ข่าวการเงิน
                    Where2put Ur Money: เป็นที่ทราบกันดีว่า 
หนึ่งในแนวทางการวิเคราะห์หลักทรัพย์ที่ใช้ข้อมูลเชิงปริมาณซึ่งเป็นตัวเลขจากงบการเงินเพื่อนำมาช่วยในการตัดสินใจลงทุนค้นหาหุ้นที่ดีในราคาที่เหมาะสม
 (Good Stock at Good Price) ก็คือ “การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Analysis)”
 แต่ก่อนที่จะลงมือวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากงบการเงิน 
พอจะทราบกันไหมครับว่า ลักษณะของ “งบการเงินที่ดี” 
ตามแม่บทบัญชีเป็นอย่างไรบ้าง เชื่อว่า หลายๆ คนคงยังไม่ทราบกัน 
โดยลักษณะของงบการเงินที่ดีควรเป็นดังนี้ครับ 
    •  ความเข้าใจได้ (Understandability) 
โดยอยู่ภายใต้สมมติฐานที่ว่า 
ผู้ใช้งบการเงินมีความรู้ตามสมควรในเรื่องบัญชี และกิจกรรมเชิงเศรษฐกิจ 
ดังนั้น เมื่อมีการใช้ข้อมูลในงบการเงินดังกล่าว 
จึงสามารถทำความเข้าใจในข้อมูลได้ในทันที
    •  ความเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจ (Relevance) 
ข้อมูลในงบการเงินต้องมีประโยชน์ 
สามารถช่วยให้ผู้ใช้งบการเงินประเมินสถานการณ์ในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต 
รวมทั้งช่วยยืนยัน 
หรือชี้ให้เห็นถึงข้อผิดพลาดของผลการประเมินที่ผ่านมาของผู้ใช้งบการเงิน 
เพื่อที่จะได้นำมาใช้แก้ไขสถานการณ์ที่เกิดให้ดีขึ้น
    •  ความมีนัยสำคัญ (Materiality) ข้อมูลในงบการเงินต้องมีความเกี่ยวข้อง และมีประโยชน์อย่างมีนัยสำคัญต่อการตัดสินใจของผู้ใช้งบการเงิน
    •  ความเชื่อถือได้ (Reliability) 
ข้อมูลในงบการเงินต้องเป็นข้อเท็จจริง มีแหล่งที่มาชัดเจน 
มีความครบถ้วนสมบูรณ์ในสาระสำคัญอันจะไม่ทำให้ผู้ใช้งบการเงินเข้าใจผิดได้ 
และถ้าเป็นการคาดการณ์ก็ต้องสมเหตุสมผล 
สอดคล้องกับความเป็นจริงเชิงเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น
    •  การเป็นตัวแทนอันเที่ยงธรรม (Faithful Presentation) 
ข้อมูลในงบการเงินต้องทำให้ผู้ใช้งบการเงินสามารถเชื่อได้ว่า 
ข้อมูลนั้นเป็นตัวแทนอันเที่ยงธรรมของรายการที่ต้องการให้แสดง 
และปราศจากความผิดพลาดที่มีนัยสำคัญ

    •  ความเป็นกลาง (Neutrality) 
เนื่องจากงบการเงินถูกจัดทำขึ้นเพื่อใช้ประโยชน์สำหรับกลุ่มคนหลายฝ่าย 
ดังนั้นข้อมูลในงบการเงินต้องถูกนำเสนอด้วยความเป็นกลาง 
และปราศจากซึ่งความลำเอียง
    •  เนื้อหาสำคัญกว่ารูปแบบ (Substance Over Form) ข้อมูลในงบการเงินต้องให้ความสำคัญกับเนื้อหา และความเป็นจริงเชิงเศรษฐกิจ ไม่ใช่เพียงแค่จัดทำตามรูปแบบทางกฎหมายเพียงอย่างเดียว
    •  ความระมัดระวัง (Prudence) 
เนื่องจากการจัดทำงบการเงินดำเนินการภายใต้ความไม่แน่นอน 
จึงต้องมีการใช้ดุลพินิจพิจารณาอย่างรอบคอบในการประมาณการเพื่อไม่ให้รายการบางรายการสูง
 หรือต่ำเกินไป จนทำให้ขาดความเป็นกลาง และไม่น่าเชื่อถือ
    •  ความครบถ้วน (Completeness) หากข้อมูลในงบการเงินไม่ครบถ้วน ย่อมส่งผลกระทบโดยตรงต่อการตัดสินใจของผู้ใช้งบการเงิน และนำไปสู่ความผิดพลาดได้
    •  การเปรียบเทียบกันได้ (Comparability) 
ผู้ใช้งบการเงินไม่เพียงแต่ต้องสามารถเปรียบเทียบข้อมูลในงบการเงินระหว่างกิจการได้
 
หากยังต้องสามารถเปรียบเทียบข้อมูลในงบการเงินของกิจการในรอบระยะเวลาที่ต่างกันได้ด้วย
 เพื่อที่จะประเมินการเปลี่ยนแปลงฐานะทางการเงิน 
และผลการดำเนินงานของกิจการที่เกิดขึ้น
    •  ทันต่อเวลา (Timelines) 
ต้องมีการปิดงบการเงินให้ทันเวลาก่อนที่จะมีการตัดสินใจใดๆ 
เนื่องจากการรายงานข้อมูลที่ล่าช้าอาจส่งผลให้การตัดสินใจของผู้ใช้งบการเงินผิดพลาดได้
    •  ความสมดุลระหว่างประโยชน์ที่ได้รับกับต้นทุนที่เสียไป (Balance Between Benefit and Cost) โดยทั่วไป ประโยชน์ที่ได้รับจากข้อมูลในงบการเงินควรมากกว่าต้นทุนในการจัดหาข้อมูลนั้นๆ
    •  การแสดงข้อมูลที่ถูกต้องตามควร (Appropriate Display of Information) เพียงพอ และมีสาระสำคัญทั้งในด้านฐานะทางการเงิน และผลการดำเนินงาน
แน่นอนว่า “งบการเงิน” จะให้ประโยชน์สูงสุดต่อผู้ใช้งบการเงิน 
ก็ต่อเมื่องบการเงินนั้นมี “ลักษณะที่ดี” 
ตามแม่บทบัญชีที่ได้กำหนดไว้ข้างต้นนั่นเองครับ
แหล่งที่มาข่าวต้นฉบับwealthythai
                                    29/04/2024
                                    30/04/2024
                                    11/02/2025
                                    30/04/2024
                                    30/04/2024