Everyday knowledge for you
ท่องเที่ยว
09/05/2025
ภายในรั้วสีขาวใจกลาง “วัดโพธิ์” โอบล้อมสวนหย่อมขนาดใหญ่เอาไว้ ซ่อนความงามของมวลหมู่ดอกไม้สะพรั่งบานอวดสีสันสดใส ตรึงสายตาด้วยการตกแต่งภูมิทัศน์สวยงามราวกับเป็นฉากในวรรณคดี สถานที่แห่งนี้ เรียกว่า “สระจระเข้”ทางเข้าสระจระเข้วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร หรือวัดโพธิ์ นับเป็นสถานที่สำคัญแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งไม่เพียงเป็นมรดกล้ำค่าของประเทศไทย แต่ยังได้รับการยอมรับว่าเป็นสถานที่สำคัญระดับโลกองค์การยูเนสโกยกย่องให้เป็น “มรดกความทรงจำแห่งโลก” นั่นคือ “จารึกวัดโพธิ์” ที่ว่าด้วยภูมิปัญญาไทย และสรรพศาสตร์แขนงต่างๆ ขณะที่ต้นตำรับการนวดวัดโพธิ์ ถือเป็นจุดกำเนิดการนวดแผนไทย ซึ่งได้รับการรับรองให้เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติ พร้อมทั้งมี “พิพิธภัณฑ์นวดไทย” ที่ให้ความรู้ด้านศาสตร์วิชาการนวดแผนไทยแก่ผู้สนใจวัดโพธิ์จึงแทบไม่เคยว่างเว้นจากนักท่องเที่ยวผู้มาเยือนจากทั่วโลก โดยไม่จำกัดเชื้อชาติศาสนาใดๆ เพราะแม้แต่คนต่างชาติต่างศาสนา ก็แวะมาศึกษาหรือชื่นชมในมุมมองของศิลปวัฒนธรรม ความสวยงาม หรือศาสตร์วิชาความรู้ที่เป็นมรดกของโลกได้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาชมไม่ขาดสายสระจระเข้ อันซีนวัดโพธิ์เมื่อปลายเดือนธันวาคม พ.ศ. 2567 ที่ผ่านมา สมเด็จพระมหาธีราจารย์ (ปสฤทธ เขมงกโร) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามหรือวัดโพธิ์ เปิดเผยว่า วัดโพธิ์ ได้เปิด “สระจระเข้” Unseen แห่งใหม่ของวัดโพธิ์ เป็นสวนขนาดใหญ่ปลูกพรรณไม้และไม้ดอกในวรรณคดีอยู่บริเวณกลางวัด มีความร่มรื่น เจดีย์ขนาดเล็กบรรจุพระบรมสารีริกธาตุมีสระน้ำและตรงกลางสระมีภูเขาและบันไดเล็กสามารถเดินขึ้นไปได้ บริเวณด้านบนจะมีเจดีย์ขนาดเล็กเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ส่วนบริเวณโดยรอบขอบสระ ปลูกพรรณไม้และไม้ดอกในวรรณคดี ถือเป็นสวนรูปแบบวัฒนธรรมไทยแท้เจดีย์ขนาดเล็กบรรจุพระบรมสารีริกธาตุความจริงแล้วสระจระเข้แห่งนี้ ไม่ใช่สถานที่แห่งใหม่เสียทีเดียว แต่ถือเป็นสวนเก่าแก่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ที่ได้รับการบูรณะซ่อมแซม ก่อนจะเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาชื่นชมความงดงามได้อีกครั้งมีข้อความบันทึกจากหนังสือ สู่ราชสำนักสยาม : บันทึกการเดินทางของคณะทูตจากข้าหลวงใหญ่ แห่งอินเดียถึงราชสำนักสยามและญวน Journal of an embassy from the governor-general of India to the courts of Siam and Cochin China/ โดย จอห์น ครอฟอร์ด ทูตอังกฤษ ซึ่งระบุไว้ว่ารูปปั้นจระเข้ในสระน้ำ“ระหว่างหอสมุด (หอไตร) และศาลาการเปรียญมีบ่อน้ำเล็กๆ ภายในมีปลาจำนวนมาก และมีจระเข้หนึ่งตัว มีเหล่าพระสงฆ์คอยดูแล” จึงสันนิษฐานได้ว่าสระจระเข้นั้นมีมาตั้งแต่ยุครัตนโกสินทร์ตอนต้นแล้วทั้งนี้ ภายในสระจระเข้ปัจจุบัน ไม่ได้มีจระเข้จริงเลี้ยงไว้ แต่ก็มีรูปปั้นจระเข้ขนาดเล็กที่มีความสวยงามสมจริงด้วยท่วงท่าแบบจระเข้ ประดับอยู่บริเวณริมน้ำในสวนรูปปั้นจระเข้ในสระน้ำการบูรณะและเปิดใหม่ในรอบ 20 ปีสมเด็จพระมหาธีราจารย์ กล่าวถึงที่มาของการเปิดสระจระเข้อีกครั้งว่า สระจรเข้ไม่ได้เปิดบริการให้คนเข้าชมมานาน ร่วม 20 ปี จึงอยากพัฒนาให้เป็นแหล่งเรียนรู้และจุดเข้าชมของนักท่องเที่ยว เพราะสระจระเข้ มีความร่มรื่นและมีเสน่ห์แบบไทยๆ ถ้าได้รับการพัฒนาหรือปรับปรุงขึ้นใหม่ จะเป็นสถานที่ที่น่าสนใจยิ่งนัก“อาตมภาพ จึงได้ปรารภให้ฝ่ายเผยแพร่ของวัดพระเชตุพนฯ ซึ่งมีพระธรรมวชิรปัญญาจารย์ หรือเจ้าคุณเทียบ ซึ่งเป็นประธานฝ่ายและมีพระสุธีวชิรปฏิภาณ เป็นรองประธาน ช่วยดำเนินการพัฒนาขึ้นมาใหม่และเปิดบริการให้นักท่องเที่ยวเข้าชม น่าจะเกิดประโยชน์แก่วัดและผู้เข้าชม”สีสันแห่งดอกไม้ในสระจระเข้ทางด้านพระธรรมวชิรปัญญาจารย์ รศ.,ดร.( เจ้าคุณเทียบ) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนฯ กล่าวว่าสมเด็จพระมหาธีราจารย์ ได้ปรารภเรื่องการปรับปรุงสระจระเข้ขึ้นมาใหม่ อาตมภาพและคณะทำงาน ที่ได้รับมอบหมายซึ่งประกอบด้วยพระสุธีวชิรปฏิภาณ รองประธานฝ่ายเผยแพร่ พระมหาสิน พระมหานรินทร์ พระมหานพรัตน์และพระมหาวิจิตร จึงได้ดำเนินการปรับปรุงภูทิทัศน์ พื้นที่ภายในสระจระเข้และพื้นที่โดยรอบให้เป็นสวนขนาดใหญ่กลางวัดที่มีความร่มรื่นสามารถนั่งพักผ่อน หรือ นั่งชมความงดงามของบรรยากาศโดยรอบได้สีสันแห่งดอกไม้ในสระจระเข้บริเวณสระจระเข้ ยังมองเห็นความงดงามของพระมหาเจดีย์สี่รัชกาลอย่างชัดเจน ซึ่งวัดโพธิ์ได้ชื่อว่าเป็นวัดแห่งเจดีย์ เพราะมีเจดีย์มากถึง 99 องค์ โดยเจดีย์องค์ใหญ่และโดดเด่นที่สุดในวัด คือ มหาเจดีย์ขนาดใหญ่ 4 องค์ คือพระมหาเจดีย์ประจำรัชกาลที่ ๑ - ๔ ที่สามารถมองเห็นจากสระจระเข้ได้ โดยมีสวนอันงดงามเป็นฉากเบื้องหน้า ทั้งยังรายล้อมไปด้วยสถาปัตยกรรมของอาคาร วิหารต่างๆรอบด้านสระแห่งนี้จึงถือเป็น อีกหนึ่งอันซีน - อีกหนึ่งความมหัศจรรย์ของวัดโพธิ์ และเป็นจุดถ่ายภาพแห่งใหม่กลางวัดที่ควรค่าแก่การมาเยือนมองเห็นเจดีย์สี่รัชกาลอยู่ด้านหลังแหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับผู้จัดการออนไลน์https://mgronline.com/travel/detail/9680000026195
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ประกันชีวิต
09/05/2025
กรุงเทพฯ, 19 มีนาคม 2568 – เอไอเอ ประเทศไทย ผู้นำในธุรกิจประกันชีวิตและสุขภาพ จัดงาน “Recruitment Kickoff 2025 - ยกระดับ “นักสร้าง” สู่ความสำเร็จ” เดินหน้าสร้างตัวแทนคุณภาพให้มีอยู่ทั่วทุกภูมิภาคในประเทศ พร้อมกับยกระดับตัวแทนประกันชีวิตของไทยสู่การเป็นที่ปรึกษามืออาชีพในด้านประกันชีวิต การเงิน และสุขภาพ หรือ AIA Financial Advisor (AIA FA) รวมทั้งมุ่งผลักดันให้ประสบความสำเร็จในอาชีพ เพื่อส่งมอบการดูแลและประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมให้แก่คนไทย ตลอดจนสามารถช่วยคนไทยเตรียมความพร้อมหลังเกษียณ รองรับสังคมผู้สูงอายุที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในอนาคต ผ่านการวางแผนสุขภาพและการเงินอย่างมีประสิทธิภาพจากที่ปรึกษามืออาชีพของเอไอเอ ให้คนไทยได้มีความมั่นคงและต่อยอดความมั่งคั่งที่ยั่งยืน ตามคำมั่นสัญญา ‘Healthier, Longer, Better Lives – เพื่อสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น’นายนิคฮิล แอดวานี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอ ประเทศไทย กล่าวว่า “ปีนี้เป็นปีที่เอไอเอมุ่งผลักดันในด้านการสร้างตัวแทนคุณภาพและสนับสนุนให้ตัวแทนประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน ซึ่งช่องทางตัวแทนยังคงเป็นช่องทางขายหลักของเอไอเอ โดยปัจจุบันเรามีตัวแทนที่ดูแลลูกค้ากระจายอยู่ทั่วประเทศกว่า 55,000 ท่าน มากที่สุดในอุตสาหกรรม และในปีที่ผ่านมา มีตัวแทนที่เข้าร่วมโปรแกรม AIA Financial Advisor (AIA FA) เพิ่มมากขึ้นและสามารถพิชิต Career Achievement Bonus ได้มากถึง 88 ท่าน ถือเป็นการเติบโตแบบก้าวกระโดด และในปีนี้เรายังคงมุ่งส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่ก้าวเข้าสู่สายอาชีพ ที่ปรึกษามืออาชีพด้านประกันชีวิต การเงิน และสุขภาพ หรือ AIA Financial Advisor (AIA FA) โดยเรามีแผนที่จะช่วยพัฒนาศักยภาพให้กับ AIA FA ในทุก ๆ ด้าน ผ่านคอร์สฝึกอบรมที่ทันต่อยุคสมัย ซึ่งเราได้รับความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในการจัดทำหลักสูตรและฝึกอบรมให้แก่ผู้เข้าร่วมโครงการ AIA FA Prime โดยเฉพาะ นอกจากนี้ เรายังพร้อมสนับสนุนเครื่องมือในการทำงานให้กับที่ปรึกษาของเรา ให้ทุกท่านทำงานได้ง่าย สะดวก และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น มุ่งไปที่การส่งมอบประสบการณ์การดูแล การบริการ และคำแนะนำด้านการวางแผนสุขภาพชีวิตและสุขภาพการเงินที่เหมาะสม เพื่อช่วยให้คนไทยมีความมั่นคงและมั่งคั่งในระยะยาว”นางอลิสา สิมะโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายตัวแทนประกันชีวิต เอไอเอ ประเทศไทย กล่าวเสริมว่า “เพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุในประเทศไทยที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในอนาคต เอไอเอจึงมีเป้าหมายเพิ่มจำนวนตัวแทนเพื่อให้คนไทยเข้าถึงบริการด้านประกันชีวิตและสุขภาพมากขึ้น โดยเฉพาะที่ปรึกษาด้านประกันชีวิต การเงิน และสุขภาพ โดยมุ่งไปที่การสร้างที่ปรึกษาในโครงการ AIA FA Prime ที่จะสามารถช่วยลูกค้าวางแผนชีวิตหลังเกษียณให้มีความมั่นคงได้อย่างประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งจำนวนตัวแทนของเอไอเอที่มี IC License มากเป็นอันดับ 1 ของอุตสาหกรรมประกันชีวิตในไทย ทำให้เรามีโอกาสในการช่วยสนับสนุนและดูแลด้านการเงินให้กับลูกค้าได้มากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น เอไอเอยังมีความพร้อมในหลาย ๆ ด้านที่จะช่วยพัฒนาความสามารถของพลังตัวแทน และยกระดับศักยภาพให้เติบโตในอาชีพ ซึ่งอาชีพที่ปรึกษาด้านประกันชีวิต การเงิน และสุขภาพ ถือเป็นอาชีพที่มีคุณค่า และมีส่วนสำคัญในการส่งมอบความคุ้มครองชีวิตและสุขภาพ ตลอดจนมอบอิสรภาพทางการเงินจากการวางแผนที่ดี ซึ่งสอดคล้องกับพันธกิจของเอไอเอ ที่มุ่งสนับสนุนให้คนไทยมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น”สำหรับงาน Recruitment Kickoff 2025 ได้รับเกียรติจากวิทยากรรับเชิญพิเศษ นายปีเตอร์ ยู ผู้อำนวยการภาคอาวุโส เอไอเอ ฮ่องกง ที่มาร่วมบรรยายและแชร์ประสบการณ์ที่มีประโยชน์ นอกจากนี้ ยังได้เปิดตัว Face of FA Prime จำนวน 6 ท่าน เพื่อเป็น Brand Ambassador ในการสะท้อนภาพลักษณ์ที่ปรึกษามืออาชีพด้วยภาพลักษณ์ใหม่ ซึ่งมีลักษณะของความเป็นเจ้าของธุรกิจและคนรุ่นใหม่มากขึ้น เชิญชวนให้คนรุ่นใหม่สนใจก้าวสู่สายอาชีพ เพื่อร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับสังคมไทยไปด้วยกันกับ เอไอเอ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ห้องแสดงนิทรรศการ
09/05/2025
Sunlight Dancing in the Sea เป็นชุดภาพถ่ายที่เล่าเรื่องของทะเลและแสงรวมเข้าด้วยกัน จากผลงานภาพถ่ายส่วนตัวที่บอกเล่าเรื่องราวของแสงในมุมมองต่างๆ ที่พบเจอในชีวิตประจำวันและสถานการณ์ที่พบเจอด้วยความบังเอิญ ทำให้การบันทึกภาพถ่ายแต่ละครั้งมีมิติที่หลากหลายและน่าหลงใหลซ่อนตัวอยู่ในธรรมชาติหากมองอีกมุมหนึ่งของความเป็นทะเล ผู้คนส่วนใหญ่จะนึกถึงน้ำที่กว้างใหญ่และมีคำบัญญัติไว้ว่า ‘ห้วงน้ำเค็มที่เวิ้งว้างกว้างใหญ่ แต่เล็กกว่ามหาสมุทร’ แต่ถึงอย่างนั้น หากไร้แสงสะท้อนส่องลงไป ทะเลก็คงไร้ความหมายและคงไว้เพียงเสียงที่สัมผัสได้ แสงที่ส่องกระทบเข้ากับน้ำ แรงลมในอากาศ และคลื่นที่ซัดผสานรวมเข้าด้วยกันก็คงเหมือนการเต้นระบำของแสงแดดที่มีเวทีเป็นท้องทะเลและฉากหลังที่งดงามตามพื้นที่ทั้งหมดนั้นเป็นความงามที่เป็นไปเองโดยไม่มีการปรุงแต่ง ธรรมชาติและมนุษย์มักถูกเชื่อมโยงเข้าหาด้วยกันอย่างน่าประหลาด ใช้ร่างกายของเราสัมผัสเข้าไปในทุกอณูที่ธรรมชาติส่งผ่าน จากหนึ่งสิ่งผสานรวมเข้ากับอีกหนึ่งสิ่งก็จะเกิดเป็นสิ่งใหม่ขึ้นมาไหลเวียนไม่รู้จบผลงาน Sunlight Dancing in the Sea ไม่ได้เป็นผลงานที่ชวนให้ตั้งคำถาม แต่หากเป็นผลงานที่อยากชวนทุกคนไปหลงใหล ตกหลุมรัก เหมือนนวนิยายโรแมนติกเล่มหนึ่งที่เล่าเรื่องความรักระหว่างแสงแดดและท้องทะเลในช่วงเทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ 2568 (Bangkok Design Week 2025) ผลงานชุดนี้เป็นส่วนหนึ่งใน Photo Installation ‘1 วัน 1,000 ภาพ ครั้งที่ 3 : Beyond the Sea’ ที่จัดแสดงขึ้นที่ MMAD at MunMun Srinakarin ขอเชิญชวนศิลปิน บุคคลทั่วไป และผู้ที่หลงใหลในการถ่ายภาพ ร่วมชมความงามของภาพถ่าย ‘ทะเล’ จากผู้ได้รับการคัดเลือก 306 คน ผ่านการ OPEN CALL จนได้ผลงานภาพถ่ายทะเลจำนวน 1,000 ผลงาน ระหว่างวันที่ 8 กุมภาพันธ์ – วันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2568แหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับ urbancreaturehttps://urbancreature.co/sunlight-dancing-in-the-sea/
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ท่องเที่ยว
09/05/2025
เครื่องบินดีเลย์ เที่ยวบินล่าช้า ได้อะไรชดเชยบ้าง นักเดินทางต้องรู้เครื่องบินดีเลย์ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้เสมอจากหลายปัจจัย เช่น สภาพอากาศไม่ดี ปัญหาทางเทคนิคของเครื่องบิน หรือปัญหาความปลอดภัย หากพบว่าเครื่องดีเลย์ ควรสอบถามข้อมูลกับสายการบิน ขอเอกสารรับรอง และตรวจสอบสิทธิ์ในการชดเชยค่าใช้จ่ายเครื่องดีเลย์ คืออะไรเครื่องดีเลย์ (Flight Delay) หมายถึง เที่ยวบินออกเดินทางล่าช้ากว่ากำหนด ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อย ในการเดินทางทางอากาศ อาจเป็นการดีเลย์เพียงไม่กี่นาที หรือยาวนานเป็นชั่วโมง หรืออาจถึงขั้นยกเลิกเที่ยวบินเลยก็ได้เชื่อว่าหลายคนต้องเคยผ่านเหตุการณ์ที่เที่ยวบินเกิดความล่าช้า เครื่องบินดีเลย์ รู้หรือไม่ว่าผู้โดยสารทุกคน มีสิทธิ์ได้รับการชดเชยตามระยะเวลาที่ล่าช้า นักเดินทางต้องรู้ ซึ่งแบ่งออกเป็น ดังนี้เครื่องบินดีเลย์ สายการบินชดเชยอะไรบ้าง • ล่าช้าเกินกว่า 2-3 ชั่วโมง: ผู้โดยสารมีสิทธิ์ได้รับอาหารและเครื่องดื่มจากสายการบินโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย • ล่าช้าเกินกว่า 3-5 ชั่วโมง: นอกจากอาหารและเครื่องดื่มแล้ว ผู้โดยสารยังสามารถเลือกที่จะรับเงินคืนค่าโดยสารสำหรับส่วนของการเดินทางที่ยังไม่ได้ใช้ หรือให้สายการบินจัดหาเที่ยวบินหรือวิธีการขนส่งอื่น ๆ ให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย • ล่าช้าเกินกว่า 5-6 ชั่วโมง: ผู้โดยสารมีสิทธิ์ได้รับการชดเชยเพิ่มเติมเป็นเงินสดจำนวน 1,200 บาท และหากต้องค้างคืน สายการบินต้องจัดหาที่พักและการเดินทางไปยังที่พักให้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย • หากเที่ยวบินล่าช้าเกิน 6 ชั่วโมง จะได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกับเที่ยวบินที่ถูกยกเลิก ผู้โดยสารมีสิทธิ์ได้รับค่าชดเชย 1,200 บาท เช่นเดียวกับกรณีล่าช้า 5-6 ชั่วโมงสาเหตุที่ทำให้เครื่องบินดีเลย์เครื่องบินดีเลย์ อาจเกิดจากหลายปัจจัย ซึ่งบางสาเหตุอยู่เหนือการควบคุมของสายการบิน1. ปัญหาสภาพอากาศ สภาพอากาศแปรปรวน เช่น พายุฝนฟ้าคะนอง พายุหิมะ หมอกลงจัด หรือกระแสลมแรง อาจทำให้เที่ยวบินต้องรอจนกว่าสภาพอากาศจะกลับมาอยู่ในระดับที่ปลอดภัย2. ปัญหาทางเทคนิคของเครื่องบิน หากพบว่ามีปัญหากับระบบเครื่องยนต์ ระบบไฟฟ้า หรือระบบอื่นๆ ที่ส่งผลต่อความปลอดภัยของเที่ยวบิน เครื่องบินอาจต้องได้รับการตรวจสอบหรือซ่อมแซมก่อนออกเดินทาง3. ไฟลท์ขาเข้าล่าช้า หากเครื่องบินขาเข้ามาถึงสนามบินช้ากว่ากำหนด อาจทำให้เที่ยวบินขาออกต้องล่าช้าไปด้วย เนื่องจากต้องรอการเตรียมพร้อมของเครื่องบิน4. ปัญหาความปลอดภัย หากพบสิ่งผิดปกติ เช่น วัตถุต้องสงสัยหรือภัยคุกคามใดๆ ทางสายการบินอาจต้องชะลอเที่ยวบินเพื่อตรวจสอบสถานการณ์เมื่อเจอเครื่องดีเลย์ ควรทำอย่างไร?หากพบว่าเครื่องบินล่าช้า ไม่ต้องตกใจ ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้1. สอบถามข้อมูลจากเจ้าหน้าที่สายการบิน – ตรวจสอบสาเหตุและระยะเวลาที่ต้องรอ2. ขอเอกสารรับรองการดีเลย์ – เพื่อนำไปใช้เป็นหลักฐานในการขอคืนเงินหรือเคลมประกัน3. เก็บหลักฐานสำคัญ – เช่น ตั๋วโดยสาร ใบเสร็จค่าอาหาร หรือที่พักที่จองล่วงหน้า4. ตรวจสอบสิทธิ์ในการชดเชย – หากเที่ยวบินดีเลย์เกิน 2 ชั่วโมง อาจมีสิทธิ์ได้รับอาหาร เครื่องดื่ม หรือค่าชดเชยจากสายการบิน5. ติดต่อสายการบินเพื่อขอเปลี่ยนเที่ยวบิน – หากเที่ยวบินล่าช้ามากจนกระทบแผนการเดินทางอย่างไรก็ตาม หากความล่าช้า เกิดจากเหตุสุดวิสัยที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของสายการบิน เช่น สภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย สถานการณ์ทางการเมือง หรือปัญหาด้านความปลอดภัย สายการบินอาจไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าชดเชยเป็นเงินสด แต่ยังคงต้องดูแลผู้โดยสารด้วยอาหาร เครื่องดื่ม และการจัดหาที่พักหากจำเป็นสำหรับเครื่องบินดีเลย์ เที่ยวบินระหว่างประเทศ สิทธิ์ในการชดเชยอาจแตกต่างกันไป ควรตรวจสอบกับสายการบินหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบันขอขอบคุณข้อมูล :สายการบินล่าช้าต้องชดเชยอย่างไรแหล่งที่มาข่าวและภาพ sanookhttps://www.sanook.com/travel/1451803/
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ประกันภัย
09/05/2025
คปภ.จัดประชุมคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคและการมีส่วนร่วมด้านการประกันภัย ครั้งที่ 1/2568 ชี้แจงทำความเข้าใจหลักเกณฑ์ Copayment ที่ประชุม “เห็นชอบ” ให้บริษัทประกันภัยเพิ่มเงื่อนไขการมีส่วนร่วมจ่ายได้ ควบคุมพฤติกรรมการเรียกร้องค่ารักษาพยาบาลที่ไม่ถูกต้องเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคและการมีส่วนร่วมด้านการประกันภัย ประจำปี 2568 เพื่อพิจารณาหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการมีส่วนร่วมจ่าย (Copayment) ในเงื่อนไขการต่ออายุสัญญาประกันภัย กรณีครบรอบปีกรมธรรม์ประกันภัยของสัญญาประกันภัยสุขภาพโดยมีผู้แทนจากหน่วยงาน ประกอบด้วย สภาธุรกิจประกันภัยไทย สมาคมประกันชีวิตไทย สมาคมนายหน้าประกันภัยไทย สมาคมตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงิน สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมสำหรับการประชุมครั้งนี้ ได้ร่วมกันพิจารณาเรื่องการกำหนดหลักเกณฑ์ให้มีค่าใช้จ่ายร่วม (Copayment) ในเงื่อนไขการต่ออายุกรณีครบรอบปีกรมธรรม์ประกันภัย ซึ่งการร่วมจ่ายจะมีผลบังคับใช้เฉพาะในปีถัดไป หากผู้เอาประกันภัยเข้าหลักเกณฑ์ ดังนี้กรณีที่ 1 การเคลมเป็นผู้ป่วยใน ด้วยกลุ่มโรคป่วยเล็กน้อยทั่วไป (Simple Disease) และไม่มีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ให้ต้องรักษาตัวแบบผู้ป่วยใน และมีการเคลมมากกว่าหรือเท่ากับ 3 ครั้ง และมีอัตราการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนรวมตั้งแต่ 200%กรณีที่ 2 การเคลมเป็นผู้ป่วยใน ที่ไม่รวมโรคร้ายแรงและการผ่าตัดใหญ่ ที่มีการเคลมมากกว่าหรือเท่ากับ 3 ครั้ง และมีอัตราการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนรวมกันตั้งแต่ 400% โดยในแต่ละกรณีให้กำหนดสัดส่วน Copayment ได้สูงสุดไม่เกิน 30%และหากเข้าทั้งกรณีที่ 1 และกรณีที่ 2 กำหนดสัดส่วน Copayment ได้สูงสุดไม่เกิน 50% ของค่ารักษาที่ได้รับความคุ้มครองในปีถัดไป ซึ่งการกำหนดสัดส่วนดังกล่าวเป็นการกำหนดเป็นขั้นสูงสุด การจะกำหนดสัดส่วนเป็นเท่าใดในแต่ละกรณีจะขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแต่ละบริษัท โดยสำนักงาน คปภ.จะทำหน้าที่กำกับการคิดเบี้ยประกันภัยสุขภาพ และดูแลเงื่อนไขการร่วมจ่ายให้มีความเป็นธรรมโดยที่ประชุมเห็นชอบให้บริษัทประกันภัยสามารถเพิ่มเงื่อนไขการมีส่วนร่วมจ่ายได้ใน 3 กรณี เพื่อควบคุมพฤติกรรมการเรียกร้องค่ารักษาพยาบาลที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งจะช่วยป้องกันและลดการใช้สิทธิในการเรียกร้องค่ารักษาพยาบาลโดยมิชอบนอกจากนี้ ได้หยิบยกประเด็นเรื่องการสื่อสารประชาสัมพันธ์และให้ความรู้เกี่ยวกับ Copayment เป็นเรื่องที่สำคัญและจำเป็นต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ที่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องต้องบูรณาการร่วมกัน โดยใช้ช่องทาง Social Media ต่าง ๆ ในการสื่อสารประชาสัมพันธ์ เพื่อให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ Copayment อย่างถูกต้องและทั่วถึง ควบคู่กับการปรับรูปแบบการสื่อสารโดยใช้ภาษาที่เข้าใจง่ายนอกจากนี้จะต้องสื่อสารไปยังตัวแทนและนายหน้าประกันชีวิตให้มีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง และไม่นำเสนอข้อมูลที่ไม่ถูกต้องแก่ประชาชน หากตรวจพบว่าอาจถูกเพิกถอนใบอนุญาตตัวแทนและนายหน้าประกันชีวิตได้ทั้งนี้ สำนักงาน คปภ.จะนำข้อเสนอแนะที่ได้รับจากที่ประชุมมาปรับใช้ในการดำเนินงาน เพื่อให้การควบคุมการเรียกร้องค่ารักษาพยาบาลและการมีส่วนร่วมจ่าย (Copayment) มีประสิทธิภาพสูงสุดและเป็นประโยชน์ต่อประชาชนในระยะยาวต่อไปแหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับประชาชาติธุรกิจออนไลน์https://www.prachachat.net/finance/news-1774649
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ประกันภัย
09/05/2025
สำนักงาน คปภ. และสมาคมประกันวินาศภัยไทย เดินหน้าป้องปรามการฉ้อฉลประกันภัย หลังพบการจัดฉากเคลมค่าสินไหมทดแทนรวมกว่า 14 ล้านบาทเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2568 นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เป็นประธานงานแถลงข่าว ซึ่งจัดโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) ร่วมกับสมาคมประกันวินาศภัยไทย โดยนายสมพร สืบถวิลกุล นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย กรณีพบว่ามีกลุ่มบุคคลวางแผนจัดทำประกันภัยรถยนต์หลายฉบับ และสร้างสถานการณ์อุบัติเหตุทางรถยนต์ เพื่อนำไปสู่การเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน รวมมูลค่ากว่า 14 ล้านบาท ตามที่ปรากฏเป็นข่าวตามสื่อต่าง ๆ นั้นจากการตรวจสอบพบว่า รถกระบะ 3 คันที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว มีกรมธรรม์ประกันภัยซ้ำซ้อนรวม 34 ฉบับ จากบริษัทประกันภัย 15 แห่ง โดยกรมธรรม์ส่วนใหญ่จัดทำขึ้นภายใน 10 วัน ก่อนเกิดเหตุ และบางฉบับทำขึ้นในวันเกิดเหตุ นอกจากนี้ ไม่มีการแจ้งเหตุไปยังบริษัทประกันภัยทั้ง 15 แห่งในวันเกิดเหตุ และไม่พบรายงานการเข้าตรวจสอบจากหน่วยกู้ชีพ ขณะที่ลักษณะบาดแผลของผู้เสียชีวิตไม่สอดคล้องกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น อีกทั้งญาติของผู้เสียชีวิตไม่ได้ติดใจสาเหตุการเสียชีวิตและปฏิเสธการ ชันสูตรพลิกศพ ความร้ายแรงที่เกิดขึ้นจึงอาจเข้าข่ายเป็นการฉ้อฉลประกันภัย เพราะถือเป็นกรณีที่ไม่เคยได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับพฤติการณ์ในการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนโดยมีเจตนาทุจริตจากการทำประกันภัยคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ (พ.ร.บ.) และกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจหลายฉบับซ้ำซ้อนกันดังเช่นกรณีนี้มาก่อน โดยเมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2568 สำนักงาน คปภ. ได้หารือร่วมกับบริษัทประกันภัย ที่เกี่ยวข้อง และมีมติให้แจ้งความร้องทุกข์ต่อสถานีตำรวจภูธรเมืองสกลนคร ในข้อหาฉ้อฉลประกันภัย ซึ่งเป็นความผิดที่มีโทษทางอาญาเลขาธิการ คปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า สำนักงาน คปภ. ได้ให้ความสำคัญในการพัฒนาระบบการป้องกันการฉ้อฉลประกันภัย โดยได้พัฒนาและจัดทำระบบฐานข้อมูลรายงานการฉ้อฉลด้านการประกันภัยด้วยระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อช่วยตรวจจับพฤติกรรมที่น่าสงสัย อาทิ การทำประกันภัยซ้ำซ้อนในระยะเวลาสั้น ๆ หรือการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากบริษัทประกันภัยด้วยรถยนต์ทะเบียนเดียวกันสูงผิดปกติ ภายในระยะเวลา 90 วัน หรือตรวจพบการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนบ่อยครั้งในช่วงระยะเวลา 90 วัน เป็นต้น ซึ่งเมื่อระบบดังกล่าวตรวจพบความผิดปกติ จะมีการแจ้งเตือนให้ทราบทันที และจะมีการเรียกบริษัทประกันภัยที่เกี่ยวข้องเข้ามาหารือก่อนดำเนินการในลักษณะเช่นเดียวกับกรณีนี้ โดยระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) สามารถปรับเงื่อนไขการตรวจจับการฉ้อฉลประกันภัยได้ตลอดเวลา เพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงสุด นอกจากนี้ ได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับกองบัญชาการ ตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพในการติดตามและดำเนินคดีกับกลุ่มผู้กระทำความผิด โดยสำนักงาน คปภ. จะส่งสำนวนให้กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้ การกำกับของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางเป็นผู้ดำเนินคดี หรือแจ้งความร้องทุกข์ต่อสถานีตำรวจที่มีเขตอำนาจ โดยดำเนินคดี ฉ้อฉลประกันภัยไปแล้วกว่า 46 คดี รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 50 ล้านบาท และเตรียมดำเนินการเพิ่มเติมอีก 21 คดี“สำนักงาน คปภ. มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาอุตสาหกรรมประกันภัยไทยให้เติบโตอย่างมั่นคง ควบคู่กับการป้องกันการฉ้อฉลประกันภัย โดยจะมีการพัฒนาระบบฐานข้อมูลรายงานการฉ้อฉลด้านการประกันภัย ด้วยระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อใช้ตรวจจับกรณีที่มีความผิดปกติให้มีประสิทธิภาพ แม่นยำ และรวดเร็วได้แบบ Real Time แต่ไม่เป็นอุปสรรคต่อการคุ้มครองประชาชนที่มีการเรียกสินไหมโดยสุจริต เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้ระบบประกันภัยเป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้ายแหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับสยามรัฐออนไลน์https://siamrath.co.th/n/607837
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ห้องแสดงนิทรรศการ
09/05/2025
เตรียมเช็กอิน! กทม.ผนึกพันธมิตร จัดแสดง “KAWS:HOLIDAY THAILAND” อาร์ตทัวร์ขนาดใหญ่ผลงานของ ไบรอัน ดอนเนลลีย์ พ.ค.นี้สิ้นสุดการรอคอย!ใครที่เป็นแฟนคลับของ KAWS ล่าสุดกรุงเทพมหานคร ร่วมกับ เซ็นทรัล เอ็มบาสซี การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ออลไรท์รีเซิร์ฟ และพันธมิตร ร่วมนำเสนอบทใหม่ของการเดินทาง เชิญชวนผู้ชมให้หยุดพัก ไตร่ตรอง และสัมผัสศิลปะในมุมมองใหม่ ของการจัดแสดงในประเทศไทยเป็นครั้งแรก “KAWS:HOLIDAY THAILAND” อาร์ตทัวร์ประติมากรรม COMPANION ขนาดมหึมา ของ ไบรอัน ดอนเนลลีย์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ “KAWS” ที่เดินทางจัดแสดงมาแล้วทั่วโลก นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2018คนกรุงเตรียมปักหมุดเช็กอิน “KAWS:HOLIDAY THAILAND”สำหรับ 'KAWS:HOLIDAY' ได้เดินทางข้ามทวีปและฝากร่องรอยไว้ตามสถานที่สำคัญทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น โซล ไทเป ฮ่องกง โตเกียว บริสตอล สิงคโปร์ เมลเบิร์น ยอกยาการ์ตา ทิวทัศน์อันงดงามของภูเขา ฉางไป่ซาน หรือแม้แต่ห้วงอวกาศ ล่าสุดจากเซี่ยงไฮ้ สู่เลอ บราซูส์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และครั้งนี้เดินทางมาถึงประเทศไทย เพื่อสำรวจความเชื่อมโยงระหว่างศิลปะ สภาพแวดล้อม และมรดกทางวัฒนธรรมอย่างต่อเนื่องคนกรุงเตรียมปักหมุดเช็กอิน “KAWS:HOLIDAY THAILAND”เตรียมพบกับประติมากรรม COMPANION ขนาดมหึมาในเดือนพฤษภาคมนี้ และร่วมเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ทางศิลปะระดับโลก ในงาน “KAWS:HOLIDAY THAILAND” ที่จะเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมฟรี ระหว่างวันที่ 13 – 25 พ.ค.68 ทั้งนี้จะมีการเปิดเผยสถานที่จัดแสดงประติมากรรมในเร็ว ๆ นี้นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานครมีความตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง ที่ KAWS:HOLIDAY THAILAND จะมาจัดแสดงที่กรุงเทพฯ ขอบคุณพันธมิตร เซ็นทรัล เอ็มบาสซี และ KAWS ศิลปินชื่อดังระดับโลก ที่ร่วมกันจัดงานนี้ขึ้น เพราะเชื่อว่าเมืองที่ดีไม่ใช่เมืองที่มีแต่ตึกรามบ้านช่อง แต่เป็นเมืองที่มีพื้นที่สาธารณะให้ประชาชนมาใช้ประโยชน์ได้ มีงานศิลปะที่ประชาชนมาชื่นชมได้ หัวใจคือการพัฒนาเรื่อง Art scene ในกรุงเทพฯ ให้ดีขึ้นนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร"หลายคนบอกว่าช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา พื้นที่ศิลปะในกรุงเทพฯ ดีขึ้น ซึ่งประโยชนที่ได้มีหลายมิติ สำคัญที่สุดคือเรื่องเศรษฐกิจ เพราะจะมีแฟนคลับของศิลปินเดินทางมาจากทั้งในและนอกประเทศมาชมผลงานที่จัดแสดงในกรุงเทพฯ ทำให้เม็ดเงินหลั่งไหลไปสู่ธุรกิจต่าง ๆ รวมถึงพ่อค้าแม่ค้า ถึงระดับรากหญ้า นอกจากนี้ชาวกรุงเทพฯ ยังได้ชมผลงานศิลปะระดับโลก ที่ กทม. เองก็สนับสนุนศิลปินทั้งไทยและต่างประเทศมาตลอด เพราะหัวใจของศิลปะคือความคิดสร้างสรรค์ที่ไร้ขอบเขต การที่ผู้คนได้เห็นผลงานดี ๆ จะทำให้เกิดความคิดใหม่ ๆ ที่จะผลักดันให้เมืองสร้างสรรค์และพัฒนาไปข้างหน้า"คนกรุงเตรียมปักหมุดเช็กอิน “KAWS:HOLIDAY THAILAND”แหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับฐานเศรษฐกิจhttps://www.thansettakij.com/lifes.../travel-shopping/622266
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ท่องเที่ยว
09/05/2025
ถ้าพูดถึงสถานที่ที่ดูเหมือนมาจากต่างดาว "เกาะโซโคตรา" (Socotra Island) แห่งประเทศเยเมน หลายคนต่างจะบอกว่าเกาะ Socotra เต็มไปด้วยต้นไม้ประหลาด เหมือนอยู่นอกโลก แท้จริงแล้วเกาะแห่งนี้ขึ้นชื่อว่าเป็น หนึ่งในสถานที่ที่มีเอกลักษณ์ทางธรรมชาติที่สุดในโลก เต็มไปด้วยพันธุ์ไม้และสัตว์ที่หาได้เฉพาะที่นี่เท่านั้น โดยเฉพาะ "ต้นเลือดมังกร" (Dragon’s Blood Tree) ที่ดูเหมือนร่มกลับหัว พร้อมน้ำยางสีแดงเข้มราวกับเลือด มาทำความรู้จักเกาะ Socatra กันเพิ่ม ต้นไม้ประหลาดนี้คือต้นอะไร ที่นี่มีคนอาศัยอยู่ไหมมีคนอาศัยอยู่ไหมเกาะโซโคตรามีประชากรประมาณ 60,000 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวพื้นเมืองที่ใช้ภาษาถิ่นของตัวเองชื่อว่า ภาษาโซโคตรี (Soqotri) ซึ่งเป็นภาษาหายากที่สืบทอดมาหลายพันปี คนที่นี่ใช้ชีวิตเรียบง่าย เน้นการทำประมง ปศุสัตว์ และเกษตรกรรมความโดดเด่นของเกาะเนื่องจากเกาะโซโคตราแยกตัวจากแผ่นดินใหญ่มานานกว่า 20 ล้านปี พืชและสัตว์ที่นี่จึงวิวัฒนาการเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว จนทำให้ที่นี่ถูกขนานนามว่า "กาลาปากอสแห่งมหาสมุทรอินเดีย"ต้นไม้ประหลาดบนเกาะแห่งนี้ต้นไม้ที่พบได้เฉพาะที่นี่ไม่เพียงแต่ต้นเลือดมังกรเท่านั้น แต่ยังมี ต้นแตงกวายักษ์ทะเลทราย (Desert Rose) ที่ลำต้นอวบอ้วนเหมือนขวด และออกดอกสีชมพูสวยงาม ทำให้ทิวทัศน์ของเกาะโซโคตราดูเหมือนโลกแฟนตาซีที่ไม่มีอยู่จริง นอกจากนี้ ยังมีสัตว์เฉพาะถิ่น เช่น นกหายากและกิ้งก่าพันธุ์พิเศษ ที่ปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมอันโดดเดี่ยวของเกาะชายหาดสุดอันซีนไม่เพียงแต่ป่าไม้แปลกตา แต่เกาะโซโคตรายังมี ชายหาดที่สวยงามและเงียบสงบ เหมาะสำหรับการสำรวจแนวปะการังหรือชมฝูงโลมา อีกทั้งยังมี ถ้ำหินปูนและภูเขาหินขรุขระ ที่ทำให้บรรยากาศของที่นี่ดูเหมือนเป็นอีกโลกหนึ่งอย่างแท้จริงเกาะแห่งมรดกโลกเกาะโซโคตราได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลกโดยยูเนสโก (UNESCO World Heritage Site) เนื่องจากความหลากหลายทางชีวภาพที่ไม่เหมือนที่ไหนในโลก แต่ด้วยความที่การเดินทางมายังเกาะนี้ค่อนข้างยาก ทำให้ยังคงความเป็นธรรมชาติที่บริสุทธิ์ และเป็นจุดหมายปลายทางในฝันของนักเดินทางสายผจญภัยที่ต้องการสำรวจสถานที่แปลกใหม่เกาะโซโคตราอาจจะไม่ได้เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยม แต่สำหรับคนที่อยากสัมผัสธรรมชาติที่ไม่เหมือนใคร และชื่นชอบการเดินทางแบบอันซีน นี่คือสถานที่ที่คุณต้องไปให้ได้สักครั้ง!แหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับ sanookhttps://www.sanook.com/travel/1452003/
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ห้องแสดงนิทรรศการ
08/05/2025
สมาคมผู้ปกครองคนพิการทางสติปัญญาแห่งประเทศไทย เชิญชวนผู้สนใจชมนิทรรศการ Extra Chromosome เนื่องในวันดาวน์ซินโดรมโลก 21 มีนาคม ซึ่งนอกจากจะนำเสนอผลงานศิลปะที่สวยงามจากฝีมือของศิลปินที่มีภาวะดาวน์ซินโดรมแล้ว นิทรรศการนี้ยังเป็นจุดเริ่มต้นในการเปลี่ยนแปลงมุมมองของสังคมที่มีต่อผู้มีภาวะดาวน์ซินโดรม และทำให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์ที่ไม่แตกต่างจากศิลปินทั่วไป พร้อมส่งต่อแนวคิดสำคัญว่า “ความสามารถไม่ได้ถูกกำหนดด้วยจำนวนโครโมโซม”Extra Chromosome จัดขึ้นภายใต้แนวคิด Just like you แค่โครโมโซมหนึ่งที่เกินมา นอกนั้นไม่แตกต่าง เปิดให้เข้าชมฟรี ตั้งแต่วันที่ 21-23 มีนาคม 2568 ที่ชั้น 5 เซ็นทรัลเวิลด์ บริเวณ Craft Studio Zoneโดยในวันเปิดงาน 21 มีนาคม 2568 นอกจากจะมีขบวนพาเหรดของน้อง ๆ ที่มีภาวะดาวน์ซินโดรม ออกไปประชาสัมพันธ์การจัดงานแล้ว ในเวลา 15.00 น.ยังมีกิจกรรมพิเศษให้ผู้ร่วมงานได้มารับรู้เรื่องราว แลกเปลี่ยนมุมมอง และสัมผัสศักยภาพที่เต็มไปด้วยพลังบวกของพวกเขา โดยมี คุณสุชาติ โอวาทวรรณสกุล นายกสมาคมผู้ปกครองคนพิการทางสติปัญญาแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยคู่รักนักแสดงชื่อดัง โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ และ ณิชา ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์ มาร่วมพูดคุย แบ่งปันมุมมอง และรณรงค์ผลักดันให้เกิดความเท่าเทียมในสังคม นอกจากนี้ ยังมีเวิร์กชอปให้ผู้สนใจได้มาร่วมวาดภาพพร้อมกับศิลปินเจ้าของผลงานที่นำมาจัดแสดงด้วยนิทรรศการ Extra Chromosome ได้รวบรวมผลงานภาพวาดสีอะคริลิกบนผืนผ้าใบรวม 40 ชิ้น มีทั้งภาพ Portrait ภาพ Abstract รวมไปถึงภาพสิ่งของที่ถ่ายทอดผ่านมุมมองพิเศษของศิลปินเอ็กซ์ตร้าโครโมโซม ซึ่งน้อง ๆ กลุ่มนี้มีมุมมองที่แตกต่าง มีความคิดสร้างสรรค์ และมีความสามารถพิเศษที่น่าทึ่ง ผลงานที่ถ่ายทอดออกมานับเป็นเพียวอาร์ต มีความบริสุทธิ์ เป็นอิสระ ไม่ติดกรอบ ไม่ผ่านกระบวนการเลียนแบบใด ๆ ซึ่งศิลปินเจ้าของผลงานทุกคนต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าดีใจที่จะไปแสดงงาน และอยากให้มีคนเข้ามาชมงานของพวกเขามาก ๆแหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับ sanookhttps://www.sanook.com/travel/1451947/
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ท่องเที่ยว
08/05/2025
ดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ ที่ ม.เกษตรฯ กำแพงแสน บานชมพูสะพรั่งอีกครั้งเป็นรอบที่ 3 คาดบานเป็นชุดสุดท้ายของปีนี้ (2568) และน่าจะทยอยร่วงโรยตั้งแต่ราววันที่ 18 มี.ค.68 เป็นต้นไปมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ชวนเที่ยวชมความสวยงามของ “ดอกชมพูพันธุ์ทิพย์” ที่กำลังออกดอกบานสวยงามชมพูสะพรั่งอีกครั้ง ถือเป็นการบานในรอบที่ 3 ของปี และคาดว่าน่าจะบานเป็นชุดสุดท้ายของปีนี้ (2568) โดยช่วงเวลาที่ดอกชมพูพันธุ์ทิพย์บานเต็มที่ในรอบที่ 3 อยู่ในช่วงวันที่ 16-18 มีนาคม 2568 หลังจากนั้นก็จะค่อย ๆ ทยอยร่วงโรยไปดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ ม.เกษตร กำแพงแสน บานสะพรั่งรอบ 3 ของปี 2568 (ภาพ : เพจ กองบริการกลาง สำนักงานวิทยาเขตกำแพงแสน)สำหรับจุดที่ดอกชมพูพันธ์ทิพย์ ม.เกษตรฯ กำแพงแสน บานรอบที่ 3 เยอะเป็นพิเศษ คือบริเวณ ถนนหน้าโรงเรียนสาธิต ม.เกษตรศาสตร์ (วิทยาเขตกำแพงแสน) โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมในการมาถ่ายรูปดอกชมพูพันธ์ทิพย์คือ ช่วงเช้า เวลาประมาณ 07.30-ถึงไม่เกิน 10.30 น. และช่วงเย็น เวลาประมาณ 16.30-ไม่เกิน18.30 น. ซึ่งจะได้ภาพที่มีแสงสวย และไม่ร้อนจนเกินไปนอกจากนี้ ม.เกษตรฯ กำแพงแสน ยังขอความกรุณานักท่องเที่ยวที่จะไปชมดอกชมพูพันธุ์ทิพย์บานรอบที่ 3 ของปี ให้จอดรถในที่ที่กำหนดไว้ให้, ไม่โน้มดึงหักกิ่งเพราะกิ่งเปราะบางและหักง่าย และทิ้งขยะในจุดที่กำหนดไว้ดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ ม.เกษตร กำแพงแสน บานสะพรั่งรอบ 3 ของปี 2568 (ภาพ : เพจ กองบริการกลาง สำนักงานวิทยาเขตกำแพงแสน)“ชมพูพันธุ์ทิพย์” เป็นไม้ขนาดใหญ่มีดอกสีชมพูอ่อน ชมพูสด และขาว มีชื่อเรียกอื่น ๆ อีก อย่างเช่น ชมพูอินเดีย ธรรมบูชา ตาเบบูยาในเมืองไทยชมพูพันธุ์ทิพย์จะออกดอกในช่วงกลางเดือนมกราคมไปจนถึงเดือนมีนาคม ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ โดยใช้ระยะเวลาบานประมาณ 2 สัปดาห์ ก่อนที่ดอกจะร่วงโรยไป ความงดงามของพรรณไม้ชนิดนี้อยู่ตรงที่เมื่อผลัดใบทั้งหมด จะเหลือแต่กิ่งก้าน ให้ดอกสีชมพูได้ชูช่อเป็นจำนวนมากอยู่บริเวณปลายกิ่งดูอ่อนหวานงดงามยิ่งนักดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ ม.เกษตร กำแพงแสน บานสะพรั่งรอบ 3 ของปี 2568 (ภาพ : เพจ กองบริการกลาง สำนักงานวิทยาเขตกำแพงแสน)สำหรับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม เป็นแหล่งชมดอกชมพูพันธุ์ทิพย์บานแหล่งใหญ่ ซึ่งต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ หรือ ตาเบบูยานี้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ได้ปลูกขึ้นมากว่า 30 ปี และมีจำนวนมากกว่า 200 ต้น โดยปลูกอยู่ทั้งสองข้างทางเป็นฝั่งแนวยาว บริเวณริมถนนวัฒนา เสถียรสวัสดิ์(ถนนหลังมอ) เมื่อถึงเวลาช่วงเดือนกุมภาพันธ์ - มีนาคมของทุกปี ต้นชมพูพันธุ์ทิพย์จะผลัดใบและออกดอกสีชมพูเป็นทางยาวดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ ม.เกษตร กำแพงแสน บานสะพรั่งรอบ 3 ของปี 2568 (ภาพ : เพจ กองบริการกลาง สำนักงานวิทยาเขตกำแพงแสน)และนอกจากที่ริมถนนวัฒนา เสถียรสวัสดิ์ แล้ว บริเวณถนนหน้าโรงเรียนสาธิต ม.เกษตรศาสตร์ (วิทยาเขตกำแพงแสน) บริเวณรอบๆ สระน้ำพระพิรุณถือเป็นอีกหนึ่งจุดชมดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ใน ม.เกษตรฯ กำแพงแสน ซึ่งก็มีความงดงามไม่แพ้กัน ผู้ที่สัญจรไปมาและนักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาถ่ายรูปได้ กลายเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวของนครปฐมแหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับผู้จัดการออนไลน์https://mgronline.com/travel/detail/9680000025533
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
29/04/2024
30/04/2024
30/04/2024
26/11/2024
14/01/2025