Everyday knowledge for you
ประกันชีวิต
23/12/2025
เอไอเอ ประเทศไทย โดย นายสุขวัฒน์ ประเสริฐยิ่ง (ซ้ายสุด) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ. เอไอเอ (ประเทศไทย) เป็นตัวแทนร่วมรับโล่เกียรติคุณจาก ศ.นพ.อภิชาติ อัศวมงคลกุล (ที่ 3 จากขวา) คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดโครงการ และประธานในพิธี เพื่อเป็นการแทนคำขอบคุณในฐานะผู้ให้การสนับสนุนมอบความคุ้มครองและสนับสนุนกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุกลุ่มฟรีแก่ประชาชนจาก 77 จังหวัดทั่วไทย ที่ลงทะเบียนเข้าร่วม “โครงการแสงนำใจไทยทั้งชาติ เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 11 เฉลิมพระเกียรติ” จำนวน 359,885 กรมธรรม์ ถือเป็นการประกาศความสำเร็จในการสร้างความตระหนักรู้โรคหลอดเลือดสมอง พร้อมเน้นย้ำว่าการออกกำลังกายมีความสำคัญต่อสุขภาพและช่วยให้ห่างไกลจากโรค ต่อยอดสู่การมีสมองที่ดี สำหรับปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 11 ในหัวข้อ “ออกกำลังเป็นนิสัย ห่างไกลสโตรค (No Stop No Stroke)” ซึ่งโครงการดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐและภาคเอกชนร่วมกันจัดโครงการจนสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ในการนี้ ยังได้รับเกียรติตาก ศ.ดร.นพ.ยงยุทธ ศิริวัฒนอักษร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช และ รศ.นพ.ยงชัย นิละนนท์ ประธานศูนย์โรคหลอดเลือดสมองศิริราชและประธานคณะกรรมการดำเนินงาน ให้เกียรติร่วมงาน ณ อาคารศรีสวรินทิรา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลทั้งนี้การสนับสนุนครั้งนี้สอดคล้องกับนโยบายด้านความยั่งยืน (ESG) ของเอไอเอ และพันธกิจในการสนับสนุนให้ผู้คนกว่าพันล้านคนมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้นตามคำมั่นสัญญา ‘Healthier, Longer, Better Lives’ ผ่านกิจกรรมสาธารณประโยชน์ต่าง ๆ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ท่องเที่ยว
23/12/2025
ชมความงามของช่วงเวลา “แสงแรก” ที่อุทยานแห่งชาติผาแต้ม อุบลราชธานี หนึ่งในจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามอีกแห่งของแดนอีสานชวนรับความงามของแสงแรกของวัน ณ “จุดชมวิวทิวทัศน์ผาแต้ม” พื้นที่อุทยานแห่งชาติผาแต้ม อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นตำแหน่งที่เห็นพระอาทิตย์ขึ้นเป็นจุดแรกๆในประเทศไทย หรือที่หลายคนเรียกกันว่า “จุดรับตะวันก่อนใครในสยาม”บริเวณเนินผาชมวิว มีทัศนียภาพของขุนเขาฝั่ง สปป.ลาว และป่าเต็งรังริมแม่น้ำโขง เป็นเส้นกั้นพรมแดนระหว่างประเทศไทย และ สปป.ลาว ที่มีธรรมชาติสวยงามน่าประทับใจ โดยเฉพาะช่วงเวลาที่แสงแรกโผล่พ้นทิวเขาจากฝั่งลาว อาบแสงทองอบอุ่นไปทั่วผืนป่าและผืนน้ำสำหรับอุทยานแห่งชาติผาแต้ม ตั้งแยู่ใน ต.ห้วยไผ่ อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานีสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร.04 -5252-581บันทึกภาพ ณ วันที่ 19 ธ.ค. 2568แหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับผู้จัดการออนไลน์https://mgronline.com/travel/detail/9680000122518
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ประกันชีวิต
18/12/2025
เอไอเอ ประเทศไทย เดินทางเยือนจังหวัดตาก จัดงานมอบรางวัลแก่โรงเรียนที่ชนะเลิศในโครงการ ‘สุดยอดโรงเรียนสุขภาพดี - AIA Healthiest Schools’ ปีที่ 3 ซึ่งได้แก่ โรงเรียนเทศบาล 1 กิตติขจร โดยชนะเลิศในประเทศ ระดับมัธยมศึกษา ได้รับรางวัลมูลค่า 350,000 บาท ซึ่งโรงเรียนเทศบาล 1 กิตติขจร ยังสามารถคว้ารางวัลชนะเลิศด้านการดูแลสุขภาพและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนจากเวทีระดับภูมิภาคได้อีกด้วย จากผลงานสร้างสรรค์ในการนำใบไม้ร่วงมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ชีวภาพ ช่วยลดปัญหามลพิษ และส่งเสริมจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพในชุมชนได้อย่างเป็นรูปธรรม นับเป็นความภาคภูมิใจและเป็นต้นแบบของโรงเรียนในประเทศไทยที่สามารถแสดงศักยภาพด้านนวัตกรรมเพื่อสุขภาวะในระดับโลกได้อย่างโดดเด่น รวมรางวัลที่โรงเรียนได้รับมูลค่ากว่า 486,000 บาททั้งนี้ เอไอเอ ประเทศไทย ได้จัดสรรเงินจำนวนนี้เป็นอุปกรณ์เครื่องคอมพิวเตอร์พร้อมชุดโต๊ะเก้าอี้จำนวน 20 ชุด ให้กับทางโรงเรียน พร้อมมอบทุนการศึกษาให้แก่นักเรียน รวม 20,000 บาท เพื่อเชิดชูและยกย่องทางโรงเรียนให้เป็นโรงเรียนต้นแบบในการดูแลและส่งเสริมนักเรียน คุณครู ผู้ปกครอง ตลอดจนชุมชนโดยรอบ ทั้งในด้านสุขภาพกาย สุขภาพใจ โภชนาการ ตลอดจนการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อสร้างความยั่งยืน ตามแนวทางหลักของโครงการ ‘สุดยอดโรงเรียนสุขภาพดี - AIA Healthiest Schools’ในงานได้รับเกียรติจาก นายองอาจ วงษ์ประยูร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายสวนิต สุริยกุล ณ อยุธยา รองผู้ว่าราชการจังหวัดตาก นายณพล ชยานนท์ภักดี นายกเทศมนตรีเมืองตาก ร่วมเป็นประธานในงาน ร่วมด้วยคณะผู้บริหารเอไอเอ ประเทศไทย นำโดย นางสาวชลิดา นครชัย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด นายมนต์ชัย บุณยรัตพันธุ์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารตัวแทนภูมิภาค 3 และนางสาวรพีพร วงศ์ทองคำ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรและภาพลักษณ์นางสาวชลิดา นครชัย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด กล่าวว่า “รู้สึกดีใจและเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้มาร่วมแสดงความยินดีและมอบรางวัลให้แก่โรงเรียนเทศบาล 1 กิตติขจร จังหวัดตาก ที่ได้รับรางวัลจากโครงการสุดยอดโรงเรียนสุขภาพดี หรือ AIA Healthiest Schools ในระดับชั้นมัธยมศึกษา โดยชนะเลิศทั้งในระดับประเทศ และระดับภูมิภาค ซึ่งได้รางวัลชนะเลิศด้านการดูแลสุขภาพและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน จากการทำโครงงาน “3 Fingers to Save the World” แสดงให้เห็นถึงพลังการขับเคลื่อนเพื่อการเปลี่ยนแปลงด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง“ความตั้งใจ ความพยายามของทุกภาคส่วน ทั้งผู้บริหารโรงเรียน คณะครู นักเรียน รวมถึงผู้ปกครอง และชุมชนที่ร่วมกันในการส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ถือเป็นสิ่งที่น่ายกย่อง และเป็นแรงบันดาลใจให้กับพวกเราทุกคน เราขอชื่นชมในความทุ่มเทของผู้ที่มีส่วนในการทำโปรเจ็คต์ด้านสิ่งแวดล้อมได้อย่างโดดเด่นจนได้รับรางวัลในครั้งนี้ โดยโครงการสุดยอดโรงเรียนสุขภาพดีนั้น เป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นของเอไอเอในการสนับสนุนให้เด็กและเยาวชนไทยมีสุขภาพกายและใจที่แข็งแรง พร้อมเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพในอนาคต ดังคำมั่นสัญญาของเรา “Healthier, Longer, Better Lives”ทั้งนี้ เอไอเอ ประเทศไทย ขอเชิญชวนโรงเรียนระดับประถมและมัธยมศึกษาที่สนใจ สมัครเข้าร่วมโครงการ ‘สุดยอดโรงเรียนสุขภาพดี - AIA Healthiest Schools’ ปีที่ 4 ได้แล้วที่เว็บไซต์ ahs.aia.com/th/th/ ตั้งแต่วันนี้ ถึง 10 มีนาคม 2569 เพื่อชิงรางวัลรวมมูลค่าถึง 3.5 ล้านบาท และได้เป็นตัวแทนประเทศไทย เข้าร่วมการแข่งขันในระดับนานาชาติ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ข่าวการเงิน
17/12/2025
“เบื้องหลังคนชอบ “เล่นหวย” ในทางจิตวิทยาเพราะรู้สึกว่าต้องถอนทุนคืน และอาจเป็นการซื้อความสุขจากการได้หวังว่าจะถูกหวย ในอีกทางถ้าอยากลุ้นรางวัลแบบเงินต้นไม่หายมีทางเลือกแบบไหนบ้าง”“รอถูกหวยก่อน เดี๋ยวซื้อให้”ประโยคสุดคลาสสิกที่พ่อแม่ชอบใช้ในเวลาที่เราขอซื้อของ แต่รู้ไหมว่า เบื้องลึกของคำพูดนี้ไม่ได้เป็นแค่การปฏิเสธที่จะซื้อของเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงพฤติกรรมการชอบเสี่ยงโชค และความหวังด้านการเงินอีกด้วยทำไมคนถึงนิยมเล่นหวย แม้จะไม่ค่อยถูกในทางจิตวิทยานั้นมีคำอธิบายไว้ชัดเจน โดย The University of Texas Permian Basin เล่าถึง จิตวิทยาลอตเตอรี่ (Lottery Psychology) ไว้ว่าเชื่อมโยงกับหลายเรื่องทั้งอคติทางความคิด แรงจูงใจทางอารมณ์ ไปจนถึง Mental Shortcut (ทางลัดทางจิตใจ) ที่ทำให้คนยังเลือกซื้อ ลอตเตอรี่ หรือ หวยแม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าโอกาสที่จะถูกรางวัลนั้นมีน้อยมากในมุมมองนักจิตวิทยา มีราว 4 เหตุผลว่าทำไมคนยังชอบเล่นหวยคือ1. กับดัก “เกือบถูกรางวัล”ความรู้สึกว่า พลาดไปแค่นิดเดียว ทำให้หลายคนยังเลือกซื้อหวยต่อเนื่อง นี่อาจเปรียบเหมือนจังหวะที่นักกีฬาที่เกือบจะเตะเข้าประตูอยู่แล้วแต่ก็พลาดไป นี่ทำให้เขายังพยายามมากขึ้นและหวังว่าใกล้ละ ครั้งหน้าต้องดีกว่าเดิมความรู้สึกนี้อาจเกิดขึ้นกับคนที่ซื้อหวยหลายๆ คนเช่นกัน เมื่อซื้อหวยแล้วเลขออกมาตรงไป 4 จาก 6 ตัวก็อาจรู้สึกว่านี่คือสัญญาณที่ต้องเล่นต่อไป2. เสียดายทุนเดิมในโลกการลงทุนหลายคนคงเคยได้ยินคำว่า sunk-cost หรือ ต้นทุนจม ที่ทำให้ต่อให้หุ้นดอยแค่ไหนเราก็จะถือต่อไป เพราะเสียดายเงินที่ลงไปแล้ว สำหรับสายหวยก็อาจรู้สึกแบบนั้นเช่นกัน ว่าเราเสียเงินซื้อมาหลายปี หมดเงินไปตั้งเยอะ ถ้าเลิกตอนนี้ที่ลงทุนไปก็สูญเปล่าสิ เลยต้องกัดฟันซื้อต่อไปเรื่อยๆ เพื่อหวังถอนทุนคืน3. ถ้าหากฉันถูกหวย?เราเห็นข่าวคนถูกหวยกันมามาก นี่อาจสร้าง Availability bias/heuristic หรือการตัดสินใจที่เกิดจากอคติทางความคิด เช่น เราอาจรู้สึกว่าเรื่องนี้มีโอกาสเกิดขึ้นกับเรา แม้ว่าเปอร์เซ็นต์การเกิดจะมีน้อย เช่น เราเห็นข่าวคนถูกรางวัลที่ 1 กันบ่อยๆ ไม่ค่อยมีเรื่องราวของคนถูกหวยกินแม้จะมีจำนวนมากกว่า นี่อาจเป็นการกระตุ้นให้สมองของเราเชื่อว่า นี่ไม่ใช่เรื่องยากอะไร และลองเสี่ยงโชคดู ทั้งที่ในความเป็นจริงนั้นเกิดขึ้นได้ยาก4. ซื้อความบันเทิงแม้หลายคนจะรู้ว่าความหวังจากหวยนั้นน้อยนิด แต่สำหรับบางคนแล้วมันคือความสุขทางใจ เหมือนกับที่เรายอมเสียเงินไปดูหนังหรือคอนเสิร์ตเพื่อแลกกับความบันเทิงให้ตัวเอง ไม่ใช่เพื่อเก็งกำไร ซึ่งหวยนั้นเปรียบเสมือน “ฝันกลางวัน” ที่ราคาจับต้องได้ เนื่องจากผู้ซื้อได้รู้สึกลุ้นว่าถ้าถูกรางวัลก็อาจจะได้เงินหลักล้านกลับคืนมาดังนั้นเมื่อหวยกลายเป็นอีกหัวข้อที่หลายครอบครัวใช้คุยเล่นกันเสมอ เหมือนที่บางบ้านพ่อแม่มักจะบอกลูกให้รอถูกหวยก่อนถึงจะซื้อของให้ จึงเป็นอีกเรื่องที่ใกล้ตัวเรากว่าที่คิด“หวย” ความหวังที่สะท้อนความเหลื่อมล้ำ?ในขณะที่หลายประเทศ ผู้คนซื้อลอตเตอรี่ด้วยความหวังเพียงเพื่อความสนุกตื่นเต้น แต่สำหรับบริบทของประเทศไทย การเสี่ยงดวงกับตัวเลขกลับเป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจราวกับเป็นวาระแห่งชาติ เห็นได้ชัดจากการถ่ายทอดสดการออกรางวัลที่คนเฝ้าดูทั้งประเทศ ข่าวคนถูกรางวัลที่ถูกนำเสนออย่างล้นหลามหน้าโซเชียลมีเดีย รวมไปถึงการใบ้เลขเด็ดต่าง ๆ ทั้งออฟไลน์และในโลกออนไลน์ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธานี ชัยวัฒน์ ผู้อำนวยการศูนย์เศรษฐศาสตร์พฤติกรรมและการทดลองแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เคยกล่าวเอาไว้ในบทความ “ล็อตเตอรี่: ความหวังและการเลื่อนชั้นทางสังคม” ว่า เรามักจะได้ยินคนพูดกันว่าการซื้อหวยคือการซื้อความหวัง แต่หากมองให้ลึกกว่านั้น คนส่วนใหญ่ที่หวังจะถูกหวยหรือลอตเตอรี่ เพราะเขาแทบไม่เหลือความหวังอื่นในชีวิตที่จะร่ำรวยขึ้นได้อีกแล้ว เราอยู่ในสังคมที่คนยากจนมีโอกาสแทบจะเป็นศูนย์ในการเลื่อนชั้นทางสังคม (social mobility)ยิ่งเป็นคนที่อยู่ในฐานล่างของสังคม โอกาสขยับขึ้นมาเป็นชนชั้นกลางก็ยิ่งริบหรี่ และเมื่อเป็นชนชั้นกลางแล้ว การจะถีบตัวขึ้นไปเป็นคนรวยก็ยิ่งยากเข้าไปใหญ่ การฝากความหวังไว้กับ “หวย” จึงกลายเป็นกระจกบานใหญ่ที่สะท้อนภาพความเหลื่อมล้ำของไทยได้อย่างเจ็บปวด“ถ้าผมขยันแล้วผมสามารถร่ำรวยขึ้นได้ในประเทศนี้ ผมอาจจะสนใจลอตเตอรี่น้อยลง แต่เราจะเห็นว่ามีคนยากจนจำนวนมาก ที่ทำงานหนักและเหนื่อยกว่าผมอีก แต่แทบไม่มีความหวังที่จะมีฐานะที่ดีขึ้น” ธานีกล่าวยิ่งเป็นกลุ่มคนที่มีรายได้น้อย โอกาสขยับขึ้นมาเป็นชนชั้นกลางก็ยิ่งริบหรี่ และเมื่อเป็นชนชั้นกลางแล้ว การจะถีบตัวขึ้นไปเป็นคนรวยก็ยิ่งยากเข้าไปใหญ่ การฝากความหวังไว้กับ “หวย” จึงกลายเป็นกระจกบานใหญ่ที่สะท้อนภาพความเหลื่อมล้ำของไทยได้อย่างเจ็บปวดอยากซื้อหวยให้เงินไม่หาย ทำยังไงได้บ้าง?ประเทศไทยตัวเลขวงการหวยถือว่าไม่น้อยเลย เพราะมีข้อมูลจากกระทรวงการคลังว่า เม็ดเงินที่จมอยู่ในวงการเสี่ยงโชคในรูปแบบต่างๆ นั้น อาจสูงถึงปีละ 4-5 แสนล้านบาท/ปี เลยทีเดียว ซึ่งถ้าเราสามารถเปลี่ยนเงินที่ซื้อหวยแล้วหมดไป ให้กลายเป็นลุ้นโชคไปมีเงินเก็บไป จะดีกว่าไหม?หนึ่งในทางเลือกที่น่าสนใจ คือ “สลากออมทรัพย์” เมื่อเราซื้อสลากฯ จากธนาคาร จะมีการกำหนดระยะเวลาที่แน่นอนว่าต้องฝากเป็นระยะเวลาเท่าไร โดยผู้ซื้อสลากจะได้รับดอกเบี้ยตามเงื่อนไขของผลิตภัณฑ์สลากออมทรัพย์ และในระหว่างที่ฝากเงินไว้ ก็จะมีโอกาสลุ้นรางวัลตามหมายเลขสลาก ที่มีการออกรางวัลทุกเดือน เช่น • สลากออมทรัพย์จากธนาคารออมสิน มีทั้งแบบ 1 และ 2 ปี แต่บางปีอาจมีสลากพิเศษออกมาด้วย ตัวอย่างของสลากฯ ที่ออกขาย เช่น สลากออมสินพิเศษดิจิทัล 1 ปี หน่วยละ 100 บาท ลุ้นรางวัลที่ 1 มูลค่า 10 ล้านบาท ทุกเดือน นาน 12 เดือน อัตราดอกเบี้ย 0.20% ต่อปี เป็นต้น • สลากออมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) มีหลากหลายรูปแบบ เช่น สลากชุดทองกวาวมั่งมี อายุ 1 ปี ราคาอยู่ที่หน่วยละ 1,000 บาท มีสิทธิ์ลุ้นรางวัลที่ 1 มูลค่า 3 ล้านบาท ลุ้นได้ 12 ครั้ง และมีอัตราดอกเบี้ย 0.50% ต่อปี เป็นต้น • สลากออมทรัพย์ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) มีหลากหลายรูปแบบ เช่น สลากชุดขุนแผนมรกต อายุ 2 ปี หน่วยละ 2,000 บาท มีสิทธิ์ลุ้นรางวัลที่ 1 (เสี่ยงหมวด) มูลค่า 40 ล้านบาท ลุ้นได้ 24 ครั้ง และมีอัตราดอกเบี้ย 0.475% ต่อปีนอกจากนี้ภาครัฐอยู่ระหว่างผลักดัน “สลากกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.)” ซึ่งจะเป็นตัวช่วยออมเงินให้เราได้ เนื่องจากเงินซื้อสลากทั้งหมดจะเป็นเงินออมของผู้ซื้อ ซึ่งเงินส่งเข้าบัญชีเงินออมรายบุคคลกับ กอช. และเมื่อผู้ออมอายุครบ 60 ปี จะคืนเงินทั้งหมดทุกบาท ทุกสตางค์ที่ซื้อสลากมาทั้งชีวิตบวกกับผลตอบแทนการลงทุนให้กับผู้ออมด้วยเงื่อนไขของโครงการนี้ คือ • เป็นสลากขูดแบบดิจิทัล ราคาฉบับละ 50 บาท • ผู้มีสัญชาติไทยอายุ 15 ปีขึ้นไปทุกคนสามารถซื้อได้ • ซื้อได้สูงสุดเดือนละ 3,000 บาท (60 ฉบับ) • ออกรางวัลทุกวันศุกร์ เวลา 17.00 น. ประกอบด้วย รางวัลที่ 1 มูลค่า 1 ล้านบาท (5 รางวัล) รางวัลที่ 2 มูลค่า 1,000 บาท (10,000 รางวัล) และ รางวัลแจ็คพอต 1 รางวัล (ถ้ามี) • ถ้าสลากจำหน่ายไม่หมดในงวดนั้น เงินรางวัลจะถูกสมทบไปเป็นแจ็กพอตในงวดถัดไป • ผู้ซื้อสลากจะได้รับเงินออมพร้อมผลประโยชน์เป็นก้อนในครั้งเดียว 4 กรณี คือ 1) อายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ 2) ทุพพลภาพ 3) เสียสัญชาติไทย และ 4) เสียชีวิต โดยจะคืนเงินให้แก่บุคคลที่ระบุไว้ หรือทายาทตามกฎหมาย • หากอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป ต้องออมไว้ 5 ปีหลังจากวันที่ซื้อครั้งแรกก่อน จึงจะได้รับเงินคืน • ถ้าถูกรางวัล เงินจะถูกโอนเข้าบัญชีพร้อมเพย์ • ซื้อผ่านแอปพลิเคชัน กอช. หรือช่องทางอื่น ๆ ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ทั้งนี้ คาดว่าสลาก กอช. จะเริ่มวางขายไตรมาส 1 ในปี 2569 เป็นต้นไป ซึ่งเราอาจต้องมารอติดตามรายละเอียดโครงการนี้กันต่อที่มา : The University of Texas Permian Basin, Psychology Today, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, กระทรวงการคลังแหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับ thairathhttps://www.thairath.co.th/money/personal_finance/financial_planning/2901229
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ประกันภัย
17/12/2025
คอลัมน์ : นอกรอบผู้เขียน : รณดล นุ่มนนท์ผมไม่ปล่อยให้ชีวิตหลังเกษียณผ่านไปอย่างไร้จุดหมาย ยังคงหาเวลาอ่านและเขียนหนังสือ พร้อมตั้งวงสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคนรอบข้าง เพื่อให้สมองได้ทำงานอย่างสม่ำเสมอ เพราะนี่คือ “ยาวิเศษ” ที่ช่วยลดความขี้ลืม และป้องกันโรคอัลไซเมอร์ที่จะกลายเป็นภาระของลูกหลานในอนาคตแต่เพื่อให้สมองได้ทำงานอย่างเต็มศักยภาพ ผมจึงตั้งใจมองหาหลักสูตรที่ยังอยู่ในเกณฑ์ “ลุง” สมัครได้ และตอบโจทย์ความเชื่อที่ว่า “การเรียนรู้ไม่มีวันสิ้นสุด” เริ่มตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาผมสมัครเข้าเรียนหลักสูตร Director Certification Program (DCP) ของสถาบัน Thai IOD เพื่อทำความเข้าใจบทบาท หน้าที่ และความรับผิดชอบของกรรมการบริษัทในด้านกำกับดูแลกิจการอย่างมีประสิทธิภาพ การถอด “หมวกใบเดิม” จากผู้กำกับดูแล ทำให้ได้เห็นมิติใหม่ของความรับผิดชอบที่ต้องอาศัยทั้งความซื่อสัตย์และความระมัดระวัง หรือที่เรียกว่า Fiduciary Dutyหลักสูตร DCP ใช้เวลาเพียงหกสัปดาห์ แต่กลับทำให้ผมติดใจและอยากเรียนรู้เพิ่มเติม จึงเริ่มค้นหาหลักสูตรอื่น จนพบหลักสูตรวิทยาการประกันภัยระดับสูง ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ที่เปิดเรียนตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เหตุผลง่าย ๆ ที่สมัครเพราะเนื้อหาเกี่ยวข้องโดยตรงกับระบบประกันภัย ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของธุรกิจการเงินที่ผมสนใจผู้เข้าอบรมกว่า 150 คนมาจากหลายสาขา ทั้งภาคประกันภัย แพทย์ นักกฎหมาย จนถึงภาคการเงิน ส่วนใหญ่ยังอยู่ในวัยทำงาน แม้จะมีผู้อบรมบางคนอายุเลยเลขหก แต่ทุกคนยังสุภาพพอที่จะเรียกผมว่า “พี่”เนื้อหาหลักสูตรฉายภาพครอบคลุมทั้งประกันวินาศภัยและประกันชีวิต วิเคราะห์แนวโน้มธุรกิจในไทยและต่างประเทศ รวมถึงการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี โดยเฉพาะ AI ที่เปลี่ยนโฉมธุรกิจอย่างมาก สิ่งที่ท้าทายที่สุดคือ การทำให้ประชาชนเข้าใจประโยชน์ของประกันภัยโดยเฉพาะในกลุ่มที่ไม่ได้ถูกบังคับ เช่น ประกันอัคคีภัยหรือภัยธรรมชาติ เพราะหลายคน “ไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตา” ในขณะที่บริษัทประกันต้องเผชิญสภาพแวดล้อมที่ผันผวน ซับซ้อน และคลุมเครือมากขึ้น ทำให้การบริหารความเสี่ยงยิ่งท้าทายไฮไลต์สำคัญของการอบรมคือ การได้ร่วมทำ “ผลงานทางวิชาการ” ของรุ่น ซึ่งคว้ารางวัลดีเด่น โดยได้รับคำแนะนำจาก ดร.ปิยวดี โขวิฑูรกิจ อาจารย์ที่ปรึกษา ให้จัดทำหัวข้อ “กลไกประกันภัยพิบัติไทยผ่านโมเดล AI-Driven ที่ยั่งยืน” แม้ในตอนแรกจะไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหน แต่ทุกคนเห็นพ้องกันว่า เป็นหัวข้อที่น่าศึกษาค้นคว้า เพราะภาวะโลกรวนทำให้เกิดภัยพิบัติถี่ขึ้น รุนแรงขึ้น และกินเวลานานขึ้นเห็นได้จากเหตุการณ์อุทกภัยตั้งแต่แม่สายที่น้ำท่วมเมืองถึงสองครั้งเมื่อต้นปี ไปจนถึงน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่หาดใหญ่ จากปรากฏการณ์ “Rain Bomb” ที่ทำให้เมืองจมน้ำในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง รวมถึงเหตุแผ่นดินไหวในกรุงเทพฯ ที่ทำให้หลายอาคารเสียหายความเสียหายเหล่านี้ยังไม่มีกลไกเยียวยาที่ชัดเจน รัฐบาลยังต้องใช้งบฯฉุกเฉินปีต่อปี ซึ่งล่าช้าและไม่ครอบคลุม ในขณะที่บริษัทประกันเองต่างประสบปัญหาประเมินความเสียหายล่าช้า เช่น กรณีคอนโดฯเสียหายจากแผ่นดินไหว ที่ผ่านมา 7 เดือนกว่าสินไหมทดแทนจะคืบหน้าด้วยปัญหาเช่นนี้ ทีมจึงเริ่มศึกษาต้นแบบต่างประเทศ เช่น Japan Earthquake Reinsurance ที่รัฐและเอกชนร่วมรับความเสี่ยงผ่านกลไกการประกันเป็นทอด ๆ (Risk Layering) และระบบ Catastrophes Naturelles ของฝรั่งเศส ที่บังคับให้ทุกกรมธรรม์ทรัพย์สินมีส่วนร่วมในกองทุนภัยพิบัติแห่งชาติโดยรัฐเป็น Backstop เมื่อเกิดเหตุภัยพิบัติใหญ่ ที่น่าแปลกใจคือ ไทยเองเคยมีกองทุนประกันภัยพิบัติตั้งแต่หลังวิกฤตปี พ.ศ. 2554 แต่ยกเลิกในปี พ.ศ. 2559 เพราะขาดกลไกสะสมทุนที่ยั่งยืน และมีข้อจำกัดด้านการบริหารจัดการจากบทเรียนต่างประเทศและประสบการณ์ในไทย นำมาสู่การเข้าไปขอความเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง คปภ. สมาคมประกันวินาศภัย บริษัทประกันภัย และสภา SMEs เพื่อนำมาวิเคราะห์และเป็นข้อเสนอของทีมงาน ที่พยายามตอบโจทย์บริบทของประเทศไทย คำนึงถึงข้อจำกัดของทั้งภาครัฐบาลและเอกชนโดยเฉพาะด้านการจัดสรรงบประมาณ และการร่วมทุนของภาครัฐและเอกชน โดยในระยะแรกจะมุ่งเน้นคุ้มครองทรัพย์สินของ SMEs ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความเปราะบาง เข้าไม่ถึง และขาดความเข้าใจระบบประกันภัย แต่มีบทบาทสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศกลไกเริ่มต้นจากบริษัทประกันภัยรับประกันภัยจากผู้เอาประกัน ด้วยค่าเบี้ยประกันที่ผู้ประกอบการ SMEs สามารถเข้าถึง ครอบคลุมตามทุนประกัน เพื่อชดเชยความเสียหายที่เกิดจากภัยพิบัติ ซึ่งรัฐจะอุดหนุนค่าเบี้ยประกันให้กับผู้ทำประกันในสัดส่วนร้อยละ 40 ถือได้ว่าบริษัทประกันจะรับบริหารความเสี่ยงในขั้นต้น และส่งผ่านความเสี่ยงที่เหลือไปยังบริษัทประกันภัยต่อ (Reinsurance) ที่จัดตั้งใหม่ซึ่งจะเป็นการจัดตั้งร่วมกันของบริษัทประกันภัยไทยทั้งหมด โดยมีเป้าหมายทุนเริ่มต้นไม่น้อยกว่า 10,000 ล้านบาท และมีเงินสมทบทุกปี ตามสัดส่วนของการรับประกันภัยของแต่ละบริษัททั้งนี้ บริษัทรับประกันใหม่ (Reinsurance) จะเน้นการส่งต่อความเสี่ยงภายในประเทศ เพื่อเสริมศักยภาพในการบริหารความเสี่ยงของบริษัทประกันภัยในประทศ ก่อนไปสู่บริษัทประกันภัยต่างประเทศต่อไป อย่างไรก็ดี หากระดับความเสี่ยงเกินศักยภาพของบริษัทประกัน รัฐบาลจะเข้ามาช่วยรองรับความเสียหายในส่วนที่เหลือต่อไปในฐานะ Backstopแม้ข้อเสนอนี้ยังมีรายละเอียดอีกมากที่ต้องหารือ แต่ทีมงานหวังว่ารายงานนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนากลไกประกันภัยพิบัติที่ยั่งยืน ใช้งบประมาณรัฐอย่างมีประสิทธิภาพ ขยายการเข้าถึงประกันภัยให้ประชาชนในวงกว้าง และสร้างระบบบริหารความเสี่ยงระดับประเทศที่รองรับภาวะโลกรวนที่ปัจจุบันกำลังทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นแหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับประชาชาติธุรกิจออนไลน์https://www.prachachat.net/finance/news-1936225
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ห้องแสดงนิทรรศการ
17/12/2025
มหัศจรรย์สีสันดอกไม้ริมสายน้ำกก ผสานศิลปะและความศรัทธา ชวนทุกท่านมาสัมผัส “มหกรรมไม้ดอกอาเซียนเชียงราย Chiang Rai Flower and Art Festival 2025” ภายใต้แนวคิด “สายนทีแห่งศรัทธา ธ สถิตในใจตราบนิจนิรันดร์” ร่วมร้อยดวงใจ น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ และเที่ยวเชียงรายได้ทั้งปี มีดีทุกอำเภอภาพ: ททท.เชียงรายอบจ.เชียงราย พร้อมให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ สู่ดินแดนเหนือสุดในสยาม ระหว่างวันที่ 18 ธันวาคม 2568 – 7 มกราคม 2569 ณ สวนไม้งามริมน้ำกก ต.ริมกก อ.เมืองเชียงรายพร้อมกระจายพื้นที่จัดงานไปยังโซนอำเภอ ระหว่างวันที่ 19 ธันวาคม 2568 – 7 มกราคม 2569 ณ สวนสาธารณะหนองหลวง ต.เวียงชัย อ.เวียงชัย และวัดถ้ำเสาหินพญานาค ต.โป่งงาม อ.แม่สายภาพ: ททท.เชียงรายภาพ: ททท.เชียงรายภายในงานพบกับ• สวนดอกไม้ 4 ฤดู (Summer / Rainy / Winter / Spring)• นิทรรศการพระราชกรณียกิจ• งานศิลปะ–วัฒนธรรมล้านนา• ถนนคนเดินริมกก / Food Truck / กาแฟ–ชาเชียงราย• วิถีชีวิตล้านนาและชาติพันธุ์กว่า 17 ชาติพันธุ์• ผลิตภัณฑ์ชุมชน และไม้ดอกไม้ประดับนานาพันธุ์สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมอบจ.เชียงราย โทร. 053-175333ททท.สำนักงานเชียงราย โทร. 053-744674-5ภาพ: ททท.เชียงรายภาพ: ททท.เชียงรายภาพ: ททท.เชียงรายแหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับผู้จัดการออนไลน์https://mgronline.com/travel/detail/9680000121333
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ท่องเที่ยว
17/12/2025
อลังการทะเลหมอกยามเช้า สุดฟินกับอากาศเย็นๆ ในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว ณ "อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง" อีกหนึ่งอุทยานฯ ยอดนิยมของทางภาคเหนือ“อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง” แห่งนี้เป็นอีกหนึ่งอุทยานฯ ยอดนิยมของทางภาคเหนือ ซึ่งมีจุดชมวิวให้ชมทะเลหมอกสุดอลังการ โดย อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง ตั้งอยู่บนรอยต่อระหว่าง อ.ปาย แม่ฮ่องสอน-อ.แม่แตง เชียงใหม่ มีสภาพป่าและธรรมชาติที่สมบูรณ์ ภูเขาสูงชันสลับซับซ้อน สภาพอากาศโดยทั่วไปเย็นสบายตลอดปีภายในมีจุดท่องเที่ยวชวนเช็กอินมากมาย ซึ่งที่เป็นไฮไลต์ของที่นี่ก็คือ"จุดชมวิวดอยกิ่วลม" ซึ่งถือเป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ที่มีชื่อเสียงและสวยงามมากที่สุดในห้วยน้ำดังเลยก็ว่าได้ จุดชมวิวนี้ตั้งอยู่บนความสูง 1,615 เมตรจากระดับน้ำทะเล เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาคอยชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกอันกว้างใหญ่ไพศาลในช่วงฤดูหนาว โดยในยามท้องฟ้าเปิดและแจ่มใสจะมีทัศนียภาพที่สวยงามและยังสามารถมองเห็นทิวเขาสลับซับซ้อนของยอดดอยเชียงดาวได้อีกด้วยบริเวณนี้ยังมีสนามหน้า สวนหย่อม ที่ทางอุทยานฯตกแต่งอย่างสวยงามตามสภาพภูมิประเทศ รวมถึงบริเวณนี้ยังเป็นที่ตั้งของ "พระตำหนักเอื้องเงิน" อาคารทรงชาเลย์ ที่กรมป่าไม้สร้างถวายสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมพระนราธิวาสราชนครินทร์ บดินทรเชษฐภคินีและบริเวณจุดชมวิวดอยกิ่วลม ยังเป็นจุดชม "ดอกนางพญาเสือโคร่ง” อีกด้วยเช่นกัน ปกติแล้วดอกนางพญาเสือโคร่งจะเริ่มเบ่งบานอวดโฉมในช่วงปลายเดือน ธ.ค. ไปจนถึงช่วง ก.พ. แล้วแต่สภาพอากาศแหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับผู้จัดการออนไลน์https://mgronline.com/travel/detail/9680000120310
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ประกันชีวิต
16/12/2025
กรุงเทพฯ, 16 ธันวาคม 2568 – เอไอเอ ในฐานะพันธมิตรหลักระดับโลกของสโมสรท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ขอเชิญแฟนบอลชาวไทยร่วมชมการแข่งขันนัดพิเศษระหว่าง “สเปอร์สและลิเวอร์พูล” โดยนักเตะสเปอร์สจะสวมเสื้อที่มีโลโก้ “Sharing A Life For Children Cancer” เพื่อสร้างการรับรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็งในเด็ก ทั้งนี้เสื้อที่นักเตะใส่จริงจากการแข่งขันแมทช์นี้จะถูกนำมาประมูลบนแพลตฟอร์ม MatchWornShirt รายได้จากการประมูลทั้งหมดจะมอบให้มูลนิธิโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ เพื่อสร้างห้องปลอดเชื้อสำหรับเด็กที่เข้ารับการรักษาด้วยโรคมะเร็ง เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยสำหรับผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอปัจจุบัน หอผู้ป่วยเด็กซึ่งตั้งอยู่บนชั้น 17 ของโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ดูแลเด็กตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุ 15 ปี รวมถึงผู้ป่วยที่มีโรคซับซ้อน เช่น มะเร็ง มีการรับผู้ป่วยปีละ 1,500-2,000 ราย และกว่าร้อยละ 50 เป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ ในแต่ละปีจะมีผู้ป่วยเด็กที่ต้องเข้ารับเคมีบำบัดเข้าใหม่ถึง 10-20 รายโดยเด็กที่เข้ารับเคมีบำบัดจะมีภูมิคุ้มกันที่ต่ำมาก ทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อรุนแรง ซึ่งปัจจุบันหอผู้ป่วยยังไม่มีห้องปลอดเชื้อแบบแรงดันบวกสำหรับผู้ป่วยเคมีบำบัด และห้องแรงดันลบสำหรับผู้ป่วยติดเชื้อทางอากาศ ดังนั้นรายได้จากการประมูลเสื้อนักเตะทีมสเปอรส์ในครั้งนี้จึงสามารถนำไปสมทบทุนสร้างห้องปลอดเชื้อที่สามารถควบคุมการติดเชื้อและเพิ่มความปลอดภัยของผู้ป่วยได้ นางสาวชลิดา นครชัย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด เอไอเอ ประเทศไทย กล่าวว่า “เอไอเอเชื่อมั่นในการสร้างความแตกต่าง และต้องการสนับสนุนด้านความเป็นอยู่ให้คนไทยมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น โครงการดี ๆ นี้เป็นการผนวกความชื่นชอบในการกีฬาฟุตบอลเข้ากับความตั้งใจของเอไอเอ เพื่อมอบการดูแลที่ปลอดภัยที่สุดให้กับเด็ก ๆ ที่ต้องต่อสู้กับโรคมะเร็ง เราภูมิใจที่ได้ร่วมงานกับท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ เพื่อสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ ให้แก่สังคม และสอดคล้องกับพันธกิจด้านการดูแลสุขภาพของเรา”นายไรอัน นอริส ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายรายได้ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ กล่าวว่า “เราภูมิใจที่ได้ทำงานร่วมกับเอไอเออย่างต่อเนื่องในทุกฤดูกาล เพื่อสร้างการรับรู้และระดมทุนเพื่อสนับสนุนโครงการที่มีคุณค่าทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เราเชื่อว่ารายได้จากการประมูลเสื้อแข่งจริงในแมทช์นี้กับลิเวอร์พูลจะช่วยสนับสนุนการทำงานของมูลนิธิโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ได้เป็นอย่างดี”นพ. พรเทพ แซ่เฮง ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ กล่าวว่า “รายได้จากการประมูลเสื้อนักเตะในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยที่เป็นเด็กของเรา การสร้างห้องปลอดเชื้อเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อปกป้องเด็กที่เข้ารับเคมีบำบัดจากการติดเชื้อรุนแรง ผมขอขอบคุณเอไอเอ ประเทศไทย และท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ สำหรับความมุ่งมั่นในการยกระดับการดูแลรักษามะเร็งในเด็กในประเทศไทย”คอบอลชาวไทยห้ามพลาดชมการแข่งขันเพื่อการกุศลในวันที่ 21 ธันวาคม 2568 นี้ ตั้งแต่เวลา 00:30 น. เป็นต้นไป และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการทำความดีเพื่อสังคมได้ โดยสามารถประมูลเสื้อหลังจบการแข่งขันผ่านทาง MatchWornShirt
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ข่าวการเงิน
13/12/2025
สรุปผลสำรวจ ‘ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในอาเซียน’ (ACSS) ประจำปี 2568 ที่ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ทำร่วมกับบริษัท Boston Consulting Group สะท้อนถึงพฤติกรรมการจับจ่ายและทัศนคติทางการเงินของผู้บริโภคไทยที่มีหลายประเด็นควรจับตามองแม้ไทย จะเป็นประเทศที่มี GDP ใหญ่เป็นอันดับ 2 แต่มีการเติบโตช้าสุดตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โดยปัจจัยที่ทำให้เกิดภาพดังกล่าว ส่วนหนึ่งมาจากความไม่แน่นอนและการไม่มีเสถียรภาพทางการเมืองค่าครองชีพสูงปัจจัยที่คนไทยกังวลมากสุดสำหรับความกังวลที่คนไทยกังวลมากสุดพบว่า ผู้บริโภค 61% กังวลเรื่อง ‘ค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นจากภาวะเงินเฟ้อ, 57% กังวลต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ-ภัยธรรมชาติ-มลพิษ และ 55% กังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นสูงกว่าโดยค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้พฤติกรรมการซื้อสินค้าของผู้บริโภคชาวไทยเปลี่ยนไปผู้บริโภคทั่วไป (มีรายได้ต่ำกว่า 50,000 บาท/เดือน)-48% ติดตามการใช้จ่ายอย่างใกล้ชิด-45% มองหาส่วนลดในการซื้อผู้บริโภคกำลังซื้อสูง (มีรายได้มากกว่า 200,000 บาท/เดือน)-30% ลดการใช้จ่ายสินค้าฟุ่มเฟือย-27% มองหาแหล่งรายได้เสริมกล้ากู้ กล้ายืมเพื่อประสบการณ์ความน่าสนใจ แม้รู้ต้องควบคุมการใช้เงิน แต่ 3 ใน 4 ของคนไทยมองการใช้จ่ายเพื่อประสบการณ์และไลฟ์สไตล์ เป็นสิ่ง ‘จำเป็น’ มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่และผู้มีรายได้สูง ซึ่งเมื่อเจาะลึกเกี่ยวกับการจัดการด้านการเงินของทั้งสองกลุ่มพบว่าคนรุ่นใหม่ : 73.5% ชอบใช้เงินในตอนนี้มากกว่ากังวลเรื่องอนาคต, 72.5% ไม่กังวลถ้าต้องยืมเงินเพื่อใช้จ่าย, 79% รู้สึกว่า ความคาดหวังทางสังคมหรือแรงกดดันจากคนรอบข้างทำให้การออมเงินเป็นเรื่องยากผู้มีรายได้สูง : 85% ชอบใช้เงินในตอนนี้มากกว่ากังวลเรื่องอนาคต, 82% ไม่กังวลถ้าต้องยืมเงินเพื่อใช้จ่าย, 80% รู้สึกว่าความคาดหวังทางสังคมหรือแรงกดดันจากคนรอบข้างทำให้การออมเงินเป็นเรื่องยากสินเชื่อส่วนบุคคล-บัตรเครดิต หนี้ที่คนไทยมีมากสุดในด้านหนี้สินผลสำรวจดังกล่าวระบุว่า 3 ใน 4 ของผู้บริโภคมีสินเชื่อเฉลี่ย 2.3 รายการ โดยหนี้สินเชื่อที่พบมากสุดของคนไทย ได้แก่ สินเชื่อส่วนบุคคล 39%, สินเชื่อบัตรเครดิต 38% รองลงมา สินเชื่อรถยนต์ 31% และสินเชื่อบ้าน 21%ความน่าสนใจคือ ‘แนวโน้มการกู้ยืม’ ปีนี้ผู้คนจำนวนมากหันไปพึ่งพาครอบครัวและเพื่อนฝูง เพื่อขอความช่วยเหลือทางการเงิน มากกว่าจะกู้ยืมผ่านบัตรเครดิต เมื่อถึงเวลาชำระหนี้ 80% ของผู้กู้สามารถชำระเงินคืนได้อย่างสม่ำเสมอ แต่ Gen Z มีแนวโน้มที่จะพลาดการชำระเงินบ่อยครั้งสำหรับสาเหตุของการพลาดชำระเงินมาจากขาดความเข้าใจด้านการเงินหรือทักษะการวางแผนด้านการเงิน และรูปแบบรายได้ที่ไม่สม่ำเสมอ เช่น ทำงานแบบไม่มีรายได้ประจำแน่นอนนอกจากนั้น การสำรวจพบว่า ผู้บริโภคที่มีรายได้สูงยิ่งเข้าถึงแหล่งสินเชื่อได้มากขึ้น ซึ่งนั่นทำให้จำนวนรายการ สินเชื่อของผู้มีกำลังซื้อสูงนั้นสูงกว่ากลุ่มทั่วไป โดยผู้มีกำลังซื้อสูงมีสินเชื่อเฉลี่ย 2.5 รายการด้านแนวโน้มการกู้ยืม พบว่าการกู้ยืมจากบัตรเครดิตลดน้อยลงกว่าในปี 2567 ขณะที่การกู้ยืมจากเพื่อนและครอบครัวเพิ่มขึ้นแทนด้านการชำระหนี้ พบว่า ร้อยละ 80 ของผู้กู้สามารถชำระเงินคืนได้อย่างสม่ำเสมอ แต่กลุ่ม Gen Z มีแนวโน้มที่จะพลาดการชำระเงินบ่อยครั้งและต้องเสียค่าปรับการออมยังน้อยด้านความมั่นใจในการบริหารการเงินของตนเอง ผลสำรวจพบว่า ผู้บริโภคไทย 87% มีความมั่นใจในการบริหารการเงินส่วนบุคคลของตนเอง แต่มีเพียง 39% ที่มั่นใจในสถานะการเงิน และคนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่และผู้มีกำลังซื้อสูง รู้สึกว่าความคาดหวังทางสังคมหรือแรงกดดันจากคนรอบข้างทำให้การออมเงินเป็นเรื่องยากนอกจากนี้ 66% ผู้บริโภคไทยพร้อมกู้ยืมเพื่อเป้าหมายทางการเงิน และ 25% ยอมกู้เพื่อใช้จ่ายในสิ่งที่อยากดี สะท้อนให้เห็นถึงทัศนคติซื้อสิ่งที่อยากได้ก่อนสิ่งจำเป็น ซึ่งทำให้หนี้ครัวเรือนสะสมของไทยสูงถึง 86.8%แหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับ positioningmaghttps://positioningmag.com/1545855
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ประกันชีวิต
13/12/2025
ล่าสุดต้นเดือน ธ.ค. 68 มีข่าวว่า ตัวแทนประกันชีวิตเชิดเบี้ยประกันฯ จากลูกค้าหลายรายรวมความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท ถ้าเจอเรื่องนี้กับตัวต้องรับมือยังไงปีนี้ประกันภัยเจอแต่เรื่องหนักๆ ล่าสุดมีข่าวว่า ตัวแทนประกันชีวิตเชิดเบี้ยประกันฯ จากลูกค้าหลายรายรวมความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท ทำให้เกิดคำถามในวงกว้างว่า บริษัทประกันชีวิต และหน่วยงานผู้กำกับอย่างสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ควรต้องจัดการปัญหานี้อย่างไรรวมถึงคำถามสำคัญที่ว่า ถ้าเราเจอเรื่องนี้กับตัว ใครต้องรับผิดชอบ?ลูกค้าจ่ายเบี้ยฯ แล้ว แต่ถูกเชิดไป ต้องทำยังไงสำหรับคำถามนี้ Thairath Money มีโอกาสได้พูดคุยกับ อดิศร พิพัฒน์วรพงศ์ รองเลขาธิการ ด้านกฎหมายและตรวจสอบ คปภ. ที่เล่าว่า ถ้าเราเป็นผู้เอาประกัน (ลูกค้า) ที่ถูกเชิดเบี้ยประกันภัยไป ตามหลักการทางกฎหมายปัจจุบันบอกว่า “การกระทำของตัวแทนในสังกัดถือเป็นความรับผิดชอบของบริษัทประกันชีวิต”ยิ่งถ้ามีหลักฐานการโอนเงินที่เกี่ยวข้องกับการซื้อประกันชัดเจน ยิ่งตรวจสอบแก้ไขได้ไว (อาจไม่รวมถึงเคสการชักชวนซื้อทองคำหรือหุ้น) อย่างไรก็ตาม ถ้าเราเจอตัวแทนเชิดเบี้ยฯ ไปมี 3 เรื่องที่ต้องเร่งทำคือ 1) รีบตรวจสอบกรมธรรม์: เช็กกับบริษัทประกันชีวิตโดยตรงว่า เงินค่าเบี้ยฯ ที่ส่งไปถึงบริษัทไหม กรมธรรม์ของตัวเองยังมีผลบังคับอยู่หรือเปล่า2) รวบรวมหลักฐาน: กรณีรู้ตัวว่าโดนเชิดเงินไป ต้องเร่งรวบรวมหลักฐานการโอนเงินค่าเบี้ยประกันภัยที่ให้กับตัวแทนฯ ไป เอกสารควรมีจำนวนเงินที่ชัดเจน มีรายละเอียดครบถ้วน เช่น โอนไปที่ใคร, ใบเสร็จรับเงินสามารถเห็นข้อความได้ชัดเจน เป็นต้น ขั้นตอนนี้สำคัญมาก เพราะบางครั้ง ตัวแทนที่ฉ้อฉลอาจให้โอนเงินผ่านบุคคลที่สาม ซึ่งจะทำให้การตรวจสอบข้อมูลของบริษัทประกันชีวิตอาจต้องใช้เวลานานขึ้น (จากปกติควรแก้ไขปัญหาให้ลูกค้าได้ภายใน 15 วัน) 3) แจ้งบริษัทฯ หรือ คปภ. ได้ทันที: รีบแจ้งพร้อมส่งเอกสารต่างๆ ให้บริษัทประกันชีวิต หรือ ติดต่อ คปภ. เพื่อให้เกิดการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่รวดเร็ว และประสานงานดำเนินการได้ดียิ่งขึ้นสำหรับเคสการเชิดเบี้ยฯ มีหลายตัวอย่างความรับผิดชอบจากบริษัทประกันชีวิต เช่น ถ้าลูกค้าซื้อประกันชีวิตปีแรก อาจเลือกคืนเบี้ยฯ ให้ลูกค้า แต่สำหรับลูกค้าที่จ่ายเบี้ยปีต่ออายุ (เช่น เบี้ยฯ ในปี 2, 3 …) แต่ไม่ได้นำส่งเข้าบริษัทฯ บริษัทฯ ก็ควรจะคืนสภาพให้ได้รับความคุ้มครองตามสัญญา เป็นต้นโทษหนัก-เพิกถอนใบอนุญาตฯบริษัทต้นสังกัดรับผิดชอบอย่างไร?สำหรับเคสที่เป็นข่าวนี้ คปภ. ตรวจสอบแล้วพบว่า จันเกตุ ทับบุญ ตัวแทนประกันชีวิตของ บมจ. ไทยประกันชีวิต (TLI) หลอกลวงลูกค้าให้จ่ายเบี้ยฯ ล่วงหน้า โดยหลอกว่าจะให้เงินส่วนลดค่าเบี้ย 15% ของเบี้ย หรือ ให้ทองคำแทน แต่เบี้ยฯ นั้นไม่ได้นำส่งบริษัทต้นสังกัด เบื้องต้นพบผู้เสียหาย 12 ราย และคาดว่าจะมีคนเข้ามาแจ้งเรื่องเพิ่มเติมที่ผ่านมาทาง คปภ. ส่งหนังสือให้ทางจันเกตุ เข้ามาชี้แจงข้อเท็จจริง แต่ก็ไม่ได้มาพบตามนัด หลังการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่าพฤติกรรมนี้เข้าข่ายฉ้อฉลประกันภัย ทาง คปภ. จึงสั่งเพิกถอนใบอนุญาตตัวแทนประกันชีวิตของ จันเกตุ ทับบุญ แล้ว และจะรวบรวมข้อเท็จจริงทั้งหมดและส่งต่อไปที่พนักงานสอบสวน (บก.ปอศ.) ต่อไปในส่วน บมจ. ไทยประกันชีวิต เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2568 มีการชี้แจงออกมาเช่นกันว่า ที่ผ่านมาตรวจสอบพฤติกรรมของจันเกตุ พบว่ามีพฤติกรรมฉ้อฉลจริง จึงมีคำสั่งให้พ้นสภาพการเป็นตัวแทนประกันชีวิต ตั้งแต่ 3 ตุลาคม 2568 พร้อมส่ง SMS แจ้งผู้เอาประกันที่มีจันเกตุดูแลทันทีนอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ดำเนินคดีจันเกตุ ข้อหายักยอกทรัพย์ และข้อหาอื่นที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ซึ่งจะติดตามความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง ส่วนการดูแลผู้เอาประกันภัยที่ร้องเรียนนั้น บริษัทฯ พิจารณารับผิดชอบความเสียหายในรายที่มีหลักฐานการโอนเงิน และหลักฐานอื่นๆ ที่สอดคล้องกับลักษณะการทำประกันชีวิต (เพราะเป็นคนต้องรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น จึงฟ้องยักยอกทรัพย์กับจันเกตุได้)บทเรียนครั้งใหญ่จากเคสเสียหาย 100 ล้าน! ถือเป็นสัญญาณเตือนครั้งสำคัญว่า ผู้เอาประกันต้องไม่ประมาท จ่ายเบี้ยฯ แล้วก็ต้องเช็กตรวจสอบสถานะกรมธรรม์ รวมถึง หลักฐานการนำส่งเบี้ยประกันกับบริษัทโดยตรง ถ้าเจออะไรผิดปกติก็ต้องรีบจัดการ!แหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับ thairathhttps://www.thairath.co.th/money/personal_finance/insurance/2900566
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
30/04/2024
30/04/2024
30/04/2024
14/05/2024
29/10/2024