Everyday knowledge for you
ประกันภัย
29/04/2024
คปภ. ยกเครื่องหลักเกณฑ์ “การขาย ให้สังหาริมทรัพย์หรืออสังหาริมทรัพย์-ซื้อทรัพย์สิน” ของกรรมการบริษัทประกันภัย• ระบุมีผลบังคับใช้แล้ว 1 ก.พ. 2567 เพื่อส่งเสริมธุรกิจประกันภัยทำธุรกรรมทางการเงิน ได้อย่างมีประสิทธิภาพและโปร่งใสมากขึ้น นายสมประโชค ปิยะตานนท์ ผู้ช่วยเลขาธิการ สายกำกับธุรกิจและการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เปิดเผยว่า นโยบายและทิศทางการดำเนินงานที่สำคัญของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) ประการหนึ่งก็คือ การปรับปรุงกฎหมายและหลักเกณฑ์การกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง โดยแนวทางการออกกฎเกณฑ์และมาตรฐานใหม่ ๆ ในการกำกับดูแลบริษัทประกันภัยจะต้องเป็นกฎเกณฑ์การกำกับที่มีความยืดหยุ่นสอดรับกับสภาพแวดล้อมและบริบทการดำเนินธุรกิจในปัจจุบันมากยิ่งขึ้น ซึ่งหากบริษัทประกันภัยสามารถดำเนินธุรกรรมได้อย่างคล่องตัว และอยู่บนพื้นฐานของการบริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสมแล้ว ย่อมส่งเสริมให้ธุรกิจประกันภัยเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไปสำนักงาน คปภ. จึงได้เร่งปรับปรุงหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับนโยบายดังกล่าว โดยหลักเกณฑ์การกำกับดูแลที่เริ่มมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 ได้แก่ “ประกาศนายทะเบียน เรื่อง การขอรับความเห็นชอบการขายหรือให้อสังหาริมทรัพย์หรือสังหาริมทรัพย์หรือซื้อทรัพย์สินจากกรรมการบริษัท รวมถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องกับกรรมการบริษัทของบริษัทประกันชีวิตและบริษัทประกันวินาศภัย พ.ศ. 2567” โดยสาระสำคัญของการปรับปรุงหลักเกณฑ์ฉบับนี้เพื่อสอดคล้องกับหลักการของหน่วยงานกำกับดูแลอื่น ๆ โดยรายการธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับกรรมการบริษัท รวมถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องกับกรรมการบริษัทนั้น จำเป็นต้องกำหนดหลักเกณฑ์กำกับดูแลเพื่อให้มั่นใจได้ว่าธุรกรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น เป็นธุรกรรมที่ดำเนินการตามเงื่อนไขปกติทางการค้า โปร่งใส และไม่เป็นธุรกรรมที่มีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ (Conflict of Interest) โดยสำนักงาน คปภ. ได้กำหนดหลักเกณฑ์ที่มีการลดข้อจำกัดและสร้างความยืดหยุ่นต่อการนำไปปฏิบัติใช้จริง เช่น กำหนดมูลค่าวงเงินที่จากเดิมต้องขอรับความเห็นชอบก่อนทำธุรกรรมในกรณีซื้อทรัพย์สินตั้งแต่บาทแรก หรือกำหนดเงื่อนไขให้บริษัทสามารถทำธุรกรรมลงทุนประกอบธุรกิจอื่นตามประกาศคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เรื่อง การลงทุนประกอบธุรกิจอื่นของบริษัทประกันชีวิตและบริษัทประกันวินาศภัย พ.ศ. 2556 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยให้รายงานต่อนายทะเบียนหลังทำธุรกรรมได้ เป็นต้น ซึ่งสามารถสรุปสาระสำคัญของประกาศฯ ได้เป็นข้อ ๆ ดังนี้ 1. กรณีธุรกรรมขาย ให้อสังหาริมทรัพย์แก่กรรมการบริษัทรวมถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องหรือซื้ออสังหาริมทรัพย์จากกรรมการบริษัทรวมถึงบุคคลที่เกี่ยวข้อง ต้องได้รับความยินยอมจากคณะกรรมการบริษัทและได้รับความเห็นชอบจากนายทะเบียน 2. กรณีธุรกรรมที่อยู่ภายใต้ประกาศ คปภ. เรื่อง การลงทุนประกอบธุรกิจอื่นของบริษัทประกันชีวิต/ประกันวินาศภัย พ.ศ. 2556 และที่แก้ไขเพิ่มเติม บริษัทประกันภัยไม่ต้องขอรับความเห็นชอบก่อนการทำธุรกรรม 3. กรณีธุรกรรมอื่นนอกเหนือจาก 1 และ 2 หากมูลค่าสะสมของธุรกรรมกับกรรมการรวมถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องเกินกว่าหนึ่งล้านบาทต่อปี บริษัทประกันภัยต้องขอรับความเห็นชอบจากนายทะเบียนก่อนการทำธุรกรรม และ 4. บริษัทประกันภัยต้องรายงานการทำธุรกรรมต่อนายทะเบียนในทุกกรณี และเปิดเผยรายการในงบการเงินและฐานะการเงินอย่างไรก็ตาม การที่บริษัทประกันภัยจะสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นคงและเติบโตได้อย่างยั่งยืน จำเป็นต้องมีระบบงานที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ และสามารถบริหารจัดการความเสี่ยงได้อย่างเหมาะสมในทุก ๆ ธุรกรรม โดยเฉพาะธุรกรรมที่เกี่ยวกับกรรมการบริษัท รวมถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องกับกรรมการบริษัท ซึ่งถือเป็นธุรกรรมที่มีโอกาสเกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์ได้สูงมาก ดังนั้น สำนักงาน คปภ. จึงจำเป็นต้องกำหนดมาตรการการกำกับดูแลบริษัทประกันภัยเพื่อให้ผู้เอาประกันภัยและประชาชนสามารถเชื่อมั่นได้ว่าบริษัทประกันภัยดำเนินธุรกิจอย่างเหมาะสม ทั้งนี้การกำหนดมาตรการใด ๆ สำนักงาน คปภ. คำนึงถึงผลกระทบของผู้มีส่วนได้เสีย บริษัทประกันภัย ผู้เอาประกันภัย และประชาชนเป็นสำคัญแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับสยามรัฐออนไลน์https://siamrath.co.th/n/514192
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ห้องแสดงนิทรรศการ
29/04/2024
ชวนเที่ยว “พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร” กับ 10 ไฮไลต์โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ อันทรงคุณค่า ที่มีความเกี่ยวพันกับปีมะโรงหรือปีมังกรปีนี้เป็น “ปีมะโรง” หรือ “ปีงูใหญ่” หรือที่บางคนก็เรียก “ปีมังกร” หลายคนจึงเลือกจะไปตระเวนทำบุญไหว้พระ หรือท่องเที่ยวในเส้นทางที่มีความเปี่ยวข้องกับพญานาค หรือมังกรซึ่งหนึ่งในจุดท่องเที่ยวที่มีความเกี่ยวกันกับมะโรง พญานาค หรือมังกร ก็คือ “พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร”โดยเนื่องจากในปีนี้เป็นปีมะโรง ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ทางพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร จึงได้จัดให้มีงานสักการะ “พุทธบูชานาคสัมพัจฉร์” โดยอัญเชิญพระพุทธรูปที่มีคติการสร้างเกี่ยวข้องกับพญานาค ได้แก่ พระพุทธสิหิงค์ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประจำพระราชวังบวรสถานมงคล (วังหน้า) เป็นพระประธาน พร้อมด้วยพระพุทธรูปอีก 9 องค์ มาให้สักการะกันพระพุทธสิหิงค์และนอกจากนี้ยังมีการจัดเส้นทางนำชมพิเศษ โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ที่มีความสัมพันธ์กับปีมะโรง โดยผู้เข้าชมจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับสัตว์ในตำนานทั้งงูหงอน นาค มกร มังกร และเหรา ในความเหมือนและแตกต่างผ่านโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุชิ้นต่างๆแต่ถ้าใครพลาดโอกาสการชมในช่วงเทศกาลปีใหม่ ในช่วงปกติแบบนี้ก็ยังสามารถมาเดินชมเองได้ ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร โดยเรามี 10 ไฮไลต์โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ อันทรงคุณค่า ที่มีความเกี่ยวพันกับปีมะโรงหรือปีมังกร มาให้ชมกันหลีฮื้อกระโดดข้ามประตูมังกรหลีฮื้อกระโดดข้ามประตูมังกรที่ตั้ง : พระที่นั่งอิศราวินิจฉัยภาพจิตรกรรมปลาไนกระโดดข้ามประตูมังกรจนกลายร่างเป็นมังกรห้าเล็บ ที่หลังพระทวารคู่กลางในพระที่นั่งอิศราวินิจฉัย โดยสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพ กรมพระราชวังบวรสถานมงคลในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ธรรมาสน์กลมยอดทองจากวัดค้างคาวธรรมาสน์กลมยอดทองจากวัดค้างคาวที่ตั้ง : มุขเด็จธรรมาสน์กลมยอดทองสมัยกรุงศรีอยุธยาที่มีรูปลักษณ์หาชมได้ยาก และบันไดมนุษยนาค พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗ ทรงได้มาจากวัดค้างคาว เมืองนนทบุรี ต่อมาพระราชทานแด่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาตินาฬิกาธูปรูปเรือมังกรนาฬิกาธูปรูปเรือมังกรที่ตั้ง : พระที่นั่งพรหมเมศธาดา-ล่างนาฬิกาธูปรูปเรือมังกรประดับมุก (ไม่มีรางจับเวลาและลูกตุ้มบอกเวลา) สันนิษฐานว่า มีกำเนิดมาจากประเทศอินเดีย ซึ่งจะจุดธูปจับเวลาในการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา โดยเฉพาะในพระพุทธศาสนามหายาน และแพร่หลายเข้าสู่ประเทศจีนจนพัฒนารูปแบบของตนเอง และส่งต่อสู่เวียดนาม เกาหลี รวมถึงญี่ปุ่นด้วยนารายณ์บรรทมสินธุ์นารายณ์บรรทมสินธุ์ที่ตั้ง : ห้องลพบุรีทับหลังสลักภาพพระนารายณ์บรรทมบนหลังมกรที่เกษียรสมุทร (ทะเลน้ำนม) จากปรางค์กู่สวนแตง บ้านดงยาง ตำบลกู่สวนแตง อำเภอบ้านใหม่ไชยพจน์ จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นเทวาลัยในศาสนาฮินดู สร้างขึ้นเมื่อประมาณพุทธศตวรรษที่ 16-17นางสุชาดาถวายข้าวมธุปายาสนางสุชาดาถวายข้าวมธุปายาสที่ตั้ง : ห้องชวา - ศรีวิชัยภาพสลักจากบุโรพุทโธเป็นภาพนางสุชาดาพร้อมเหล่านางทาสีถวายข้าวมธุปายาสแด่พระโคตมโพธิสัตว์ใต้ต้นไทรด้วยเข้าใจว่าเป็นรุกขเทวดาที่นางเคยขอสามีและบุตรชายไว้ ก่อนที่พระโพธิสัตว์จะเสวยข้าวนั้นแล้วลอยถาดที่แม่น้ำเนรัญชรา โดยอธิษฐานเสี่ยงพระบารมีว่า “ถ้าจะได้ตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ ขอให้ถาดทองลอยทวนกระแสน้ำ หากไม่สำเร็จสมประสงค์ ขอให้ถาดลอยไปตามกระแสน้ำ” ในพระพุทธประวัติกล่าวว่า ถาดนั้นได้ลอยทวนกระแสน้ำขึ้นไปจนถึงวังน้ำวนแห่งหนึ่งจึงจมลงสู่นาคพิภพ ไปกระทบกับถาดสามใบของพระอดีตพุทธเจ้าสามพระองค์คือ พระกกุสันธพุทธเจ้า พระโกนาคมนพุทธเจ้า และพระกัสสปพุทธเจ้า พญานาคราชซึ่งกำลังหลับอยู่ในนาคพิภพ เมื่อได้ยินเสียงถาดกระทบกันจึงรู้ได้ทันทีว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะบังเกิดขึ้นในโลกมนุษย์อีกหนึ่งพระองค์แล้วพระอิศวรพระอิศวรที่ตั้ง : ห้องสุโขทัยพระอิศวรทรงสังวาลนาคจากการกวนเกษียรสมุทร เดิมประดิษฐานที่หอเทวาลัยเกษตรพิมาน โบสถ์พราหมณ์ เมืองเก่าสุโขทัยตู้พระธรรมจำหลักเล่าเรื่องทศชาติตู้พระธรรมจำหลักเล่าเรื่องทศชาติที่ตั้ง : ห้องอยุธยาพระแท่นพระแท่นที่ตั้ง : ห้องธนบุรี - รัตนโกสินทร์สันนิษฐานเป็นของพระเจ้ากรุงธนบุรี ได้มาจากเมืองแกลง จังหวัดระยอง เป็นของอยู่ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ มาแต่เดิมพระเก้าอี้พับพระเก้าอี้พับที่ตั้ง : ห้องธนบุรี - รัตนโกสินทร์พระเก้าอี้พับในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ ๑ ใช้ในกระบวนเสด็จพระราชดำเนิน เจ้าพนักงานจะเชิญพระเก้าอี้ทอดถวายแทนในกรณีที่ไม่ได้ทอดพระแท่นที่ประทับถวาย รวมถึงใช้ในการเสด็จงานพระราชสงครามด้วยอรหันต์ปราบมังกรอรหันต์ปราบมังกรที่ตั้ง : ศาลเจ้าพ่อหอแก้วเซียงหลงหลอฮั่นหรืออรหันต์ปราบมังกร หนึ่งในสิบแปดอรหันต์ของจีน ท่านมีนามว่า พระมหากัศยปะ ซึ่งบางคนเชื่อว่า พระอรหันต์จี้กงก็คือร่างหนึ่งของอรหันต์ปราบมังกร เดิมที มีเพียงสิบหกอรหันต์เท่านั้นที่กล่าวถึงในพระสูตรจากอินเดีย ต่อมามีการเพิ่มพระอรหันต์เข้าไปอีกสองรูปช่วงปลายราชวงศ์ถังต่อกับสมัยห้าราชวงศ์สิบอาณาจักรของจีนคือ อรหันต์ปราบมังกรกับอรหันต์ปราบเสือนอกจากทั้ง 10 ไฮไลต์นี้แล้ว ที่ “พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร” ก็ยังมีโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ที่น่าสนใจอีกมากมาย และนับว่าเป็นมรดกอันทรงคุณค่า ที่ไม่ควรพลาดชมเป็นอย่างยิ่งพระคเณศ จัดแสดงที่ห้องศรีวิชัยแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับผู้จัดการออนไลน์https://mgronline.com/travel/detail/9670000012694
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ท่องเที่ยว
29/04/2024
เชื่อหรือไม่ว่าประเทศไทย เป็นถิ่นกำเนิดของดอกซากุระที่สวยงาม! ซึ่งพบได้ในภาคเหนือของประเทศไทย โดยเฉพาะในเชียงใหม่และเชียงราย เพราะสภาพอากาศที่เย็นสบายบนพื้นที่สูง จึงทำให้สามารถชมดอกซากุระเมืองไทยได้พันธุ์ซากุระที่พบในประเทศไทยคือ ต้นซากุระหิมาลัยป่า หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า นางพญาเสือโคร่ง หากคุณยังไม่มีโอกาสที่จะเดินทางไปญี่ปุ่นหรือเกาหลี ก็คุ้มค่าที่จะเดินทางไปภาคเหนือของประเทศไทยแทนช่วงเวลาที่สามารถชมดอกซากุระในประเทศไทยการบานของดอกซากุระจะขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ ดังนั้นคุณควรมาเยือนระหว่างกลางเดือนธันวาคมถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นเวลาที่ต้นซากุระหิมาลัยป่ามักจะบานในช่วงฤดูหนาวในภาคเหนือของประเทศไทยแม้ว่าฤดูกาลในแต่ละสถานที่อาจแตกต่างกันไปในแต่ละปี แต่โดยทั่วไปเดือนมกราคมเป็นช่วงเวลาที่ดีในการเยี่ยมชมสถานที่เหล่านี้ เพื่อชมซากุระของประเทศไทยเชียงใหม่1. สถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยนเครดิตภาพ : ครีเอทีฟคอมมอนส์บนยอดดอยสุเทพนั้นเป็นที่ตั้งของบ้านขุนช่างเคี่ยน หรือที่รู้จักกันในชื่อ สถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน ด้วยความพยายามที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มากขึ้น จึงทำให้มีการปลูกต้นซากุระในบริเวณนี้สภาพอากาศที่เย็นเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับการปลูกซากุระ เพราะคุณสามารถเห็นดอกไม้บานในช่วงเดือนที่อากาศเย็นขึ้น ตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคมถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ นอกจากนี้ บริเวณใกล้เคียงสวน ที่เขียวชอุ่มแห่งนี้ ยังมีวัดพระธาตุดอยสุเทพ และหมู่บ้านม้ง (ขุนช่างเคี่ยน) ที่ควรค่าแก่การเยี่ยมชมที่อยู่ : ซอยอยู่เย็น 4 ตำบลดอนแก้ว อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ 50300 ประเทศไทย2. ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง)เครดิตภาพ : @bolingjrd และ @yuenszehang บนอินสตาแกรมสถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ในศูนย์เกษตรกรรมในอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ คุณสามารถเติมเต็มความฝันในการเดินใต้ต้นซากุระได้ที่ขุนวาง และจะกลายเป็นทะเลสีชมพูในช่วงบานสะพรั่ง เป็นสถานที่ที่คู่ควรในการถ่ายรูปเช็คอินเป็นอย่างมาก!นอกจากยืนใต้ต้นซากุระ เพื่อถ่ายรูปลงอินสตาแกรมแล้ว อย่าลืมหาเวลาไปชมผลไม้ในสวนวิจัย เช่น ลูกแพร์จีน พลัม ลูกพีช น้ำหวาน และสตรอเบอร์รี่ ได้ยินมาว่าคุณสามารถเก็บและกินผลสดๆ ได้เช่นกันที่อยู่ : ตำบลแม่วิน อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ 50360 ประเทศไทยเวลาเปิดทำการ : ทุกวัน 8.00 น. ถึง 16.00 น3. สถานีเกษตรหลวงอ่างขางเครดิตภาพ : วิกิมีเดียคอมมอนส์ที่ระดับความสูง 1,400 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ดอยอ่างขางถือเป็นสวนที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย สวนที่ตกแต่งอย่างสวยงามแห่งนี้เป็นที่รู้จักในชื่อ สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ถือเป็นสถานที่ที่สวยงาม เมื่อต้นซากุระบานสะพรั่งไม่ว่าคุณจะมาช่วงไหนของปี คุณก็จะได้ชมดอกไม้ตามฤดูกาล และรู้หรือไม่ว่าอุณหภูมิในอ่างขางในตอนกลางคืนสามารถลดลงต่ำสุดถึง -3 องศาเซลเซียสเลยนะ ถึงเวลาเตรียมอุปกรณ์กันหนาวแล้วมุ่งหน้าไปยังดอยอ่างขางกันแล้วที่อยู่ : อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ 50110 ประเทศไทยเวลาเปิดทำการ : ทุกวัน 8.00 น. ถึง 20.00 นเชียงราย4. ดอยช้างถ้าพูดถึงคำว่า 'ดอยช้าง' ก็ต้องนึกถึงกาแฟเป็นอันดับแรก! เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว เนินเขาแห่งนี้จะมีชีวิตชีวา ด้วยดอกซากุระสุดตระการตา! ด้วยต้นซากุระมากกว่า 500,000 ต้น คุณจะพบกับภาพที่หาชมได้ยากนอกเหนือจากดอกซากุระแล้ว คุณยังสามารถพบกับดอกไม้สวยงามอื่นๆ อีกมากมาย ตั้งแต่พิทูเนียไปจนถึงดอกป๊อปปี้ บีโกเนีย และอื่นๆ อีกมากมาย แน่นอนว่าวิวจะดีกว่ามาก เมื่อคุณนั่งจิบกาแฟอาราบิก้าอันโด่งดัง ไปด้วยที่อยู่ : ตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย 57180 ประเทศไทย5. ดอยแม่สลองเครดิตภาพ : @lemon_tree.1991 บนอินสตาแกรมหมู่บ้านบนยอดเขา ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของกลุ่มชาวจีนในประเทศไทย ดอยแม่สลองถูกเปรียบเทียบกับที่ซาปาในเวียดนาม ภูเขาแห่งนี้เป็นที่รู้จักในด้านการผลิตชาอูหลงเป็นหลัก นอกจากนี้ ภูเขาแห่งนี้ยังบานสะพรั่งเป็นสีชมพูในช่วงเดือนที่อากาศหนาวเย็นอีกด้วยนอกจากนี้ยังมีเทศกาลชาดอยแม่สลองและซากุระประจำปี เพื่อเฉลิมฉลองดอกซากุระที่หายากและชาอูหลง ขณะที่คุณจิบชา จะมีกิจกรรมทางวัฒนธรรมและการแสดงต่างๆ เรียงราย เพื่อให้คุณเพลิดเพลินกับบรรยากาศโดยรอบที่อยู่ : ตำบลแม่สลองนอก อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย 57110 ประเทศไทย6. ภูชี้ฟ้าเครดิตภาพ : @batnat และ @sathit_dilokkunanunt บนอินสตาแกรมที่ระดับความสูงกว่า 1,600 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ห่างจากใจกลางเมืองเชียงรายเพียง 2 ชั่วโมงคือ ภูชี้ฟ้า หนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดในการชมวิวทิวทัศน์ของประเทศไทยและลาว ในเดือนมกราคม คุณจะพบต้นซากุระบานบนยอดเขาภูชี้ฟ้าแห่งนี้ที่นี่มีอัญมณีที่ซ่อนอยู่และสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติมากมาย วิวพระอาทิตย์ขึ้นจะทำให้หัวใจของคุณนั้น พองโต ในทางกลับกันหากมาเยี่ยมชมในตอนกลางคืนก็จะได้เห็นดวงดาวไม่สิ้นสุดที่ส่องประกายระยิบระยับทั่วท้องฟ้ายามค่ำคืน ดังนั้นแม้ว่าคุณจะพลาดฤดูซากุระไป คุณก็ยังได้รับวิวสวยๆ อยู่บ้างเช่นกัน7. ภูลมโลเครดิตภาพ : ครีเอทีฟคอมมอนส์ที่นี่เคยเป็นสวนกะหล่ำปลีในอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า แต่ปัจจุบันได้มีต้นเชอร์รี่ไทเกอร์ควีนมากกว่า 100,000 ต้น ชาวม้งได้ทำการปลูกไว้เมื่อหลายปีก่อน ปัจจุบันพื้นที่เพาะปลูกนี้จะบานสะพรั่งด้วยกลีบเชอร์รี่ทุกเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ รับรองได้ว่านักท่องเที่ยวจะได้เห็นภาพอันแสนวิเศษนี้ด้วยสภาพอากาศที่ไม่เกิน 10 องศา จึงทำให้เหมาะสำหรับการมาเยือนภูลมโล จังหวัดเลย! สำหรับผู้รักธรรมชาติ คุณจะดีใจที่รู้ว่ามีสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติอื่นๆ ให้ค้นหา ไม่ว่าจะเป็น น้ำตก ถ้ำ ตลอดจนพืช และสัตว์นานาชนิดที่อยู่ : ตำบลกกสะทอน อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย 42120 ประเทศไทยข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับดอกซากุระอย่าลืมการเชื่อมต่อสัญญาณอินเตอร์เน็ตตลอดการชมดอกซากุระในประเทศไทยด้วย ซิมการ์ด 4G เพื่อให้คุณสามารถอัปเดตเรื่องราว Instagram ของคุณได้! หากต้องการเดินทางอย่างง่ายดาย คุณสามารถจองจาก Klook นอกจากนี้ คุณยังสามารถรับบริการรถรับส่งส่วนตัวระหว่างเชียงใหม่และเชียงรายได้อีกด้วย"สำรวจกิจกรรมทั้งหมดในไทย กับ Klook ได้ที่นี่"แหล่งที่มาข่าวต้นฉบับ sanookhttps://www.sanook.com/travel/1446903/
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ข่าวการเงิน
29/04/2024
หนุ่มไทยหนีจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แฉพฤติกรรมมิจฉาชีพของแก๊งสุดไฮเทค โทร. ลวงเหยื่อคุยข้อมูลส่วนตัว 2 นาที ดูดเงินได้จนเกลี้ยงบัญชี โดยไม่ต้องติดตั้งแอปฯ ไม่ต้องกดอะไร ต้องหายอดให้คนจีนให้ได้วันละ 150 ล้านบาท !ภาพจาก ข่าวช่องวัน วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2567 ข่าวช่อง 3 รายงานว่า นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พาเหยื่อขบวนการค้ามนุษย์ที่เพิ่งหลบหนีออกมาได้ ออกมาแฉพฤติกรรมของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ว่า ปัจจุบันแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้พัฒนาเทคโนโลยีสามารถดูดเงินจากแอปฯ ธนาคารในมือถือของเหยื่อ โดยที่เหยื่อไม่ต้องกดลิงก์ หรือ โหลดแอปฯ เพียงแค่เหยื่อพูดคุยกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เพียง แค่ 2 นาที ก็สามารถดูดเงินออกจากบัญชีของเหยื่อจนหมดได้ อดีตแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เล่าว่า เมื่อช่วงเดือนมกราคม ตนถูกผู้หญิงที่รู้จักกัน ติดต่อให้ไปทำงานกาสิโนถูกกฎหมายที่ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน โดยโอนเงินมาให้ 2,000 บาท เป็นค่าเดินทางไปที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อข้ามฝั่งไปทำงานที่ประเทศเพื่อนบ้าน เมื่อตนไปถึงจึงรู้ว่าไปทำงานเป็นแก๊งคอนเซ็นเตอร์ ตนจึงต้องจำใจทำงาน เพราะไม่มีทางเลือกภาพจาก ข่าวช่องวัน สถานที่ทำงานถูกคนจีนสร้างไว้หลายตึกจนเป็นเหมือนอาณาจักร แต่ละตึก มีรั้วลวดหนามล้อมรอบสูงถึง 4 เมตร ส่วนอุปกรณ์ที่เห็นมี เครื่องดูดเงิน 4 เครื่อง ราคาเครื่องละ 4 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 120 ล้านบาท สามารถดูดเงินได้ 70 บัญชีต่อวัน โดยมีคนจีนเป็นผู้ควบคุมเครื่อง วิธีการใช้งานไม่ซับซ้อน แค่โทรศัพท์ไปหาเหยื่อซึ่งเป็นคนไทย จากนั้นให้เหยื่อยืนยันรายละเอียดส่วนตัว เช่น ชื่อ และนามสกุล, หมายเลขบัตรประชาชน, วันเดือนปีเกิด, ภูมิลำเนา, บ้านเลขที่ และเลขบัญชีธนาคาร ส่วนตนจะทำหน้าที่แนะนำตัวกับเหยื่อว่าเป็นพนักงานจากหน่วยงานของรัฐบาล โดยจะชวนเหยื่อคุยไปเรื่อย ๆ เกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัวให้ครบ 2 นาทีภาพจาก ข่าวช่องวันจากนั้นตนจะส่งเสียงไปให้คนจีน ใช้เครื่องดูดเงินแฮกเงินในบัญชีธนาคารของเหยื่อจนหมดบัญชี ซึ่งเหยื่อส่วนใหญ่ จะเป็นข้าราชการระดับสูง, ข้าราชการเกษียณ และนักธุรกิจคนไทยที่มีเงินในบัญชี 2 ล้านขึ้นไป โดยข้อมูลของเหยื่อจะซื้อมาจากธนาคารของรัฐบาล โดยจะซื้ออยู่ที่ 10 ล้านบาท ต่อ 1,600 รายชื่อ ซึ่งตนจะต้องโทร. หาเหยื่อตามรายชื่อ เพื่อหายอดให้คนจีน ให้ได้วันละ 150 ล้านบาท ต่อวัน ซึ่งตนได้รับเงินเดือน เดือนละ 30,000 บาท ค่าคอมมิชชั่น ล้านละ 15,000 บาทภาพจาก ข่าวช่องวันต่อมาตนได้ตัดสินใจหนีออกมา โดยใช้ผ้านวมพาดไปยังรั้วลวดหนามและขึ้นไปยังชั้น 5 เพื่อกระโดดข้ามรั้วออกมา จากนั้นตนเรียกรถ 3 ล้อ ไปส่งที่หน้าด่านอรัญประเทศ และขอยืมโทรศัพท์คนขับรถสามล้อ โทร. ไปขอยืมเงินจากผู้คุมซึ่งเป็นคนไทยด้วยกัน มาจ่ายค่ารถและค่าข้ามประเทศโดยมุดเข้าช่องทางธรรมชาติ จำนวน 3,000 บาทภาพจาก ข่าวช่องวันด้าน นายเอกภพ ฝากไปยังหน่วยงานภาครัฐและทางธนาคารว่าอย่าทำแบบนี้กับคนไทยด้วยกัน พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ จะถอนเงินจากธนาคารตามแนวชายแดนทุกวันเป็นจำนวนมาก แต่ทำไมธนาคารถึงไม่สงสัย หรือมีการติดสินบนเจ้าหน้าที่ธนาคารหรือไม่ ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่อง 3 แหล่งที่มาข่าวต้นฉบับกระปุก.คอมhttps://hilight.kapook.com/view/239179
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ข่าวทั่วไป
29/04/2024
เหตุการณ์สุดช็อกล่าสุดแห่งวงการลูกหนัง เมื่อนักฟุตบอลชาวอินโดนีเซียโดนฟ้าผ่าจนเสื้อผ้าขาดกระจุย เพื่อนรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่สุดท้ายยื้อชีวิตไม่สำเร็จฟ็อกซ์ สปอร์ตส์ รายงานว่า เหตุการณ์ไม่คาดฝันดังกล่าวเกิดขึ้นในเกมอุ่นเครื่องระหว่าง เอฟซี บันดุง พบ เอฟบีไอ ซูบัง ที่สนามซิลิวังกี ในเมืองบันดุง จังหวัดชวาตะวันตก ตั้งแต่เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมาโดยขณะที่การแข่งขันกำลังดำเนินไปตามปกติ นักเตะทีม เอฟบีไอ ซูบัง กำลังจ่ายบอลในแดนตัวเอง แต่แล้วฟ้าก็ผ่าลงมากลางสนามลงที่ร่างของ เซปเทียน ราฮาร์จา วัย 35 ปี จนหมดสติล้มทั้งยืนลมหายใจรวยริน ก่อนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงอย่างเร่งด่วน แต่สุดท้ายก็สิ้นใจในเวลาต่อมาด้านสโมสร เอฟบีไอ ซูบัง ได้โพสต์ไว้อาลัยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เช่นเดียวกันกับแฟนบอลและนักฟุตบอลที่ต่างโพสต์ข้อความแสดงความเสียใจต่อเหตุดังกล่าว รวมไปถึงหลายสโมสรในอินโดนีเซียร่วมไว้อาลัยกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดดังกล่าว มีการยืนสงบนิ่งในเกมฟุตบอลทุกระดับของแดนอิเหนาในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับ sanookhttps://www.sanook.com/sport/1518778/
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ห้องแสดงนิทรรศการ
29/04/2024
ดิ อาร์ต อ๊อคชั่น เซ็นเตอร์ (The Art Auction Center) บริษัทประมูลงานศิลปะชั้นนําของไทย และ ดี สยาม (De Siam) อาณาจักรแอนทีคที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ขอเชิญร่วมเดินทางไปสำรวจดินแดนอันกว้างใหญ่และไร้ขอบเขตกับนิทรรศการแสดงผลงานศิลปะและการประมูล“VOYAGE DE L’ART”ด้วยพลังแห่งศิลปะจะพาคุณไปค้นพบประสบการณ์ล้ำค่าผ่านผลงานทั้ง 122 ชิ้น ซึ่งนำมาจัดแสดงโดยแบ่งออกเป็น 8 โซน เปรียบเป็น 8 ดินแดนซึ่งรอคอยการสำรวจ นั่นก็คือ …- “Dans la Forêt (Into the Woods)” เสียงเพรียกจากพงไพร แรงบันดาลใจซึ่งทำให้การเดินทางเริ่มต้น- “Étreinte de la Mer (Sea’s Embrace)” แหวกว่ายสำรวจมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ ดำดิ่งสู่สายน้ำแห่งชีวิตซึ่งเป็นองค์ประกอบและต้นกำเนิดทุกสรรพสิ่ง- “Au Dessus de l’Horizon (Above Horizon)” ทะยานสู่วิมานอากาศ ล่องลอยเสมือนฝันท่ามกลางท้องนภากว้างไกลนำพาจิตใจให้สงบ- “Souterrain Éclatant (Volcanic Realm)” ดินแดนอันร้อนรุ่มไปด้วยการปะทุทางความคิดที่จริงจังและเข้มข้น เร่งเร้าให้เหล่านักเดินทางได้เกิดการตั้งคำถามและตระหนักถึงบริบทต่าง ๆ รอบตัว- “Terre de la Réflexion (Land of Reflection)” การเดินทางสู่ดินแดนลึกลับ นครมายาที่จะพาเหล่านักเดินทางเข้าสำรวจพื้นที่ภายในใจตน ค้นลึกถึงก้นบึ้งของจิต แสวงหาความจริงแท้ที่อาจซ่อนเร้นหรือถูกกดทับไว้ ให้ได้เรียนรู้ที่จะยอมรับและก้าวเดินต่อไป เพื่อเผชิญหน้ากับสิ่งใหม่ ๆ- “Imagination Illimitée (Limitless Imaginary)” ดินแดนจินตนาการไร้ขอบเขต ที่จะพาเหล่านักเดินทางออกเดินทางไกล ท่องไปสู่ทุกความเป็นไปได้อย่างไร้ขีดจำกัด เติมเต็มสิ่งใหม่ให้กับชีวิตอย่างไม่รู้จบ- “Splendeure Occidentale (The Occidental Glory)” ดินแดนอาทิตย์ลับขอบฟ้า พื้นที่แห่งการริเริ่มอารยธรรมตะวันตก- “Brise de l’Est (Breeze of the East)” ดินแดนสายลมบูรพาที่พัดพาวัฒนธรรมตะวันออกให้อบอวลกรุ่นกลิ่นไปทั่วแดนพบกับผลงานศิลปะหลากหลายแขนงของศิลปินชั้นนำชาวไทยและนานาชาติ พร้อมกับการจัดแสดงหีบเดินทาง (Trunk) วินเทจของ Louis Vuitton และ Goyard จาก ดี สยาม สำหรับหีบแบรนด์ฝรั่งเศสชื่อดังเหล่านี้ ครั้งหนึ่งเคยเป็นเพื่อนคู่ใจสำหรับการเดินทาง ก่อนจะกลายเป็นของสะสมอันทรงคุณค่า ซึ่งในปัจจุบันนิยมนำมาประดับตกแต่งอาคารบ้านเรือนเพื่อแสดงถึงสไตล์และเสน่ห์ข้ามกาลเวลานิทรรศการ "VOYAGE DE L’ART" จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-18 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 10.00-19.00 น. ที่ JWD Art Space ชั้น 3และการประมูลจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 18 กุมภาพันธ์ 2567 เริ่มลงทะเบียนเวลา 10.00 - 13.00 น. การประมูลเริ่มต้นในเวลา 14.00 น. ที่ JWD Art Space ชั้น 3 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02 233 7939 และ 065 097 9909เตรียมจัดกระเป๋าของคุณ แล้วออกเดินทางไปกับ "VOYAGE DE L’ART" เพื่อค้นพบนิยามใหม่ของประสบการณ์ในนิทรรศการแสดงผลงานศิลปะและการประมูลครั้งนี้แหล่งที่มาข่าวต้นฉบับผู้จัดการออนไลน์https://mgronline.com/celebonline/detail/9670000013001
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ท่องเที่ยว
29/04/2024
เดินทางเข้าสู่เทศกาลแห่งความรัก หรือวันวาเลนไทน์ หากใครที่กำลังมองหาสถานที่สุดโรแมนติกสำหรับเดทสุดพิเศษแล้วละก็ วันนี้เราได้รวบรวม 9 สถานที่นัดเดทวันวาเลนไทน์ สุดฟิน สุดเอ็กซ์คลูซีฟ มาฝากคู่รักนักเดินทาง นักถ่ายภาพ แต่ละที่สุดแสนจะโรแมนติกแค่ไหน ตามเรามาดูกันเลย9 สถานที่นัดเดทวันวาเลนไทน์หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร หรือ หอศิลป์กรุงเทพฯวันวาเลนไทน์ปีนี้ พักเดินห้าง มาชมงานศิลปะที่ หอศิลปกรุงเทพฯ สถานที่เดทวาเลนไทน์ของเหล่าสายอาร์ต บอกเลยว่าได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศเดินเคียงคู่กับคนรัก พร้อมกับได้เสพงานศิลป์ไปพร้อมกันเป็นอะไรที่ฟินสุดๆพิกัด : ปทุมวัน เวลาเปิด-ปิด : เปิดอังคาร-อาทิตย์ 10.00 - 19.00 น.พิพิธภัณฑ์ MOCAหอศิลป์ร่วมสมัยที่จัดแสดงผลงานของศิลปินดัง มีทั้งความงามและความติส ถือเป็นสถานที่นัดเดทวาเลนไทน์ที่เหมาะแก่การใช้เวลาร่วมกันกับคนรักนานๆ แค่จูงมือกันชมงานศิลปะไปเรื่อย ๆ ก็ทำให้รู้สึกฟีลกู้ดได้ง่าย ๆ เป็นอีกหนึ่งสถานที่เดทในกรุงเทพฯอีกที่ ที่ต้องปักหมุดไว้เลยพิกัด : จตุจักร เวลาเปิด-ปิด : 10.00 - 17.00 น.SEA LIFE Bangkok Ocean Worldบรรยากาศแบบใต้ท้องทะเลลึก มีสัตว์ทะเลต่าง ๆ ให้ดูมากมาย ที่ SEA LIFE Bangkok Ocean World สถานที่แห่งนี้ คุณและคนรักจะได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศสุดแสนจะโรแมนติก เหมือนหลุดไปอยู่อีกโลกหนึ่ง จนลืมไปเลยว่าอยู่ใจกลางเมือง หากใครที่มีคนเดินเคียงข้างในวันแห่งความรักแล้ว มันต้องฟินมากๆแน่เลยยยพิกัด : สยามพารากอน เวลาเปิด-ปิด : 11.00 - 20.00 น.ท่ามหาราชหากใครชอบบรรยากาศริมแม่น้ำ เราแนะนำ ท่ามหาราช ศูนย์รวมความชิคของคนกรุง วิวดีตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เหมาะแก่การพาคนรักมานั่งดินเนอร์สุดๆ พร้อมกับดูวิวแม่น้ำสวยๆ บอกเลยว่าฟินนนน อีกทั้งบรรยากาศรอบๆยังโรแมนติก เหมาะอย่างยิ่งกับเดทในวันแห่งความรักนี้พิกัด : พระนคร เวลาเปิด-ปิด : 10.00 - 20.00 น. สะพานพระราม 8พิกัดยอดนิยมสุดโรแมนติค เหมาะแก่การนั่งตากลมเพลิน หรือนั่งเหม่อๆ ดูแสงสะท้อนผืนน้ำตอนพระอาทิตย์ตก ได้ฟิลซีรีส์เกาหลีสุดๆ บอกเลยห้ามพลาด!!พิกัด : สะพานพระราม 8 เวลาเปิด-ปิด : 05.00 น - 21.00 น. ท้องฟ้าจำลองที่เที่ยวสุดโรแมนติก และคลาสสิคมากๆ สำหรับชาวกรุงเทพ สถานที่ที่สามารถเนรมิตให้เห็นดาวตอนกลางวันได้ บรรยากาศดีๆโรแมนติก ได้นอนดูดาวคู่กับคุณแฟน เหมือนบนโลกนี้มีแค่เรา 2 คน เห็นหลายคนจูงมือแฟน พาเพื่อนๆ มานอนดูดาวด้วยกัน แล้วอิจฉาเบาๆ อยากมีเหมือนเขาบ้างงงพิกัด : เอกมัย เวลาเปิด-ปิด : 09.00 - 16.30 น. เอเชียทีคใครที่กำลังมองหาที่เดทสุดฟิน แลนด์มาร์กริมแม่น้ำเจ้าพระยา สถานที่แห่งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ ที่คู่รักนิยมเดินทางไปออกเดทกัน ยิ่งไปช่วงอาทิตย์ใกล้ ๆ ตกดินก็คือโรแมนติกสุด ๆ และอีกหนึ่งไฮไลท์ คือ เอเชียทีค สกาย ชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่ที่สามารถชมทิวทัศน์กรุงเทพฯ ในมุมสูงได้แบบรอบตัว ใครที่กำลังหาโอกาสบอกรักแบบไม่ซ้ำใคร บนชิงช้าสวรรค์นี้ ก็น่าสนใจเหมือนกันนะพิกัด : เจริญกรุง เวลาเปิด-ปิด : 11.00 - 23.00 น.สวนรถไฟสวนรถไฟ หรือ สวนวชิรเบญจทัศ อีกหนึ่งสถานที่เดทแรกๆ ที่หลายๆคนนึกถึง ด้วยบรรยากาศธรรมชาติใจกลางกรุงเทพ มีกิจกรรมโรแมนติกเบาๆ ให้ได้อยู่ด้วยกัน อย่าง การปั่นจักรยาน การนั่งปิกนิก และการชมเหล่าผีเสื้อที่อุทยานผีเสื้อและแมลงกรุงเทพฯ ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ ที่สร้างความโรแมนติกได้ดีเลยแหละพิกัด : จตุจักร เวลาเปิด-ปิด : 05.00 - 21.00 น.สวนหลวง ร.๙ใครที่อยากหาสถานที่เดทในกรุงเทพฯ แบบสวนสาธารณะใหญ่ ๆ ต้องไปที่ สวนหลวง ร.๙ เลย เพราะที่นี่บรรยากาศดีมาก ๆ เหมาะมากที่จะชวนคู่เดทมาพักผ่อน นั่งชิลล์ รับลม อีกทั้งยังมีกิจกรรมให้ทำมากมาย อย่าง การปั่นเรือเป็ด เดทกันกลางน้ำแบบชิล ๆ ก็เก๋ หรือปั่นจักรยานก็น่ารักไปอีกแบบ ความประทับใจไม่ต้องทำไรเยอะ แค่ได้มีเวลาอยู่ด้วยกันก็เพียงพอแล้วพิกัด : ถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน 05.00-19.00 น.และทั้งหมดนี้ก็เป็น พิกัดสถานที่เดทวันวาเลนไทน์ แค่บางส่วนที่ทางเรานำมาแชร์ให้ทุกคนได้ดูกัน บอกเลยว่าแต่ละที่โรแมนติกทั้งนั้น เหมาะมากที่จะจูงมือคนรักไปเที่ยวในวันที่ 14 กุมภาพันธ์นี้ แต่ไม่ว่าจะที่ไหนเราคิดว่า การได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันสำคัญที่สุดนะ ขอให้ทุกคนมีความสุขในวันวาเลนไทน์นี้ค่ะขอขอบคุณรูปภาพจาก MOCA Museum of Contemporary Art Bacc หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร thesustain roijang thairath theasianparent gourmetandcuisine sanook tourismthailand ติดตามเนื้อหาดีๆ แบบนี้ได้ที่ Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th Twitter : https://twitter.com/innnews Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news LINE Official Account : @innnewsขอขอบคุณข้อมูล :chalita_kแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับ sanookhttps://www.sanook.com/travel/1446875/
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ข่าวการเงิน
29/04/2024
อรรถวัติ ศิริสิทธิธงไชย หรือ “บอย ท่าพระจันทร์” โพสต์เฟซบุ๊กวันนี้ วันคล้ายวันเกิดครบ 44 ปี 10 กุมภาพันธ์ 2523 เล่าบทเรียนลงทุน “ทำสนามบอล” เสียหาย 100 ล้าน ขายทิ้งเหลือเงินติดตัว 5 ล้าน นับเป็นการลงทุนที่สร้างความเสียหายให้กับตัวผมเองมากที่สุด วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอรรถวัติ ศิริสิทธิธงไชย หรือ “บอย ท่าพระจันทร์” เซียนพระและเซียนหุ้นชื่อดัง ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัววันนี้ระบุข้อความว่า วันคล้ายวันเกิดครบ 44 ปี 10 กุมภาพันธ์ 2523 ตอน 4 ขวบ พ่อแม่เลิกกัน ผมอยู่กับแม่ วัยเด็ก เรียนโรงเรียนวัดราชสิทธิธาราม (วัดพลับ) มัธยม โรงเรียนวัดประดู่ในทรงธรรม ปวช. พณิชยการราชดำเนิน (พรธ.) ปวส. พณิชยการราชดำเนิน (รอบค่ำ) มหาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (รอบค่ำ) ถ้าผมมีเงิน ผมก็อยากเรียนเมืองนอก (แต่ไม่มี ได้แต่เรียนรอบค่ำ กลางวันทำงาน) เข้าวงการพระตอนอายุ 13 ขวบ ด้วยเงินเพียง 1,800 บาท จากเงินตรุษจีน ( 31 ปี พอดีในวันนี้) ตอนอายุ 18 บอกกับตัวเองและเพื่อนที่สนิทกันว่า ความฝันอันสูงสุดของผม คือ มีบ้าน 2 หลัง รถ 2 คัน เงินสดอีก 5,000,000 บาท นี่คือที่สุดของผมแล้ว คนเริ่มรู้จัก “บอยท่าพระจันทร์” มากขึ้น ตอนเช่าพระองค์ละล้านกว่า เมื่ออายุ 20 ปี (เด็กคนแรกและคนเดียวในยุคนั้น) อายุ 23 (ซื้อบ้านหลังละเกือบ 10 ล้าน และผ่อนหมด ในเวลา 13 เดือน) อายุ 27 แข่งขันเกมส์ อัจฉริยะข้ามคืน ได้ที่ 1 และทำหนังสือ “เหรียญยอดนิยมอมตะแดนสยาม” เล่ม 1 ปัจจุบันเล่มละ 30,000 บาท อายุ 29 ออกรายการเจาะใจ “เซียนพระร้อยล้าน” ยิ่งทำให้คนรู้จักเด็กคนนี้มากขึ้น ทำสนามบอลและลงทุน 100 ล้าน สุดท้ายขายทิ้ง เหลือเงิน 5 ล้านบาท นับเป็นการลงทุนที่สร้างความเสียหายให้กับตัวผมเองเป็นอย่างมาก บทเรียนนี้ทำให้ผมแข็งแกร่งขึ้นเยอะมากครับอายุ 33 เข้าสู่การลงทุน (ตลาดหุ้น) เรียนรู้อยู่หลายปี (กำไรขาดทุน วนอยู่ 6 ปี) และสุดท้ายได้กำไรมหาศาล อายุ 40 เรียนรู้เรื่องของเก่า (เครื่องกระเบื้องและงานถมทอง) กระเพาะปลาเก่า เรียนรู้ 3 เดือน จนแตกฉาน และเข้าใจว่าของสิ่งนี้คือของที่มีมูลค่ามากมาย แต่คนไม่รู้ค่า และทำให้ผมได้กำไรเยอะมาก มันคือของกินที่แพงที่สุดในโลก)และนี่คือเรื่องราวของผม ตั้งแต่เด็กจนโต ตลอดระยะเวลา 44 ปี ในชีวิตของเด็กคนนึงที่ไม่มีโอกาสและไม่มีเงิน แต่มีความทะเยอทะยานที่จะเสาะแสวงหาโอกาส บนเส้นทางความถูกต้อง โดยไม่ข้องเกี่ยวกับอบายมุขต่าง ๆ ด้วยความสามารถเท่าที่มี และกลายเป็น “บอยท่าพระจันทร์” ด้วยวัยเพียง 44 ปี ในวันนี้ ผมทำได้ ทุก ๆ คนก็ทำได้ ผมโชคดีที่ผมเองรู้ว่าตัวเองต้องการอะไร ก่อนคนอื่น ขอบคุณแม่ของผมที่สอนให้ผมเป็นคนไม่เห็นแก่ตัว และสอนให้ผมเป็นคนดีมีน้ำใจ ขอบคุณภรรยาที่อยู่ข้าง ๆ และเป็นกำลังใจให้ทุกเรื่อง ขอบคุณลูก ๆ ทั้ง 4 คนของผม ที่จะคอยถามว่าคุณพ่อกลับบ้านดึกจริง ๆ ไม่มาเล่นและกล่อมเด็ก ๆ เข้านอนเลย ขอบคุณทุก ๆ อุปสรรคที่เข้ามา เพราะมันทำให้ผมยิ่งแข็งแกร่งขึ้น #อยากชนะต้องไม่กลัวแพ้ แหล่งที่มาข่าวต้นฉบับประชาชาติธุรกิจออนไลน์https://www.prachachat.net/finance/news-1499120
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ประกันชีวิต
29/04/2024
บทความโดย "วิริทธิ์พล กีรติวิชุกร" ที่ปรึกษาการเงิน AFPTTMวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2567 เวลาพูดถึงประกันชีวิต คงเคยได้ยินบางคนบอกว่ามีเยอะแล้ว เข้าแบงก์ทีก็มีเพิ่มมาเล่มนึง เราเคยมานั่งคิดจริง ๆ ไหมครับว่า ประกันชีวิตสำหรับตัวเราเองมีไว้ทำอะไร และมีเท่าไรเรียกว่าพอ วันนี้จะมาชวนคิดกันเรื่องนี้ครับคนเราทำประกันชีวิตด้วยหลากหลายความต้องการ บ้างก็ทำเพื่อลดภาษี พยายามให้ได้ครบ 1 แสน พอดีแบบไม่ขาด ไม่เกิน พอส่งครบก็หาเติมอย่างนี้อยู่เรื่อย ๆ ทุกปี อันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งประโยชน์ทางภาษีที่เราได้จากการทำประกันชีวิตหรือประกันสุขภาพตามเงื่อนไขที่ทางรัฐเปิดสิทธิให้ แต่เราเคยมาย้อนดูไหมครับว่าจริง ๆ เราทำประกันชีวิตเพระต้องการความคุ้มครองจากประกันชีวิตจริง ๆ รึเปล่า ก่อนจะทำประกันชีวิตอยากให้ทุกคนลองพิจารณาจากคำถามเหล่านี้กับตัวเองก่อน1. ถ้าเราไม่อยู่ ในวันนี้มีใครเดือดร้อนบ้าง หรือได้รับผลกระทบจากที่เราไม่สามารถหาเงินมาส่งเสียเลี้ยงดูเขาเหล่านั้นได้ หรือต้องชดใช้หนี้สินที่เราก่อไว้แทนเรา2. ประเมินมูลค่าออกมาเป็นตัวเงินจากการที่เราไม่อยู่ แล้วรายได้ขาดหายไป ตามระยะเวลาที่เหลือถ้าเรายังทำงานได้ต่อทั้งสองคำถาม จะนำมาสู่การคำนวณว่าเราควรมีประกันชีวิตหรือค่าตัวเท่าไรในวันนี้และอนาคต ซึ่งอาจเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งใน 2 ข้อ เป็นเกณฑ์หรือนำมารวมกันก็ได้ครับถ้าเรามีกำลังมากพอ เพราะโดยปกติตัวเลขของข้อ 2 มักจะมากกว่าข้อ 1 โดยเฉพาะคนที่มีเวลาทำงานเหลืออยู่ยาว ๆ และรายได้สูง ๆเมื่อเราได้ตัวเลขที่ต้องการแล้ว ข้อสำคัญคือการนำตัวเลขดังกล่าวมาหักลบกับทรัพย์สินที่เราเตรียมไว้แล้ว ตัวอย่างเช่น ถ้าเราเลือกคำนวณทุนประกันชีวิตแบบข้อ 1 ของผู้ชายวัย 43 ปี เป็นหัวหน้าครอบครัว • ภาระค่าเทอมลูกที่ต้องดูแล จนจบปริญญาตรี ทั้งสองคน 2 ล้านบาท • ภาระดูแลคุณพ่อคุณแม่จนอายุ 85 ปี 3 ล้านบาท • ภาระผ่อนบ้าน สินเชื่อคงค้าง 3 ล้านบาท • เงินกู้เพื่อการลงทุนในธุรกิจ วงเงิน 5 ล้านบาทหัก ทรัพย์สินที่เตรียมไว้แล้ว มูลค่า 5 ล้านบาท (ไม่รวมที่อยู่อาศัย)คงเหลือ มูลค่าทุนประกันที่ขาดอยู่ 8 ล้านบาทเมื่อได้ตัวเลขเป้าหมายแล้ว จึงนำไปเลือกแบบประกันและเบี้ยประกันที่ตอบโจทย์กับความต้องการต่อไป ซึ่งในที่นี้จะขอเปรียบเทียบแบบประกันชีวิต 2 แบบหลัก ๆ ที่นิยมนำมาใช้เพื่อการวางแผนค่าตัวหรือประกันชีวิต ระหว่างแบบตลอดชีพและยูนิตลิงก์ โดยมีใจความสำคัญของแต่ละแบบดังนี้ในขณะที่แบบประกันประเภทยูนิตลิงก์ จะมีมิติความแตกต่างกันในอีกรูปแบบ คือเมื่อเทียบกัน 2 แบบ ระหว่าง ประกันชีวิตแบบตลอดชีพและยูนิตลิงก์ จะพบได้ว่าเราสามารถเลือกให้สอดรับกับความต้องการทุนประกันชีวิตที่แตกต่างของเราได้ โดยคนที่ชอบความแน่นอน คือกำหนดระยะเวลาส่งเบี้ยและความคุ้มครองที่คงที่ตั้งแต่วันแรกจนวันสุดท้ายของชีวิตอาจตัดสินใจเลือกแบบประกันตลอดชีพทั่วไป แต่สิ่งหนึ่งที่เราอาจจะต้องนำมาพิจารณาคือค่าเบี้ยประกัน ซึ่งมักสูงกว่าเบี้ยประกันชีวิตแบบยูนิตลิงก์กว่า 2 เท่า โดยประมาณ (ขึ้นอยู่กับอายุและเพศ) จากกรณีที่ยกตัวอย่างข้างต้น ชายอายุ 43 ปี มีความต้องการทุนประกัน ส่วนขาดอยู่ 8 ล้านบาท เมื่อพิจารณาจากเบี้ยประกันด้วยทุนประกันที่เท่ากันจะพบว่า เบี้ยประกันแบบตลอดชีพ ตกอยู่ราว 2 แสนสองหมื่นกว่าบาท ในขณะที่ประกันชีวิตแบบยูนิตลิงก์ มีค่าเบี้ยอยู่ที่ประมาณ 1 แสนสองหมื่นบาท ถ้าเปรียบเทียบโดยมองมุมนี้ดูเหมือนว่ายูนิตลิงก์ จะได้เปรียบและมีความน่าสนใจสำหรับคนที่มีข้อจำกัดเรื่องกำลังในการส่งเบี้ย แต่เราต้องมองมุมอื่น ๆ ประกอบด้วย เช่น • ค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมของยูนิตลิงก์ ซึ่งปรับขึ้นตามความเสี่ยงของอายุและเพศ • อัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในพอร์ตกองทุนรวมที่ผันผวนซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะเป็นตัวแปรสำคัญ ที่จะทำให้ทุนประกันชีวิตในยูนิตลิงก์ไม่สามารถคงระดับความคุ้มครองให้สูงอยู่ตั้งแต่แรกจนตลอดไปได้ โดยเฉพาะในช่วงอายุสูง ๆ ต้นทุนค่าใช้จ่ายการประกันภัย ที่จัดเก็บจากลูกค้าจะสูงมาก หากมูลค่ากองทุนที่ซื้อไว้ไม่ได้เติบโตจนมีมูลค่ามากพอ ก็จะถูกหักค่าใช้จ่ายจนหมดเสียก่อนดังนั้นการใช้ประกันชีวิตแบบยูนิตลิงก์เพื่อปกป้องความเสี่ยงภัยกับหัวหน้าครอบครัวหรือผู้ที่มีรายได้หรือค่าความสามารถสูง ๆ จึงนิยมทำทุนประกันสูงเพียงช่วงระยะเวลาหนึ่ง ที่มีความจำเป็นหรือมีส่วนขาดระหว่างเป้าหมายและทรัพย์สินที่มีอยู่ เพื่อเติมเต็มช่องว่างดังกล่าวหากประสบกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน แต่เมื่อหลังจากผ่านพ้นช่วงเวลานั้นแล้วเช่น สะสมทรัพย์สินได้ใกล้เคียงเป้าหมายทางการเงินและภาระความจำเป็นแล้ว หรือภาระหนี้สินลดลงจนสามารถจัดการได้คล่องตัวขึ้นมีส่วนต่างไม่มากนัก ก็สามารถปรับลดทุนประกันลงมา เพื่อให้เงินค่าเบี้ยที่ชำระเข้ามาแต่ละปีไปลงในสัดส่วนของการลงทุนเพิ่มมากขึ้นอันจะส่งผลให้กองทุนในยูนิตลิงก์เติบโตได้อย่างแข็งแรงและรวดเร็วขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อเงินทุนที่จะออกแบบเพื่อใช้งานด้านอื่น ๆ ได้เช่น การเกษียณ เป็นต้นทางเลือกของประกันชีวิต จริง ๆ แล้วอาจไม่ได้มีแค่สองทางที่เขียนมาข้างต้น ทางเลือกใช้ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลาก็สามารถทำได้ คือยอมเสียค่าเบี้ยเหมือนกับประกันรถยนตร์ที่จ่ายทิ้งไปปีต่อปี โดยไม่ต้องนำเรื่องมูลค่าของกรมธรรม์มาเป็นปัจจัยหลัก เพราะจุดประสงค์คือความคุ้มครองที่ต้องการซึ่งทางเลือกแบบนี้ข้อดีคือค่าเบี้ยประกันจะน้อยกว่าสองแบบแรก และกำหนดระยะเวลาคุ้มครองตามที่ต้องการได้ตามความจำเป็น ดังนั้นก่อนจะตัดสินใจเลือกทางไหนลองประเมินดูตัวเองกันก่อนนะครับว่าเรามีความจำเป็นที่ต้องมีประกันชีวิตมูลค่าเท่าไร และเรามีงบฯที่จะจ่ายค่าเบี้ยได้เท่าไร“การทำประกันชีวิตก็เหมือนการเลือกรับวัคซีนเพื่อป้องกันโรคร้าย วัคซีนที่ดีที่สุดคือวัคซีนที่เหมาะกับเราในปริมาณที่เหมาะสม และสามารถป้องกันโรคร้ายนั้นได้นะครับ” ด้วยหวังว่าเมื่อท่านได้อ่านบทความนี้แล้ว ก็จะสามารถหาแนวทางในการเลือกวัคซีนการเงินที่รองรับความเสี่ยงภัยได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้นนะครับแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับประชาชาติธุรกิจออนไลน์https://www.prachachat.net/finance/news-1495393
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ห้องแสดงนิทรรศการ
29/04/2024
ศูนย์การค้าเมกาบางนา เฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีน รับปีมังกรมงคลอย่างยิ่งใหญ่ สร้างสรรค์งานศิลปะต้อนรับเทศกาลตรุษจีน ด้วยการจับมือศิลปินระดับโลก ยูน-ปัณพัท เตชเมธากุล ร่วมออกแบบผลงานศิลปะสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ในงาน Megabangna Chinese New Year 2024 : Glory of The Dragon จัดเต็มด้วยหลากหลายกิจกรรมที่จะทำให้ทุกวันเป็นวันพิเศษและตอบโจทย์กับทุกไลฟ์สไตล์ ตระการตาไปกับแลนด์มาร์คและบรรยากาศมหามงคลรับศักราชใหม่ พร้อมอิ่มอร่อยกับหลากหลายเมนูอาหารจีนจากร้านดังกับเทศกาลอาหารในงาน Mega Chinese New Year พร้อมเอาใจขาช้อป ชิล กิน ดื่ม ได้ลุ้นรับของสมนาคุณ Special Limited Edition ที่ออกแบบโดยคุณยูน - ปัณพัทเตชเมธากุล ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 – 29 กุมภาพันธ์ 2567วรรณวิมล อรดีดลเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ศูนย์การค้าเมกาบางนา กล่าวว่า เพื่อร่วมเฉลิมฉลองในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ เมกาบางนา ได้จัดงาน Megabangna Chinese New Year 2024 (เมกาบางนา ไชนีส นิวเยียร์ 2024) โดยความพิเศษในครั้งนี้คือการได้ร่วมมือกับคุณยูน-ปัณพัท เตชเมธากุล ศิลปินระดับโลก มาสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ ภายใต้คอนเซ็ปต์ Glory of The Dragon (กลอรี่ ออฟ เดอะ ดรากอน) กับการออกแบบลวดลายมังกรและส่วนประกอบอื่นๆ เอ็กซ์คลูชีฟเฉพาะที่เมกาบางนา เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวของปีมังกรมงคล ซึ่งได้นำมาต่อยอดบรรยากาศ การเฉลิมฉลองและเสริมประสบการณ์การช้อปปิ้ง ตั้งแต่การตกแต่งบรรยากาศของศูนย์การค้า การสร้างแลนด์มาร์คขนาดใหญ่ที่ด้านหน้าศูนย์การค้าให้ลูกค้าได้เช็คอินถ่ายภาพ รวมถึงของสมนาคุณ Special Limited Edition ที่ออกแบบโดยคุณยูน อาทิ กระเป๋า หมอน ผ้าพันคอ ซองอั่งเปา สติ๊กเกอร์เพื่อมอบเป็นของสมนาคุณสำหรับนักช้อป และยังได้จัดทำ ภาพหน้าจอมือถือให้ดาวน์โหลดได้ฟรีอีกด้วย นอกจากการร่วมสร้างสรรค์งานศิลป์ร่วมกับศิลปินระดับโลกแล้ว ในวันเสาร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ นี้ เพื่อให้ทุกท่านได้ก้าวสู่ปีมังกรมงคล ด้วยการแสดงสุดอลังการนำโดย นาย-ณภัทร เสียงสมบุญ ที่จะสวมบทพญามังกร ผู้เปิดประตูแห่งโชค ส่งมอบพลังความมงคล ความโชคดี ให้กับทุกคน และยังได้จัดงาน Megabangna Chinese New Year ระหว่างวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567 - 19 กุมภาพันธ์ 2567 เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนด้วยความอิ่มอร่อยจากหลากหลายเมนูคาวหวานจากร้านอาหารชั้นนำ ทั้งอาหารไทย อาหารจีน สตรีทฟู้ดเจ้าดัง ขนมและเครื่องดื่ม ที่จัดเต็มมาให้ทุกคน ทุกวัย ได้เลือกช้อป เลือกชิมกันอย่างจุใจ“การจัดงาน Megabangna Chinese New Year 2024 : Glory of The Dragon เป็นอีกหนึ่งการต่อยอดการจัดกิจกรรมของเมกาบางนาที่ได้นำงานศิลปะเข้ามาผสมผสานในการจัดงาน เพื่อส่งมอบประสบการณ์ครั้งพิเศษให้กับลูกค้า รวมถึงการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนในครั้งนี้ ตอกย้ำการเป็น YOUR EVERYDAY MEETING PLACE ของเมกาบางนา ที่พร้อมจะตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ โดยเราจะยังคงเดินหน้าสร้างสรรค์กิจกรรมที่จะตอบโจทย์กับทุกรูปแบบการใช้ชีวิตของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง”ทางด้าน ปัณพัท เตชเมธากุล หรือ ยูน ได้กล่าวถึง การสร้างสรรค์ผลงานในครั้งนี้ ว่า “เนื่องจากปี 2567 นี้ เป็นปีมังกรธาตุไม้ ซึ่งถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของความมงคลและพลังอำนาจ นอกจากความมงคลแล้ว ยังสื่อถึงการเจริญเติบโตงอกงาม ความอุดมสมบูรณ์ รวมถึงการหว่านเมล็ดพันธุ์ เพื่อรอความสำเร็จที่จะเกิดขึ้นในระยะยาว ดังนั้น การออกแบบลวดลายมังกรและส่วนประกอบอื่นๆ ในงานครั้งนี้ ยูน ได้จำลอง สวนสวรรค์แห่งปกรณัมจีนหรือเทพมงคลของจีน ที่มีทั้งพืชพรรณและสัตว์มงคลต่างๆ และไฮไลท์อยู่ที่ตัวมังกรก็ถูกประดับด้วยดอกไม้และเมล็ดพันธุ์ต่างๆ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของมังกรธาตุไม้สำหรับเมกาบางนาโดยเฉพาะ นอกจากนี้ ยังขอใช้โอกาสนี้เป็นตัวแทนส่งคำอวยพรให้สิ่งที่ลูกค้าของศูนย์การค้าเมกาบางนา ทุกท่านได้ตั้งใจ และลงมือทำในปีนี้ประสบความสำเร็จ” ปัณพัท กล่าวร่วมสัมผัสกับประสบการณ์งานศิลป์ที่สุดของความเอ็กซ์คลูชีฟ เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนปีมังกร ในงาน Megabangna Chinese New Year 2024 : Glory of The Dragon ได้ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 – 29 กุมภาพันธ์ 2567 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่แอปพลิเคชันเมกาบางนา หรือ WWW.MEGA-BANGNA.COM#เมกาบางนา #Megabangna #MegaSmileRewards #MegabangnaChineseNewYear2024 #วันตรุษจีน #YourEverydayMeetingPlaceแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับผู้จัดการออนไลน์https://mgronline.com/celebonline/detail/9670000012659
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
30/04/2024
30/04/2024
30/03/2024
30/04/2024
30/04/2024