Everyday knowledge for you
ห้องแสดงนิทรรศการ
11/10/2025
เปิดม่านนิทรรศการ “It’s Ok to be Artist : เพราะทุกคนคือศิลปิน” เวทีสร้างแรงบันดาลใจผ่านศิลปะของศิลปินออทิสติก มูลนิธิออทิสติกไทย ร่วมกับ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และ Artstory By Autistic Thai เปิดงานนิทรรศการ “It’s Ok to be Artist: เพราะทุกคนคือศิลปิน” อย่างเป็นทางการ ณ โถง RCB Artery ชั้น 1 ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก เพื่อนำเสนอผลงานศิลปะจากศิลปินออทิสติกกว่า 30 คน ที่ถ่ายทอดตัวตน ความคิด และมุมมองต่อโลก ผ่านศิลปะที่เปี่ยมด้วยพลังและความงดงามนายชูศักดิ์ จันทยานนท์ ประธานมูลนิธิออทิสติกไทย กล่าวว่า “ในวันนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของมูลนิธิออทิสติกไทย ที่ได้เห็นศิลปินออทิสติกกว่า 30 คนมีเวทีในการแสดงออกถึงศักยภาพของพวกเขาอย่างแท้จริง ทุกภาพวาดและผลงานที่จัดแสดงไม่ใช่เพียงงานศิลป์ แต่เป็น ‘เสียง’ และ ‘เรื่องราวชีวิต’ ที่ถูกถ่ายทอดออกมาในรูปแบบที่จับต้องได้ เราเชื่อว่าผลงานเหล่านี้จะช่วยสร้างความเข้าใจใหม่ ๆ ให้สังคมได้เห็นว่าความแตกต่างไม่ใช่อุปสรรค แต่เป็นคุณค่าที่ควรถูกยกย่อง และหวังว่านิทรรศการครั้งนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้เยาวชนรุ่นใหม่กล้าที่จะก้าวตามความฝันของตัวเอง แม้จะมีข้อจำกัดหรือความท้าทายใด ๆ ก็ตาม”ในช่วง Talk Section ได้รับเกียรติจาก คุณเขื่อน – ภัทรดนัย เสตสุวรรณ, คุณเตยยี่ – ประภัสสร กาญจนสูตร และคุณแอนดี้ – วรกันต์ จงธนพิพัฒน์ ที่มาร่วมพูดคุยในหัวข้อ “Why it’s ok?” พร้อมร่วมสร้างสรรค์ผลงานกับศิลปินออทิสติกในกิจกรรม Live Painting อีกด้วยนิทรรศการ “It’s Ok to be Artist: เพราะทุกคนคือศิลปิน”จัดแสดงผลงานกว่า 100 ชิ้น ภายใต้แนวคิด “Story of Art, Story of Us” ที่เล่าถึงการเดินทางของศิลปินออทิสติก ทั้งในมุมของความฝัน ความท้าทาย และความภูมิใจในผลงาน ตลอดจนการสร้างสังคมที่โอบรับและให้คุณค่ากับความแตกต่าง เริ่มแล้ววันนี้ - 18 ตุลาคม 2568 ณ ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก เปิดให้เข้าชมฟรี!! พร้อมกิจกรรมเสริมที่หลากหลายตลอด 15 วัน เช่น Talk Section, Live Painting, Workshop ศิลปะ และ Art Market ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : Artstory By Autistic Thaiแหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับผู้จัดการออนไลน์https://mgronline.com/travel/detail/9680000095618
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ท่องเที่ยว
11/10/2025
อิตาลีเตรียมเปิด “เส้นทางลับของจักรพรรดิ” ให้นักท่องเที่ยวเข้าชมเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 2,000 ปี โดยเส้นทางนี้เป็นทางลับไปสู่ โคลอสเซียม (Colosseum) อันเป็นสนามประลองแบบที่เห็นในภาพยนตร์ดังเรื่อง GladiatorPhoto: Simona Murrone, Colosseum Archaeological Parkโคลอสเซียม (Colosseum) แลนด์มาร์กสำคัญแห่งกรุงโรม เปิดประตูต้อนรับผู้มาเยือนให้ได้สัมผัสประสบการณ์สุดตื่นตาตื่นใจไปกับ “ทางเดินลับของจักรพรรดิ” ที่ครั้งหนึ่งเคยถูกใช้โดยจักรพรรดิโรมัน เสด็จเข้าสู่สนามประลองได้แบบส่วนพระองค์โดยไม่ให้ใครเห็นทางเดินซึ่งถูกเรียกว่า “ทางเดินคอมมอดัส” (Commodus Passage) ตั้งชื่อตามจักรพรรดิผู้มีชื่อเสียงจากภาพยนตร์ Gladiator ผลงานของริดลีย์ สก็อตต์ มีกำหนดเปิดให้สาธารณชนเข้าชมในวันที่ 27 ตุลาคม 2025 นี้ ซึ่งเส้นทางลับถือเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญในประวัติศาสตร์การอนุรักษ์ทางโบราณคดีของอิตาลีPhoto: Simona Murrone, Colosseum Archaeological Park“ทางเดินคอมมอดัส” เป็นเส้นทางใต้ดินที่ถูกออกแบบให้มีเพดานโค้ง ปล่องระบายอากาศ และช่องแสง เพื่อให้ภายในมีอากาศถ่ายเท ทางเดินนี้เคยเชื่อมต่อระหว่าง pulvinar แท่นประทับของจักรพรรดิและชนชั้นสูงของจักรวรรดิโรมัน ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของโคลอสเซียมไปยังพื้นที่ภายนอกของสนามประลองอันยิ่งใหญ่นักโบราณคดีจากสวนโบราณคดีโคลอสเซียมอธิบายว่า ทางเดินแห่งนี้ถูกใช้เพื่อให้จักรพรรดิเสด็จเข้าสู่สนามประลองอย่างปลอดภัยและเป็นส่วนตัว โดยจะนำตรงไปยังอัฒจันทร์ประจำพระองค์ ซึ่งสามารถชมการแข่งขันการต่อสู้ได้อย่างใกล้ชิดPhoto: Simona Murrone, Colosseum Archaeological Parkทางเดินนี้ถูกค้นพบครั้งแรกในช่วงปี ค.ศ. 1810 และตั้งชื่อตามจักรพรรดิคอมมอดัส ผู้ทรงครองราชย์ระหว่างปี ค.ศ. 180–192 ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า ทรงหลงใหลในการต่อสู้ของเหล่านักกลาดิเอเตอร์ (Gladiator)ทั้งนี้มีตำนานเล่าว่าครั้งหนึ่งพระองค์เคยถูกลอบสังหารระหว่างเสด็จผ่านอุโมงค์แห่งนี้ด้วย แต่ก็รอดชีวิตมาได้Photo: Simona Murrone, Colosseum Archaeological Parkการเปิดให้ชม “ทางเดินคอมมอดัส” ครั้งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง ไม่เพียงเพราะนี่คือครั้งแรกที่พื้นที่อันลึกลับซึ่งเคยใช้เฉพาะจักรพรรดิและราชสำนักได้ถูกเปิดเผยต่อสายตาสาธารณะ แต่ยังเพราะการบูรณะครั้งล่าสุดได้เผยให้เห็นรายละเอียดดั้งเดิมของผนังโบราณอย่างชัดเจนอีกครั้งPhoto: Simona Murrone, Colosseum Archaeological Parkภายในอุโมงค์ยังคงมีร่องรอยของแผ่นหินอ่อนที่เคยประดับผนัง โดยสามารถเห็นช่องโลหะที่เคยใช้ยึดแผ่นหิน ซึ่งภายหลังถูกแทนที่ด้วยปูนฉาบและภาพจิตรกรรมฝาผนังแนวภูมิทัศน์ ขณะที่ระหว่างทางเดินยังมีงานปูนปั้นลวดลายเรื่องราวจากตำนานเทพเจ้าดิออนิซัสและอาเรียนนาบริเวณซุ้มทางเข้ายังปรากฏภาพฉากจากการแสดงในสนามอารีนา เช่น การล่าหมูป่า การต่อสู้กับหมี พร้อมการแสดงกายกรรมและกลอุบายเบื้องหลังประตูที่สัตว์ป่าออกมา รายละเอียดทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่และความพิถีพิถันของจักรวรรดิโรมันในยุคทองได้อย่างงดงามPhoto: Simona Murrone, Colosseum Archaeological Parkแหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับผู้จัดการออนไลน์https://mgronline.com/travel/detail/9680000097048
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ประกันชีวิต
10/10/2025
เอไอเอ ประเทศไทย นำโดย นายสหชาติ ขำนิล – รองผู้อำนวยการฝ่ายพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ด้านดิจิทัล ร่วมงานแถลงข่าวสโมสรฟุตบอล บีจี ปทุม ยูไนเต็ด More than victory, it’s the smile of The Rabbits และจัดงาน BGPU Partners Connect 2025/26 เปิดตัวผู้สนับสนุนประจำฤดูกาล เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2568 ภายในงานได้รับเกียรติจาก นายปิยศักดิ์ ภูมิจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สโมสรฟุตบอล บีจี ปทุม ยูไนเต็ด กล่าวต้อนรับและขอบคุณพันธมิตรทุกท่านที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสโมสรในปีนี้ ซึ่งเอไอเอ ประเทศไทย ได้สนับสนุนสโมสรฟุตบอล บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 14 ด้วยการมีวิสัยทัศน์เดียวกันในการมุ่งขับเคลื่อนกีฬาฟุตบอลไทยให้แข็งแกร่ง พร้อมทั้งเป็นแรงบันดาลใจแก่ผู้คนและเยาวชนไทยให้สนใจในการเล่นกีฬา โดยเฉพาะฟุตบอล เพื่อส่งเสริมให้ทุกคนมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืนตาม ตามคำมั่นสัญญา Healthier, Longer, Better Lives
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ประกันชีวิต
08/10/2025
เอไอเอ ประเทศไทย โชว์ศักยภาพอันโดดเด่นด้านการบริหารทรัพยากรบุคคลและความเป็นเลิศด้านวัฒนธรรมองค์กรอีกครั้งด้วยการคว้ารางวัลอันทรงเกียรติ "HR Asia Best Companies to Work for in Asia 2025" เป็นปีที่ 4 โดยมี นางศรัณยา เทียนถาวร ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคล เป็นตัวแทนเข้ารับรางวัลระดับภูมิภาคนี้ ซึ่งพิธีมอบรางวัลจัดขึ้น ณ ทรู ไอคอน ฮอลล์ ศูนย์การค้าไอคอนสยาม เมื่อวันศุกร์ที่ 26 กันยายน ที่ผ่านมารางวัลแห่งความเป็นเลิศที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลนี้ ถือเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความเป็นผู้นำในการสร้างมาตรฐานใหม่ด้านการบริหารทรัพยากรบุคคลที่ยอดเยี่ยม ซึ่งถูกประเมินอย่างเข้มข้นผ่านระบบ TEAM assessment จากพนักงานโดยตรง สะท้อนถึงความสำเร็จอันโดดเด่นในการสร้างสถานที่ทำงานที่ได้รับความไว้วางใจสูงสุดจากพนักงานทุกวัยในภูมิภาคเอเชีย ทั้งนี้ เอไอเอ ประเทศไทย ได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้เป็นครั้งที่ 4 การันตีได้ถึงความเป็นหนึ่งในองค์กรชั้นนำที่น่าทำงานที่สุดในเอเชีย สะท้อนถึงความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องที่จะไม่หยุดยั้งพัฒนาในทุก ๆ ด้าน ด้วยการทำงานร่วมกันอย่างเป็นหนึ่งเดียวของพนักงานทุกระดับตั้งแต่ผู้บริหารระดับสูงไปจนถึงพนักงานทุกท่าน เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในภูมิภาคนี้มุ่งสร้าง Inclusive Workplace: รากฐานของความไว้วางใจและความเท่าเทียมความสำเร็จของเอไอเอมาจากการสร้างองค์กรที่มีคุณภาพบนรากฐานของความไว้วางใจ ความเท่าเทียม และการรับฟังเสียงของพนักงานทุกคนอย่างจริงจัง ผ่านการปรับเปลี่ยนและพัฒนานโยบายอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่เปิดกว้าง ยอมรับความแตกต่างหลากหลาย และเท่าเทียม (Inclusive Workplace) เอไอเอมีความมุ่งมั่นในการส่งเสริมการมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง สนับสนุนให้พนักงานบรรลุความสมดุลระหว่างการทำงานกับชีวิตส่วนตัว รวมถึงการส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อให้เอไอเอเป็นองค์กรที่ทุกคนรู้สึกถึงการเคารพ มีคุณค่า และเป็นส่วนสำคัญขององค์กรอย่างยั่งยืนWorkWell with AIA: หัวใจหลักดูแลสุขภาวะองค์รวม 4 มิติความมุ่งมั่นอันแน่วแน่นี้สอดคล้องกับปณิธานสำคัญ "Healthier, Longer, Better Lives" ของเอไอเอ ในการดูแลผู้คนทั้งภายในและภายนอกองค์กรอย่างลึกซึ้งและจริงใจ โดยได้วางรากฐานที่แข็งแกร่งด้วยแนวคิด "WorkWell with AIA" ซึ่งเป็นการยกระดับมาตรฐานการดูแลพนักงานสู่ความเป็นเลิศอย่างแท้จริง โดยครอบคลุมการดูแลสุขภาวะองค์รวมทั้ง 4 มิติได้แก่: Live Well (สุขภาพกาย) Think Well (สุขภาพจิตใจ) Plan Well (สุขภาพทางการเงิน) และ Feel Well (สุขภาวะทางสังคม)ทั้งนี้ เอไอเอ ยังคงเดินหน้าต่อยอดพันธกิจขององค์กร เพื่อมุ่งยกระดับมาตรฐานการดูแลพนักงานสู่ความเป็นเลิศ พร้อมทั้งยกระดับมาตรฐานการดูแลด้านประกันชีวิตและสุขภาพที่มีคุณภาพสูงสุดให้แก่ลูกค้าทั่วประเทศ เพื่อสนับสนุนผู้คนกว่าพันล้านคนให้มีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ประกันชีวิต
03/10/2025
กรุงเทพฯ 2 ตุลาคม 2568 - เอไอเอ ประเทศไทย เปิดตัวสูท AIA MDRT 2026 ดีไซน์ใหม่ล่าสุด โดยแบรนด์ POEM แบรนด์แฟชั่นไทยชื่อดัง ตอกย้ำการเป็นบริษัทประกันชีวิตและสุขภาพที่มีตัวแทน MDRT มากเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ อีกทั้งกลุ่มบริษัทเอไอเอ ยังสามารถครองแชมป์บริษัทที่มีจำนวน MDRT มากที่สุดในโลกต่อเนื่องเป็นปีที่ 11 แสดงถึงความแข็งแกร่งและศักยภาพของพลังตัวแทนเอไอเอ โดยสะท้อนออกมายังสูท AIA MDRT 2026 ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘The Lines of Liability’ ลายเส้นซิลลูเอทที่ชัดเจนและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว หรูหราด้วยการตัดเย็บอย่างประณีต และลาย Pinstripes ที่สื่อถึงความเป็นเลิศในวิชาชีพ และ Ombre หรือเทคนิคการไล่สีที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ช่วยสร้างมิติและความเป็นตัวตนให้กับชุดสูท AIA MDRT 2026 ซึ่งชุดสูทใหม่นี้รังสรรค์ขึ้นเพื่อเชิดชูเกียรติและยินดีกับความสำเร็จของตัวแทนเอไอเอ ประเทศไทย ที่ได้รับคุณวุฒิ MDRT 2026 รวมถึงเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้แก่พลังตัวแทนทุกคนให้มุ่งสู่การพิชิตคุณวุฒิ MDRT 2026 เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมาย 5,000 MDRT และรักษาตำแหน่งอันดับหนึ่งของโลกได้อย่างต่อเนื่อง นางอลิสา สิมะโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายตัวแทนประกันชีวิต เอไอเอ ประเทศไทย กล่าวว่า “เอไอเอ เป็นผู้นำในหลากหลายมิติ ทั้งในด้านผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต ประกันสุขภาพ และยูนิต ลิงค์ รวมไปถึงการบริการทั้งที่ผ่านช่องทางดิจิทัล และช่องทางตัวแทน ซึ่งเอไอเอ นับว่าเป็นบริษัทประกันชีวิตที่มีจำนวนตัวแทนมากที่สุดกว่า 55,000 คน ดังนั้นการสนับสนุนและผลักดันตัวแทนนั้น เอไอเอ เราได้มี Initiatives และโครงการต่าง ๆ มากมาย ที่จะช่วยสร้างความเป็นมืออาชีพให้กับพลังตัวแทนของเรา โดยเฉพาะการยกระดับตัวแทนสู่การเป็นตัวแทน MDRT เอไอเอ มีการสร้าง MDRT Ecosystem ตั้งแต่ปี 2560 ซึ่งประกอบด้วยการพัฒนาด้านต่าง ๆ ได้แก่ • Branding - การสร้างแบรนด์ MDRT ให้ตัวแทนรู้จักผ่านการสื่อสารทุกช่องทาง • Positioning - การกำหนดให้ MDRT เป็นมาตรฐานขั้นพื้นฐานสำหรับตัวแทนทุกคน • Training - การให้ความรู้ผ่านโครงการ Pre-MDRT School เพื่อพัฒนาตัวแทนให้ไปสู่ MDRT รวมถึงหลักสูตรพิเศษที่ออกแบบมาให้กับตัวแทน MDRT โดยเฉพาะ เพื่อยกระดับความรู้และการบริการขึ้นไปอีกขั้น • Campaign & Recognition - การมีแคมเปญสนับสนุนตัวแทนที่สามารถพิชิตคุณวุฒิ MDRT ทั้งการสนับสนุนค่าสมัครสมาชิก MDRT รวมถึงการเข้าร่วมประชุม MDRT โลก และอื่น ๆ อีกมากมาย รวมทั้งการเชิดชูเกียรติระดับประเทศผ่านช่องทาง online และ offline อีกด้วย • MDRT Ambassadors - การจัดตั้งตัวแทนที่มีประการณ์การพิชิตคุณวุฒิ MDRT และเป็น Influencers ในพื้นที่ เพื่อช่วยประชาสัมพันธ์และให้ความรู้ เพื่อผลักดันจำนวน MDRT ในแต่ละพื้นที่ • Club MDRT - การจัดตั้ง Club MDRT ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศเพื่อเป็นศูนย์รวมการแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ระหว่างตัวแทน“เรามีการมอบประสบการณ์ที่เงินหาซื้อไม่ได้ หรือ Money Can’t Buy Experience ให้แก่ตัวแทน MDRT โดยเฉพาะการมอบสูทดีไซน์พิเศษจากแบรนด์ดัง เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์แห่งความภาคภูมิใจที่เราทำมาอย่างต่อเนื่อง โดยเอไอเอได้มีการออกแบบสูทร่วมกับดีไซน์เนอร์ไทยและนักวาดภาพประกอบชื่อดังมาตั้งแต่ปี 2564 เป็นระยะเวลา 5 ปีต่อเนื่องแล้ว และในปีนี้มีความพิเศษกว่าที่เคย เพราะเราได้ร่วมมือกับ POEM แบรนด์แฟชั่นชั้นนำของไทย เพื่อสร้างสรรค์สูทสำหรับ AIA MDRT 2026 โดยเน้นการออกแบบที่พิถีพิถัน ผสมผสานกับเอกลักษณ์ของ POEM เพื่อมอบเป็นสัญลักษณ์แห่งความภาคภูมิใจแก่ตัวแทนเอไอเอที่สามารถพิชิตคุณวุฒิ MDRT” ด้าน นายชวนล ไคสิริ หรือ ณอน ดีไซน์เนอร์เจ้าของแบรนด์ POEM เผยถึงที่มาของสูท AIA MDRT 2026 ว่า “ที่มาของการดีไซน์สูทนี้ ผมตีความว่าคุณวุฒิ MDRT คือความสำเร็จ และมากไปกว่านั้น MDRT ยังคือความภาคภูมิใจด้วย เพราะฉะนั้นดีไซน์ของสูทจึงมาจาก ‘ความสำเร็จ’ ผนวกกับ ‘ความภาคภูมิใจ’ โดยเราต้องการให้สูทตัวนี้สื่อสารถึงความภูมิใจและความเป็นมืออาชีพของตัวแทน AIA MDRT ในเวลาเดียวกัน เราใช้คอนเซ็ปต์ที่เรียกว่า ‘The Lines of Liability’ เป็นการทำโครงเสื้อสไตล์ Tailoring แบบสูทให้เป็น Power Suit และใช้เนื้อผ้า Pinstripes ซึ่งเป็นลายเส้นที่สื่อถึงความชัดเจนและซื่อตรง นอกจากนี้ยังมีไฮไลท์ที่เป็นกิมมิกเล็ก ๆ ทำให้ทุกคนได้ตื่นเต้น คือสีของผ้าซับในของสูทสี Ombre ที่เป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์ POEM ซึ่งใช้เป็นโทนสีแดงของเอไอเอ แล้วไล่เฉดสีให้ดูหรูหรามีระดับและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ“สิ่งที่ทำให้ผมประทับใจคือ เอไอเอไม่ได้มองว่า MDRT เป็นเพียงรางวัลแห่งความสำเร็จ แต่เป็นสัญลักษณ์ของมาตรฐานวิชาชีพระดับโลก ผมเลยอยากถ่ายทอดความหมายนี้ออกมาในรูปแบบของชุดสูทที่ทุกคนได้สวมใส่แล้วจะรู้สึกได้ถึงความพิเศษและคุณค่าของความสำเร็จ” นายชวนล กล่าวทิ้งท้าย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ประกันชีวิต
01/10/2025
เอไอเอ ประเทศไทย นำโดย นางศรัณยา เทียนถาวร (ที่ 4 จากขวา) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคล ร่วมงานบริจาคเงินจตุปัจจัยเนื่องในงานพิธีถวายผ้าป่าสามัคคี ประจำปี 2568 ณ วัดธรรมนิมิต โดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ถวายผ้าป่าสามัคคี เพื่อบูรณะอุโบสถและสาธารณูปการในงานได้รับเกียรติจากนายชูฉัตร ประมูลผล (ที่ 4 จากซ้าย) เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เป็นประธานในพิธีถวายผ้าป่าสามัคคี ซึ่งเอไอเอ ประเทศไทย ได้ร่วมบริจาคจตุปัจจัยทำบุญจำนวน 200,000 บาท พร้อมร่วมเป็นเจ้าภาพในพิธีถวายผ้าป่าสามัคคี โดยมีบริษัทประกันภัย องค์กรภาครัฐและเอกชน รวมถึงประชาชนผู้มีจิตศรัทธา ร่วมบริจาคจตุปัจจัยทำบุญและร่วมเป็นเจ้าภาพ เพื่อบูรณะอุโบสถและสาธารณูปการ รวมยอดบริจาคทั้งสิ้นกว่า 4,928,903.48 บาท ทั้งนี้ เอไอเอ ประเทศไทย ได้ร่วมดำเนินกิจกรรมดังกล่าวอย่างต่อเนื่องมาเป็นประจำทุกปี เพื่อส่งเสริมการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้มีความเจริญมั่นคง และร่วมสืบสานประเพณีอันดีงามของไทยให้คงอยู่สืบไปนอกจากนี้ นายสุวิรัช พงศ์เสาวภาคย์ (กลาง) ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการภายนอก เป็นผู้แทนเอไอเอ ประเทศไทยมอบทุนการศึกษาจำนวน 20,000 บาท ลูกฟุตบอล 5 ลูก และแล็ปท็อป 10 เครื่อง โดยมีนายโชคอนันต์ นาคสงวน (ที่ 2 จากซ้าย) ผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาลวัดธรรมนิมิต และนางสาวณัฏฐ์วิภา สุริยันต์ (ที่ 2 จากขวา) รองผู้อำนวยการกลุ่มบริหารงานบุคคล โรงเรียนถาวรานุกูล เป็นผู้รับมอบ ผ่านกิจกรรม “สำนักงาน คปภ. รวมพลังภาคประกันภัย รวมใจเพื่อการศึกษาให้กับโรงเรียนภายใต้การอุปถัมภ์ของวัดธรรมนิมิต” เพื่อส่งเสริมด้านการศึกษาแก่เด็กนักเรียนของโรงเรียนในพระอุปถัมภ์ของวัดธรรมนิมิตทั้ง 2 แห่ง ซึ่งกิจกรรมครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเอไอเอ ประเทศไทย ในการมีส่วนร่วมกับสังคมและชุมชน ผ่านการสนับสนุนกิจกรรมทางศาสนาและวัฒนธรรม ตลอดจนส่งเสริมด้านการศึกษาของเยาวชนไทย สอดคล้องกับพันธกิจที่มุ่งมั่นในการสนับสนุนให้คนไทยและเยาวชนมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ตามคำมั่นสัญญา ‘Healthier, Longer, Better Lives’
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ประกันชีวิต
23/09/2025
เอไอเอ ประเทศไทย โดย นายนิคฮิล แอดวานี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร รับรางวัล DAILYNEWS TOP CEO 2025 สาขาธุรกิจประกันชีวิตและสุขภาพ เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน โดยหนังสือพิมพ์เดลินิวส์และเดลินิวส์ออนไลน์จัดขึ้นเพื่อยกย่องและเชิดชูเกียรติผู้บริหารสูงสุดขององค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน ที่สร้างผลงานโดดเด่นเป็นที่ประจักษ์ และมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ เพื่อให้เป็นแบบอย่างและแรงบันดาลใจให้แก่ผู้บริหารรุ่นใหม่โดยรางวัลนี้ได้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของนายนิคฮิล แอดวานี ในฐานะผู้นำองค์กร ที่ขับเคลื่อนพันธกิจของเอไอเอให้ก้าวไปข้างหน้า พร้อมสนับสนุนให้ผู้คนมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ตามคำมั่นสัญญา “Healthier, Longer, Better Lives” รวมทั้งความทุ่มเทในการพัฒนาอุตสาหกรรมประกันชีวิตของไทย ผ่านกลยุทธ์การยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง มุ่งเน้นการพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีและดิจิทัล สร้างบุคลากรให้มีความแข็งแกร่ง และให้ความสำคัญกับนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) เพื่อความยั่งยืนสำหรับงาน DAILYNEWS TOP CEO 2025 จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 เพื่อฉลองในวาระเดลินิวส์ครบรอบ 61 ปี โดยงานขึ้น ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ข่าวทั่วไป
24/09/2025
• ท่ามกลางความท้าทายรอบด้าน ความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน (Well-being) ได้กลายเป็นปัจจัยสำคัญเชิงกลยุทธ์ต่อความสำเร็จขององค์กร ไม่ใช่เพียงค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย • Well-being ไม่ได้จำกัดแค่สุขภาพกายและใจ แต่ครอบคลุม 5 มิติสำคัญ ได้แก่ กายภาพ จิตใจ สังคม อาชีพ และ ความหมายของงาน ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพและลดภาวะหมดไฟ • การสร้าง Well-being ที่แท้จริงไม่ได้ขึ้นอยู่กับสวัสดิการ หรือสิ่งอำนวยความสะดวก แต่เกิดจากการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เน้นความไว้วางใจ การรับฟัง และ การสนับสนุนซึ่งกันและกันในอดีตผู้บริหารองค์กรอาจเน้นการเติบโตทางธุรกิจ การขยายตลาด หรือ การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตเป็นสำคัญ แต่ในปัจจุบันความท้าทายรอบด้าน ได้เปลี่ยนสมการความสำเร็จไปอย่างสิ้นเชิง เราอยู่ในยุคที่เศรษฐกิจโลกผันผวนไม่หยุดหย่อน เทคโนโลยีใหม่ๆ เกิดขึ้นแทบทุกวัน ความคาดหวังของผู้บริโภคสูงขึ้นกว่าที่เคย และการแข่งขันไม่ได้จำกัดแค่ในประเทศ แต่ข้ามพรมแดนและเวลาภายใต้ระเบียบโลกที่ไม่เหมือนเดิม ท่ามกลางแรงกดดันเหล่านี้ สิ่งที่ผู้บริหารหลายคนอาจมองข้ามคือ “คนในองค์กร” หากบุคลากร คือ หัวใจของการขับเคลื่อน แต่หัวใจดวงนี้อ่อนล้า องค์กรย่อมไม่สามารถวิ่งไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง คำถามสำคัญคือ ผู้บริหารกำลังลงทุนใน “ความเป็นอยู่ที่ดี” ของทีมงานมากน้อยเพียงใดหลายคนเข้าใจ Well-being แค่เพียง “สุขภาพดี” หรือ “ไม่เครียด” แต่ในเชิงวิชาการ Well-being คือ คุณภาพชีวิตโดยรวมที่คนทำงานรับรู้และสัมผัสได้ ไม่ใช่เฉพาะเรื่องสุขภาพกายหรือใจ หากครอบคลุมถึงการมีความหมาย ความสัมพันธ์ และความมั่นคงในชีวิต มิติที่มักใช้กันอย่างแพร่หลายมี 5 ประการ ได้แก่1. กายภาพ (Physical Well-being) คือ การมีสุขภาพกายแข็งแรง ได้พักผ่อนเพียงพอ มีสมดุลระหว่างงานกับชีวิต2. จิตใจ (Mental Well-being) คือ มีความมั่นคงทางอารมณ์ ไม่ถูกกดดันจนเกินไป รู้สึกปลอดภัยในการทำงาน3. สังคม (Social Well-being) คือ มีความสัมพันธ์ที่ดีในทีม รู้สึกว่าไม่ได้ทำงานเพียงลำพัง4. อาชีพ (Career Well-being) คือ มองเห็นเส้นทางความก้าวหน้า มีความพึงพอใจในสิ่งที่ทำ5. ความหมาย (Purpose Well-being) คือ รับรู้ว่างานที่ทำมีคุณค่าและส่งผลต่อคนอื่น ไม่ใช่เพียงการทำตามหน้าที่หากองค์กรละเลยแม้เพียงหนึ่งมิติ ความเสี่ยงของการเกิดภาวะ “หมดไฟ” (burnout) ย่อมสูงขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การลดลงของประสิทธิภาพและการสูญเสียบุคลากรที่มีศักยภาพ จากประสบการณ์ที่ปรึกษาธุรกิจหลายองค์กรพบรูปแบบที่แตกต่างกันชัดเจน บางแห่งทุ่มงบประมาณมหาศาลสร้างสวัสดิการ สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งฟิตเนส ห้องพักผ่อน พื้นที่ทำงานสวยงาม แต่ในขณะเดียวกัน กลับมีวัฒนธรรมการทำงานที่เต็มไปด้วยความกลัว การแข่งขันที่ไม่สร้างสรรค์ และ การสื่อสารที่เป็นทางเดียว ผลลัพธ์ คือ ทีมงานไม่ได้รู้สึก “อยู่ดี” แต่กลับหมดแรงใจในอีกมุมหนึ่งองค์กรขนาดกลางที่ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกหรูหรา แต่ผู้บริหารเปิดพื้นที่ให้ทีมงานแสดงความคิดเห็น รับฟังด้วยความจริงใจ และกล้าที่จะยอมรับความผิดพลาดของลูกน้องพร้อมช่วยแก้ไขร่วมกันผลลัพธ์คือ ทีมงานรู้สึกได้รับการยอมรับ และพร้อมทุ่มเทให้องค์กรอย่างเต็มกำลัง นี่เป็นบทเรียนที่สะท้อนชัดว่า Well-being ไม่ใช่เรื่องของสิ่งปลูกสร้าง หรือ กิจกรรมพิเศษ แต่คือการสร้าง “วัฒนธรรมที่ดูแลผู้คน” อย่างแท้จริงผู้บริหารจำนวนไม่น้อยยัง มองว่า Well-being เป็นเรื่องฟุ่มเฟือย เป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่ก่อให้เกิดผลลัพธ์ทางการเงินโดยตรง แต่หากพลิกมุมคิดจะเห็นว่า Well-being คือ “การลงทุนเชิงกลยุทธ์” บุคลากรที่มีสุขภาวะที่ดีจะมีความคิดสร้างสรรค์ และกล้าเสนอไอเดียใหม่ มีพลังในการทำงาน และรับมือกับความเปลี่ยนแปลง ร่วมมือกับเพื่อนร่วมงานได้อย่างจริงใจ และลดอัตราการลาออก ทำให้ประหยัดต้นทุนการสรรหาและฝึกอบรม หลายงานวิจัยยืนยันว่า องค์กรที่ลงทุนด้าน Well-being อย่างจริงจัง มีผลประกอบการที่ดีกว่าองค์กรที่ละเลย เพราะทีมงานที่ “อยู่ดี” จะสร้างผลงานที่ “ยั่งยืน” หากองค์กรต้องการเริ่มต้นในการสร้างความ “อยู่ดี” ควรมุ่งเน้นแนวทาง ดังต่อไปนี้1. ฟังด้วยความจริงใจ การฟังเสียงทีมงานไม่ใช่แค่แบบสอบถาม แต่คือการเปิดพื้นที่สนทนาอย่างปลอดภัย2. สร้างบรรยากาศแห่งความไว้วางใจ ความผิดพลาดควรเป็นบทเรียน ไม่ใช่ตราบาป3. ปรับสมดุลงาน-ชีวิต (Work-life balance) การให้ความยืดหยุ่น เช่น work from anywhere หรือ การปรับเวลาทำงาน สามารถลดความเครียดได้อย่างมาก4. พัฒนาเส้นทางอาชีพ บุคลากรต้องเห็นอนาคต ไม่ใช่เพียงทำงานวนซ้ำ5. เน้นความหมายของงาน เชื่อมโยงสิ่งที่ทีมงานทำกับผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมและลูกค้าในยุคที่โลกหมุนเร็วและเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน องค์กรไม่สามารถควบคุมปัจจัยภายนอกได้ทั้งหมด แต่สิ่งหนึ่งที่ผู้บริหารสามารถควบคุมและออกแบบได้คือ “คุณภาพชีวิตของผู้คนในองค์กร” เพราะสุดท้ายแล้ว องค์กรไม่ใช่เพียงโครงสร้างหรือตัวเลข แต่คือ “ผู้คน” หากผู้คนมีพลังใจ มีแรงกาย และเห็นคุณค่าในสิ่งที่ทำ ความท้าทายใดๆ ก็สามารถผ่านพ้นได้ ดังนั้น คำถามสำคัญที่สุดคือ...วันนี้คุณในฐานะผู้บริหาร ได้ทำอะไรแล้วบ้างเพื่อสร้าง Well-being ให้กับทีมงานของคุณบทความ โดย... ผศ.ดร.วัชรพจน์ ทรัพย์สงวนบุญ ศูนย์กลยุทธ์และความสามารถทางการแข่งขันองค์กร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 4130แหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับฐานเศรษฐกิจhttps://www.thansettakij.com/blogs/columnist/638557
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ห้องแสดงนิทรรศการ
24/09/2025
เมื่ออาร์ตทอยไม่ใช่แค่ของเล่น แต่คือศิลปะร่วมสมัยที่บรรจุจินตนาการ วัฒนธรรม และอัตลักษณ์ของศิลปินไว้ในทุกชิ้นงาน “เซ็นทรัล : ดิ ออริจินัล สโตร์” จึงจับมือกับ DDD Arttoys เนรมิตนิทรรศการ “ART TOYLOGY – Local to Cosmic” ชวนทุกคนออกเดินทางจากรากเหง้าท้องถิ่นสู่ความล้ำลึกแห่งห้วงจักรวาล ผ่านอาร์ตทอยสุดสร้างสรรค์กว่า 40 ศิลปินระดับแนวหน้า จากทั้งไทยและต่างประเทศจุดเด่นของ “ART TOYLOGY – Local to Cosmic” คือการนำเสนออาร์ตทอยในฐานะ “สื่อร่วมสมัย” ที่เล่าเรื่องได้ลึกกว่าภาพลักษณ์น่ารักสดใส ผ่านมุมมองและสไตล์ที่หลากหลายจากศิลปินชื่อดัง เช่น Aethur, Captain Mozmo, MIWD, Funheart, Buddhaandz, Plapatootoo และอีกมากมาย โดยแต่ละชิ้นงานไม่เพียงมีความแปลกตา แต่ยังเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจและความหมายส่วนตัวของผู้สร้างวิน ภัทรพงศ์ ผู้สร้าง Plapatootooญาโณทัย ตรีรัตน์โชติกุล ผู้สร้าง Buddhaandzหนึ่งในไฮไลต์พิเศษคือ กิจกรรม Artist Talk ที่จัดขึ้นในวันเปิดงาน โดยได้รับเกียรติจากสองศิลปินไทยที่มีผลงานโดดเด่นในวงการอาร์ตทอย ได้แก่ “วิน–ภัทรพงศ์ ชูสุทธิ์สกุล” เจ้าของผลงาน Plapatootoo ปลาทูเอเลียนจากสมุทรสงคราม และ “ญาโณทัย ตรีรัตน์โชติกุล” หรือ Buddhaandz ผู้ตีความพุทธปรัชญาในรูปแบบป๊อปคัลเจอร์ ทั้งสองได้มาร่วมพูดคุยและแบ่งปันแรงบันดาลใจท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่นและผู้ชมที่ให้ความสนใจจำนวนมาก“ART TOYLOGY – Local to Cosmic” คือมากกว่านิทรรศการของเล่น แต่นี่คือพื้นที่แสดงพลังความคิดสร้างสรรค์จากท้องถิ่นไทยสู่สายตาระดับโลก เป็นบทสนทนาแห่งจิตวิญญาณร่วมสมัย ที่พร้อมจะจุดประกายจินตนาการใหม่ให้กับทุกคนที่มาเยือนมาสัมผัสอาร์ตทอยที่ “มีชีวิต” ด้วยตัวเองได้ที่ Central Space ชั้น 3 เซ็นทรัล : ดิ ออริจินัล สโตร์ (เจริญกรุง) เปิดให้เข้าชมฟรี ตั้งแต่วันนี้ - 30 กันยายน 2568 เปิดวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 10.00 - 18.00 น.แหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับ onceinlifehttps://onceinlife.co/art-toylogy-local-to-cosmic-centraltheoriginalstore
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ข่าวทั่วไป
24/09/2025
ไม่ว่าคุณจะเดินทางเพื่อพักผ่อน ท่องเที่ยว หรือไปทำงาน กระเป๋าเดินทางคือหนึ่งในสิ่งของที่สำคัญที่สุด เพราะมันไม่ได้แค่ใช้ใส่เสื้อผ้าและของใช้ แต่ยังเป็นตัวช่วยให้การ เตรียมตัวขึ้นเครื่องบิน และการวางแผน การเดินทาง ของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นขนาดและประเภทของกระเป๋าเดินทางที่เหมาะสมเลือกให้ตรงกับระยะเวลาและรูปแบบการเดินทางของคุณขนาดของกระเป๋าเดินทางควรสัมพันธ์กับจำนวนวันที่คุณจะเดินทาง และข้อจำกัดของสายการบิน • ถ้าคุณเดินทางเพียง 1-3 วัน เช่น ไปทำงานหรือทริปสั้น กระเป๋าขนาดเล็กแบบถือขึ้นเครื่อง (Carry-on) ขนาดประมาณ 18-20 นิ้ว จะเหมาะมาก เพราะพกพาสะดวก ไม่ต้องเสียเวลาโหลดใต้เครื่อง • หากเดินทาง 4-7 วัน เช่น ท่องเที่ยวในประเทศหรือต่างประเทศระยะสั้น ควรมีกระเป๋าขนาดกลาง ประมาณ 22-26 นิ้ว ซึ่งจุของได้เพียงพอ • ส่วนการเดินทางระยะยาว หรือเดินทางกับครอบครัว ควรใช้กระเป๋าใบใหญ่ ขนาด 28-32 นิ้ว เพื่อให้มีพื้นที่พอสำหรับเสื้อผ้าและของใช้ที่หลากหลายการเลือกขนาดกระเป๋าที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณ เตรียมตัวท่องเที่ยว ได้ง่ายขึ้น ไม่พกของมากเกินไป และไม่ต้องจ่ายค่าน้ำหนักเกินโดยไม่จำเป็นวัสดุของกระเป๋าเดินทาง: แข็งหรือผ้าดี?เลือกวัสดุที่ตอบโจทย์กับสไตล์และจุดหมายปลายทางของคุณกระเป๋าเดินทางมีอยู่หลักๆ 2 ประเภทคือ แบบแข็ง (Hard Case) และแบบผ้า (Soft Case) • กระเป๋าแบบแข็ง ทำจากวัสดุอย่าง ABS หรือ Polycarbonate ซึ่งมีข้อดีคือ ทนทานต่อแรงกระแทก กันน้ำได้ดี เหมาะกับการโหลดใต้เครื่อง และเหมาะมากหากคุณต้องพกของมีค่า • กระเป๋าแบบผ้า มีน้ำหนักเบา ยืดหยุ่นได้ดี เหมาะกับคนที่ต้องการช่องเก็บของด้านนอก หรือมีของที่หยิบใช้งานบ่อย เช่น เอกสาร หรืออุปกรณ์เสริมต่างๆถ้าคุณต้องเดินทางด้วยเครื่องบินบ่อย หรือเจอสภาพอากาศไม่แน่นอน เช่น ฝนตก แนะนำให้เลือกแบบแข็ง ส่วนคนที่ชอบเดินทางในเมือง ขึ้นรถไฟ รถทัวร์ หรือไปต่างจังหวัดแบบสบายๆ แบบผ้าก็เป็นตัวเลือกที่ดีฟังก์ชันเสริมที่ควรมีในกระเป๋าเดินทางเพื่อให้การเตรียมตัวท่องเที่ยวสะดวกและปลอดภัยมากขึ้น1. ล้อลากหมุนได้ 360 องศาเลือกแบบที่มี 4 ล้อ หมุนได้รอบทิศทาง จะช่วยให้คุณลากกระเป๋าได้อย่างลื่นไหล แม้ต้องเดินบนพื้นขรุขระหรือลากในสนามบิน2. ระบบล็อกมาตรฐาน TSAระบบล็อก TSA ได้รับการรับรองจากเจ้าหน้าที่ศุลกากรและสนามบินในหลายประเทศ หากมีกระเป๋าที่ล็อกด้วยระบบนี้ เจ้าหน้าที่สามารถเปิดเพื่อตรวจได้โดยไม่ต้องทำลายล็อก ช่วยเพิ่มความปลอดภัยของสัมภาระ3. ด้ามจับแข็งแรง ปรับระดับได้ควรมีทั้งที่จับบนกระเป๋า และคันชักยืดหดได้ง่าย ด้ามจับต้องไม่ฝืด แข็งแรง และไม่สั่นคลอนเวลาลาก4. น้ำหนักเบา ไม่เปลืองน้ำหนักสัมภาระกระเป๋าที่น้ำหนักเบา ช่วยให้คุณใช้โควต้าน้ำหนักจากสายการบินได้อย่างเต็มที่ พกของได้มากขึ้นโดยไม่เสียค่าน้ำหนักเกิน5. ช่องจัดระเบียบภายในดีเยี่ยมช่องแบ่งใส่ของภายในจะช่วยให้คุณจัดกระเป๋าได้เป็นสัดส่วน เช่น เสื้อผ้า อุปกรณ์อาบน้ำ สายชาร์จ รองเท้า และของจิปาถะต่างๆ หยิบใช้งานง่าย ไม่ต้องรื้อกระเป๋าทั้งใบสิ่งที่ต้องตรวจสอบก่อนซื้อกระเป๋าเดินทางเพื่อให้ได้ของดี ใช้ได้นาน ไม่เสียใจภายหลังตรวจสอบขนาดของกระเป๋าให้เหมาะกับกฎของสายการบินที่คุณใช้เป็นประจำ โดยเฉพาะกระเป๋าขึ้นเครื่อง เพราะแต่ละสายการบินมีข้อกำหนดต่างกัน • ลองลากจริงที่หน้าร้าน หรือลองเปิดปิดซิป เพื่อทดสอบความแข็งแรงของวัสดุและซิป • ดูเงื่อนไขการรับประกัน เช่น หากล้อแตก ซิปพัง หรือด้ามหัก จะสามารถส่งซ่อมหรือเปลี่ยนได้หรือไม่ • หลีกเลี่ยงกระเป๋าที่ไม่มีแบรนด์ หรือไม่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัย เพราะอาจทำให้สัมภาระเสียหายหรือสูญหายระหว่างเดินทางแบรนด์กระเป๋าเดินทางยอดนิยมที่คนไทยนิยมใช้หากคุณกำลังมองหาแบรนด์ที่เชื่อถือได้ ลองพิจารณาแบรนด์เหล่านี้: • Samsonite – ความทนทานสูง ดีไซน์เรียบหรู ใช้งานได้ยาวนาน • American Tourister – เหมาะกับนักเดินทางทั่วไป ราคากลาง คุณภาพดี • Kamiliant / Caggioni – เหมาะกับผู้เริ่มต้นเดินทาง ราคาประหยัด • MUJI / Xiaomi – ดีไซน์มินิมอล น้ำหนักเบา เหมาะกับสายเที่ยวแบบคล่องตัวกระเป๋าเดินทางที่ดี คือผู้ช่วยสำคัญของทุกทริปการเลือกซื้อกระเป๋าเดินทางที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณ เตรียมตัวขึ้นเครื่องบิน ได้รวดเร็ว คล่องตัว ไม่ต้องห่วงเรื่องน้ำหนักเกินหรือของหาย อีกทั้งยังช่วยให้ การเตรียมตัวท่องเที่ยว เป็นเรื่องง่ายขึ้นหลายเท่า อย่าลืมพิจารณาทั้งขนาด วัสดุ ฟังก์ชัน และความคุ้มค่า เพื่อให้กระเป๋าใบที่คุณซื้อมา ใช้งานได้จริงในทุกการเดินทางแหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับ sanookhttps://www.sanook.com/travel/1452519/
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
29/04/2024
16/01/2025
03/09/2024
30/04/2024
30/04/2024