Everyday knowledge for you
การทำงาน
19/08/2024
คนไทยกว่า 66% ที่มีความสนใจในการโยกย้ายไปทำงานต่างประเทศ เปิด 10 อันดับ จากการสำรวจของ Jobsdb by SEEK อาชีพ และประเทศ ที่คนไทยสนใจย้ายไปทำงานมากที่สุดJobsdb by SEEK ทำการสำรวจ Global Talent Survey 2024 ร่วมกับ Boston Consulting Group (BCG) และ The Network เพื่อสรุปข้อมูลเกี่ยวกับการทํางานและความสมัครใจในการโยกย้ายงานระดับโลกและระดับประเทศปรากฏการณ์คนไทยสมองไหล“ดวงพร พรหมอ่อน” กรรมการผู้จัดการ Jobsdb by SEEK กล่าวว่า ถึงแม้ตัวเลขที่คนไทยสนใจไปทำงานต่างประเทศจะยังไม่ถึงจุดสูงสุดเท่าก่อนเกิดโรคระบาดปี 2561 แต่ความสนใจถือว่าเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในปี 2566 ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนถึงปรากฏการณ์สมองไหลในจำนวนผู้ตอบแบบสอบถามคนไทยกว่า 66% ที่มีความสนใจในการโยกย้ายไปทำงานต่างประเทศ ส่วนมากเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ (79%) ซึ่งเกิดจากปัจจัยหลายประการ รวมถึงความมุ่งมั่นในความก้าวหน้าในอาชีพ ค่าตอบแทนที่สูงขึ้น ตลอดจนโอกาสที่จะได้รับประสบการณ์ในระดับนานาชาติสาขาอาชีพที่คนไทยมีความพร้อมในการโยกย้าย คือ• การศึกษาและการฝึกอบรม 85% อาจารย์เเละผู้สอนในประเทศไทยนั้นเชื่อว่าจะได้รับประสบการณ์ที่หลากหลายเเละเติบโตในหน้าที่จากการสอนระหว่างประเทศ• กฎหมาย 73% นักกฎหมายชาวไทยกำลังมองหาบทบาทระดับนานาชาติ เพื่อขยายความเชี่ยวชาญทางกฎหมายและสร้างเครือข่ายระดับโลก• การจัดการธุรกิจ 73% นักบริหารธุรกิจมีความต้องการที่จะมองหาโอกาสการทำงานในต่างประเทศอย่างสิงคโปร์ และฮ่องกง เพื่อการเติบโตด้านการตลาด สื่อดิจิทัล และอุตสาหกรรมเอไอ• ไอที 72% ผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีมีความมุ่งมั่นที่จะไปทำงานในประเทศที่มีการพัฒนาในด้านเทค อย่าง สหรัฐอเมริกา เพื่อที่จะเสริมสร้างความรู้ในแง่ของการพัฒนาซอฟต์แวร์ วิทยาศาสตร์ข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล และการพัฒนาและปฏิบัติการร่วมกัน• วิศวกรรมและเทคนิค 69% วิศวกรมีความต้องการที่จะทำงานในองค์กรขนาดใหญ่เเละครบวงจรประเทศที่คนไทยเลือกไปทำงานมากที่สุดทั้งนี้ 10 ประเทศที่คนไทยอยากไปทำงานมากที่สุด คืออันดับ 1 สิงคโปร์อันดับ 2 ออสเตรเลียอันดับ 3 สหรัฐอเมริกาอันดับ 4 ญี่ปุ่นอันดับ 5 แคนาดาอันดับ 6 จีนอันดับ 7 สหราชอาณาจักรอันดับ 8 สวิตเซอร์แลนด์อันดับ 9 เยอรมนีอันดับ 10 นิวซีแลนด์“ประเทศที่เป็นจุดหมายปลายทางของคนไทยอันดับต้น ๆ อาจได้รับอิทธิพลจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น ความสัมพันธ์ระดับภูมิภาค ศักยภาพทางการตลาด และการเชื่อมโยงทางวัฒนธรรม เป็นต้น อย่างไรก็ตาม 60% ของผู้ที่ได้ไปทำงานในต่างประเทศมีความตั้งใจที่จะกลับมายังประเทศไทยในท้ายที่สุด เเละอีก 18% ที่ต้องการอยู่ต่ออย่างไม่มีกำหนด”แหล่งที่มาข่าวต้นฉบับประชาชาติธุรกิจออนไลน์https://www.prachachat.net/sd-plus/sdplus-hr/news-1632962
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ประกันชีวิต
19/08/2024
บทความโดย “สมาคมนักวางแผนการเงินไทย”วันที่ 19 สิงหาคม 2567 ประกันชีวิตเป็นเครื่องมือทางการเงินที่ช่วยสร้างความมั่นคงเพื่อให้เราและคนที่เรารักพร้อมรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ไม่ว่าจะเป็นการสูญเสียรายได้ เจ็บป่วย หรือเสียชีวิต ซึ่งคู่รัก LGBTQ+ ก็มีความจำเป็นในการวางแผนประกันชีวิต เพื่อสร้างหลักประกันให้กับคู่ชีวิตปัจจุบันยังมีคำถามว่า “คู่รัก LGBTQ+ สามารถทำประกันชีวิตได้หรือไม่” คำตอบคือ ทำประกันได้และประกันจะคุ้มครองทุกอย่างเหมือนปกติ 100% แต่อาจจะต้องแนบหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มน้ำหนักของความสัมพันธ์เช่น หลักฐานการทำธุรกรรมร่วมกัน โดยเฉพาะเอกสารทางการเงิน เอกสารราชการ ที่สำคัญควรแจ้งข้อมูลให้บริษัทประกันครบถ้วน เช่น กรณีตัดหน้าอก เสริมหน้าอก หรือแปลงเพศเรียบร้อย เพื่อประโยชน์ในการพิจารณารับประกันและการจ่ายสินไหมทดแทน เพราะหากไม่แจ้งบริษัทประกันอาจมองว่าเป็นการปกปิดประวัติและอาจถูกยกเลิกกรมธรรม์หากบริษัทรับทราบภายหลังเมื่อตัดสินใจร่วมกันว่าจะทำประกันชีวิต ก็ต้องศึกษาข้อมูลให้รัดกุมก่อนเพื่อให้เหมาะสมกับทั้งคู่ 3 ข้อที่ต้องดูก่อนเลือกซื้อประกันคู่รัก LGBTQ+สำรวจตัวเองและคนในครอบครัวต้องดูว่าตัวเองหรือคนในครอบครัว มีจุดประสงค์ในการซื้อเพื่ออะไร เช่น ซื้อประกันเพื่อออมเงิน เพื่อสร้างหลักประกันให้คนที่อยู่ข้างหลัง เพื่อแบ่งเบาค่ารักษาพยาบาล เป็นต้น เพราะประกันชีวิตมีหลากหลายรูปแบบ หากทราบจุดประสงค์ จะทำให้เลือกแผนประกันได้ตรงกับความต้องการที่สุดดูความคุ้มค่าดูว่าประกันที่เลือก ให้ความคุ้มครองและผลตอบแทนตอบโจทย์ที่ต้องการหรือไม่ อาจเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ประกันหลาย ๆ ที่ เพื่อให้ได้แผนประกันที่คุ้มค่าและเหมาะสมที่สุดจ่ายค่าเบี้ยไหวหรือไม่ให้เลือกระยะเวลาจ่ายเบี้ยและทุนประกันที่เหมาะสมกับกำลังเงิน เพื่อให้สามารถเก็บออมได้แบบไม่สะดุด หรือเลือกประกันที่สามารถทยอยจ่ายเบี้ยแบบรายเดือนได้ เพื่อไม่ให้เป็นภาระหนักจนเกินไปโดยประกันชีวิตที่คู่รัก LGBTQ+ ควรเลือกทำเป็นฉบับแรก คือ ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ ซึ่งมีทั้งการออมเงินและความคุ้มครองชีวิต โดยการออมเงินจะมีเงินจ่ายคืนเป็นรายงวดตามเวลาที่กำหนด หรือคืนเป็นก้อนใหญ่ก้อนเดียวเมื่อครบสัญญา ส่วนความคุ้มครองชีวิต เมื่อผู้ถือกรมธรรม์เสียชีวิตระหว่างสัญญา ก็จะได้รับเงินก้อนให้คนข้างหลังไว้ใช้จ่ายเป็นจำนวนเงินตามที่กำหนดในสัญญาของแต่ละแบบประกันส่วนประกันชีวิตฮอตฮิตที่สุด คือ ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ เพราะให้ความคุ้มครองเป็นระยะเวลานาน หากเสียชีวิตในระหว่างสัญญาบริษัทประกันชีวิตจะจ่ายเงินตามจำนวนที่ระบุไว้ให้แก่ผู้รับประโยชน์แต่ถ้าหากผู้เอาประกันภัยยังคงมีชีวิตอยู่จนครบกำหนดสัญญา 85 ปี 89 ปี 90 ปี 95 ปี หรือ 99 ปี ขึ้นอยู่กับแบบประกัน บริษัทจะจ่ายเงินตามจำนวนที่ระบุไว้ให้แก่ผู้เอาประกันภัย โดยข้อดีคือ ให้ความคุ้มครองนานทั้งชีวิต จึงเป็นมรดกให้กับคู่ชีวิตหากผู้เอาประกันภัยเสียชีวิต และแนบสัญญาเพิ่มเติมสุขภาพ ทำให้ได้ความคุ้มครองครบทั้งชีวิตและสุขภาพเมื่อทำประกันชีวิตแล้วก็ควรมีประกันสุขภาพด้วย เพราะจะได้รับความคุ้มครองครบทั้งชีวิตและสุขภาพ ซึ่งประกันสุขภาพจะแตกต่างกับประกันชีวิตตรงที่ประกันสุขภาพจะให้ความคุ้มครองในกรณีที่เกิดการเจ็บป่วย ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาล ค่ายารักษา ไปจนถึงค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่กำหนดเอาไว้ในกรมธรรม์ นอกจากนี้ ประกันสุขภาพบางตัวยังมีการชดเชยค่าใช้จ่ายในกรณีที่เสียชีวิตอีกด้วยประกันชีวิตจะให้ความคุ้มครองในกรณีที่เสียชีวิตเท่านั้น แต่การซื้อประกันชีวิตยังสามารถเลือกกรมธรรม์ที่สะสมทรัพย์ สร้างผลตอบแทน หรือเลือกผู้รับผลประโยชน์ได้ตามต้องการ ดังนั้น การมีประกันสุขภาพ จึงเป็นทางเลือกที่สำคัญที่ควรมีไว้ เพราะจะเป็นตัวช่วยสำคัญในการรองรับความเสี่ยงจากโรคต่าง ๆ รวมถึงโรคร้ายที่อาจเกิดขึ้นแบบไม่คาดฝัน ช่วยดูแลค่าใช้จ่าย ทั้งค่าห้อง ค่ายา หรือค่ารักษาพยาบาล ไม่ว่าจะโรคระบาด โรคร้ายแรง โรคทั่วไป หรืออุบัติเหตุเมื่อตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะทำประกันแล้ว ประเด็นถัดมาและเป็นเรื่องที่บริษัทประกันเข้มงวดกับการทำประกันคู่รัก LGBTQ+ คือ ผู้รับผลประโยชน์ประกัน เพราะไม่ใช่ญาติ ดังนั้น บริษัทประกันบางแห่งจะให้สิทธิในการเป็น “คู่ชีวิต” เพื่อใส่ชื่อเป็นผู้รับผลประโยชน์ประกัน 3 ประโยชน์หลัก ๆ ของประกันคู่ชีวิต คือ• ความคุ้มครองทางการเงิน ช่วงที่คู่ครองเสียชีวิต เงินสินไหมทดแทนจากประกันจะช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่าย ให้คู่ครองที่เหลืออยู่สามารถดำรงชีวิตต่อไปได้• วางแผนการเงินระยะยาว ใช้เป็นเครื่องมือวางแผนการเงินระยะยาว เช่น การวางแผนการศึกษาบุตร การวางแผนเกษียณอายุ• สิทธิประโยชน์ทางภาษี เบี้ยประกันชีวิตสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ตามเกณฑ์ที่กำหนดคู่รัก LGBTQ+ ที่อยากสร้างอนาคตร่วมกัน ดูแลกันทั้งในวันที่หัวเราะและวันที่น้ำตาไหล แต่เนื่องจากยังไม่ได้รับสิทธิเต็มที่ เช่น การรับมรดก การใช้สวัสดิการรักษาพยาบาลร่วมกัน ซึ่งอาจกลายเป็นปัญหาใหญ่ หากคนรักเจ็บป่วยหรือจากไปแต่รู้หรือไม่ว่า ประกันชีวิต คือ ทางออกที่ช่วยแบ่งเบาภาระเหล่านี้ได้ เพราะกรมธรรม์ประกันได้เปิดกว้างเรื่องผู้รับผลประโยชน์ ไม่จำเป็นต้องเป็นญาติทางสายเลือด ดังนั้น คู่รัก LGBTQ+ สามารถทำประกันชีวิตเพื่อดูแลกันและกันได้อย่างมั่นคง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคตแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับประชาชาติธุรกิจออนไลน์https://www.prachachat.net/finance/news-1632996
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ห้องแสดงนิทรรศการ
19/08/2024
วราวุธ ศิลปอาชา รมว.พม. เป็นประธานเปิดงานนิทรรศการศิลปะ 10 Artists for charity ผลงานศิลปะจาก 10 ศิลปินไทย สนับสนุนนโยบาย Soft Power ด้าน ‘ศิลปะ’ ของรัฐบาล เปิดแสดงและจำหน่ายผลงานศิลป์ รายได้มอบองค์กรการกุศุลสนับสนุนนโยบาย Soft Power ของรัฐบาลด้าน ‘ศิลปะ’ ไอคอนสยาม เดินหน้าโครงการ ICON Art & Culture โดยร่วมกับคณาจารย์จากมหาวิทยาลัยชั้นนำในประเทศไทย และศิลปินอิสระผู้มีชื่อเสียง จัดนิทรรศการ “10 Artists for Charity” นอกจากเป็นกิจกรรมการกุศล ด้วยการบริจาครายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายผลงานศิลปะในนิทรรศการชุดนี้ให้กับองค์กรการกุศลตามเป้าหมายที่วางไว้ยังมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ศิลปะร่วมสมัยของไทย รวมถึงเผยแพร่องค์ความรู้ในสาขาทัศนศิลป์ให้นักศึกษาและประชาชนทั่วไปที่สนใจได้มีส่วนร่วมชื่นชมความงดงามของงานศิลป์ให้เข้าถึงได้สะดวกขึ้นเทพศักดิ์ ทองนพคุณ กับผลงานศิลปะใน 10 Artists for Charity10 ศิลปินผู้ร่วมจัดแสดงผลงานศิลปะในนิทรรศการ “10 Artists for Charity” ประกอบไปด้วย เทพศักดิ์ ทองนพคุณ ศิลปินและนักวิชาการชาวจังหวัดชลบุรี สำเร็จการศึกษาจากคณะจิตรกรรม ประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร เป็นรุ่นที่สาม เป็นศิลปินผู้มีชื่อเสียงจากการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะประเภทภาพพิมพ์ และจิตรกรรมในปัจจุบันอ.เทพศักดิ์เป็นอดีตคณบดี คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา จังหวัดชลบุรี หลายสมัย สร้างความสัมพันธ์ความร่วมมือกับศิลปินต่างประเทศไว้มากมายเพื่อความก้าวหน้าวงการศิลปะในเมืองไทยวัฒนโชติ ตุงคะเตชะ กับผลงานในนิทรรศการ 10 Artists for Charityวัฒนโชติ ตุงคะเตชะ เกิดที่นครสวรรค์ สำเร็จการศึกษาด้านภาพพิมพ์ที่วิทยาลัยเพาะช่าง กรุงเทพฯ จากนั้นศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยบูรพาและ University of California Los Angeles (UCLA)สร้างสรรค์ผลงานศิลปะหลากหลายประเภท อาทิ ภาพวาดสีน้ำ ภาพวาดสีอะครีลิค ภาพพิมพ์ ประติมากรรมเซรามิก และสื่อผสมได้รับเชิญไปจัดแสดงนิทรรศการในหลายประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา โปแลนด์ อิตาลี ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จีน ไต้หวัน อินโดนีเซีย สิงคโปร์ อินเดีย มาเลเซีย เวียดนาม เมียนมา ฟิลิปปินส์ เนปาล บังคลาเทศวัฒนโชติ เคยได้รับรางวัลชนะเลิศจากนิทรรศการศิลปะตะวันออกครั้งที่ 10 จากมหาวิทยาลัยต้าหลี่ ยูนนาน ประเทศจีน เมื่อปีพ.ศ.2553, รางวัลเหรียญทองจากงาน Ecorea Jeonbuk Biennale ครั้งที่ 1 ปี 2555 ที่เกาหลีใต้ และรางวัล Excellence Award จากนิทรรศการศิลปะร่วมสมัยนานาชาติเซี่ยงไฮ้ 2560 ในประเทศจีน เป็นอาทินุกูล ปัญญาดี กับผลงานในนิทรรศการ 10 Artists for Charityนุกูล ปัญญาดี ศิลปินวัย 63 ปี ชาวตะกั่วป่า จังหวัดพังงา สำเร็จการศึกษาจากวิทยาลัยเพาะช่าง และมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร มีผลงานนิทรรศการเดี่ยวและนิทรรศการกลุ่มมากมายเคยร่วมแสดงผลงานสีน้ำนานาชาติเอเชีย ครั้งที่ 12 ที่เมืองโอซากา ประเทศญี่ปุ่น, มหกรรมสีน้ำอาเซียนนานาชาติ ครั้งที่ 17 ที่เมืองเจจู เกาหลีใต้ เป็นอาทิเป็นศิลปินผู้ร่วมระดมทุนก่อตั้ง “ห้องศิลปะโรงเรียนบ้านน้ำเค็ม” เพื่อช่วยเยียวยาเด็กๆ และชุมชนบ้านน้ำเค็มที่ประสบความยากลำบากจากเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิถล่มภาคใต้ของไทยเมื่อปี 2547จิรวัฒน์ พิรสันต์ กับผลงานในนิทรรศการ 10 Artists for Charityจิรวัฒน์ พิระสันต์ ศิลปินและอาจารย์คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ศิลปะและการออกแบบ มหาวิทยาลัยนเรศวร จังหวัดพิษณุโลก สร้างผลงานและเกียรติประวัติไว้มากมาย อาทิ เป็น 1 ใน 4 คนไทยที่ได้รับรางวัล Excellence Award จากงานนิทรรศการ Shanghai International Contemporary Art Exchange Exhibition and Workshop 2017 ครั้งที่ 4 ในนครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีนนิทรรศการดังกล่าวเป็นการคัดเลือกผลงานศิลปะจากศิลปินทั่วโลก 80 คน 30 ประเทศ มาจัดแสดงผลงานและเวิร์คช็อปวาดภาพประกวด เพื่อคัดเลือกให้ได้รับรางวัล Excellence Award ซึ่งเป็นรางวัลสูงสุด มีด้วยกัน 20 รางวัลสุรพงศ์ สุทัศน์ ณ อยุธยา กับนิทรรศการ 10 Artists for Charityสุรพงศ์ สุทัศน์ ณ อยุธยา ศิลปินปริญญาศิลปมหาบัณฑิต สาขาวิชาทัศนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร หนึ่งในศิลปินผู้มีความเยี่ยมยอดด้านการวาดภาพกึ่งนามธรรมอย่างมีเอกลักษณ์และความโดดเด่นด้านศิลปะจัดวางงานศิลปะมักมีแรงบันดาลใจจากสภาวะความรู้สึกบีบคั้น ถูกกดขี่ ความลำบาก ความทุกข์ยาก การต้องแบกรับภาระทางกายและใจ การต้องต่อสู้กับอุปสรรค โดยแปรเป็นความงามแห่งพลังการต่อสู้ ก่อเกิดแรงผลักดันให้ชีวิตก้าวไปข้างหน้าอย่างมีคุณค่ากมล คงทองณัฏฐพล สุวรรณกุศลส่งร่วมด้วยศิลปินอีก 5 ท่าน ได้แก่ กมล คงทอง, สิทธิชัย ปรัชญารัติกุล, สาธิต เทศนา, ณัฏฐพล สุวรรณกุศลส่ง และ เอกกมล โรจน์จิรนันท์นิทรรศการ “10 Artists for Charity” นำเสนอผลงานจำนวน 52 ผลงาน ประกอบด้วย ผลงานจิตรกรรมเทคนิคสีน้ำมัน สีอะคลีลิค และเทคนิคผสม โดยถ่ายทอดแนวความคิดจากเรื่องราวที่หลากหลายแตกต่างกันออกไปตามประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของศิลปินนำเสนอแนวคิดและการแสดงออกในหลากหลายมิติ ด้วยการนำประสบการณ์ในความทรงจำมาตีความทางสุนทรียศาสตร์เพื่อถ่ายทอดเป็นภาพศิลปะในเชิงนามธรรม บางผลงานนำเสนอรูปทรงเรขาคณิตแทนภาพบ้านที่ดูเข้มแข็งผ่านการใช้สีสันกระตุ้นความรู้สึกให้เกิดการปฏิสัมพันธ์ระหว่างภาพผลงานศิลปะกับผู้ชม บางผลงานมีวิธีการใช้สีให้เกิดการรวมตัวเข้าหากันผ่านการใช้เทคนิคเฉพาะที่แม่นยำเกิดเป็นภาพในเชิงอุดมคติที่สร้างจินตนาการให้กับผู้ชมผลงานได้ นอกจากนี้ยังมีอีกหลายผลงานของศิลปินอีกหลายท่านที่ถ่ายทอดจินตนาการและสร้างสรรค์อย่างได้น่าสนใจวราวุธ ศิลปอาชา เปิดนิทรรศการ 10 Artists for Charityได้รับเกียรติจาก วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานเปิดนิทรรศการฯไอคอนสยามขอเชิญผู้ชื่นชอบผลงานศิลป์และผู้สนใจในศิลปะร่วมชื่นชมความงามของผลงานศิลปะ รวมถึงเลือกซื้อผลงานที่ประทับใจ เพื่อร่วมบริจาครายได้ส่วนหนึ่งให้กับองค์กรการกุศลได้ ณ ICON Art & Culture Space ชั้น 8 ไอคอนสยาม วันนี้-22 สิงหาคม 2567สาธิต เทศนาเอกกมล โรจน์จิรนันท์สิทธิชัย ปรัชญารัติกุลแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับกรุงเทพธุรกิจhttps://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/art-living/1140413
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ท่องเที่ยว
19/08/2024
อช. ภูสอยดาว อัพเดตภาพสุดสวยงามของ "ดอกหงอนนาค" ที่กำลังบานสวยกว่า 80% แล้วที่ลานสน ภูสอยดาว คาดบานเต็มที่ช่วงต้นเดือนกันยายน และคาดว่าสามารถชมได้ถึงปลายเดือน ก.ย. ถึงต้น ต.ค. นี้ภาพจาก อช.ภูสอยดาว ถ่ายเมื่อวันที่ 14-15 สิงหาคม 2567เฟซบุ๊กเพจอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว - Phu soi dao National Park โพสต์ภาพความสวยงามของดอกหงอนนาค นางเอกประจำภูสอยดาว ที่ในปีนี้กำลังบานสะพรั่งสวยกว่า 80% แล้วทั่วบริเวณลานสน และคาดว่าจะบานเต็มที่ในช่วงต้นเดือนกันยายน 67 และจะชมได้ไปถึงช่วงปลายเดือนกันยายนถึงต้นตุลาคม 67 ก่อนจะเริ่มโรยไปในที่สุดภาพจาก อช.ภูสอยดาว ถ่ายเมื่อวันที่ 14-15 สิงหาคม 2567สำหรับ “ดอกหงอนนาค” ได้ชื่อว่าเป็นนางเอกประจำภูสอยดาวในช่วงฤดูฝนเช่นนี้ หากใครได้มีโอกาสมาเชยชมรับรองว่าจะหลงเสน่ห์เป็นแน่ ซึ่งดอกหงอนนาคนี้ มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า “หญ้าหงอนเงือก” หรือ “น้ำค้างกลางเที่ยง”ภาพจาก อช.ภูสอยดาว ถ่ายเมื่อวันที่ 14-15 สิงหาคม 2567เป็นพืชล้มลุกชนิดหนึ่งที่ออกดอกในฤดูฝน ดอกจะมีทั้งสีม่วงอ่อนหรือม่วงน้ำเงิน สีขาว และสีชมพู ซึ่งค่อนข้างหายากภาพจาก อช.ภูสอยดาว ถ่ายเมื่อวันที่ 14-15 สิงหาคม 2567สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อช.ภูสอยดาว โทร. 09-5629-9528 , 09-1024-7633แหล่งที่มาข่าวต้นฉบับผู้จัดการออนไลน์https://mgronline.com/travel/detail/9670000075432
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
การตลาด
16/08/2024
ในภาวะที่เศรษฐกิจไทยยังมีความอึมครึม ขณะที่เศรษฐกิจโลกก็มีแต่ความไม่แน่นอน และสามารถพลิกผันได้ตลอด คำถามหนึ่งที่อยู่ในใจผู้บริหารและเจ้าของธุรกิจทั้งหลายคือ...แล้วจะเติบโตต่อไปอย่างไรดี?จะตอบคำถามที่ดูเหมือนจะง่ายแต่ตอบยากนี้ การได้ย้อนกลับสู่พื้นฐานและจุดเริ่มต้นอาจจะเป็นแนวทางหนึ่งในการจะช่วยหาคำตอบที่ต้องการดังนั้น ลองมาพิจารณาถึงแนวคิดพื้นฐานของการเลือกกลยุทธ์ในการเติบโตของธุรกิจ พร้อมทั้งแนวคิดใหม่ๆ ในปัจจุบันกันดู“กลยุทธ์การเติบโต” เป็นกลยุทธ์ที่ธุรกิจเลือกที่จะใช้เพื่อนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของผลลัพธ์ที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็น รายได้ กำไร ยอดขาย ขนาด ลูกค้า ฯลฯ ความท้าทายไม่ใช่การเติบโตแต่เพียงอย่างเดียวแต่คือทำให้เกิดการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน กลยุทธ์ที่ใช้ในการเติบโตในอดีต เมื่อเวลาผ่านพ้นไปก็จะไม่ทำให้เติบโตเหมือนเดิม รวมทั้งเมื่อมีการเติบโตเกิดขึ้นก็ไม่พ้นที่จะมีคู่แข่งใหม่เข้ามาการเลือกกลยุทธ์การเติบโตนั้นคือการเลือกตอบคำถามพื้นฐานสามคำถาม ได้แก่ เติบโตในธุรกิจไหน? (Where?) เติบโตอย่างไร? (What?) และ เติบโตด้วยวิธีการอะไร? (How?)การเลือกว่าจะเติบโตในธุรกิจไหน ก็มีอยู่สามทางเลือกหลักๆ ได้แก่1. เติบโตในธุรกิจหลัก หรือ Core Business Growth ที่มุ่งเน้นสินค้า บริการเดิม หรือ ตลาดหลักที่มีอยู่ โดยอาจจะเป็นการออกสินค้ารุ่นใหม่ หรือ บริการใหม่ หรือ ขยายสาขา เป็นต้น2. เติบโตในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง หรือ Adjacent Growth ทั้งเข้าสู่ธุรกิจใหม่ที่สัมพันธ์หรือเกี่ยวข้องกับธุรกิจเดิม สามารถใช้ทรัพยากรหรือความสามารถบางอย่างร่วมกันได้เช่น กรณีของ Apple ที่จากคอมพิวเตอร์ สู่โทรศัพท์มือถือ สู่เพลง สู่การชำระเงิน เป็นต้น รวมทั้งเข้าสู่ธุรกิจใหม่ที่เกี่ยวข้องในลักษณะของต้นน้ำหรือปลายน้ำ นั้นคือย้อนกลับไปเป็นผู้จัดหาวัตถุดิบ (ต้นน้ำ)หรือ การทำช่องทางจำหน่ายของตนเอง (ปลายน้ำ) เช่น Netflix ไปผลิตหนังเอง หรือ Disney ออก Disney+ เพื่อเป็นช่องทางเข้าถึงผู้บริโภค เป็นต้น3. เติบโตสู่ธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหลัก หรือ Non-Core Growth ที่ธุรกิจใหม่ที่จะเข้าไปสู่นั้น ไม่สามารถหาความเกี่ยวข้องใดๆ กับธุรกิจหลักเดิม โดยส่วนใหญ่เป็นการเติบโตเนื่องจากมองเห็นโอกาสที่มีอยู่ เช่น ปตท.ที่จากธุรกิจพลังงาน สู่ธุรกิจยาและสุขภาพ เป็นต้นสำหรับคำถามที่สองคือ จะเติบโตอย่างไร? หรือ What? นั้นก็มีหลากหลายแนวทาง ทั้งแนวคิดแบบดั้งเดิมที่คุ้นเคยเช่น การออกผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับลูกค้าเก่า หรือ การนำผลิตภัณฑ์เดิมไปจับลูกค้าใหม่ หรือ การขยายไปยังต่างประเทศ หรือ การมุ่งเน้นที่ลูกค้ากลุ่มใหม่ เป็นต้นอย่างไรก็ดีในช่วงหลังก็ได้มีนำแนวคิดใหม่ๆ ทางธุรกิจมาช่วยในการคิดวิธีการในการเติบโต ไม่ว่าจะเป็น การนำดิจิทัลเทคโนโลยี หรือ AI มาใช้ หรือการใช้ประโยชน์จากข้อมูลเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตหรือการมุ่งเน้นที่ลูกค้ามากขึ้น (Customer Centric) โดยทั้งหมดข้างต้นจะช่วยในการเข้าใจพฤติกรรมลูกค้าได้ดีขึ้น เพิ่มการให้บริการในรูปแบบใหม่ๆ ทำให้ลูกค้าพอใจ กลับมาใช้บริการซ้ำ และบอกต่อไปให้คนอื่นมาใช้บริการนอกจากนี้ยังสามารถนำเรื่องของ Business Model ใหม่ๆ มาใช้ ไม่ว่าจะเป็น เรื่องของการสร้าง Platform หรือ การสร้าง Ecosytem ก็จะช่วยให้เกิดการเติบโต โดยทำให้ผู้เกี่ยวข้องต่างๆ เข้ามามีส่วนร่วมและเติบโตไปพร้อมๆ กัน หรือ การใช้โมเดล DTC (Direct-to-Consumer) ที่ขายตรงไปยังผู้บริโภค โดยไม่ผ่านคนกลางเหมือนในอดีต เป็นต้นอีกหนึ่งแนวทางในการคิด คือการจับกระแสแนวโน้มใหม่ๆ และออกสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวข้อง เช่น เรื่องของความยั่งยืนและการดูแลสิ่งแวดล้อม หรือ เรื่องของความเป็นอยู่ที่ดี (Well Being) ก็เป็นโอกาส ในการออกผลิตภัณฑ์ใหม่และขยายเข้าสู่ธุรกิจใหม่อีกหนึ่งแนวคิด คือการเข้าไปลงทุนในรูปแบบของ Startups ไม่ว่าจะเป็น จากภายในองค์กรเอง เช่น การทำ Innovation Labs หรือ การเข้าไปลงทุนกับ Startups ทั้งโดยตรงและผ่านกองทุนทั้งหลายคำถามสุดท้ายคือ จะเติบโตด้วยวิธีการอะไร? หรือ How? มีแนวทางในการตอบอยู่สามทางเลือก นั้นคือ1. เติบโตด้วยตนเอง หรือ ที่คุ้นในชื่อ Organic2. เติบโตโดยร่วมพันธมิตรทางธุรกิจ รวมทั้งผ่านทางรูปแฟรนไชส์หรือการร่วมทุนด้วย3. เติบโตโดยการเข้าไปซื้อหรือควบรวมกิจการ ซึ่งธุรกิจจะเลือกวิธีการใดนั้นก็ต้องดูที่อีกหลายปัจจัย ทั้งเรื่องเวลา เงินทุน และความพร้อมด้วยสุดท้ายธุรกิจจะเติบโตอย่างไร ผู้บริหารก็จะต้องเลือกแนวทางที่เหมาะสม และคำถามต่างๆ ก็เป็นเพียงเครื่องนำทางไปสู่คำตอบเท่านั้นเนื้อหาข้างต้นเป็นส่วนหนึ่งของงานสัมมนา “ถอดรหัสกลยุทธ์ยุคใหม่” ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 7 สิงหาคมนี้ โดยคณาจารย์ของคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาฯ ถ้าสนใจก็สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ FB: CBSCommerce หรือโทร.สอบถามได้ที่ 022185763-4 ครับแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับกรุงเทพธุรกิจhttps://www.bangkokbiznews.com/business/business/1136864
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ห้องแสดงนิทรรศการ
16/08/2024
“พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อู่ทอง” ตั้งอยู่ที่ ตำบลอู่ทอง อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นพิพิธภัณฑ์ด้านประวัติศาสตร์ โบราณคดี และประวัติศาสตร์ศิลปะ จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นสถานที่เก็บรักษาและจัดแสดงโบราณวัตถุ ที่ได้จากดำเนินการทางโบราณคดีที่เมืองโบราณอู่ทองกรมศิลปากรได้ดำเนินโครงการพัฒนา และเพิ่มศักยภาพพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อู่ทอง เป็นโครงการต่อเนื่อง 5 ระยะ ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 – 2568 โดยซ่อมแซม ปรับปรุงอาคารจัดแสดงและนิทรรศการถาวรให้มีความทันสมัย ด้วยเทคนิคการจัดแสดงสมัยใหม่ที่น่าสนใจดึงดูดผู้เข้าชม และปรับปรุงข้อมูลการจัดแสดงให้เป็นปัจจุบัน มีมาตรฐานระดับสากล นำเสนอเรื่องราวของเมืองโบราณอู่ทองและวัฒนธรรมทวารวดีที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่สำคัญของชาติภายในจัดแสดงนิทรรศการนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับเมืองโบราณอู่ทองและพื้นที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ กระทั่งเข้าสู่วัฒนธรรมทวารวดี ซึ่งเป็นวัฒนธรรมยุคแรกเริ่มประวัติศาสตร์ในประเทศไทย จัดแสดงโบราณวัตถุชิ้นเยี่ยมที่มีคุณค่าทางวิชาการจำนวนมาก และเก็บรักษาโบราณวัตถุวัฒนธรรมทวารวดี ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของกรมศิลปากรโดยมีหนึ่งในไฮไลต์สำคัญ คือ การจัดแสดงโบราณวัตถุชิ้นเยี่ยม ธรรมจักร แท่น และเสา พบจากการขุดแต่งเจดีย์หมายเลข 11 เมืองโบราณอู่ทอง อายุราวพุทธศตวรรษที่ 12 - 13 หรือประมาณ 1,300 – 1,400 ปีมาแล้ว ถือเป็นหลักฐานสำคัญที่แสดงถึงการประดิษฐานธรรมจักรที่สมบูรณ์ที่สุดที่พบเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย ทำให้สันนิษฐานได้ว่าในสมัยทวารวดี มีการสร้างธรรมจักรประดิษฐานบนเสา ตั้งอยู่ด้านหน้าศาสนสถานทั้งนี้ ห้องจัดแสดงภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อู่ทอง ประกอบด้วย1. ทวารวดี ปฐมบทแห่งประวัติศาสตร์ไทยห้องวีดีทัศน์บรรยายสรุปเรื่องเมืองโบราณอู่ทองและวัฒนธรรมทวารวดี กล่าวถึงการติดต่อกับดินแดนภายนอก ทำให้เกิดการรับอารยธรรมจากอินเดียเข้ามาผสมผสานกับวัฒนธรรมดั้งเดิม เช่น การนับถือศาสนา การปกครองโดยระบบกษัตริย์ การสร้างงานศิลปกรรม และการใช้ตัวอักษรและภาษา2. เมืองโบราณอู่ทอง : ศูนย์กลางแรกเริ่มของวัฒนธรรมทวารวดี จุดเชื่อมโยงเส้นทางการค้าในดินแดนสุวรรณภูมิโบราณวัตถุสำคัญได้แก่ เหรียญโรมันจักรพรรดิวิคโตรินุส ชิ้นส่วนเครื่องถ้วยจากตะวันออกกลางประดับบนปูนปั้นสมัยทวารวดี เหรียญอาหรับ เครื่องถ้วยจีน และปูนปั้นรูปใบหน้าพ่อค้าชาวต่างชาติ และมีสื่อวีดีทัศน์ประกอบโมเดลภูมิประเทศ บอกเล่าเรื่องราวของเมืองโบราณอู่ทอง3. โบราณคดีเมืองอู่ทอง: พ.ศ.2446 - ปัจจุบัน ศตวรรษสำคัญงานโบราณคดีในประเทศไทยจัดแสดงเรื่องงานโบราณคดีที่เมืองโบราณอู่ทอง ตั้งแต่สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพเสด็จตรวจราชการเมืองอู่ทองใน พ.ศ.2446 จนถึงการดำเนินงานทางโบราณคดีโดยกรมศิลปากรในปัจจุบัน และจัดแสดงโบราณวัตถุที่ได้จากการขุดแต่งโบราณสถานเมืองโบราณอู่ทองซึ่งมีทั้งเจดีย์และวิหารเนื่องในศาสนาพุทธ และศาสนสถานเนื่องในศาสนาพราหมณ์ - ฮินดู โบราณวัตถุชิ้นสำคัญ เช่น พระพุทธรูปปางแสดงธรรม สมัยทวารวดี จากเจดีย์หมายเลข 114. เจดีย์ วิหาร โบราณสถานทวารวดี: สถาปัตยกรรมแห่งศรัทธา ปฐมบทของพุทธศาสนาในดินแดนไทยจัดแสดงสถาปัตยกรรมสมัยทวารวดี ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมสมัยแรกของประเทศไทย โบราณวัตถุสำคัญ เช่น อิฐฤกษ์ ที่ใช้ในการประกอบพิธีกรรมวางฤกษ์เมื่อเริ่มสร้างศาสนสถาน และประติมากรรมปูนปั้นและดินเผาประดับศาสนสถาน5. ลูกปัดและเครื่องประดับทองคำ: วัตถุล้ำค่า ความงามที่สะท้อนความรุ่งเรืองของเมืองโบราณอู่ทองจัดแสดงลูกปัดและเครื่องประดับ ซึ่งพบบริเวณเมืองโบราณอู่ทองเป็นจำนวนมาก โบราณวัตถุสำคัญ เช่น ลูกปัดหินคาร์เนเลียนและอาเกต ซึ่งเป็นสินค้านำเข้าจากอินเดีย เครื่องประดับทองคำ สมัยทวารวดี และแผ่นดินเผารูปบุคคลฟ้อนรำ แสดงถึงการสวมใส่เครื่องประดับของผู้คนในสมัยทวารวดี6. ศาสนาและความเชื่อ: จากพุทธภูมิสู่สุวรรณภูมิ อรุณรุ่งแห่งยุคประวัติศาสตร์ไทยจัดแสดงเรื่องศาสนาและความเชื่อที่เมืองโบราณอู่ทอง สันนิษฐานว่ามีการนับถือศาสนาพุทธแบบเถรวาทเป็นหลัก โดยมีการนับถือศาสนาพุทธแบบมหายานร่วมอยู่ด้วย นอกจากนี้ ยังพบหลักฐานการนับถือศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู และพบโบราณวัตถุที่แสดงถึงความเชื่อท้องถิ่นที่พบเฉพาะในวัฒนธรรมทวารวดี ที่ยังไม่สามารถสรุปคติในการสร้างอย่างแน่ชัด โบราณวัตถุสำคัญ ได้แก่ แผ่นดินเผารูปพระภิกษุอุ้มบาตร จารึกคาถาเย ธฺมมา ซึ่งเป็นคาถาหัวใจสำคัญของศาสนาพุทธ พระพิมพ์ภาพพระสาวกมีจารึก เศียรพระพุทธรูปทองคำ เอกมุขลึงค์ ตุ๊กตารูปคนจูงลิงพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี เปิดให้บริการวันพุธ – อาทิตย์ วันหยุดราชการพิเศษและวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 09.00 – 16.00 น. ค่าธรรมเนียมเข้าชม ชาวไทย 30 บาท ชาวต่างชาติ 150 บาท สอบถามเพิ่มเติมโทร 0-3555-1021แหล่งที่มาข่าวต้นฉบับผู้จัดการออนไลน์https://mgronline.com/travel/detail/9670000070967
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ห้องแสดงนิทรรศการ
16/08/2024
จากกรณีเฟซบุ๊กเพจท่องเที่ยวที่มีผู้ติดตามกว่า 30,000 คน ได้โพสต์ภาพแฟนหนุ่มคุกเข่าขอแต่งงานบนยอดเขาฟูจิ ประเทศญี่ปุ่น พร้อมทั้งได้โพสต์ภาพที่แฟนเพจทักอินบ็อกซ์มาชื่นชมด้วยที่เจ้าของเพจนำสติ๊กเกอร์ข้อความเดียวกับชื่อเพจไปติดบนเสาที่ใช้กั้นเขตทางเดินบนภูเขาฟูจิ ซึ่งโพสต์ดังกล่าวมีคนเข้าไปแสดงความคิดเห็นต่างๆ มากมาย อาทิ ไม่ควรทำเพราะเป็นสถานที่ที่คนญี่ปุ่นเคารพและศักดิ์สิทธิ์ด้านเจ้าของเพจชี้แจงว่า ได้ขออนุญาตเจ้าหน้าที่แล้ว และเป็นสถานที่ที่สามารถติดสติ๊กเกอร์ได้ ไม่ได้มีเธอติดคนเดียว อย่างไรก็ตามทางเพจได้ปิดเพจเฟซบุ๊กดังกล่าวไปแล้วภาพจากเพจท่องเที่ยวชื่อดังโพสต์ภาพก่อนปิดเพจไปแล้วล่าสุด เพจเฟซบุ๊ก ลองวิเคราะห์ดู ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 3.5 แสนคน เผยว่า “มีลูกเพจท่านหนึ่งแกเห็นโพสต์พอดีตอนปีนขึ้นเขามา แกเลยแกะออกโดยไม่ได้คิดไรเยอะแกว่า ถ่ายไว้ด้วย แอดเลยขอภาพขอคลิปเขามา”ภาพจากเพจท่องเที่ยวชื่อดังโพสต์ภาพก่อนปิดเพจไปแล้ว“ขอขอบคุณความมือบอนของคุณ สำหรับแอดมันดีมากเลยนะ บางครั้งการทำลายมันก็เป็นเรื่องที่ดี ยิ่งการทำลายสติ๊กเกอร์ที่ไปติดตามสถานที่ท่องเที่ยวนี่ยิ่งดีเลย ไม่รู้จะพูดยังไง นอกจากขอบคุณ ขอบคุณ และขอบคุณ”ภาพจากเพจลองวิเคราะห์ดู“ปล. แอดอาจพิมพ์อะไรตกหล่นไปนะ เรื่องสติ๊กเกอร์ติดตามสถานที่ท่องเที่ยวมันก็มีประเทศอื่นด้วยแหละ แต่มันไม่ได้แปลว่าต้องทำตาม และก็ขึ้นอยู่ว่าสถานที่นั้นให้ติดได้หรือไม่ (พูดเผื่อว่าบางที่มีไว้สำหรับติด)”ภาพจากเพจลองวิเคราะห์ดูหลังจากโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไปได้มีผู้เข้าไปขอบคุณ และแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก เช่นว่า อยากบอกว่า กราบขอบพระคุณมากๆค่ะ, พล วิก มาเก็บงาน, ขอบพระคุณจากใจจริงๆ, เอาจริงๆ เที่ยวธรรมชาติก็อย่าไปหาทำอะไรที่ทำลายธรรมชาติเลย ไม่ว่าทิ้งขยะหรือสลักชื่ออะไรลงไปแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับผู้จัดการออนไลน์https://mgronline.com/travel/detail/9670000075099
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ประกันชีวิต
16/08/2024
กรุงเทพฯ 16 สิงหาคม 2567 - เอไอเอ ประเทศไทย นำโดย นางสาวรพีพร วงศ์ทองคำ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรและภาพลักษณ์ มอบกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุมูลค่าทุนประกันภัย 2,200,000 บาท แทนคำขอบคุณให้แก่นักชกหญิงฮีโร่โอลิมปิกคนแรกของไทย “บี” จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง ที่ได้สร้างประวัติศาสตร์คว้าเหรียญทองแดง โอลิมปิก ปารีสเกมส์ 2024 กลับมาฝากชาวไทยได้สำเร็จ พร้อมกันนี้ยังได้มอบกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุมูลค่าทุนประกันภัย 2,200,000 บาท ให้แก่ “โค้ชวิจารณ์” พ.ต.ท.วิจารณ์ พลฤทธิ์ หัวหน้าโค้ชทีมมวยหญิงชุดโอลิมปิก และอดีตนักชกเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ เมื่อปี 2543 อีกด้วย ซึ่งถือเป็นการเดินหน้าสานต่อความมุ่งมั่นของเอไอเอที่ต้องการสนับสนุนการกีฬาไทยให้ก้าวหน้าต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง รวมถึงส่งเสริมคนไทยและผู้คนทั่วเอเชียแปซิฟิกกว่าพันหนึ่งล้านคนให้มีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ตามคำมั่นสัญญา ‘Healthier, Longer, Better Lives’ นอกจากนี้ เอไอเอ ประเทศไทย ขอเป็นตัวแทนคนไทยมอบคำขอบคุณ และส่งกำลังใจให้ทัพนักกีฬาไทยทุกคนที่เสียสละแรงกายแรงใจ ไปร่วมสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยในโอลิมปิก ปารีสเกมส์ 2024 ที่ผ่านมา
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ข่าวการเงิน
15/08/2024
หลายคนอาจคิดว่าความมั่งคั่งเป็นเรื่องไกลตัว หรือต้องรอจนถึงวัยเกษียณ แต่จริงๆ แล้ว เราสามารถเริ่มสร้างความมั่งคั่งได้ตั้งแต่วันนี้ ไม่ว่าคุณจะอยู่ในช่วงวัยไหนก็ตาม บทความนี้จะแนะนำ 4 ขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้คุณวางแผนและสร้างความมั่งคั่งได้อย่างมั่นคง เพื่อให้คุณสามารถบรรลุเป้าหมายทางการเงินและใช้ชีวิตได้อย่างอิสระ ไม่ต้องรอจนถึงวัยเกษียณวิธีรวยก่อนแก่ สร้างความมั่งคั่งให้มีเงินใช้หลังเกษียณการมีชีวิตหลังเกษียณที่สุขสบายไร้กังวล ไม่ใช่เรื่องไกลเกินเอื้อม หากเราวางแผนและลงมือสร้างความมั่งคั่งตั้งแต่วันนี้ เส้นทางสู่ 'รวยก่อนแก่' ไม่ได้เต็มไปด้วยความซับซ้อน แต่ต้องอาศัยวินัยและความเข้าใจ 4 ขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้คุณวางแผนและสร้างความมั่งคั่งได้อย่างมั่นคง เพื่อให้คุณสามารถเกษียณอย่างมีอิสระภาพทางการเงิน ใช้ชีวิตในแบบที่ฝันไว้ได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเรามาเริ่มต้นวางแผนอนาคตที่มั่งคั่งไปด้วยกันเถอะ!1. วางแผนชีวิต สู่เป้าหมายเกษียณที่มั่นคงการวางแผนชีวิตหลังเกษียณเปรียบเสมือนการวาดภาพฝันของคุณในอนาคต คุณอยากใช้ชีวิตอย่างไร อยากทำอะไรบ้าง และทั้งหมดนี้ต้องใช้เงินเท่าไหร่? การคำนวณเงินออมที่จำเป็นจะช่วยให้คุณเห็นภาพชัดเจนขึ้นว่าคุณต้องเริ่มออมเงินเท่าไหร่ตั้งแต่วันนี้ เพื่อให้คุณสามารถใช้ชีวิตหลังเกษียณได้อย่างที่ใจต้องการสูตรคำนวณเงินออม • สูตรจากรายได้: (รายได้ก่อนเกษียณ x 70%) x 300 = เงินออมที่พึงมี สมมติว่าคุณมีรายได้ 50,000 บาทต่อเดือน และคาดว่าหลังเกษียณคุณจะใช้จ่ายประมาณ 70% ของรายได้ปัจจุบัน นั่นคือ 35,000 บาทต่อเดือน หากคุณคาดว่าจะมีชีวิตอยู่หลังเกษียณอีก 300 เดือน (หรือ 25 ปี) คุณจะต้องมีเงินออมอย่างน้อย 10.5 ล้านบาท (35,000 x 300) • สูตรจากรายจ่าย: (รายจ่ายก่อนเกษียณ x 70%) x 300 = เงินออมที่พึงมี สมมติว่าหากคุณทราบรายจ่ายปัจจุบันของคุณอยู่แล้ว คุณสามารถใช้สูตรนี้เพื่อคำนวณเงินออมที่ต้องการได้โดยตรง เช่น หากคุณมีรายจ่าย 40,000 บาทต่อเดือน และคาดว่าจะลดลงเหลือ 70% หลังเกษียณ คุณจะต้องมีเงินออม 8.4 ล้านบาท (28,000 x 300)2. กำหนดเป้าหมาย ออมก่อน รวยกว่าการออมเงินเป็นพื้นฐานสำคัญของการสร้างความมั่งคั่ง เริ่มต้นออมอย่างน้อย 15% ของรายได้ หรือแบ่งเป็นออม 10% และลงทุน 5% เพื่อให้เงินของคุณทำงานแทนคุณ การลงทุนในสินทรัพย์ที่เหมาะสมกับความเสี่ยงที่คุณรับได้ เช่น กองทุนรวม ตราสารหนี้ หรือหุ้น จะช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้นในระยะยาวตัวอย่างการออมและลงทุน • เงินเดือน 30,000 บาท: ออม 15% = 4,500 บาท/เดือน • เงินเดือน 30,000 บาท: ออม 10% (3,000 บาท) + ลงทุน 5% (1,500 บาท) = 4,500 บาท/เดือน3. ประเมินสถานะทางการเงิน ด้วยงบดุลชีวิตการทำงบดุลชีวิตเปรียบเสมือนการตรวจสุขภาพทางการเงินของคุณ ช่วยให้คุณเห็นภาพรวมของทรัพย์สินและหนี้สินทั้งหมด ทำให้คุณสามารถประเมินสถานะทางการเงินในปัจจุบัน และวางแผนปรับปรุงแก้ไขได้อย่างเหมาะสมตัวอย่างทรัพย์สินและหนี้สิน • ทรัพย์สิน: เงินฝากออมทรัพย์ เงินลงทุนในกองทุนรวม บ้าน รถยนต์ ฯลฯ • หนี้สิน: หนี้บัตรเครดิต สินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อบ้าน ฯลฯสถานะทางการเงิน • มั่งคั่ง: ทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน • มั่งคั่งติดลบ: หนี้สินมากกว่าทรัพย์สิน4. ตรวจสอบค่าใช้จ่าย ด้วยบัญชีรายรับ-รายจ่ายการทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายช่วยให้คุณเห็นภาพการใช้จ่ายเงินของคุณอย่างชัดเจน คุณจะรู้ว่าเงินของคุณหายไปไหนบ้าง และสามารถระบุค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นหรือสามารถลดได้ ซึ่งจะช่วยให้คุณออมเงินได้มากขึ้นเคล็ดลับการลดค่าใช้จ่าย • ทำอาหารทานเองแทนการออกไปทานข้าวนอกบ้านบ่อยๆ • ใช้ระบบขนส่งมวลชนแทนการใช้รถยนต์ส่วนตัว • เปรียบเทียบราคาสินค้าก่อนตัดสินใจซื้อ • ลดการซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยหรือที่ไม่จำเป็นเริ่มต้นวันนี้ เพื่ออิสรภาพทางการเงินในวันข้างหน้าการสร้างความมั่งคั่งไม่ใช่เรื่องยากเกินเอื้อม หากเรามีวินัยและเริ่มต้นลงมือทำอย่างจริงจังตั้งแต่วันนี้ ไม่ว่าคุณจะอยู่ในช่วงวัยใด ก็สามารถวางแผนและสร้างความมั่งคั่งเพื่ออนาคตที่มั่นคงได้ 4 ขั้นตอนที่เราได้นำเสนอไป ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนเกษียณ การออมและลงทุน การประเมินสถานะทางการเงิน และการควบคุมค่าใช้จ่าย ล้วนเป็นกุญแจสำคัญที่จะนำคุณไปสู่เป้าหมายทางการเงินที่ตั้งไว้อย่าปล่อยให้อนาคตทางการเงินของคุณเป็นเรื่องของโชคชะตา เริ่มต้นวางแผนและลงมือทำตั้งแต่วันนี้ เพื่อให้คุณสามารถบรรลุอิสรภาพทางการเงิน ใช้ชีวิตได้อย่างที่ใจต้องการ และมีอนาคตที่มั่งคั่งและมั่นคง "อนาคตที่มั่งคั่ง เริ่มต้นจากการลงมือทำในวันนี้"ที่มา KBank Liveแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับ amarintvhttps://www.amarintv.com/spotlight/spotlight/detail/68108
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ประกันภัย
15/08/2024
โบรกเกอร์ประกันติดโล่ ปลอดภัย มีใบอนุญาตรับรองการดำเนินธุรกิจ เช่น สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ที่ให้ข้อมูลชัดเจนประกันติดโล่ โบรกเกอร์ประกัน ตัวแทนที่ตอบโจทย์คนยุคใหม่“ประกันติดโล่ โดยเงินติดล้อ” เป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ประกันภัยทางเลือกที่น่าสนใจมาก ๆ ในการซื้อประกันปัจจุบันนี้ เนื่องจากชีวิตที่เราต้องเร่งรีบและมีอะไรให้ทำมากมาย การต้องมานั่งเลือกประกันที่ดีที่สุดหรือเหมาะกับตัวเองที่สุดตั้งแต่เริ่มต้น อาจจะต้องใช้เวลานานในการเปรียบเทียบข้อมูลต่าง ๆ การเลือกโบรกเกอร์ประกันที่ไว้ใจได้ที่รวบรวมประกันที่ดีในราคาที่เหมาะสมมารวมเอาไว้แล้ว ก็เป็นการช่วยลดตัวเลือกให้กับเราและทำให้เราเลือกประกันที่เหมาะกับตัวเองได้เร็วขึ้น10 วิธีเลือกโบรกเกอร์ประกันที่ปลอดภัยประกันชีวิต ประกันสุขภาพ หรือประกันทรัพย์สิน โบรกเกอร์ประกันจะทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างเราและบริษัทประกันภัย ซึ่งสามารถให้คำแนะนำและช่วยหาผลิตภัณฑ์ประกันที่ตรงกับความต้องการของเราได้อย่างดี แต่ปัจจุบันมิจฉาชีพมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น การเลือกโบรกเกอร์ประกันจึงต้องใช้ความระมัดระวังมากขึ้น โดยเรามีวิธีการเลือกโบรกเกอร์ประกันที่ปลอดภัยและน่าเชื่อถือมาฝากกัน ดังนี้1. ศึกษาและเปรียบเทียบโบรกเกอร์ต่าง ๆโดยเริ่มแรกให้เราศึกษาข้อมูลของโบรกเกอร์ประกันต่าง ๆ ที่สามารถค้นหาข้อมูลผ่านเว็บไซต์ของบริษัทประกัน หรืออ่านรีวิวจากผู้ใช้บริการได้ โดยตรวจสอบว่าโบรกเกอร์ประกันนั้นมีชื่อเสียงหรือมีประสบการณ์ในการให้บริการหรือไม่ ซึ่งแม้จะต้องใช้เวลาในการหาข้อมูลเปรียบเทียบเหมือนกัน แต่เราอาจจะเปรียบเทียบเพียงครั้งเดียวถ้าได้โบรกเกอร์ประกันที่ถูกใจตรงความต้องการ2. ตรวจสอบใบอนุญาตและการรับรองโบรกเกอร์ประกันควรมีใบอนุญาตในการดำเนินธุรกิจและการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) โดยการมีใบอนุญาตและการรับรองดังกล่าวเป็นสัญญาณที่ดีว่าโบรกเกอร์ประกันนั้นมีมาตรฐานและปฏิบัติตามกฎหมาย3. ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์โบรกเกอร์ประกันที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์จะสามารถให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์และตรงกับความต้องการของเราได้ เราจึงควรตรวจสอบว่าโบรกเกอร์ประกันนั้นมีประสบการณ์ในการให้บริการประเภทประกันที่ต้องการหรือไม่ การมีความรู้และความเข้าใจในผลิตภัณฑ์ประกันที่หลากหลายจะช่วยให้โบรกเกอร์สามารถแนะนำประกันที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเรา4. การให้บริการลูกค้าการให้บริการลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญที่เราควรพิจารณาเลือกโบรกเกอร์ประกัน โดยโบรกเกอร์ประกันที่ดีควรมีการให้บริการลูกค้าที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เราควรตรวจสอบว่าโบรกเกอร์ประกันนั้น ๆ มีช่องทางการติดต่อที่สะดวก และสามารถให้ความช่วยเหลือได้ตลอดเวลาหรือไม่ เช่น มีบริการสายด่วน บริการออนไลน์ หรือมีสำนักงานที่สามารถติดต่อได้ง่าย5. ความโปร่งใสและความซื่อสัตย์ความโปร่งใสและความซื่อสัตย์เป็นคุณสมบัติที่สำคัญของโบรกเกอร์ประกัน เราควรเลือกโบรกเกอร์ที่ให้ข้อมูลอย่างชัดเจนและตรงไปตรงมา ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ประกัน เงื่อนไขการเคลมประกัน หรือค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง โบรกเกอร์ประกันที่ดีจะไม่มีการปกปิดข้อมูล หรือพยายามขายประกันที่ไม่เหมาะสมกับเรา6. ความยืดหยุ่นในการให้บริการความยืดหยุ่นในการให้บริการเป็นสิ่งที่เราควรพิจารณาเลือกโบรกเกอร์ประกัน โดยโบรกเกอร์ประกันที่ดีควรสามารถปรับตัว และให้บริการตามความต้องการของเราได้ เช่น การปรับเปลี่ยนแผนประกัน การเพิ่มหรือลดความคุ้มครอง หรือการให้คำแนะนำเพิ่มเติมเมื่อต้องการ7. การเปรียบเทียบข้อเสนอการเปรียบเทียบข้อเสนอจากโบรกเกอร์ต่าง ๆ เป็นสิ่งที่เราควรทำ เพื่อให้เราได้รับข้อเสนอที่ดีที่สุด ทั้งความคุ้มครอง ค่าเบี้ยประกัน และเงื่อนไขต่าง ๆ8. การให้คำปรึกษาและการสนับสนุนโบรกเกอร์ประกันที่ดีจะไม่เพียงแค่ขายประกัน แต่ยังให้คำปรึกษาและสนับสนุนเราในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเลือกประกัน การกรอกแบบฟอร์มสมัคร การเคลมประกัน จนถึงการให้คำแนะนำเกี่ยวกับการต่ออายุประกัน เราควรเลือกโบรกเกอร์ที่มีการสนับสนุนเราอย่างเต็มที่ และพร้อมให้ความช่วยเหลือเมื่อเราต้องการ9. รีวิวและความคิดเห็นจากลูกค้าคนอื่น ๆการอ่านรีวิวและความคิดเห็นจากลูกค้าคนอื่น ๆ จะช่วยให้เราเห็นภาพรวมของการให้บริการของโบรกเกอร์ประกัน ช่วยให้เรามีข้อมูลเพิ่มเติมในการตัดสินใจโดยเราสามารถค้นหาความคิดเห็นจากเว็บไซต์หรือกลุ่มในแพลตฟอร์มต่าง ๆ ได้เลย10. สอบถามคำแนะนำจากคนใกล้ชิดการสอบถามคำแนะนำจากคนใกล้ชิด เช่น ครอบครัว เพื่อน หรือเพื่อนร่วมงาน ที่มีประสบการณ์ในการใช้บริการโบรกเกอร์ประกัน จะช่วยให้คุณได้รับคำแนะนำที่เป็นประโยชน์และเป็นกลางได้แหล่งที่มาข่าวต้นฉบับ amarintvhttps://www.amarintv.com/news/detail/226848
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
01/08/2024
31/07/2024
31/07/2024
30/04/2024
30/04/2024