คลังความรู้

Everyday knowledge for you

ห้องแสดงนิทรรศการ

เปิดโลกแห่งจินตนาการ สัมผัสสีสันแห่งศิลปะจากศิลปินจิ๋ว ในนิทรรศการ “Colors World” โดย “น้องกรณ์ ธนณ์กรร์” ศิลปินวัย 3 ขวบ ชวนประมูลผลงานชิ้นเอก สมทบทุนฟื้นฟูโรงเรียนที่ประสบอุทกภัยในจังหวัดสงขลา

13/12/2025

กรุงเทพฯ — ไอคอนสยาม และ Ghone Atelier ขอเชิญชมนิทรรศการศิลปะเดี่ยว “Colors World” โดย น้องกรณ์ ธนณ์กรร์ วัฒนศิริธรรม ศิลปินน้อยชาวไทยอายุเพียง 3 ขวบ ผู้มีความโดดเด่นด้านการเลือกสี และถ่ายทอดความรู้สึก จินตนาการผ่านการเคลื่อนไหวของสีและพื้นผิวอย่างเป็นอิสระ ณ Arts Way ชั้น M ไอคอนสยาม และขอเชิญร่วมประมูลผลงานศิลปะของน้องกรณ์เพื่อนำเงินรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายนำไปบริจาคให้กับโรงเรียนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในจ.สงขลาการจัดแสดงผลงานในครั้งนี้ได้นำผลงานชิ้นพิเศษไม่เคยจัดแสดงที่ไหนมาก่อนมาให้ได้ชมกัน อาทิ Dreaming of London Bridge (ฝันถึงสะพานลอนดอน) ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นแนวคล้ายกับศิลปินดังอย่าง Claude Monet โดยมีแรงบันดาลใจจากความฝันที่อยากไปลอนดอน ทำให้เขาตีความ London Bridge ในแบบใหม่ให้เป็นสถานที่มหัศจรรย์, Shinkansen in the Rain Tunnel (ชินคันเซ็นในอุโมงค์สายฝน) เป็นผลงานแรกของกรณ์ที่เริ่มต้นจากผืนผ้าใบสีดำ ประหนึ่งเหมือนอยู่ในอุโมงค์เพื่อสร้างบรรยากาศให้กับองค์ประกอบทั้งหมด กรณ์เลือกใช้สีโทนพาสเทลอย่างอ่อนโยน เช่น สีพีช สีน้ำเงินอมม่วง สีเหลือง และสีขาว แล้วปาดเป็นลายเส้นซิกแซกซ้ำไปซ้ำมา เพื่อสื่อถึงความเร็วและการเคลื่อนที่ของรถไฟชิงกันเซ็นที่พุ่งผ่านอุโมงค์มืด, Butterflies Swim (ผีเสื้อว่ายน้ำ) กรณ์ได้เลือกใช้อุปกรณ์เพียงแค่รถของเล่น และมือเปล่า แปรเปลี่ยนการเล่นให้กลายเป็นการเคลื่อนไหวบนผืนผ้าใบ เขาใช้รถของเล่นเป็นอุปกรณ์สร้างสรรค์ ลาก แกว่ง และกลิ้งไปตามพื้นผิว ให้ล้อรถพาสีเขียวเข้ม เขียวอ่อน ชมพูอ่อน และฟ้าเทอร์คอยส์ซ้อนทับกันเป็นเส้นทางโค้งอิสระ ร่องรอยเหล่านั้นลื่นไหลทับซ้อนกัน เกิดจังหวะการเคลื่อนไหวที่เบาบางราวกับปีกผีเสื้อที่ลอยอยู่ในอากาศ หรือว่ายอย่างนุ่มนวลอยู่ใต้น้ำ, Christmas Candle (เทียนคริสมาสต์) คือผลงานที่ถ่ายทอดความอบอุ่น การเคลื่อนไหว และอารมณ์แห่งเทศกาล ผ่านภาษาทางศิลปะเชิงนามธรรมของกรณ์ เขาเริ่มต้นด้วยการใช้ไม้กวาดลากสีบนผืนผ้าใบ สร้างจังหวะและพื้นผิวอันทรงพลังเป็นชั้นแรก ก่อนใช้สองมือของเขาวนเป็นวงกลมบนผืนผ้าใบ ทิ้งร่องรอยของการเคลื่อนไหวและเชื่อมโยงผู้ชมเข้ากับกระบวนการสร้างสรรค์อย่างเป็นธรรมชาติ เป็นต้นนอกจากการได้ชื่นชมผลงานศิลปะของน้องกรณ์ ศิลปินวัยจิ๋วแล้ว น้องกรณ์ยังได้เชิญชวนผู้สนใจศิลปะ ร่วมประมูลผลงานจำนวน 5 ผลงาน ได้แก่ Dirty Cars, Golden Sun on Flower Mountain, Pastel Earth, Colourful Tree และ Space Splash โดยรายได้จากการประมูล 50% หลังหักค่าใช้จ่ายจะนำไปบริจาคเพื่อฟื้นฟูหลังประสบอุทกภัยให้กับโรงเรียนวัดโรง (ขาวประชาสรรค์) ต.โรง อ.กระแสสินธุ์ จ.สงขลา และโรงเรียนอื่นๆต่อไป โดยเปิดให้ร่วมประมูลผลงานได้ตั้งแต่วันนี้ ถึง 20 ธันวาคม 2568 ผู้สนใจติดตามรายละเอียดและเงื่อนไขการประมูลได้ที่ Facebook “Ghone Atelier”น้องกรณ์ ดช.ธนณ์กรร์ วัฒนศิริธรรม เป็นศิลปินวัยเด็กที่กำลังได้รับความสนใจจาก curators, อาร์ตแกลลอรี่ จากต่างประเทศ รวมถึงนักสะสมและผู้ชื่นชอบศิลปะทั้งในและต่างประเทศที่เริ่มทยอยสะสมผลงานของน้อง ด้วยอายุเพียง 3 ขวบ แต่กรณ์ได้สร้างสรรค์ผลงานที่เปี่ยมไปด้วยพลังอย่างมีเอกลักษณ์ บนแคนวาสขนาดใหญ่กว่าตัวเอง น้องกรณ์ เป็นเด็กที่ชื่นชอบสีเป็นพิเศษ และได้ใช้เวลาหลายชั่วโมงในการระบายสีไปเรื่อย ๆ จนรู้สึกพอใจ ทุกครั้งน้องกรณ์จะเป็นผู้เลือกสี อุปกรณ์การระบาย อาทิเช่น ของเล่น รถของเล่น ผลไม้ ดอกไม้ ใบไม้ ที่หาได้จากธรรมชาติ และสิ่งรอบตัว เมื่อทำงานเสร็จน้องกรณ์จะอธิบายว่าผลงานนี้คืออะไรทั้งนี้ความสามารถทางศิลปะของน้องกรณ์อาจจะดูแปลกใหม่ และไม่คุ้นตาคนไทยนัก เนื่องจากสิ่งที่น้องทำเป็นศิลปะนามธรรมที่มักจะเห็นได้บ่อยครั้งในต่างประเทศ โดยเฉพาะกับเด็กเล็กที่เกิดขึ้นจากการเล่นอิสระ แต่สิ่งที่แตกต่างออกไปคือ กรณ์ได้ใช้เทคนิคเฉพาะตัวของน้องในการระบายสี เช่น การสร้างรอยด้วยวัตถุจากการเล่น การผสมสีหลายชั้น การทาซ้ำไปมา การใช้ขวดสเปรย์ และแรงบันดาลใจจากสิ่งรอบตัวในชีวิตประจำวัน น้องกรณ์มีสมาธิสูง และมีความตั้งใจที่จะสร้างผลงาน ทำซ้ำ ๆ ไปเรื่อย ๆ จนน้องกรณ์รู้สึกว่า เสร็จแล้ว จะไม่กลับมาทำอีก จนกลายเป็นผลงานที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวนิทรรศการ “Colors World” เปิดพื้นที่ให้ผู้ชมได้สัมผัสมุมมองของเด็กคนหนึ่ง ที่เต็มไปด้วยสีสัน ความบริสุทธิ์ ความสนุก และอิสระในการสร้างสรรค์อย่างไร้ขอบเขต จัดแสดงให้ชมได้ตั้งแต่วันนี้ ถึง 11 มกราคม 2569 ณ Arts Way ชั้น M ไอคอนสยามแหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับผู้จัดการออนไลน์https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000119326

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ท่องเที่ยว

"หวานชลบุรี" รู้จักนิยามของรสชาติเอกลักษณ์จากเมืองชลกัน

13/12/2025

เมื่อพูดถึงจังหวัดชลบุรี หลายคนอาจนึกถึงทะเล หาดทราย แหล่งท่องเที่ยว หรืออาหารทะเลสดๆ แต่สำหรับนักชิมตัวจริง หรือผู้ที่คลุกคลีกับวิถีชีวิตคนชลบุรี คงจะคุ้นเคยกับวลีที่ว่า "หวานชลบุรี" ซึ่งไม่ได้หมายถึงแค่ขนมหวาน แต่เป็นคำที่ใช้อธิบายถึง รสชาติอาหารโดยรวมของคนชลบุรีที่มีความโดดเด่นในเรื่องความหวานนำ ไม่ว่าจะเป็นอาหารคาวหรืออาหารหวาน ก็มักจะมีรสชาติที่ติดหวานเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวความหมาย "หวานชลบุรี" คืออะไรวลี "หวานชลบุรี" หมายถึง เอกลักษณ์ทางรสชาติของอาหารในจังหวัดชลบุรี ที่มีความเด่นชัดเรื่องความหวานเป็นองค์ประกอบหลัก ความหวานนี้ไม่ใช่เพียงความหวานจากน้ำตาลเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงความหวานตามธรรมชาติที่มาจากวัตถุดิบในท้องถิ่น เช่น กะทิสด น้ำตาลปี๊บ หรือน้ำตาลโตนดถ้าให้เปรียเทียบระดับความหวานของคนชลบุรี จากความหวานปกติของคนทั่วไปแต่เป็นหวานน้อยของคนชลบุรีที่มักจะมีระดับความหวานมากกว่าระดับทั่วไปเสมอคำว่า "หวานชลบุรี" จึงเป็นมากกว่าแค่คำอธิบายรสชาติ แต่เป็นการสะท้อนถึง วัฒนธรรมการปรุงอาหาร ภูมิปัญญาพื้นบ้าน และรสนิยมของคนในพื้นที่ ที่สืบทอดกันมา ซึ่งแตกต่างจากอาหารของภาคอื่น ๆ ที่อาจเน้นรสเผ็ด รสเปรี้ยว หรือรสเค็มมากกว่าที่มาของรสชาติ "หวานชลบุรี"  •  อิทธิพลของวัตถุดิบในท้องถิ่น: ชลบุรีเป็นจังหวัดที่มีการทำสวนมะพร้าวและตาลโตนดมากในอดีต ทำให้มีวัตถุดิบคุณภาพดีอย่าง กะทิสด และ น้ำตาลปี๊บ/น้ำตาลโตนด ที่หาได้ง่ายในราคาไม่แพง การนำวัตถุดิบเหล่านี้มาใช้ในการปรุงอาหารอย่างแพร่หลาย จึงส่งผลให้รสชาติอาหารมีแนวโน้มไปทางหวานมันอย่างเป็นธรรมชาติ  •  การถนอมอาหาร: ในอดีต การถนอมอาหารเป็นสิ่งสำคัญสำหรับชุมชนริมทะเล การทำเค็ม เช่น ปลาเค็ม กะปิ เป็นเรื่องปกติ ซึ่งความหวานมักจะถูกนำมาใช้เพื่อ ตัดรสเค็มจัด ให้เกิดความสมดุลและอร่อยกลมกล่อมยิ่งขึ้น  •  การค้าขายและการผสมผสานทางวัฒนธรรม: ชลบุรีเป็นเมืองท่าสำคัญมาตั้งแต่อดีต มีการค้าขายและแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับผู้คนหลากหลายเชื้อชาติ การรับอิทธิพลจากวัฒนธรรมอาหารที่แตกต่างกันและนำมาปรับให้เข้ากับวัตถุดิบและรสนิยมของคนในท้องถิ่น ก็นำมาซึ่งรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว  •  รสนิยมเฉพาะถิ่น: รสนิยมความชอบในรสชาติอาหารเป็นสิ่งที่สืบทอดและพัฒนาขึ้นในแต่ละชุมชน เมื่อคนในพื้นที่ส่วนใหญ่นิยมรสชาติแบบหนึ่ง ก็จะส่งผลให้รูปแบบการปรุงอาหารและรสชาติโดยรวมของที่นั่นมีแนวโน้มไปในทิศทางเดียวกัน กลายเป็น "ซิกเนเจอร์" ที่เป็นที่รู้จักอาหารที่สะท้อนนิยาม "หวานชลบุรี"  •  แกงคั่วปู: แม้จะมีความเผ็ดร้อนของเครื่องแกง แต่แกงคั่วปูใบชะพลูของชลบุรีมักจะมี ความหวานมันของกะทิและน้ำตาล ที่ช่วยให้รสชาติกลมกล่อม นุ่มนวล ไม่เผ็ดโดด  •  ห่อหมกปลา: ห่อหมกเนื้อปลาที่ปรุงรสเข้มข้น มักจะมี รสหวานนำเล็กน้อย เพื่อไม่ให้รสชาติเผ็ดเค็มเกินไป  •  น้ำพริกไข่ปู/น้ำพริกปลาอินทรี: แม้จะเป็นน้ำพริกที่เน้นความจัดจ้าน แต่ก็มักจะมี รสหวานแซมอยู่เล็กน้อย เพื่อให้รสชาติไม่โดดไปทางเค็มหรือเผ็ดอย่างเดียว  •  ข้าวหลามหนองมน: ขนมขึ้นชื่อของชลบุรี โดดเด่นด้วย รสชาติหวานมัน จากกะทิและข้าวเหนียวเขี้ยวงู นึ่งจนหอมกลิ่นไม้ไผ่ เป็นตัวแทนความหวานของชลบุรีที่ชัดเจนที่สุด  •  ขนมจาก: ขนมโบราณที่ทำจากแป้งข้าวเจ้าผสมกะทิ น้ำตาลมะพร้าว และเนื้อมะพร้าวอ่อน ห่อด้วยใบจากแล้วนำไปปิ้ง ให้ รสชาติหวานหอม มัน ชัดเจน  •  แกงเขียวหวาน/แกงกะทิอื่นๆ: แกงกะทิหลายเมนูของคนชลบุรี มักจะปรุงรสให้มี ความหวานนำหรือหวานกลมกล่อม เพื่อดึงรสชาติของกะทิและเครื่องแกงให้โดดเด่น"หวานชลบุรี" ไม่ใช่แค่นิยามของรสชาติ แต่คือส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของคนเมืองชลที่สืบทอดกันมาผ่านปลายจวักของบรรพบุรุษ เป็นนิยามที่บ่งบอกถึงเอกลักษณ์ทางรสชาติที่โดดเด่นของอาหารคาวหวานในจังหวัดชลบุรี การได้ลิ้มลองและเข้าใจ "ความหวาน" ในมิติที่หลากหลายนี้ จะทำให้คุณสัมผัสได้ถึงเสน่ห์และภูมิปัญญาในอาหารพื้นถิ่นของชลบุรีได้อย่างลึกซึ้งแหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับ sanookhttps://www.sanook.com/travel/1452627/

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ประกันชีวิต

เอไอเอ ประเทศไทย มอบทุนสนับสนุนโครงการส่งเสริมและพัฒนาการพูด อ่าน เขียนภาษาไทย แก่สภากาชาดไทย เพื่อพัฒนาระบบไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์มอบแก่ 9 โรงเรียนในจังหวัดตาก

11/12/2025

สานต่อพันธกิจ AIA One Billion เพื่อส่งเสริมสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้นของผู้คนกว่าพันล้านคนทั่วเอเชีย ภายในปี 2573เอไอเอ ประเทศไทย จัดพิธีมอบทุนสนับสนุนโครงการส่งเสริมและพัฒนาการพูด อ่าน เขียนภาษาไทย โดยสภากาชาดไทย จากเงินรายได้ที่ระดมทุนผ่านกิจกรรม AIA One Billion Day ต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2564 เพื่อสานต่อพันธกิจระดับภูมิภาคของกลุ่มบริษัทเอไอเอ ภายใต้แคมเปญ AIA One Billion ที่มุ่งส่งเสริมผู้คนกว่าหนึ่งพันล้านคนทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ให้มีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้นภายในปี 2573 ตามคำมั่นสัญญา ‘Healthier, Longer, Better Lives – เพื่อสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น’ ซึ่งในปีนี้ เอไอเอ ประเทศไทยได้มอบทุนสนับสนุนรวม 2,976,477 บาท ให้แก่โรงเรียน 9 แห่งในจังหวัดตาก เพื่อนำไปใช้ในการสร้างและปรับปรุงระบบไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Cell) สำหรับโรงเรียนในพื้นที่ทุรกันดารที่ไม่มีไฟฟ้าใช้อย่างเพียงพอ เพื่อให้เด็ก ๆ และคุณครูมีโอกาสในการเรียนรู้อย่างเท่าเทียม และสามารถเข้าถึงพลังงานที่จำเป็นต่อการพัฒนาโรงเรียนพิธีส่งมอบทุนจัดขึ้นที่โรงเรียนบ้านแม่กลองน้อย อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2568 โดยมีผู้บริหารระดับสูงจากสภากาชาดไทย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา และกลุ่มบริษัทเอไอเอ เข้าร่วม อาทิ นายวิทยา จันทร์ฉลอง ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานบริหารกิจการเหล่ากาชาด ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ทนงศักดิ์ ยาทะเล ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ตาก นายสจ๊วต เอ สเปนเซอร์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด กลุ่มบริษัทเอไอเอ ร่วมด้วยผู้บริหารจากเอไอเอ ประเทศไทย นำโดย นายนิคฮิล แอดวานี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นางสาวชลิดา นครชัย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด นายมนต์ชัย บุณยรัตพันธุ์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารตัวแทนภูมิภาค 3 นายประกิตติ บุณยเกียรติ ที่ปรึกษาอาวุโส ฝ่ายตัวแทนประกันชีวิต และนางสาวรพีพร วงศ์ทองคำ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรและภาพลักษณ์ เอไอเอ ประเทศไทยนายวิทยา จันทร์ฉลอง กล่าวว่า  “โครงการส่งเสริมและพัฒนาการพูด อ่าน เขียนภาษาไทย โดยสภากาชาดไทยเกิดขึ้นในช่วงสถานการณ์โควิด-19 เมื่อปี 2563 เพื่อแก้ไขปัญหาทักษะภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1–6 ในพื้นที่ชนบท ซึ่งได้รับผลกระทบจากการหยุดเรียนและการเรียนออนไลน์ ตลอดระยะเวลาตั้งแต่ปี 2564–2568 มีโรงเรียนเข้าร่วมโครงการกว่า 4,521 โรงเรียน เด็กนักเรียนกว่า 475,159 คน ได้รับประโยชน์ โดยกว่า 33,789 คน ได้รับการพัฒนาจนผ่านเกณฑ์มาตรฐานด้านการอ่านและเขียนภาษาไทย ถือเป็นผลลัพธ์ที่มีความหมายต่ออนาคตของประเทศ“ทั้งนี้ เอไอเอ ประเทศไทย ได้ให้การสนับสนุนโครงการนี้อย่างต่อเนื่อง รวมยอดบริจาคทั้งสิ้น 10,689,679.94 บาท ซึ่งถูกนำไปใช้ประโยชน์จริงแล้วกว่า 92% ไม่ว่าจะเป็นการผลิตสื่อการเรียนรู้ ชุดฝึกทักษะภาษาไทย การจัดหาอุปกรณ์สำหรับโรงเรียน ตลอดจนการปรับปรุงระบบโซลาร์เซลล์ในโรงเรียนห่างไกล“สภากาชาดไทยขอขอบคุณเอไอเอ ที่เล็งเห็นความสำคัญของการศึกษา และร่วมสร้างโอกาสที่เท่าเทียมให้กับเด็กไทยอย่างต่อเนื่อง เราขอยืนยันว่าจะใช้เงินบริจาคทุกบาททุกสตางค์ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อเด็กนักเรียนและสังคมไทย”นายสจ๊วต เอ. สเปนเซอร์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด กลุ่มบริษัทเอไอเอ กล่าวว่า “ที่เอไอเอ เราเชื่อว่าการสร้างสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้นเริ่มต้นได้ตั้งแต่ในห้องเรียน วันนี้ที่โรงเรียนบ้านแม่กลองน้อย เราได้เห็นพลังของการร่วมมือระหว่างภาคสังคมและภาคธุรกิจอย่างแท้จริง การมอบทุนสนับสนุนระบบพลังงานแสงอาทิตย์ รวมถึงการสนับสนุนโครงการพัฒนาทักษะภาษาไทย ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของพันธกิจ AIA One Billion เพื่อช่วยให้ผู้คนกว่าหนึ่งพันล้านคนมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้นภายในปี 2573 โครงการนี้ไม่เพียงสนับสนุนด้านการศึกษา แต่ยังสร้างความหวัง โอกาส และอนาคตที่ยั่งยืนแก่เด็ก ๆ ในพื้นที่ห่างไกล เอไอเอยังคงมุ่งมั่นร่วมทำงานกับสภากาชาดไทยและภาคีทุกภาคส่วน เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับชุมชนไทยต่อไป เราขอชื่นชมครู นักเรียน และทุกคนในชุมชนที่ร่วมกันทำให้การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เกิดขึ้นจริง นี่คือภาพสะท้อนของคำมั่นสัญญา Healthier, Longer, Better Lives ในแบบที่จับต้องได้จริง”

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ประกันชีวิต

เอไอเอ ประเทศไทย จัดกิจกรรม AIA Spurs Elite Football Camp 2025 คัด 24 เยาวชน เก็บตัวเพื่อพัฒนาศักยภาพทักษะการเป็นนักฟุตบอลมืออาชีพ ณ เกาะสมุย

09/12/2025

เอไอเอ ประเทศไทย นำโดย นางสาวญดา วงศ์ทองคำ รองผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายบริหารสิทธิพิเศษและกิจกรรมลูกค้า ร่วมกับสโมสรฟุตบอลท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ จัดกิจกรรม เอไอเอ สเปอร์ส อีลิท ฟุตบอล แคมป์ 2025 นำ 24 เยาวชนที่ได้รับคัดเลือกโดยโค้ชสเปอร์ส จากกิจกรรมเอไอเอ ไทยแลนด์ ฟุตบอล คลินิก 2025 ที่จัดขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เพื่อมาเก็บตัวฝึกฝนทักษะการเป็นนักฟุตบอลแบบมืออาชีพในรูปแบบสเปอร์ส เวย์ ณ มาราลีน่า สปอร์ต รีสอร์ท เกาะสมุย จังหวัดสุราษฏร์ธานี ระหว่างวันที่ 9 – 14 พฤศจิกายน 2568 ซึ่งเยาวชนที่ร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ได้รับการฝึกซ้อมโดย Global Football Development Coach จากสโมสรฟุตบอลท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์  นำโดย โค้ชชานอน โมโลนี  โค้ชซาบริน่า ซาบรินา ดิอาส และไทเลอร์ แบล็ควูด ร่วมเป็นผู้ฝึกซ้อมหลักสำหรับเยาวชนที่ได้รับคัดเลือกทั้ง 24 คน ได้มีโอกาสเรียนรู้ทักษะต่าง ๆ ในการพัฒนาสู่การเป็นนักฟุตบอลมืออาชีพของสโมสรฟุตบอลท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ นอกจากนี้ เยาวชนที่เข้าร่วมกิจกรรมและมีศักยภาพโดดเด่นยังได้มีโอกาสต่อยอดสู่การเป็นนักฟุตบอลมืออาชีพกับสโมสรฟุตบอลท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ โดยได้เรียนรู้แบบเชิงลึก อาทิ โภชนาการอาหารที่ถูกต้องสำหรับนักกีฬา การปฏิบัติตัวเป็นนักฟุตบอลมืออาชีพ 24 ชั่วโมง ฝึกทักษะการเล่นฟุตบอลแบบระบบทีม รวมถึงมีการสร้างบทบาทสมมติเพื่อให้เยาวชนได้ทดลองเป็นบุคคลสำคัญอย่างกัปตันทีม เพื่อตอบคำถามเชิงกลยุทธ์เป็นการวางแนวทางสู่การเป็นนักฟุตบอลมืออาชีพให้กับเยาวชนอีกด้วยทั้งนี้ เอไอเอ ในฐานะผู้สนับสนุนหลักสโมสรฟุตบอลท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ จัดกิจกรรม เอไอเอ สเปอร์ส อีลิท ฟุตบอล แคมป์ 2025 อย่างต่อเนื่องเพื่อมุ่งสานฝันให้เยาวชนที่มีความสนใจในด้านกีฬาฟุตบอลได้มีโอกาสพัฒนาทักษะ และนำความรู้ พร้อมด้วยประสบการณ์จากการฝึกนี้ไปต่อยอดเพื่อสร้างอาชีพฟุตบอล อีกทั้งยังเป็นการสนับสนุนโอกาสให้กับเยาวชนที่มีคุณภาพเหล่านี้ได้มีโอกาสเป็นนักเตะมืออาชีพของสโมสรฟุตบอลระดับโลกอย่างท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ซึ่งตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของเอไอเอ ในการส่งเสริมและผลักดันให้เยาวชนและคนไทย มีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ตามคำมั่นสัญญา ‘Healthier, Longer, Better Lives’

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

การวางแผนทางการเงิน

เปิด 3 ขั้นตอนสร้างงบฉุกเฉินก้อนแรก แบบทำได้จริงทันที

08/12/2025

เริ่มสร้างงบฉุกเฉินง่าย ๆ ด้วย 3 ขั้นตอนสำหรับมือใหม่ ตั้งเป้าเก็บเงิน เปิดบัญชีแยก และเพิ่มรายได้เสริม เพื่อความมั่นคงทางการเงินระยะยาวในยุคที่เหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา การมี งบฉุกเฉิน กลายเป็นรากฐานสำคัญของความมั่นคงทางการเงิน สำหรับผู้เริ่มต้น หลายคนอาจรู้สึกว่าเป็นเรื่องยาก แต่ความจริงแล้วทำได้ง่ายกว่าที่คิด เรารวบรวม 3 ขั้นตอนสร้างงบฉุกเฉิน ที่เริ่มได้ทันทีและจับต้องได้จริง1. กำหนดเป้าหมายย่อยเริ่มต้น (Mini-Goal)การตั้งเป้าสูงเกินไปอาจทำให้ถอดใจกลางทาง ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้เริ่มจากจำนวนที่ ทำได้จริง และเห็นผลเร็ว เช่น 10,000 – 30,000 บาท หรือเท่ากับค่าใช้จ่ายพื้นฐาน 1 เดือนของคุณ จำนวนนี้เพียงพอรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินเล็กน้อย–ระดับกลาง และเก็บได้ภายใน 3–6 เดือนตัวอย่างคำนวณง่าย ๆ: หากตั้งเป้า 30,000 บาท ต้องเก็บเดือนละ 5,000 บาทในระยะเวลา 6 เดือน วิธีนี้ช่วยสร้างแรงผลักดันและทำให้เห็นความคืบหน้าชัดเจนเปิด 3 ขั้นตอนสร้างงบฉุกเฉินก้อนแรก แบบทำได้จริงทันที2. แยกบัญชีและทำให้ระบบออมเป็นอัตโนมัติขั้นตอนสำคัญของการสร้าง งบฉุกเฉิน คือทำให้ "เงินออม" ไม่ปะปนกับ "เงินใช้" นั่นแปลว่า:- เปิดบัญชีแยกเฉพาะสำหรับงบฉุกเฉิน- หลีกเลี่ยงการทำบัตร ATM/เดบิต เพื่อลดการใช้โดยไม่จำเป็น- ตั้งระบบโอนเงินอัตโนมัติทันทีที่เงินเดือนเข้า ตามจำนวนที่ตั้งไว้นี่คือหลักการสำคัญของการเงินส่วนบุคคลที่เรียกว่า “จ่ายให้ตัวเองก่อน” (Pay Yourself First) ช่วยให้คุณเก็บเงินได้สม่ำเสมอโดยไม่ต้องคิดมาก3. หาโอกาสเพิ่มเงินเข้ากองทุน (Boost the Fund)นอกจากออมตามแผนประจำแล้ว ควรเสริมกองทุนให้โตเร็วขึ้นด้วย 2 วิธีหลัก:- ลดรายจ่ายไม่จำเป็น เช่น ค่าสมัครสมาชิกที่ไม่ได้ใช้ หรือค่าอาหารนอกบ้านที่เกินงบ แล้วนำเงินส่วนนี้มาใส่งบฉุกเฉินทันที- หารายได้เสริม ไม่ว่าจะขายของที่ไม่ได้ใช้ รับงานเล็ก ๆ หรือหารายได้ออนไลน์ และนำรายได้เสริม 100% เข้ากองทุน วิธีนี้ช่วยให้ถึงเป้าหมายเร็วขึ้นมากเปิด 3 ขั้นตอนสร้างงบฉุกเฉินก้อนแรก แบบทำได้จริงทันทีเมื่อคุณเก็บงบฉุกเฉินแรกได้ 10,000 – 30,000 บาท แล้ว เป้าหมายถัดไปคือเพิ่มให้ครอบคลุมค่าใช้จ่าย 3–6 เดือน เพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงินระยะยาวที่แข็งแรงยิ่งขึ้นการมี งบฉุกเฉิน ไม่ใช่เรื่องไกลตัว และสำคัญมากในยุคปัจจุบัน เริ่มวันนี้ คุณจะขอบคุณตัวเองในอนาคตแน่นอนเปิด 3 ขั้นตอนสร้างงบฉุกเฉินก้อนแรก แบบทำได้จริงทันทีแหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับไทยนิวส์https://www.thainewsonline.co/news/894022

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ประกันชีวิต

เอไอเอ ประเทศไทย เร่งมอบความช่วยเหลือฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัยพื้นที่ภาคใต้

08/12/2025

เอไอเอ ประเทศไทย เร่งส่งมอบความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ ผ่านหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน นำโดย นายสุวิรัช พงศ์เสาวภาคย์ (ซ้ายสุด) ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการภายนอก เอไอเอ ประเทศไทย เป็นตัวแทนร่วมมอบเครื่องอุปโภคบริโภคและของใช้จำเป็นผ่านโครงการ “ธารน้ำใจช่วยผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้”  โดยได้รับเกียรติ จากนายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เป็นประธานรับมอบ เพื่อส่งต่อความช่วยเหลือไปยังประชาชนผู้ประสบมหาอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ตลอดจนช่วยฟื้นฟูให้กลับมาดำเนินชีวิตได้อย่างเข้มแข็ง ซึ่งกิจกรรมการบริจาคดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของศูนย์อำนวยการช่วยเหลือเครือข่ายวายุภักษ์ กระทรวงการคลัง โดยมีสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เป็นส่วนกลางในการรวบรวมสิ่งของบริจาคเพื่อส่งต่อความช่วยเหลือให้ถึงพี่น้องชาวใต้อย่างเร่งด่วน ณ ลานอเนกประสงค์ สำนักงาน คปภ. สำหรับการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในครั้งนี้ สำนักงาน คปภ. ได้ร่วมกับอุตสาหกรรมธุรกิจประกันภัยรวมกว่า 29 แห่ง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงพลังและการยืนหยัดอยู่เคียงข้างประชาชน เพื่อส่งกำลังใจให้คนไทยในภาคใต้ที่ได้รับความเดือดร้อนกลับมายืนได้อย่างแข็งแกร่งนอกจากนี้ เอไอเอ ประเทศไทย ยังได้ร่วมมอบเงินบริจาคผ่านสมาคมเจ็ตสกีแห่งประประเทศไทย เพื่อนำไปจัดเตรียมอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งของจำเป็นเพื่อการอุปโภคบริโภค  สำหรับแจกจ่ายให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยในอำเภอหาดใหญ่จังหวัดสงขลา อย่างเร่งด่วนเพื่อบรรเทาความยากลำบากในเบื้องต้น ถือเป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของเอไอเอ ที่ต้องการส่งความห่วงใยและกำลังใจไปยังทุกครอบครัวในภาคใต้ รวมถึงเจ้าหน้าที่ทุกท่านที่ปฏิบัติงานอย่างทุ่มเทในพื้นที่ โดยเอไอเอ พร้อมอยู่เคียงข้างและสนับสนุนให้คนไทยมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ตามคำมั่นสัญญา ‘Healthier, Longer, Better Lives’

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ห้องแสดงนิทรรศการ

ชมประติมากรรมช้างไทยสุดน่ารัก ในงาน “Elephant Parade Bangkok” ที่ย่านตลาดน้อย-ทรงวาด

08/12/2025

“ช้าง” หนึ่งในสัญลักษณ์คู่บ้านคู่เมืองไทยมายาวนาน ไม่ว่าจะเติบโตมาในยุคสมัยไหน คนไทยแทบทุกคนล้วนมีภาพจำเรื่องราวความผูกพันกับช้าง ทั้งในประวัติศาสตร์ ศิลปะ ความเชื่อ หรือเรื่องราวในวัยเด็กเปรียบเสมือน “เพื่อนรัก” ของคนไทยปีนี้ เสน่ห์ของช้างไทยได้กลับมาโลดแล่นอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ อีกครั้ง ในรูปแบบนิทรรศการสุดสร้างสรรค์ “Elephant Parade Bangkok” ที่ทางผู้จัดได้นำ ประติมากรรมช้างหลากสีสันกว่า 55 เชือก มาจัดแสดงกระจายอยู่ทั่วไปในชุมชนย่านตลาดน้อย-ถนนทรงวาด กรุงเทพมหานครสำหรับใครที่คิดว่าย่านนี้มีดีแค่ความคลาสสิก บอกเลยว่าต้องลองไปสัมผัสกับมุมมองใหม่ผ่านนิทรรศการดังกล่าว เพราะทุกตรอกซอกซอยในย่านเก่าแห่งนี้ ได้ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็น Outdoor Gallery ขนาดย่อม ที่เต็มไปด้วยความน่ารัก สดใส และงานศิลปะที่สะท้อนตัวตนของช้างในมุมมองใหม่โดยไฮไลต์อยู่ที่แต่ละเชือกถูกศิลปินหลากหลายสไตล์ เพนต์สีสันลวดลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ถ่ายทอดเรื่องราว อารมณ์ และจินตนาการลงในตัว “เจ้าช้างน้อย” อย่างตั้งใจ เหมาะแก่การเดินเล่นหยุดชมชมช้า ๆ ตามเส้นทางในแผนที่ที่ทางงานจัดไว้ให้ รับรองว่าจะได้ค้นพบมุมมองใหม่ ๆ ที่หลบซ่อนอยู่ในย่านนี้ ทั้งสีสัน ลวดลาย ไปจนถึงสตอรี่ที่แฝงอยู่ในแต่ละรูปปั้นงานนี้นอกจากจะได้เดินเล่น ถ่ายรูป และสนุกกับกิจกรรมล่าขุมทรัพย์ (Treasure Hunt) ตามหาเจ้าช้างทั้ง 35 จุดในแผนที่ และลุ้นรับรางวัลสุดพิเศษแล้ว ยังถือเป็นโอกาสดีที่จะได้สัมผัสกลิ่นอายของตลาดน้อยและถนนทรงวาดอย่างใกล้ชิด อิ่มเอมกับเรื่องราวชุมชนเก่าแก่ สถาปัตยกรรมโบราณ ร้านค้าเก๋ ๆ คาเฟ่ชิค ๆอีกด้วยนับได้ว่า นิทรรศการ “Elephant Parade Bangkok” ไม่ใช่แค่การโชว์สัตว์ประจำชาติเท่านั้น แต่นี่คือการต่อยอด Soft Power ของไทย ที่ชวนทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวมาเรียนรู้ เข้าใจ และร่วมอนุรักษ์ช้างไทยในแบบที่เข้าถึงง่ายและสนุกกว่าที่เคย ผ่านศิลปะที่กลายเป็น “สื่อกลาง” เชื่อมใจระหว่างคนกับช้างที่น่าสนใจอีกงานหนึ่งสำหรับกิจกรรม “Elephant Parade Bangkok” จัดตั้งแต่วันนี้ - 21 กุมภาพันธ์ 2569 สามารถไปรับแผนที่และเริ่มผจญภัยได้ที่ Elephant Parade Talad Noi หรือร้านค้าที่ร่วมรายการ แล้วออกไปเดินเล่นตามหาความสุขในย่านตลาดน้อย-ทรงวาดกันแหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับผู้จัดการออนไลน์https://mgronline.com/travel/detail/9680000112971

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ท่องเที่ยว

“ปางอุ๋ง” แม่ฮ่องสอน ความงามใต้พระบารมี จากป่าเสื่อมโทรมสู่ “สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย” สุดปัง

08/12/2025

“...ให้มีการปรับปรุงสภาพป่าบริเวณอ่างเก็บน้ำปางตองใหม่และฝายปางอุ๋ง ตำบลหมอกจำแป่ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ให้กลับคืนสู่สภาพเดิม...”พระราชกระแสรับสั่งของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ ๙ เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2527ปางอุ๋ง จากป่าเสื่อมโทรมสู่ที่เที่ยวสุดปังหลังจากนั้น “โครงการพระราชดำริปางตอง 2 (ปางอุ๋ง)” หรือ ที่คนนิยมเรียกกันสั้นๆว่า “ปางอุ๋ง” ได้ถือกำเนิดขึ้นมาในปีเดียวกันนี้ (2527) ก่อนจะได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเรื่อยมาวันนี้ “ปางอุ๋ง” นอกจากจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเบอร์ต้น ๆ ในช่วงฤดูหนาวแล้ว ที่นี่ยังถูกยกให้เป็นหนึ่งใน “สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย” กับบรรยากาศภายใต้อ้อมกอดธรรมชาติ ที่มีไฮไลต์คือ ป่าสน สายหมอก และอ่างเก็บน้ำในตำนาน ใต้พระบารมี พ่อ-แม่ของแผ่นดินปางอุ๋ง ใต้พระบารมี พ่อ-แม่ของแผ่นดินนักท่องเที่ยวถ่ายรูปที่ท่าน้ำยามเย็นโครงการพระราชดำริปางตอง 2 (ปางอุ๋ง) หรือ ปางอุ๋ง เป็นส่วนหนึ่งของ “ศูนย์บริการและพัฒนาที่สูงปางตองตามพระราชดำริ” โครงการในพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2523 โดยในหลวงรัชกาลที่ ๙ และ สมเด็จพระพันปีหลวง ทรงเห็นว่าพื้นที่บริเวณนี้เป็นพื้นที่อันตราย อยู่ติดแนวชายแดนพม่า มีกองกำลังต่าง ๆ มีการขนส่ง ปลูกพืชเสพติด และบุกรุกพื้นที่ตัดไม้ทำลายป่าอยู่เสมอทั้ง 2 พระองค์ จึงมีพระราชดำริให้รวบรวมราษฎรกลุ่มน้อยบริเวณนั้นมาอยู่รวมกันเป็นชุมชน โดยมีพระราชประสงค์สร้างความมั่นคงตามแนวชายแดน เพื่อพัฒนาความเป็นอยู่ของราษฎรให้ดีขึ้นด้วยการส่งเสริมให้ปลูกป่า สร้างอ่างเก็บน้ำ และฟื้นฟูอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติให้สมบูรณ์ยั่งยืนตลอดไปกางเต็นท์ในบรรยากาศทุ่งหญ้า-ป่าสน ริมทะเลสาบปางอุ๋ง ชื่อนี้มาจากคำว่า “ปาง” หมายถึงที่พักของคนทำงานในป่า และคำว่า “อุ๋ง” เป็นภาษาเหนือ หมายถึงพื้นที่ลุ่มต่ำ คล้ายแอ่งกระทะใบใหญ่ ปางอุ๋ง ตั้งอยู่ที่บ้านรวมไทย ต.หมอกจำแป่ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ปัจจุบันอยู่ในความดูแลของ “อุทยานแห่งชาติ ถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่อ”ทิวทัศน์บริเวณอ่างเก็บน้ำปางตองในอดีตพื้นที่บริเวณปางอุ๋งมีสภาพเป็นเขาหัวโล้น ป่าเสื่อมโทรม ในหลวงรัชกาลที่ ๙ จึงมีพระราชกระแสรับสั่ง (ข้างต้น) ให้สร้าง“อ่างเก็บน้ำปางตอง” หรือ “ปางอุ๋ง” ขึ้น ตามแนวพระราชดำริ “มีคนย่อมมีน้ำ” เพื่อกักเก็บน้ำไว้ให้ชาวชุมชนได้ใช้ทำการเกษตรทำไร่นา และเก็บไว้สำหรับใช้ในโครงการศูนย์ฯปางตองตามพระราชดำรินอกจากนี้พระองค์ท่านยังทรงให้มีการปลูกป่าตามแนวพระราชดำริ “ปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง” ขึ้น พร้อมทั้งการปลูกป่าในด้านอื่น ๆ เพื่อทำการฟื้นฟูสภาพป่าให้กลับมาอุดมสมบูรณ์อีกครั้งปางอุ๋ง สวิตเซอร์แลนเมืองไทยจุดเช็กอินบริเวณท่าล่องแพไม้ไผ่วันนี้นับเป็นเวลากว่า 40 ปีแล้ว ที่โครงการพระราชดำริปางตอง 2 หรือ ปางอุ๋ง ได้พลิกฟื้นจากสภาพของป่าเสื่อมโทรม ให้กลับมาอุดมสมบูรณ์ มีทัศนียภาพที่เป็นเอกลักษณ์สวยงามและมีอากาศที่เย็นตลอดทั้งปี จนได้รับฉายาว่า “สวิตเซอร์แลนด์แห่งเมืองไทย” ซึ่งถือเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของภาคเหนือในช่วงฤดูหนาว ที่หากใครมาเยือนเมืองสามหมอกไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงปางอุ๋งมีบรรยากาศโดดเด่นไปด้วย วิวทิวทัศน์ของอ่างเก็บน้ำอันสวยงาม แวดล้อมไปด้วยป่าสนเรียงราย ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถมาถ่ายรูปเช็กอินกันได้รอบ ๆ อ่างเก็บน้ำ ไม่ว่าจะเป็น บริเวณลานกางเต็น ในพื้นที่ป่าสนสองใบ บริเวณจุดล่องแพ มุมสะพานไม้ มุมสะพานฝาย และบริเวณสันเขื่อนอ่างเก็บน้ำ ที่แต่ละจุดจะมีมนต์เสน่ห์และสีสันที่แตกต่างกันออกไปล่องแพไม้ไผ่ในสายหมอกยามเช้าขณะที่ในยามเช้าตรู่ของหน้าหนาวหลังจากที่พระอาทิตย์แย้มแสงแรกแห่งวันสาดส่อง บริเวณอ่างเก็บน้ำปางตอง หรือ ปางอุ๋ง จะดูงดงามไปด้วยสายหมอกที่เกิดจากไอน้ำ ลอยปกคลุมไหลระเรี่ยเหนือผิวน้ำ ท่ามกลางองค์ประกอบแห่งความงามปานประหนึ่งภาพฝัน ของทะเลสาบ ทิวสน ผืนป่า เรือนแพ และหงส์พระราชทานที่แหวกว่าย ที่ถือเป็นอีกหนึ่งสีสันของปางอุ๋งแห่งนี้หงส์ขาว อีกหนึ่งดาวเด่นแห่งปางอุ๋งนอกจากนี้ปางอุ๋งยังมีกิจกรรมล่องแพไม้ไผ่นั่งชมวิวทิวทัศน์ของท้องทะเลสาบทั้งในช่วงเช้าและเย็น รวมถึงยังมีสถานที่กางเต็นท์และเต็นท์ของอุทยานฯ ไว้บริการในป่าสนริมทะเลสาบ มีจุดกางเต็นท์บริเวณสันเขื่อนของทหาร มีที่พัก โฮมสเตย์ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านของของที่ระลึก ไว้บริการในพื้นที่ของหมู่บ้านรวมไทย และบ้านพักของโครงการฯ ปางตอง 2 (ปางอุ๋ง) อช.ถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่่อ ไว้ให้บริการแก่ผู้สนใจและนี่ก็คือมนต์เสน่ห์ความงดงามของปางอุ๋ง จังหวัดแม่ฮ่องสอน สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังใต้พระบารมี ในหลวงรัชกาลที่ ๙ และสมเด็จพระพันปีหลวง พ่อและแม่ของแผ่นดิน ที่ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจในด้านต่าง ๆ อย่างไม่เหน็ดเหนื่อย เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพสกนิกรชาวไทยให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นมุมโรแมนติกที่ศาลาท่าน้ำยามเช้าปางอุ๋ง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสวยงามเป็นพิเศษในช่วงฤดูหนาว โดยปี 2568 นี้ อุทยานแห่งชาติ ถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่อ เปิดให้บริการท่องเที่ยวและพักแรมตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไปผู้สนใจสามารถจอง พื้นที่ลานกางเต็นท์ และ เต็นท์อุทยานฯได้ตั้งแต่วันนี้ผ่านเว็บไซต์กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชhttps://nps.dnp.go.thหรือติดต่อสอบถามเพิ่มเติม ได้ที่ inbox เพจ อุทยานแห่งชาติ ถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่อ Thamplanamtokphasuea หรือ โทร. 082-191-1746จุดเช็กอินบนสะพานฝายกางเต็นท์นอนบรรยากาศสุดฟินริมทะเลสาบแหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับผู้จัดการออนไลน์https://mgronline.com/travel/detail/9680000116710

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ประกันชีวิต

บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุนเอไอเอ (ประเทศไทย) จำกัด ได้รับรางวัล TOP Investment Management จาก The Asset ในงาน Asset Benchmark Research Awards 2025

04/12/2025

บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุนเอไอเอ (ประเทศไทย) จำกัด (“บลจ. เอไอเอ (ประเทศไทย)”) นำโดย นายสุขวัฒน์ ประเสริฐยิ่ง (ขวา) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ. เอไอเอ (ประเทศไทย) เป็นตัวแทนรับรางวัล TOP Investment Management ประเภท Local Currency Bonds Benchmark Review 2025 - Thai Baht และนายผดุง ทรงอธิกมาศ หัวหน้าฝ่ายการลงทุนตราสารหนี้ คว้ารางวัล Most Astute Investor ประเภท Local Currency Bonds Benchmark Review 2025 - Thai Baht จาก The Asset ในงานประกาศรางวัล Asset Benchmark Research Awards 2025 ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2568 ณ โรงแรม Grand Hyatt Singapore ประเทศสิงคโปร์ เพื่อยกย่องบริษัทจัดการลงทุนและผู้จัดการลงทุนที่มีความเชี่ยวชาญและวิสัยทัศน์โดดเด่นในตลาดตราสารหนี้สกุลเงินบาท รางวัลดังกล่าวสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ บลจ. เอไอเอ (ประเทศไทย) ในการบริหารเงินลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงและสม่ำเสมอในระยะยาวให้แก่ผู้ถือกรมธรรม์ เอไอเอ ยูนิต ลิงค์

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ข่าวการเงิน

ทำไมบางคนรวยขึ้นเรื่อยๆ แต่บางคนย่ำอยู่กับที่ ?

03/12/2025

เคยสงสัยไหมว่าทำไมบางคนหาเงินได้มากขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่บางคนแม้จะมีรายได้ดีแต่กลับไม่เคยมีเงินเก็บเลย? คำตอบอาจไม่ได้อยู่ที่จำนวนเงินที่หาได้ แต่อยู่ที่ “วิธีคิดเกี่ยวกับการเงิน” หรือที่เรียกว่า “Money Mindset”,แนวคิดทางการเงินของเราส่งผลต่อทุกการตัดสินใจ ตั้งแต่การใช้จ่าย การออม การลงทุน ไปจนถึงวิธีมองอนาคตทางการเงินของตัวเอง ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นสองแบบหลัก ๆ ได้แก่ “Fixed Mindset” และ “Growth Mindset”เคยสงสัยไหมว่าทำไมบางคนหาเงินได้มากขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่บางคนแม้จะมีรายได้ดีแต่กลับไม่เคยมีเงินเก็บเลย? คำตอบอาจไม่ได้อยู่ที่จำนวนเงินที่หาได้ แต่อยู่ที่ “วิธีคิดเกี่ยวกับการเงิน” หรือที่เรียกว่า “Money Mindset”แนวคิดทางการเงินของเราส่งผลต่อทุกการตัดสินใจ ตั้งแต่การใช้จ่าย การออม การลงทุน ไปจนถึงวิธีมองอนาคตทางการเงินของตัวเอง ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นสองแบบหลัก ๆ ได้แก่ “Fixed Mindset” และ “Growth Mindset”คนที่มี Fixed Mindset เชื่อว่า ความสามารถทางการเงินของตัวเองถูกกำหนดมาแล้วและเปลี่ยนแปลงไม่ได้ พวกเขามักมีแนวคิดว่า “ฉันไม่เก่งเรื่องเงิน” หรือ “ฉันไม่มีวันรวยขึ้นได้” และปล่อยให้ข้อจำกัดเหล่านี้เป็นกำแพงขวางกั้นโอกาสของตัวเอง โดยลักษณะของ Fixed Mindset ทางการเงินมักจะมีพฤติกรรม กลัวความเสี่ยง, ใช้เงินแบบตามใจตัวเอง, เชื่อว่าคนรวยเกิดมารวยตรงกันข้าม คนที่มี Growth Mindset มองว่า การเงินเป็นทักษะที่สามารถเรียนรู้และพัฒนาได้ แม้ว่าเขาอาจจะยังไม่เก่งเรื่องการเงินในตอนนี้ แต่พวกเขาเชื่อว่าถ้าเรียนรู้ ลงมือทำ และปรับปรุงตัวเอง พวกเขาก็สามารถไปถึงเป้าหมายทางการเงินได้  โดยลักษณะของคนที่มี Growth Mindset มักจะมีพฤติกรรม กล้าลองสิ่งใหม่ ๆ, รู้จักบริหารเงิน, มองความล้มเหลวเป็นบทเรียนเปลี่ยนวิธีคิด เปลี่ยนชีวิตทางการเงินMindset เป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้ แม้ว่าตอนนี้คุณอาจจะมี Fixed Mindset ทางการเงิน แต่คุณสามารถฝึกให้ตัวเองคิดแบบ Growth Mindset ได้ โดยการ  •  เปลี่ยนคำพูดที่ใช้กับตัวเอง  •  เริ่มต้นจากจุดเล็ก ๆ  •  มองความผิดพลาดเป็นบทเรียน  •  หาความรู้เรื่องการเงินความแตกต่างระหว่าง “รวยขึ้น” กับ “อยู่ที่เดิม” อาจไม่ได้อยู่ที่จำนวนเงินที่เราหาได้ แต่อยู่ที่ “วิธีคิดและมุมมองเกี่ยวกับการเงินของเรา” ถ้าเราเชื่อว่าทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้ และมุ่งมั่นเรียนรู้และพัฒนา อนาคตทางการเงินของเราก็สามารถเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นได้อย่างแน่นอนที่มา : Harvard Business School Online   Psychulaแหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับ ไทยรัฐhttps://www.thairath.co.th/money/personal_finance/wealth_management/2848076

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

X