Bay SUP Fest 2024สำหรับงาน Phangnga Bay SUP Fest 2024 #Season2 จัดขึ้นเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวเชิงกีฬา และสร้างบรรยากาศท่องเที่ยวพังงาช่วงกรีนซีซั่นไตรมาส 3 โดยก่อนการแข่งขันนั้นมีเวทีเสวนาเรื่องกีฬาพายซับบอร์ดต่อด้วยการแสดงดนตรีของศิลปินแร็ปเปอร์ปักษ์ใต้ชื่อดัง “บังซี๊ด&เฟรดดี้ วี”ซึ่งสร้างความมันให้กับผู้ร่วมงานหน้าเวที ชาวต่างชาติที่ขาใส่เฝือก ยังออกลีลาตามเพื่อนอย่างสนุกสุดมันนายอุทิศ ลิ่มสกุลนายอุทิศ ลิ่มสกุล ผู้อำนวยการ ททท.พังงา กล่าวว่า การจัดกิจกรรม “Phangnga Bay SUP Fest 2024 #Season2 เป็นการจัดกิจกรรมต่อเนื่องจากปีที่แล้ว เพื่อสร้างบรรยากาศท่องเที่ยวพังงาช่วงกรีนซีซั่นไตรมาส3 แล้วยังเป็นการกระจายการท่องเที่ยวจากพื้นที่หลักไปสู่พื้นที่รอง ที่สำคัญยังเป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์ของจังหวัดพังงาในการเป็น Surf Town พร้อมได้เปิดเส้นทางกิจกรรมกระดานยืนพาย และกิจกรรมเรือพายใหม่ให้บริเวณบ้านสามช่องเหนือ โดยกำหนดกิจกรรมให้มีการแข่งขันพายซับบอร์ด และเรือคายัค 3 ประเภท การพายระยะทาง 5 กิโลเมตร จำนวน 2 รุ่น , การพายแบบสปริน (ใช้ความเร็ว) เส้นทาง 200 เมตร จำนวน 1 รุ่น ,แบบแรลลี่ ระยะทาง 1 กิโลเมตร โดยมีเกมส์ระหว่างการแข่งขันแบบหาสัญลักษณ์ ระหว่างทาง จับเวลาและระยะทาง เพื่อจูงใจให้ผู้เข้าร่วมแข่งขันได้วางแผนเข้าร่วมกิจกรรมและเพิ่มความท้าทายในเกมส์การแข่งขัน นอกจากนี้จัดให้มีกิจกรรม CSR เก็บขยะระหว่างพาย เพื่อนำขยะขึ้นมาบนฝั่งและนำมาแลกของที่ระลึก จัดให้มีคลินิกให้ความรู้กับผู้ที่สนใจในกีฬายืนพาย เรือพายแบบคายัค จัดให้มีกิจกรรมการเรียนการสอน วิธีช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล การปฐมพยาบาลเบื้องต้น โดยฝึกให้กับยุวชนของชุมชนและผู้ร่วมกิจกรรมอีกด้วยPhangnga Bay SUP Fest 2024Phangnga Bay SUP Fest 2024แหล่งที่มาข่าวต้นฉบับผู้จัดการออนไลน์https://mgronline.com/travel/detail/9670000076608

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ประกันชีวิต

กลุ่มบริษัทเอไอเอ แถลงผลประกอบการอันยอดเยี่ยมในครึ่งแรกของปี 2567

22/08/2024

มูลค่าธุรกิจใหม่ทำสถิติ เพิ่มขึ้นร้อยละ 25 กำไรจากการดำเนินงานหลังหักภาษี และมูลค่าที่เพิ่มขึ้นของเงินกองทุนส่วนเกิน เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 กำไรจากการดำเนินงานหลังหักภาษีต่อหุ้นได้ตามเป้า ผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้น 3.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ และเงินปันผลระหว่างกาลต่อหุ้น เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.2ฮ่องกง, 22 สิงหาคม 2567 - กลุ่มบริษัทเอไอเอ (“บริษัท”) มีความยินดีที่จะประกาศผลประกอบการของกลุ่มบริษัทในระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567 โดยอัตราการเติบโตรายงานจากอัตราแลกเปลี่ยนคงที่:ผลประกอบการของธุรกิจใหม่  •  มูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) เพิ่มขึ้นร้อยละ 25 ถือเป็นสถิติใหม่ คิดเป็นมูลค่า 2,455 ล้านเหรียญสหรัฐ  •  ยอดขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 17 คิดเป็น 4,546 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับเบี้ยประกันภัยรับปีแรก (ANP)  •  กำไรของธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้น 3.3 จุด เป็นร้อยละ 53.9มูลค่าพื้นฐานของกิจการ  •  กำไรจากการดำเนินงานบนมูลค่าพื้นฐานของกิจการ (EV operating profit) อยู่ที่ 5,350 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 29 ต่อหุ้น  •  อัตราผลตอบแทนจากการดำเนินงานบนมูลค่าธุรกิจประกันภัย (ROEV) อยู่ที่ร้อยละ 16.5 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 12.9 ในช่วงตลอดปี 2566 ที่ผ่านมา  •  ผลการดำเนินงานและการลงทุนเป็นไปในทิศทางที่ดีในช่วงครึ่งปีแรก  •  ส่วนทุนตามมูลค่าธุรกิจประกันภัย (EV Equity) อยู่ที่ 70.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ หลังการคืนทุนให้แก่ผู้ถือหุ้น เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 ต่อหุ้นในช่วงครึ่งปีแรกรายงานทางการเงิน (IFRS)  •  กำไรจากการดำเนินงานหลังหักภาษี (OPAT) อยู่ที่ 3,386 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 ต่อหุ้น  •  อัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) อยู่ที่ร้อยละ 15.3 เพิ่มขึ้นมาจากร้อยละ 13.5 ในปี 2566  •  กำไรจากการดำเนินงานหลังหักภาษี (OPAT) ต่อหุ้นตามเป้าหมายอัตราการเติบโตแบบทบต้นต่อปี (CAGR) จากร้อยละ 9 เป็นร้อยละ 11 ตั้งแต่ปี 2566 ถึงปี 2569เงินกองทุนส่วนเกิน  •  มูลค่าที่เพิ่มขึ้นของเงินกองทุนส่วนเกิน (UFSG) อยู่ที่ 3,391 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 ต่อหุ้น  •  เงินกองทุนส่วนเกินสุทธิ (Net FSG)(3) อยู่ที่ 2,243 ล้านเหรียญสหรัฐ หลังการลงทุนซ้ำในกรณีการเติบโตภายในของธุรกิจใหม่  •  อัตราส่วนทุนของผู้ถือหุ้น(4) อยู่ที่ร้อยละ 242 ตามหลักของฐานงบการเงินล่วงหน้า (pro forma basis)เงินปันผลและโครงการซื้อหุ้นคืน  •  ผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้นในช่วงครึ่งปีแรก จำนวน 3.4 พันล้านเหรียญสหรัฐผ่านการจ่ายเงินปันผลและการซื้อหุ้นคืน  •  เพิ่มมูลค่า 2.0 พันล้านเหรียญสหรัฐสำหรับโครงการซื้อหุ้นคืนที่ประกาศในเดือนเมษายน ส่งผลให้ยอดรวมอยู่ที่ 12.0 พันล้านเหรียญสหรัฐ   •  เงินปันผลระหว่างกาลอยู่ที่ 44.50 เซนต์ฮ่องกงต่อหุ้น เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.2นายหลี่ หยวน ชยอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัทเอไอเอ กล่าวว่า “เอไอเอได้แสดงผลงานอันยอดเยี่ยมในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 เราประสบความสำเร็จในการสร้างผลกำไรทางธุรกิจใหม่ การเติบโตของกำไรอย่างมีนัยสำคัญ การสร้างเงินกองทุนส่วนเกินที่แข็งแกร่ง และคืนผลตอบแทนจำนวนมากให้แก่ถือหุ้น นอกจากนี้ เรายังได้ประกาศกำไรจากการดำเนินงานหลังหักภาษี (OPAT) ต่อหุ้น และเป้าหมายอัตราการเติบโตแบบทบต้นต่อปี (CAGR) จากร้อยละ 9 ไปเป็นร้อยละ 11 ตั้งแต่ปี 2566 ถึง 2569 ตัวเลขที่พาดหัวข่าวในวันนี้ ที่เรามีมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) เพิ่มขึ้นร้อยละ 25 เป็นผลโดยตรงมาจากความสามารถของเอไอเอในการส่งมอบธุรกิจใหม่ที่ทำกำไรได้หลายครั้งอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสะสมอยู่ในตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาเพื่อรักษาการเติบโตของรายได้และกระแสเงินสด“ในช่วงหกเดือนแรกของปี 2567 เราได้ให้ผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้น จำนวน 3.4 พันล้านเหรียญสหรัฐผ่านการจ่ายเงินปันผลและการซื้อหุ้นคืน คณะกรรมการได้ประกาศเพิ่มโครงการซื้อหุ้นคืนของเราอีก 2.0 พันล้านเหรียญสหรัฐในเดือนเมษายน ส่งผลให้ยอดรวมอยู่ที่ 12.0 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในวันนี้คณะกรรมการได้ประกาศเพิ่มเงินปันผลระหว่างกาลอีกร้อยละ 5.2 เป็น 44.50 เซนต์ฮ่องกงต่อหุ้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งอย่างมากของเอไอเอ ตลอดจนความเชื่อมั่นในการดำเนินงานและทางการเงินในอนาคตของเรา“เอไอเอ อยู่ในตำแหน่งที่ยอดเยี่ยมกับการใช้ประโยชน์จากโอกาสการเติบโตเชิงโครงสร้างระยะยาวในเอเชีย ซึ่งเป็นภูมิภาคที่น่าดึงดูดใจที่สุดในโลกธุรกิจประกันชีวิตและสุขภาพ ผมมั่นใจว่าด้วยการดำเนินธุรกิจตามกลยุทธ์ที่ชัดเจนและมีเป้าหมายที่แน่วแน่ของเราอย่างต่อเนื่อง เราจะยังคงสร้างข้อได้เปรียบทางการแข่งขันที่เอไอเอมีอยู่อย่างมากมายได้ต่อไป เพื่อคว้าโอกาสที่อยู่ข้างหน้าเราในการสร้างมูลค่าผู้ถือหุ้นที่ยั่งยืนในระยะยาว”

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ข่าวการเงิน

คนไทยเครียดปัญหาการเงิน “หนี้ครัวเรือน” พุ่ง กลัวเกษียณไม่ได้ TFPA ชี้ต้องรีบ “รับมือ”

21/08/2024

- คนไทยกำลังเจอปัญหาวิกฤติหนี้ เข้าคุกคาม โดย เกือบครึ่ง กังวลปัญหาด้านการเงิน จะทำให้เกษียณไม่ได้ โดยสาเหตุหลักมาจากหนี้ครัวเรือน ที่อยู่ในระดับสูงวิโรจน์ ตั้งเจริญ CFP นายกสมาคมนักวางแผนทางการเงินไทย หรือ TFPA เปิดเผยว่า ปัญหาหนี้สินในสังคมไทยยังเป็นเรื่องที่น่าห่วงมาก โดยเฉพาะหนี้ครัวเรือนที่กลายเป็นปัญหาหลัก ซึ่งจากการสำรวจของสมาคม พบว่า ประชาชนมีความเครียดในด้านปัญหาทางการเงินมากถึง 42%“ปัญหาด้านการเงินเป็นสิ่งที่คนไทยเครียดมากที่สุด ซึ่งจากการสำรวจของสมาคม ในผู้ที่ร่วมงาน Set in the City กว่า 340 คน พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่กว่า 42% เครียดในปัญหาด้านการเงิน และต้องเร่งแก้ไข”จากการสำรวจกลุ่มตัวอย่าง พบว่า สาเหตุอันดับต้น ๆ ของความเครียดในด้านการเงินนั้น 56% เครียดจากการไม่มีเงินออมเพื่อการเกษียณอายุ และ 46% เครียดในเรื่องค่าใช้จ่ายประจำวัน ส่งผลต่อความสุขในการดำเนินชีวิตที่ลดลงปัญหาความไม่เพียงพอของเงินออมเพื่อการเกษียณอายุ ส่วนหนึ่งมาจากปัญหาหนี้ที่มีมากเกินไป สะท้อนจากตัวเลขของหนี้ครัวเรือนไทยที่อยู่ในระดับสูง ซึ่งเป็นสิ่งที่ภาครัฐจะต้องเร่งแก้ไข ในมุมของสมาคมนักวางแผนทางการเงินได้ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทยในการสร้างคลินิกแก้หนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยสมาคมมองว่าการแก้ไขปัญหาหนี้สินนั้นควรได้รับคำปรึกษาจากนักวางแผนทางการเงินเพื่อให้การแก้ไขปัญหามีประสิทธิภาพสูงสุดอุตสาหกรรมนักวางแผนทางการเงินของไทย ต้องยอมรับว่า ประเทศไทยมีจำนวนนักวางแผนการเงินน้อยกว่าประเทศอื่นอย่างมากเมื่อเทียบกับเอเชีย โดยไทยมีประชากรประมาณ 70 ล้านคน มีนักวางแผนทางการเงินเพียง 593 คน ในขณะที่มาเลเซียมีประชากร 33.4 ล้านคน มีนักวางแผนทางการเงิน 2,509 คน ส่วนสิงคโปร์มีประชากรประมาณ 7 ล้านคน แต่มีนักวางแผนทางการเงิน 1,238 คนเมื่อเทียบสัดส่วนกับประชากร ต้องยอมรับว่า ประเทศไทยมีสัดส่วนนักวางแผนทางการเงินน้อยสุดในเอเชีย นักวางแผนทางการเงินจะมีส่วนช่วยในการวางแผนด้านการเงิน ทั้งการจัดการหนี้สิน และการบริหารความมั่งคั่งในด้านการเงินให้กับผู้รับบริการสมาคมจะเร่งดำเนินการใน 2 ส่วน โดยในส่วนของการเพิ่มจำนวนนักวางแผนการเงินที่ได้รับ CFP จะต้องมีจำนวนเพิ่มขึ้น โดยที่ผ่านมาไทยสามารถผลิตนักวางแผนทางการเงินอยู่ที่ระดับ 60-80 คนต่อปี เราต้องพัฒนาในส่วนนี้ โดยมีเป้าหมายว่า ภายใน 2 ปีข้างหน้าจะต้องมีจำนวนนักวางแผนการเงินที่ได้รับ CFP จำนวนทั้งสิ้น 800 คน และใน 4 ปีข้างหน้า ต้องมีจำนวนนักวางแผนทางการเงิน 1,000 คนส่วนในฝั่งของดีมานด์หรือความต้องการใช้นักวางแผนทางการเงิน จะต้องเน้นการสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน เพื่อปูทางการใช้บริการมากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่ประชาชนมักจะมองว่าการเข้ารับบริการวางแผนทางการเงินนั้นจะมีค่าใช้จ่ายที่สูง ซึ่งในส่วนนี้ ทางสมาคมจะต้องเร่งผลักดัน ทั้งการสร้างความรับรู้กับประชาชนในวงกว้างถึงความสำคัญของการวางแผนทางการเงิน และการเดินหน้าแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับไทยรัฐhttps://www.thairath.plus/money/economics/thailand_econ/2808967

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ประกันชีวิต

สาวช็อก ทำประกันชีวิตป่วยหนัก เข้ารพ.บ่อย โดนบริษัทยกเลิกให้เหตุผลว่าเคลมเยอะไป

21/08/2024

สาวช็อก ร่ายยาวเล่าประสบการณ์ทำประกันชีวิตเพราะที่บ้านป่วย เข้ารพ.บ่อย ล่าสุดถูกบริษัทยกเลิกไม่ให้ต่อกรมธรรม์ จ่ายเงินแล้วแต่กลับโอนเงินคืน ให้เหตุผลว่าเคลมเยอะไปกลายเป็นประเด็นที่พูดถึงในโลกออนไลน์ หลังจากที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์เรื่องราวลงในเพจพวกเราคือผู้บริโภค เพื่อเป็นอุทาหรณ์สำหรับผู้ที่ทำประกันชีวิต โดยเธอเล่าว่าตัดสินใจทำประกันชีวิตให้ตัวเองและคนในครอบครัว เนื่องจากที่ผ่านมาลูกของเธอมีอาการป่วยทอมซิล ต้องเข้ารักษาที่โรงพยาบาลอยู่เรื่อยๆ จึงใช้ประกันเคลมในการรักษา เช่นเดียวกันกับช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา ตนและครอบครัวติดเชื้อโควิด จึงใช้สิทธิ์เคลมประกัน รวมค่าหมอทั้ง 5 คน น่าจะไม่ต่ำกว่า 800,000 และประกันทั้ง 5 คนจ่ายหมด โดยมีใจความสำคัญว่าเราก็มองประกันทุกรูปแบบเลย คือเห็นคุณค่าประกัน  รักประกันเลยค่ะ จะกอดไว้แน่นๆ บริษัทแรกเราทำมา 5 ปีเข้าปีที่ 6 สมัยนั้นยังไม่มีเหมาจ่าย ค่าห้องก็น้อย ค่ารักษาก็น้อย ไปรพ.ทีได้จ่ายค่าส่วนต่างตลอด เราเลยมองประกันเหมาจ่าย ตัวแทนหลายบริษัทมาเสนอเรา เรามองแต่ค่ารักษาหลายล้านไว้เพราะเรามีบทเรียนมาแล้ว เลยอยากทำสักกรมที่เชื่อมั่นแล้วถือยาวๆ”แต่ปัญหาเริ่มมีเมื่อปีที่แล้ว ที่บ้านเราป่วยกันบ่อยมาก โรงเรียนเริ่มเปิดหลังโควิดระบาด ลูกเรา 2 คนแรกไป ร.ร.ก็จะติดไข้หวัดใหญ่มาตลอด คนหนึ่งติด เอามาติดอีกหลายคนในบ้าน ทำให้เราติดไปด้วย บวกกับเราคลอดลูกคนที่ 3 เมื่อปี 64  เราให้นมลูกด้วยเลยทำให้ฮอร์โมนแปรปรวน เป็นรอบเดือน 8 เดือนเต็ม จนตอนนี้คุณหมอขูดมดลูกอาการนั้นก็หายไป แต่การที่เราเป็นหวัดบ่อย นานวันเข้าเลยทำให้เราเป็นไซนัส”ตอนนั้นเราไม่เครียดอะไรเลยเพราะเรามั่นใจในประกันที่เราถือมายาวนาน ถือประกันมา 5 ปี  อีกที่สีฟ้าน้ำเงินถือมา3ปีเข้าปีที่ 4 ตอนออกรพ. ประกันจ่ายหมด เคลมหมด เรานี่เก่าประกาศให้เพื่อนๆ ญาติๆซื้อตามเยอะมาก หลังจากนั้นที่ออก รพ.เดือนกพ.67เราก็ ปกติไม่มีอาการประจำเดือนออกผิดปกติอีก และอาการหวัดย่อยเพราะจมูกบวมก็หายไป ครบปีจ่าย 8 มิ.ย.2567 เราก็จ่ายค่าเบี้ยรายปี 46,xxx ไปปกติแต่แล้วมีเจ้าหน้าที่บริษัทโทรมาบอกว่าเราโดนยกเลิกไม่ให้ต่อ เดี๋ยวค่าเบี้ยเขาก็โอนคืน  เราเลยรีบโทรเข้าบริษัท เราเขียนหนังสือขออุทธรณ์ว่าเราป่วยจริง เรามั่นใจในบริษัทมาตลอดทำไมมายกเลิกเรา สุดท้ายการร้องขอบริษัทหลายรอบ4รอบได้ไม่เป็นผล บริษัทยกเลิกไม่ให้เราต่อกรมธรรม์ปีที่ 4 ทั้งๆเราจ่ายแล้วแต่ก็โอนเงินคืน ให้เหตุผลที่ไม่ให้ต่อว่า1. ประกันสุขภาพเป็นปีต่อปี บริษัทสามารถยกเลิกได้ตลอดถ้าบริษัทพิจารณาแล้วว่าลูกค้ามีความเสี่ยงสูง (เคลมเยอะ) เราทำค่ารักษาเหมาจ่ายไว้ 10 ล้าน ปีที่แล้วเราใช้ไป 6.5 แสน บริษัทไม่สามารถรับความเสี่ยงได้2. บอกว่าเราเคยไปนอนรพ.ด้วยอาการปวดหัว รอบนั้นไม่มีเหตุจำเป็นต้องนอน เราเลยแย้งว่าถ้าไม่จำเป็นทำไมบริษัทอนุมัติค่ารักษา แล้วรอบนั้นเราก็ไม่แค่ปวดหัว เราขอประวัติการรักษาทั้งหมดมา คุณหมอลงว่าเราปวดหัวรุนแรง ตาลืมไม่ขึ้น ปากพูดไม่ได้ มือจีบ เราอธิบายไป เจ้าหน้าที่เป็นถึงหัวหน้าร้องเรียนบริษัทบอกว่า เอาเป็นว่าบริษัทไม่สามารถต่อให้3. ของสามีเราไม่เคยเคลมเลยทำมา 2 ปีค่าเบี้ยในประวัติคนจ่ายก็คือเรา อันนี้ของสามีเราไม่ยกเลิก เพราะแน่ๆ ไม่เคยเคลม  เราอยากให้หลายคนกลับไปดูกรมธรรม์ตัวเองค่ะ บางคนถือมา 10 ปี  ปีที่ 11 ป่วยหนัก บริษัทสามารถยกเลิกได้นะคะ คนไทยไม่ควรมาเจอแบบนี้  กลัวคนหนึ่งจะเปิดใจกับประกันได้ก็ยากแล้ว แทนที่จะเก็บลูกค้าดีๆ เพราะการบริการของลูกค้าเก่า มีผลต่อลูกค้าใหม่ที่จะเชื่อมั่นและมั่นใจในการถือกรมธรรม์ยาวๆเราอยากให้คปภ.กลับไปพิจารณาบริษัทที่ไม่เที่ยงตรงแบบนี้กับคนไทย  คนไทยหลายคนไม่ทราบว่ากรมธรรม์ที่ถือมายาวๆบริษัทประกันสามารถยกเลิกได้ คปภ.ควรย้อนกลับไปออกกฎหมายให้คุ้มครองบุคคลที่ถือมาหลายปีด้วยค่ะ  ไม่ใช่แค่2ปีนี้ ทำไมแค่ 2 ปี แล้วคนถือมา 20 ปี คิดว่าแน่นอน แต่จริงๆไม่แน่นอนนะคะ จริงๆทุกบริษัทสามารถยกเลิกได้หมด แต่ไม่มีบริษัทดีๆ ที่ไหนเขาทำกันแบบนี้กับลูกค้าที่บริสุทธิ์ใจ เราไม่อยากให้ใครมาเจอแบบเรา ซึ่งหลังจากโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ไปในโลกออนไลน์ ก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมากแท็กที่เกี่ยวข้อง  ประกันชีวิต ,ประกันชีวิตเคลมเยอะแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับ ch3plushttps://ch3plus.com/news/political/ch3onlinenews/413585

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ห้องแสดงนิทรรศการ

ชวนเที่ยวงาน FINDING UNICORN ชมอาร์ตทอยชื่อดังจากจีน ที่ไอคอนสยาม

21/08/2024

FINDING UNICORN อาร์ตทอยชื่อดังจากประเทศจีน จัดนิทรรศการครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ไอคอนสยามตั้งแต่วันนี้จนถึง 29 สิงหาคม 2567 บอกเลยว่าคนรักอาร์ตทอยไม่ควรพลาดFINDING UNICORN แบรนด์อาร์ตทอยชื่อดังจากประเทศจีนที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก เอาใจคนรักของเล่นและนักสะสมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยการจับมือไอคอนสยาม เปิด Pop-up Shop สร้างสวนสนุกฤดูร้อนภายใต้ธีม “FINDING SUMMER LAND HELLO! BANGKOK” พาเหล่าคาแรกเตอร์รุ่นลิมิเต็ด อาทิ• 300% APOLLO BOB• 150% AZTEC BOB (แฮนด์เมดโดยศิลปิน)• 65% SMOOTHIE BOB• 105% TRIPLE APPLE กับ APPLE RiCO• 73% SWEET AND POISONOUS ShinWooPixel Full Universe Series Blind Boxและอีกมากมาย ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากสีสันอันสดใสของฤดูร้อน มาเติมสีสันช่วงซัมเมอร์ให้กับแฟนๆ ชาวไทย พร้อมเปิดตัวกล่องสุ่มคอลเลกชันใหม่ Pixel Full Universe Series Blind Box ที่จัดทำขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 10 ปี FARMER BOB คาแรกเตอร์ลิขสิทธิ์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดของแบรนด์ และกล่องสุ่มรุ่นลิมิเต็ดของหนูน้อย zZoton อย่าง My Kitten Fruit Party Series Vinyl Plush Blind Box ที่ได้แรงบันดาลใจจากผลไม้ของไทย มาให้ได้ลุ้นและสะสมอีกด้วยสำหรับ FINDING UNICORN ก่อตั้งเมื่อปี 2018 ในประเทศจีน เป็นบริษัทจัดจำหน่ายสินค้าลิขสิทธิ์คาแรกเตอร์ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ด้วยการค้นหาผลงานที่มีเอกลักษณ์จากทั่วโลก และส่งเสริมให้ศิลปินได้สร้างสรรค์ผลงานอันน่าสนใจ เพื่อตอบสนองความสุขและความสนุกของผู้ที่ชื่นชอบในศิลปะและอาร์ตทอย โดยมีคาแรกเตอร์ลิขสิทธิ์ชื่อดังหลากหลาย อาทิ• FARMER BOB• zZoton• RiCO• ShinWoo• molinta• Agan• REPOLAR• Tunyun Island• AAMYสองศิลปินอาร์ตทอย โจ ยังอุน (JO YOUNGWOON) เจ้าของ ‘FARMER’ และ ปาร์ค จองเฮ (PARK JEONGHAE) เจ้าของ ‘RiCO’และสร้างสรรค์คอลเลกชันอาร์ตทอยร่วมกับศิลปินในสังกัดมาแล้วกว่า 100 รูปแบบ จนมีฐานแฟนคลับทั่วโลกมากกว่า 20 ล้านคน นับเป็นหนึ่งในแบรนด์ดังที่มีส่วนขับเคลื่อนเทรนด์ศิลปะของกลุ่มคนรุ่นใหม่ในระดับโลกอย่างแท้จริงคาแรกเตอร์ delicious bunnyวู๋หยาง (Wu Yang) ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ FINDING UNICORNวู๋หยาง (Wu Yang) ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ FINDING UNICORN เผยถึงวัตถุประสงค์ในการร่วมกับไอคอนสยามเปิด Pop-up Shop ครั้งนี้ว่า FINDING UNICORN วางแผนที่จะขยายตลาดมายังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีประเทศไทยเป็นศูนย์กลางดังนั้นตั้งแต่ปี 2024 เป็นต้นไป ทางแบรนด์ตั้งใจจะรุกจัดกิจกรรมในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยคาดหวังว่าจะได้รับการตอบรับที่ดี รวมถึงได้แลกเปลี่ยนมุมมองความสนใจกับแฟนๆ ชาวไทย และยังเป็นการนำศิลปะวัฒนธรรมไทยไปผสมผสานเข้ากับวัฒนธรรมของจีนเพื่อสร้างเทรนด์ใหม่ นำไปพัฒนาเป็นเทรนด์ระดับโลกในอนาคต และพยายามมองหาโอกาสในการร่วมงานกับศิลปินไทยด้วยคาแรกเตอร์ zZotonคาแรกเตอร์ ShinWooสาวก FARMER BOB และเหล่าคนรัก Art Toy มาร่วมสะสมความน่ารัก ในงาน “FINDING SUMMER LAND HELLO! BANGKOK” Pop-up Shop ครั้งแรกที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กับเหล่าคาแรกเตอร์คอลเลกชันพิเศษและกล่องสุ่มรุ่นลิมิเต็ดที่ยกขบวนมาให้ลุ้นเป็นเจ้าของกันถึงที่เมืองไทย ตั้งแต่วันนี้ – 29 สิงหาคม 2567 เวลา 10.00 - 22.00 น. ทุกวัน ณ ริเวอร์ พาร์ค ชั้น G ไอคอนสยามแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับไทยรัฐออนไลน์https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/2808793

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ท่องเที่ยว

“คาราโครัม ไฮเวย์” ทางหลวงลอยฟ้าสวยที่สุดในโลก

21/08/2024

เส้นทางถนนลอยฟ้า บนเทือกเขาสูงกว่า 4,000 เมตร อย่าง “คาราโครัม ไฮเวย์” (Karakoram Highway) นักท่องเที่ยวต่างยกให้เป็นถนนลอยฟ้าที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งในโลก เป็นเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างจีนกับปากีสถาน ซึ่งในเวลานี้ (ปี 2567) คนไทย สามารถไปเที่ยวได้อย่างสะดวก เพราะมาตรการ “วีซ่า” จากทั้งสองประเทศที่อำนวยความสะดวกให้แก่นักเดินทางชาวไทย“คาราโครัม ไฮเวย์” หรือ ทางหลวงคาราโครัม เป็นเสมือนเส้นทางมิตรภาพและการค้าระหว่าง จีน-ปากีสถาน มีระยะทาง 1,224 กิโลเมตร เลียบเทือกเขาคาราโครัม จากเมืองคัชการ์ของจีน เข้าสู่เมืองฮาซาน อับดาล (Hasan Abdal) ในแคว้นปัญจาบ ประเทศปากีสถาน ก่อสร้างด้วยความร่วมมือระหว่างรัฐบาลทั้งสองประเทศทางหลวงแผ่นดินที่ทอดยาวสายนี้เป็นจุดหมายท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวผู้รักการผจญภัย และเป็นหนึ่งในถนนลาดยางที่สูงที่สุดในโลก ผ่านเทือกเขาคาราโครัมที่ระดับความสูงสูงสุด 4,714 เมตร ซึ่งด้วยเหตุผลของพื้นที่สูงและสภาพภูมิประเทศที่ยากลำบากในการก่อสร้าง ทำให้ถนนเส้นนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็น “สิ่งมหัศจรรย์อันดับที่แปดของโลก”ด้วยความสูง เส้นทางคดเคี้ยวไปในเทือกเขา ถนนสายนี้จึงได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในถนนที่อันตรายที่สุดในโลกด้วยเช่นกัน แต่กระนั้น ก็เป็นเส้นทางท่องเที่ยวที่สำคัญ และยังใช้เพื่อการเชื่อมการค้าระหว่างจีนและปากีสถาน รวมถึงเป็นช่องทางไปยังประเทศแถบเอเชียกลางทางหลวงแห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหล่านักเดินทางสายผจญภัยตั้งเป้าว่าต้องไปเยือนให้ได้สักครั้งในชีวิตโดยมีหุบเขา Naltar เป็นหนึ่งในหุบเขาที่สวยงามที่สุด ปกคลุมไปด้วยหิมะ ยอดเขาสูงเสียดฟ้า ลานสกีอัลไพน์ ทะเลสาบบนที่สูง ธารน้ำแข็ง และเส้นทางผ่านภูเขา ทะเลสาบ Bishgiri ก็เป็นหนึ่งในทะเลสาบที่สูงที่สุดในปากีสถาน ในขณะที่ Pakora Pass นับว่ามีชื่อเสียงในเรื่องธารน้ำแข็งและทุ่งหญ้า เช่น แฟรี่มีโดวส์ (Fairy Meadow) หรือ “ทุ่งหญ้าแห่งเทพนิยาย” ซึ่งเป็นภาษาเยอรมัน ตามชื่อนักปีนเขาชาวเยอรมันที่เป็นทุ่งหญ้าที่สวยติดอันดับโลกทั้งนี้เส้นทางคาราโครัมไฮเวย์ เหมาะที่สุดสำหรับเดินทางในช่วงฤดูใบไม้ผลิ (เมษายน) หรือต้นฤดูใบไม้ร่วง (ตุลาคม-พฤศจิกายน)ข้อมูลวีซ่าปากีสถานคนไทยไปเที่ยวปากีสถาน ยังต้องขอวีซ่า แต่ก็สะดวกสบายมากด้วยระบบการขอแบบวีซ่าอิเล็กทรอนิกส์ (e-Visa) โดยรัฐบาลปากีสถาน ปรับฟรีค่าธรรมเนียมการขอวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจจาก 126 ประเทศ เป็นระยะเวลา 90 วัน รวมถึงชาวไทย มีผลตั้งแต่วันที่14 ส.ค. 67 เป็นต้นไป รายละเอียด https://visa.nadra.gov.pkแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับผู้จัดการ์ออนไลน์https://mgronline.com/travel/detail/9670000076873

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

การวางแผนทางการเงิน

วิธีปลดล็อกศักยภาพการลงทุนในที่ดินเปล่า สร้างผลตอบแทนที่มั่นคง

20/08/2024

ในแวดวงการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ที่ดินเปล่าอาจไม่ใช่ตัวเลือกแรกที่นักลงทุนส่วนใหญ่นึกถึง แต่หากพิจารณาอย่างรอบด้าน จะพบว่าที่ดินเปล่ามีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนที่น่าสนใจไม่แพ้รูปแบบอื่นๆ บทความนี้จะพาคุณดูโอกาสและกลยุทธ์ในการลงทุนที่ดินเปล่า ตั้งแต่การ "ซื้อแล้วถือครอง" เพื่อรอการเติบโตของมูลค่า ไปจนถึงการ "ซื้อยกแปลง แล้วแบ่งขายย่อย" เพื่อสร้างผลตอบแทนอย่างรวดเร็ว พร้อมวิเคราะห์ปัจจัยสำคัญที่จะเป็นปัจจัยชี้ขาดความสำเร็จในการลงทุน ไม่ว่าคุณจะเป็นนักลงทุนมือใหม่หรือผู้มากประสบการณ์ บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจถึงศักยภาพที่แท้จริงของที่ดินเปล่า และเตรียมความพร้อมสำหรับการลงทุนอย่างมืออาชีพ มั่นคง และยั่งยืนวิธีปลดล็อกศักยภาพการลงทุนในที่ดินเปล่า สร้างผลตอบแทนที่มั่นคงการลงทุนในที่ดินเปล่าอาจไม่ใช่สิ่งแรกที่นักลงทุนนึกถึงเมื่อพูดถึงการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ แต่หากพิจารณาอย่างถี่ถ้วน จะพบว่าที่ดินเปล่าเป็นสินทรัพย์ที่มีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนที่น่าสนใจไม่แพ้รูปแบบอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการวางแผนและดำเนินกลยุทธ์อย่างรอบคอบ บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจโอกาสและกลยุทธ์ในการลงทุนที่ดินเปล่า พร้อมทั้งปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณาก่อนการตัดสินใจลงทุนแนวทางการลงทุนในที่ดินเปล่า  • ซื้อแล้วถือครอง (Buy and Hold): กลยุทธ์นี้เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มองการณ์ไกลและต้องการสร้างความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว โดยการซื้อที่ดินและถือครองไว้เพื่อรอให้มูลค่าเพิ่มขึ้นตามกาลเวลา ปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญของกลยุทธ์นี้คือการพัฒนาของเมืองและโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การขยายตัวของเมือง การสร้างถนนสายใหม่ การพัฒนาโครงการรถไฟฟ้า หรือการเกิดขึ้นของแหล่งงานและสิ่งอำนวยความสะดวก ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะส่งผลให้มูลค่าที่ดินในพื้นที่นั้นเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ผู้ลงทุนยังสามารถสร้างรายได้เสริมในระหว่างการถือครองที่ดินผ่านการปล่อยเช่าเพื่อทำกิจกรรมต่างๆ เช่น การทำเกษตรกรรม การทำลานจอดรถ หรือการให้เช่าพื้นที่เพื่อทำธุรกิจ  • ซื้อยกแปลง แล้วแบ่งขายย่อย: กลยุทธ์นี้มุ่งเน้นการสร้างผลตอบแทนอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยการซื้อที่ดินขนาดใหญ่ในราคาที่ต่ำกว่า และแบ่งขายเป็นแปลงย่อยในราคาที่สูงกว่า ซึ่งจะทำให้ได้รับผลกำไรจากส่วนต่างของราคา นอกจากนี้ การแบ่งที่ดินเป็นแปลงย่อยยังช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับผู้ซื้อที่มีงบประมาณจำกัด หรือผู้ที่ต้องการที่ดินขนาดเล็กเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะเจาะจง เช่น การสร้างบ้านพักอาศัย หรือการทำธุรกิจขนาดเล็ก ตัวอย่างเช่น การซื้อที่ดิน 1 ไร่ แล้วแบ่งขายเป็น 4 แปลง ขนาด 100 ตารางวา อาจสร้างผลกำไรที่สูงกว่าการขายยกแปลง 1 ไร่ปัจจัยสู่ความสำเร็จในการลงทุนที่ดินเปล่า  • ศักยภาพของทำเลที่ตั้ง: ทำเลที่ตั้งถือเป็นหัวใจสำคัญของการลงทุนในที่ดินเปล่า ควรพิจารณาเลือกที่ดินในทำเลที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง เช่น ใกล้กับโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ของภาครัฐหรือเอกชน ใกล้กับแหล่งงาน แหล่งท่องเที่ยว หรือพื้นที่ที่มีการคาดการณ์ว่าจะมีการขยายตัวของเมืองในอนาคต  • ผังเมืองและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง: การศึกษาผังเมืองรวมและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่เป้าหมายเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้เข้าใจถึงข้อจำกัดและโอกาสในการพัฒนาที่ดิน รวมถึงการประเมินความเสี่ยงและผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับ  • ลักษณะรูปทรงที่ดิน: รูปทรงที่ดินที่มีมูลค่าสูงและสามารถใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย มักเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส หรือสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่มีด้านกว้างติดถนน ซึ่งเอื้อต่อการพัฒนาและการเข้าถึงสุดท้ายก่อนจากกันทุกการลงทุนในที่ดินเปล่ามีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดรอบด้าน พิจารณาปัจจัยต่างๆ อย่างรอบคอบ เช่น สภาพเศรษฐกิจ แนวโน้มตลาดที่ดิน และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์หรือที่ปรึกษาทางการเงิน จะช่วยให้คุณได้รับคำแนะนำและข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการตัดสินใจลงทุนอย่างชาญฉลาดที่มา BAM Thailandแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับ amarintvhttps://www.amarintv.com/spotlight/economy/detail/67133

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ห้องแสดงนิทรรศการ

ชวนดื่มด่ำนิทรรศการบอนไซ งานศิลป์ที่เชื่อมโยงระหว่างธรรมชาติกับมนุษย์เข้าด้วยกัน

20/08/2024

บอนไซเป็นหนึ่งในศิลปะล้ำค่าที่สืบทอดกันมายาวนานกว่าพันปีของประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งการตกแต่งบอนไซยังเป็นหนึ่งในงานอดิเรกที่หลายคนให้ความสนใจ ซึ่งช่วยสร้างความสงบและเป็นการเชื่อมธรรมชาติกับมนุษย์เข้าด้วยกันสยามพารากอน ร่วมกับ Bonsai Hunter (บอนไซ ฮันเตอร์) ผู้เชี่ยวชาญด้านบอนไซ จัดนิทรรศการแสดงบอนไซญี่ปุ่น “Siam Paragon the Living Art of Elegance: Japan Bonsai Exhibition by Bonsai Hunter” ครั้งแรกของการจัดแสดงบอนไซญี่ปุ่นหาชมยาก ที่มีอายุรวมกันกว่า 2,000 ปี ที่สยามพารากอน เพื่อให้ศิลปะบอนไซเป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถสัมผัสและเข้าถึงได้ภายในงานยังมีเวิร์กชอปบอนไซ ที่จัดโดย Bonsai Hunter ให้เรียนรู้ถึงศาสตร์และศิลป์ในการรังสรรค์และดูแลบอนไซ พร้อมจำหน่ายต้นบอนไซ รวมถึงอุปกรณ์การดูแลและตกแต่งบอนไซระดับมือโปรอีกด้วย โดยนิทรรศการจัดให้ชมฟรี ระหว่างวันที่ 15 - 25 สิงหาคม 2567 ณ Living Hall ชั้น 3 สยามพารากอนบอนไซ คือศิลปะร่วมสร้างระหว่างธรรมชาติและมนุษย์ ที่สืบทอดกันมายาวนานนับพันปี ตัวแทนแห่งปรัชญาตะวันออกอันลุ่มลึก ผู้เข้าชมนิทรรศการจะได้ดื่มด่ำกับความสงบงามของบอนไซญี่ปุ่นหลากหลายสายพันธุ์กว่า 100 ต้น ในรูปทรงอันงดงามลึกซึ้งบนพื้นฐานของปรัชญาความไม่สมบูรณ์แบบ ผ่านฝีมือและกาลเวลาอันยาวนาน ที่สร้างเอกลักษณ์เฉพาะให้บอนไซแต่ละต้นเป็นผลงานศิลป์ที่มีเพียงหนึ่งเดียวในโลก ที่สร้างสรรค์จาก Bonsai Hunter นำโดย กรกช ไทยศิริ Gallery Master ผู้เชี่ยวชาญด้านบอนไซที่มีประสบการณ์มากกว่า 15 ปี และยังเคยประกวดบอนไซระดับนานาชาติทั้งในเมืองไทยและที่ญี่ปุ่นมาแล้วกรกช ไทยศิริ แห่ง Bonsai Gallery และโสภิดา กิติโกมลสุข ผู้บริหารสยามพารากอนสำหรับไฮไลต์ของบอนไซญี่ปุ่นที่นำมาจัดแสดงในนิทรรศการครั้งนี้ ได้แก่สายพันธุ์ Itoigawa Shimpaku ทรงตกกระถาง อายุ 60-70 ปี ราคาสูงที่สุดในงาน 540,000 บาทสายพันธุ์ “Itoigawa Shimpaku” งดงามด้วยรูปทรง cascading หรือ ทรงตกกระถาง ซึ่งจัดว่าเป็นทรงหายากที่ต้องอาศัยฝีมือและความเชี่ยวชาญขั้นสูงในการสร้างล้อรูปทรงของต้นไม้ที่เติบโตตามธรรมชาติบนหน้าผา มีเพียงไม่กี่ต้นเท่านั้นในประเทศไทย และจัดว่ามีรูปทรงที่สวยเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศสายพันธุ์ Itoigawa Shimpaku ทรงกึ่งตกกระถาง ในกระถางทรงพระจันทร์เสี้ยวจากญี่ปุ่น อายุกว่า 100 ปี ราคา 220,000 บาทสายพันธุ์ “Itoigawa Shimpaku” ที่มีอายุยาวนานกว่า 100 ปี โดดเด่นด้วยรูปทรง semi-cascading หรือกึ่งตกกระถาง ล้อไปกับกระถางทรงพระจันทร์เสี้ยวจากญี่ปุ่น จุดเด่นคือผ่านการสร้างให้มีขนาดกะทัดรัด ถือเป็นบอนไซระดับ top quality ที่ทั้งงดงาม มีอัตราส่วนรูปทรงสวยงามสมดุล มีอายุเก่าแก่ และสุขภาพสมบูรณ์สายพันธุ์ Kishu Shimpaku - Yamadoti อายุ 100 -120 ปี ราคา 350,000 บาทสายพันธุ์ “Kishu Shimpaku – Yamadori” บอนไซทรง “บัณฑิต” ซึ่งถือเป็นรูปทรงมงคลที่มีอายุยาวนานถึง 100 - 120 ปี Yama ในภาษาญี่ปุ่นหมายถึงภูเขา ส่วน Dori หมายถึงการเก็บ เมื่อรวมกันจึงหมายถึงการเก็บต้นไม้ที่เติบโตตามธรรมชาติบนภูเขา โดยปัจจุบันประเทศญี่ปุ่นได้มีการสั่งห้ามเก็บต้นไม้ลักษณะนี้จากแหล่งกำเนิดธรรมชาติแล้ว จึงจัดว่าหาได้ยากมาก รูปทรงบัณฑิตมีการวิ่งขึ้นของซากในแนวดิ่ง สื่อถึงการเติบโตของผู้เป็นบัณฑิตที่ต้องผ่านการต่อสู้เพื่อให้พ้นจากร่มเงาของผู้อื่น และสร้างโอกาสที่ดีได้ด้วยตนเองสายพันธุ๋ Japanese Black Pine อายุ 100 ปี ราคา 220,000 บาทนอกจากนี้ ยังมีสายพันธุ์ “Japanese Black Pine” (Kuromatsu) มีอายุกว่า 100 ปี สนดำญี่ปุ่นเป็นต้นไม้ที่เปี่ยมด้วยเสน่ห์และดูราวกับมีมนต์ขลัง สื่อเอกลักษณ์ความเป็นญี่ปุ่นซึ่งมักจะพบเห็นต้นสนดำสูงสง่าได้ทั้งจากภาพวาด และในสถานที่สำคัญต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นวัดวาอาราม สวนญี่ปุ่น หรือแม้แต่ในพระราชวัง ซึ่งตามธรรมชาติจะสูงได้กว่า 10 เมตร การจะเลี้ยงให้กระชับทรงในกระถาง และเลี้ยงให้ได้รูปทรงตามธรรมชาตินั้นจึงไม่ใช่เรื่องง่ายบอนไซสไตล์ Kishu Yamadori อายุ 100 ปี ที่คว้ารางวัล Taikanten Prized จากการประกวดบอนไซระดับนานาชาติจากเกียวโตบอนไซสไตล์ “Kishu Yamadori” ที่ได้รางวัล Taikanten Prize จากการประกวดบอนไซระดับนานาชาติจากเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น เติบโตบนซากธรรมชาติเก่าแก่เป็นลักษณะไม้เกลียวคลื่น ลำต้นกิ่งตั้งตรง มีความสมดุลในการสร้างสรรค์ทั้งการเจริญเติบโตออกด้านข้างทั้งซ้ายและขวาอย่างสมดุลงดงามบรรยากาศการสาธิตการดูแลบอนไซกรกช ไทยศิริ Gallery Master แห่ง Bonsai Hunter กล่าวว่า “นิทรรศการ Siam Paragon the Living Art of Elegance: Japan Bonsai Exhibition by Bonsai Hunter” ถือเป็นนิทรรศการบอนไซครั้งแรก ที่จะเปิดให้ทุกคนสามารถเข้ามาสัมผัสและชื่นชมมิติความงามแห่งศิลปะบอนไซได้อย่างใกล้ชิดบอนไซไม่ใช่ชื่อต้นไม้ แต่หมายถึงการปลูกต้นไม้ในกระถางขนาดเล็ก โดย 盆 (Bon) หมายถึง กระถาง และ 栽 (Sai) หมายถึง การเพาะปลูก บอนไซเป็นศิลปะร่วมสร้างสรรค์ระหว่างธรรมชาติและมนุษย์ เป็นการจำลองธรรมชาติในรูปแบบย่อส่วน โดยเลียนแบบรูปทรงของต้นไม้ใหญ่ตามธรรมชาติบอนไซสื่อถึงแนวคิดปรัชญาญี่ปุ่นแบบ Wabi-Sabi นั่นคือ ความไม่สมบูรณ์คือความสมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง สำหรับศิลปะบอนไซแล้ว ไม่มีใครเป็นผู้สร้างอย่างแท้จริง ไม่มีใครเป็นเจ้าของที่แน่นอน บอนไซหนึ่งต้นคือมรดกที่สามารถส่งผ่านจากรุ่นสู่รุ่น ผู้เลี้ยงแต่ละคนจะฝากซิกเนเจอร์เฉพาะตัวที่แอบแฝงอยู่ลึก ๆ ในแต่ละต้น แสดงถึงการที่ธรรมชาตินั้นอยู่เหนือสิ่งอื่นใด”เวิร์กชอปบอนไซสำหรับเวิร์คชอปบอนไซ จะจัดขึ้นภายในบริเวณนิทรรศการ ในวันเสาร์และอาทิตย์ที่ 17, 18, 24 และ 25 สิงหาคม นี้ วันละ 1 รอบ ระหว่างเวลา 13.00 – 15.00 น. ในราคาท่านละ 3,000 บาท ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนล่วงหน้าและติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook: Bonsaihuntergallery โดยจะได้เรียนรู้เชิงลึกถึงศิลปะบอนไซขั้นพื้นฐานทั้งทฤษฎีและการลงมือปฏิบัติจริง ตั้งแต่ประวัติความเป็นมาของบอนไซ ความรู้ความเข้าใจในการเลี้ยงดู การฝึกทักษะการจัดทรง การตรวจสุขภาพ และการดูแลเพื่อการป้องกันและรักษาโรคได้อย่างถูกต้องและถูกวิธี การเลือกต้นบอนไซ การวางแผนวิเคราะห์รูปทรงเพื่อสร้างรูปทรงให้สวยงามตามธรรมชาติและพลังงานธาตุที่สำคัญ เรื่องดิน น้ำ ลม ไฟ ปุ๋ย รวมถึงฝึกการคัดกิ่งและการเข้าลวดการแสดงดนตรีญี่ปุ่นภายในงานร่วมชมศิลปะบอนไซ ผลงานร่วมสร้างของธรรมชาติและมนุษย์ สัมผัสความสงบงามของธรรมชาติและปรัชญาตะวันออกอันลุ่มลึก ได้ที่ นิทรรศการ Siam Paragon the Living Art of Elegance: Japan Bonsai Exhibition by Bonsai Hunter” ร่วมชมฟรี พร้อมสมัครร่วมเวิร์คชอป ได้ตั้งแต่ 15 – 25 สิงหาคม นี้ ที่ Living Hall ชั้น 3 สยามพารากอนแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับไทยรัฐออนไลน์https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/2808817?gallery_id=13

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ประกันชีวิต

เอไอเอ ประเทศไทย จัดเวิร์คเอ้าท์ เซสชั่น สุดเอ๊กซ์ตรีมดึงโค้ชจากสโมสรระดับโลก “ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์” จัดคลาส HIIT ให้กับพนักงาน

20/08/2024

กรุงเทพฯ 20 สิงหาคม 2567 -  เอไอเอ ประเทศไทย ร่วมกับสโมสรฟุตบอลชื่อดังระดับโลก ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ จากประเทศอังกฤษ จัดกิจกรรม “Special Workout Session with Coach Lily” โดยโค้ช “ลิลลี่ เจอร์วิส (Lily Jervis)” Development Coach จากสโมสระดับโลก “ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์” ซึ่งมีผู้บริหารเอไอเอ ประเทศไทย พร้อมด้วยเพื่อนพนักงานกว่า 50 คน ร่วมสนุกกับคลาส HIIT Workout การออกกำลังกายแบบหนักสลับเบา เพิ่มการเผาผลาญไขมัน ให้การออกกำลังกายสนุกและสร้างสรรค์ เผาผลาญได้หลายร้อยแคลอรี่และยังเบิร์นต่อเนื่องหลังออกกำลังกาย โดยกิจกรรมดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญ “Rethink Healthy – ปรับความคิดเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น” ที่ได้ชวนทุกคนมาสร้างนิยามใหม่ของคำว่า "สุขภาพดี” สอดคล้องกับพันธกิจ AIA One Billion เพื่อมุ่งสนับสนุนให้คนไทยและผู้คนกว่าหนึ่งพันล้านคนทั่วเอเชียแปซิฟิกมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน ตามคำมั่นสัญญา ‘Healthier, Longer, Better Lives.

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ท่องเที่ยว

ที่เที่ยวต่างแดนยอดนิยม น่าเดินทางเที่ยวแบบสายมู

20/08/2024

ที่เที่ยวสายมู สถานที่สุดฮิตในต่างแดนยอดนิยม น่าเดินทางท่องเที่ยวแบบสายมูทุกวันนี้ การเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศไม่ได้ยากเหมือนแต่ก่อน ทั้งการเดินทางที่ง่ายขึ้น สะดวกขึ้น หลายประเทศมีความปลอดภัยสูง อีกทั้งต่อให้เบี้ยน้อยหอยน้อยก็ยังไปเที่ยวต่างประเทศซึ่งเป็นดินแดนยอดนิยมได้เช่นกัน ซึ่งการเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศผู้คนส่วนใหญ่มักจะมีจุดมุ่งหมายเพื่อไปเปิดประสบการณ์ สัมผัสกับวัฒนธรรม รวมถึงวิถีชีวิตที่แตกต่างในต่างแดน อย่างไรก็ตาม นอกจากจุดประสงค์ดังกล่าวแล้ว หลาย ๆ คนมีเป้าหมายอื่น ๆ ด้วย เช่น ไปชอปปิง ไปพักผ่อนตามสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติแบบที่หาไม่ได้ในบ้านเรา ไปเสี่ยงโชคเสี่ยงดวง หรือแม้กระทั่งไปทำกิจกรรมสายมู ไหว้พระ ทำบุญ ขอพร อะไรก็ว่าไป เที่ยวด้วยมูด้วย ไม่เสียเที่ยวและโอกาสอย่างแน่นอนอย่างที่บอกว่ายุคนี้สมัยนี้ที่พลาดไม่ได้ก็คือ การเดินทางสายมูเตลู หรือก็คือการเดินทางที่ถูกเชื่อมโยงกับความเชื่อของบุคคล หรืออาจจะบอกว่าความเชื่อได้กลายมาเป็นแรงจูงใจในการเดินทางท่องเที่ยวก็ได้เช่นกัน เป็นการเดินทางที่เน้นส่งเสริมความเชื่อทางจิตใจ ตลอดจนการทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อความศรัทธาที่มี ไม่ว่าจะเป็นไหว้พระ ทำบุญ สวดมนต์ ขอพร เช่าเครื่องรางมาบูชา เป็นต้น ซึ่งปกติการไปเที่ยวต่างประเทศ ทุกคนล้วนมีจุดประสงค์ต่าง ๆ นานา แต่สำหรับสายมูก็ไม่ลืมที่จะทำกิจกรรมมูเตลูด้วย ว่าแต่ช่วงนี้มีที่ดินแดนในต่างแดนที่ไหนบ้างที่คนไทยนิยมเดินทางไปเที่ยวและแวะเวียนไหว้พระขอพรแบบสายมู ไปต่างประเทศครั้งหนึ่งต้องไม่เสียเที่ยว!ฮ่องกงใครที่เดินทางสายมูมานานแล้วจะทราบดีว่าเส้นทาง “มาเก๊า ฮ่องกง” เป็นจุดหมายปลายทางในตำนานของเหล่าสายบุญและสายมูเลยก็ว่าได้ หากพูดถึงการเดินทางไปไหว้พระขอพรในต่างประเทศ ฮ่องกงคือที่แรก ๆ เสมอที่คนไทยนึกถึง มีวัดและศาลเจ้าดัง ๆ หลายที่ที่คนไทยนิยมเดินทางไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อขอเนื้อคู่ ขอบุตรหลาน ขอโชคขอทรัพย์ ขอให้ร่ำรวยเงินทอง ตอบโจทย์สายมูเตลูเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งทางฝั่งฮ่องกง ยังขึ้นชื่อเรื่องความเชื่อใน “เจ้าแม่กวนอิม” หนึ่งในองค์เทพที่คนไทยเคารพนับถือและศรัทธามาก ดังนั้น นอกจากดินแดนต้นกำเนิดอารยธรรมเก่าแก่อย่างอินเดียและจีนแผ่นดินใหญ่แล้ว สายมูที่นับถือเจ้าแม่กวนอิมต้องเคยเดินทางไปฮ่องกงมาแล้วอย่างแน่นอนญี่ปุ่นดินแดนอาทิตย์อุทัยอย่าง “ญี่ปุ่น” เป็นหมุดหมายยอดนิยมของคนไทยมานานมากแล้ว อาจจะพูดว่าเป็นประเทศสุดฮิตอันดับหนึ่งของคนไทยเลยก็ว่าได้ เหตุผลก็คือระยะทางที่ไม่ไกลมาก อากาศดี บ้านเมืองสวยงาม มีวัฒนธรรมที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ที่สำคัญคือมีแหล่งท่องเที่ยวสำหรับนักเที่ยวทุกสาย ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ อีกทั้งคนไทยค่อนข้างคุ้นชินกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นผ่านสื่อต่าง ๆ อยู่แล้ว จึงเป็นอะไรที่อยากจะเดินทางไปสัมผัสกับตัว สำหรับการเดินทางของสายมูที่ญี่ปุ่นของใครหลายคนอาจเริ่มต้นจาก “เครื่องรางญี่ปุ่น” หรือโอมาโมริ ที่น่ารักตะมุตะมิแต่ศักดิ์สิทธิ์และขลังมาก พกติดตัวไว้ช่วยเสริมดวงในหลาย ๆ ด้าน ตามวัดและศาลเจ้าดัง ๆ จึงมีคนไทยไปมูอย่างคึกคักเสมอเมียนมาร์นึกไม่ถึงใช่ไหมว่าประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียงอย่าง “เมียนมาร์” ก็จะติดอยู่ในลิสต์นี้ด้วย ก่อนอื่นต้องบอกว่าหากเป็นความเชื่อด้านพระพุทธศาสนา คนไทยจำนวนหนึ่งรู้สึกศรัทธาพระพุทธศาสนาในเมียนมาร์มากกว่าที่ไทยด้วยซ้ำไป และเมื่อรวมกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ขึ้นชื่อของฝั่งนั้นอย่าง “องค์เทพทันใจ” ด้วยแล้ว เมียร์มาร์จึงกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่นักเดินทางสายมูนิยมเดินทางไปสักการะขอพรเพื่อให้สมหวังในสิ่งที่ปรารถนา ว่ากันว่าขอพรได้ทุกเรื่อง (แต่ขอได้เรื่องเดียว) มีรีวิวว่าเห็นผลทันใจกันมานักต่อนัก ทั้งการเงิน การงาน ค้าขาย ความรัก โชคลาภ ดังนั้น ถ้าอยากเสริมดวงให้ชีวิตราบรื่นในทุก ๆ ด้าน บางทีก็ไม่ต้องเดินทางไปไกลมากนัก ข้ามไปประเทศเพื่อนบ้านก็ปังแล้วไต้หวันหนึ่งในดินแดนใกล้ ๆ ไทยที่ผู้คนนิยมไปเที่ยวในช่วงหลายปีที่ผ่านมา คือ “ไต้หวัน” ด้วยความโดดเด่นด้านแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติ แหล่งประวัติศาสตร์ ชุมชนเก่าแก่ ศิลปะและวัฒนธรรมท้องถิ่น หรือความทันสมัยและแสงสีแบบเมืองสมัยใหม่ อีกทั้งกรุงไทเปยังนับเป็นเมืองที่ที่ความปลอดภัยอันดับต้น ๆ ในเอเชียอีกต่างหาก อันดับโลกก็ไม่แย่ ซึ่งนอกจากแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ที่ไต้หวันก็มีวัดวาอารามเป็นจำนวนมากเช่นกัน ผู้คนทั้งนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นต่างก็แวะเวียนไปทำบุญ กราบไหว้สักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล ขอพรให้สมหวัง เช่าเครื่องราง ไต้หวันจึงเป็นอีกดินแดนที่น่าเดินทางเที่ยวแบบสายมู มูโชคลาภ การเงิน การงาน การเรียน ความรัก สุขภาพ ความสุข ฯลฯเกาหลีใต้“เกาหลีใต้” อาจเป็นจุดหมายปลายทางน้องใหม่ของนักเดินทางสายมู เนื่องจากการเดินทางไปเที่ยวเกาหลีใต้เพิ่งจะฮอตฮิตขึ้นมาในช่วงไม่กี่ปีมานี้เอง หลังจากวัฒนธรรม K-POP เริ่มมีอิทธิพลไปทั่วโลก ทำให้การเดินทางไปเที่ยวที่เกาหลีใต้เริ่มบูมขึ้นมา ส่วนใหญ่จะเป็นการไปเที่ยวสถานที่ต่าง ๆ เพื่อตามรอย พอได้เดินทางไปเที่ยวแล้วเจอเข้ากับวัดวาอารามโบราณในสมัยที่พระพุทธศาสนารุ่งเรืองในคาบสมุทรเกาหลี ก็อยากที่จะไหว้พระขอพรตามตามธรรมเนียมเพื่อความเป็นสิริมงคลจะได้ไม่เสียเที่ยว แต่อันที่จริงเกาหลีใต้ก็มีวัดดัง ๆ ที่ผู้คนเลื่อมใสนับถืออยู่หลายแห่ง สำหรับขอโชคลาภ ขอให้สมหวังในความรัก หรือจะขอเนื้อคู่ให้หน้าตาเหมือนไอดอลที่ติ่งอยู่ ก็เป็นความคิดที่ไม่เลวแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับ sanookhttps://www.sanook.com/travel/1448803/

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

X