คลังความรู้

Everyday knowledge for you

การวางแผนทางการเงิน

เพราะอะไรคนรวยถึงไม่พึ่งหวย นี่คือ 3 ข้อแตกต่างของเศรษฐีที่ทำไม่เหมือนคนทั่วไป

18/10/2024

ในโลกนี้ ผู้คนล้วนมีความแตกต่างกันออกไป ทั้งในเรื่องการใช้ชีวิต การทำงาน ตลอดจนการใช้เงินที่ไม่เหมือนกัน แต่เราเคยสงสัยพร้อมกับตั้งคำถามว่า บุคคลที่ร่ำรวย ประสบความสำเร็จ พวกเขามีวิธีการใช้จ่ายอย่างไรในแต่ละวันTrey Lockerbie ซีอีโอและเจ้าของรายการพอดแคสต์ “We Study Billionaires” ได้สัมภาษณ์มหาเศรษฐี 25 คน และมากกว่า 100 คนที่สร้างฐานะขึ้นมาจนเป็นเศรษฐี รวมถึงนักลงทุนที่มีชื่อเสียง ไม่ว่าจะเป็น Howard Marks และ Cathie Woodsสิ่งที่เรียนรู้จากการศึกษา นั่นคือคนรวยพวกเขาไม่มีความคิดเรื่องลอตเตอรี่ หรือความเชื่อที่ว่าทางลัดนำไปสู่ความมั่งคั่งต้องอาศัยการเสี่ยงโชค เสี่ยงดวง และนี่คือนิสัย 3 ข้อ ที่มหาเศรษฐีเป็นกัน และใคร ๆ ก็สามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้1. คนรวยจะไม่ทำอะไรด้วยความกลัว หรือมีแรงกระตุ้นคนที่ประสบความสำเร็จทางการเงินมากที่สุด จะมีความหลงใหลในการไขปริศนา และพวกเขาก็จะปฏิบัติกับตลาดหุ้นในลักษณะเดียวกันการสัมภาษณ์ Howard Marks มหาเศรษฐี ผู้ร่วมก่อตั้ง Oaktree Capital Management กล่าวว่ามีการพูดคุยถึงช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในสภาวะถดถอย และการแพร่ระบาด แทนที่จะตัดสินใจด้วยความกลัว แต่เขาโฟกัสไปที่ข้อมูล และโอกาสที่เป็นไปได้ มากกว่าที่จะคำนึงถึงความเสี่ยง และข้อเสียแนวทางนี้ทำให้เขาประสบความสำเร็จเดิมพันหนี้ของบริษัทที่มีปัญหาในช่วงวิกฤตการเงินในปี 2008 สู่ผลกำไรราว 6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่นักลงทุนได้รับหากคุณต้องพบว่าตัวเองกำลังเผชิญอยู่กับความไม่แน่นอน Marks แนะนำว่าควรดึงอารมณ์ออกจากสมการ และมองหาวิธีที่คุณสามารถทำให้สถานการณ์ต่าง ๆ เป็นไปตามผลลัพธ์ที่คุณต้องการ2. คนรวยมีความอดทน และคิดระยะยาวหนึ่งในปัจจัยความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของ Warren Buffett คือการลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโต สร้างมูลค่าในอนาคต ไม่ว่าช่วงนั้นราคาหุ้นจะตกมากแค่ไหนก็ตามเศรษฐีหลายคนชื่นชมแนวทางของ Buffett และใช้ความอดทนที่จะทำตาม โดย Brian Chesky ผู้ร่วมก่อตั้ง Airbnb เผยช่วงเวลาที่ได้รับประทานอาหารร่วมกับ Jeff Bezos และ Buffett ว่า Bezos เล่าถึงการพบกันครั้งแรกระหว่างเขากับ Buffett พร้อมกับคำถามที่ว่า “วิทยานิพนธ์การลงทุนของคุณนั้นง่ายมาก ทำไมทุกคนถึงไม่เลียนแบบคุณล่ะ”Buffett ตอบกลับมาว่า “เพราะว่าไม่มีใครต้องการรวยแบบช้า ๆไง”3. คนรวยจะพูด “ไม่” มากกว่า “ใช่”การสัมภาษณ์ David Rubenstein เศรษฐีผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Carlyle Group โดยเขาคือคนใจบุญ และยังเป็นผู้เขียนหนังสืออีกด้วยเมื่อถูกถามว่าเขาทำสิ่งต่าง ๆ สำเร็จได้อย่างไร เขาจดบันทึกทุกสิ่งที่ไม่ทำ ไม่ว่าจะเป็น ไม่เล่นกอล์ฟ, ไม่ดื่มแอลกอฮอล์, ไม่ดู Netflix เขาหลีกเลี่ยงกับสิ่งที่ทำให้เวลาหมดไป เช่นเดียวกับ Jesse Itzler มหาเศรษฐีผู้ร่วมก่อตั้ง Marquis Jet ที่เห็นด้วยกับพลังของการพูดคำว่า “ไม่” โดยเขาบอกว่า ช่วงอายุระหว่าง 20-30 ปี เป็นช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมกับการพูดคำว่า “ใช่” เพราะคุณต้องการเครือข่าย, ต้องการเปิดเผย และสร้างตัวตน แต่ถ้าคุณอายุ 40 ปีปลาย ๆ แล้ว เป็นช่วงเวลาที่ดีที่จะพูดคำว่า “ไม่” และควบคุมเวลาของคุณอย่างเต็มที่ที่มา: CNBCแหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับ smartsmehttps://smartsme.co.th/content/252032/

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ประกันภัย

คำศัพท์ที่ควรทราบด้านประกันภัย

18/10/2024

คอลัมน์ : คุยฟุ้งเรื่องการเงินผู้เขียน : Actuarial Business Solutions [ABS]ในยุคที่การประกันภัยเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการปกป้องทรัพย์สินและชีวิต เรามาทำความรู้จักกับคำศัพท์สำคัญในวงการประกันภัยกันเถอะ เพื่อให้คุณเข้าใจมากขึ้น และเลือกประกันที่เหมาะสมได้อย่างมั่นใจ ปลดล็อกความซับซ้อนและเตรียมพร้อมสู่การตัดสินใจที่ดี1. Life Annuitiesเงินรายปี คือการรับประกันชีวิตรูปแบบหนึ่งที่บริษัทประกันชีวิตจะจ่ายเงินให้แก่ผู้รับเงินรายปีเป็นระยะเวลาที่ตกลงกัน โดยทั่วไปจะจ่ายจนกว่าผู้เอาประกันชีวิตจะเสียชีวิต หรืออาจจะจ่ายในระยะเวลาที่กำหนดก็ได้ ซึ่งเงินนี้อาจจะจ่ายเป็นรายปี รายครึ่งปี หรือรายเดือนก็ได้ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขในกรมธรรม์โดยเงินที่บริษัทประกันชีวิตจ่ายให้แก่ผู้รับเงินรายปี ตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ประกันชีวิตแบบเงินรายปี ซึ่งผู้รับประกันภัยสัญญาว่าตราบใดที่ผู้เอาประกันชีวิตยังอยู่ บริษัทจะจ่ายเงินให้ตลอดไปจนกว่าจะเสียชีวิต หรือจะจ่ายให้ระยะเวลาหนึ่งตามที่ตกลงกันไว้ เงินรายปีนี้อาจจะจ่ายเป็นงวด รายปี รายครึ่งปี หรือรายเดือนก็ได้ จำนวนเงินที่จ่ายอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้- ผู้รับเงินรายปี คือบุคคลที่ได้รับเงินตามกรมธรรม์ประกันชีวิต ซึ่งอาจมีการกำหนดให้จ่ายเงินเป็นงวด ๆ ได้- เบี้ยประกันแบบชำระครั้งเดียว คือการจ่ายเบี้ยประกันเพียงครั้งเดียว ณ เวลาที่เริ่มต้นสัญญาตัวอย่างของประกันชีวิตแบบจ่ายเงินรายปี ได้แก่- เงินรายปีชั่วคราว จ่ายเงินเป็นงวดตามระยะเวลาที่กำหนด หรือจนกว่าผู้เอาประกันชีวิตจะเสียชีวิต- เงินรายปีตลอดชีพ จ่ายเงินรายปีจนกว่าผู้เอาประกันชีวิตจะถึงแก่ความตาย- เงินรายปีแบบเลื่อนการรับ ผู้เอาประกันชีวิตเลือกที่จะไม่รับเงินในทันที แต่จะรอรับในเวลาที่ตกลงกัน- เงินรายปีแบบรับรอง จ่ายเงินเป็นประจำไม่ต่ำกว่าระยะเวลาที่กำหนด โดยไม่คำนึงว่าผู้รับเงินจะมีชีวิตอยู่หรือไม่2. Joint Insuranceประกันภัยร่วม หมายถึงกรมธรรม์ที่มีผู้เอาประกันภัยตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ตัวอย่างเช่น- ประกันชีวิตร่วมของสามีและภรรยา จ่ายผลประโยชน์เมื่อคนใดคนหนึ่งยังมีชีวิตอยู่- ประกันชีวิตร่วมสำหรับคู่ธุรกิจ จ่ายผลประโยชน์เมื่อมีการเสียชีวิตของบุคคลใดบุคคลหนึ่งข้อกำหนดของผู้เอาประกันภัยร่วม คือข้อกำหนดในกรมธรรม์ที่กำหนดให้มีการร่วมกันเป็นผู้เอาประกันภัยของบุคคลตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป- เงินรายปีร่วมชีวิต จ่ายเงินแก่ผู้เอาประกันภัยตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป จนกระทั่งผู้เอาประกันภัยคนใดคนหนึ่งเสียชีวิต- การประกันชีวิตร่วม เป็นกรมธรรม์ที่มีผู้เอาประกันชีวิตหลายคน โดยสามารถเป็นแบบตลอดชีพ หรือแบบสะสมทรัพย์ได้การรู้จักคำศัพท์ในวงการประกันภัยเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้บริโภคในยุคนี้ เพื่อให้คุณสามารถทำความเข้าใจในเงื่อนไขและข้อกำหนดต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น มั่นใจในทุกการตัดสินใจ และสร้างความมั่นคงให้กับตัวเองและคนที่คุณรัก หากคุณมีคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันภัย หรือคำศัพท์ที่ไม่เข้าใจอย่าลืมสอบถามตัวแทนประกันภัย หรือค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อให้ได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและเหมาะสมที่สุดสำหรับคุณแหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับประชาชาติธุรกิจออนไลน์https://www.prachachat.net/finance/news-1670090

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ห้องแสดงนิทรรศการ

ไม่ธรรมดา “นิทรรศการ 30 ปี โคนัน” เจาะลึกหลากมิติ ยอดนักสืบจิ๋วกับความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว

18/10/2024

“ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น”ประโยคเด็ดประจำตัวในการไขคดีของ “เอโดงาวะ โคนัน” หรือ “คุโด้ ชินอิจิ” จากการ์ตูน “ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน” (Detective Conan) ซึ่งวันนี้เดินทางผ่านการไขคดี กระชากหน้ากากฆาตรกรมากมายมาได้ 30 ปี แล้วยอดนักสืบจิ๋วโคนัน เป็นการ์ตูน ( มังงะ) แนวสืบสวนไขคดีเรื่องยาวของ “อาจารย์โกโช อาโอยามะ” เริ่มตีพิมพ์ครั้งแรกใน “นิตยสารรายสัปดาห์โชเน็งซันเดย์” (Weekly Shonen Sunday) เมื่อวันที่ 5 มกราคม พ.ศ.2537 (ค.ศ.1994)หน้าปกการ์ตูนโคนันที่ตีพิมพ์เล่มแรกหลังจากนั้นยอดนักสืบจิ๋วโคนันก็ได้รับความนิยมเรื่อยมา ซึ่งวันนี้มีมากกว่า 900 บท สามารถทำยอดขายได้มากกว่า 270 ล้านเล่มทั่วโลก ทั้งยังมีการตีพิมพ์ในหลายภาษาตามประเทศต่าง ๆ รวมประเทศไทย นอกจากนี้ยังมีการนำมาทำเป็นการ์ตูนซีรีส์โทรทัศน์ และเอนิเมชันฉบับภาพยนตร์ (โคนันเดอะมูฟวี่) ที่มีแฟน ๆ ตามติดและร่วมลุ้นกันทั่วโลกนิทรรศการฉลองครบรอบ 30 ปีและเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการครบรอบ 30 ปี ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน จึงได้มีการจัด “นิทรรศการฉลองครบรอบ 30 ปีการตีพิมพ์ ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน” (Detective Conan 30th Anniversary Exhibition in Bangkok) ขึ้นในหลายเมืองใหญ่ทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทยที่มีการจัดนิทรรศการครบรอบ 30 ปี โคนันขึ้น ตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม - 16 พฤศจิกายน 2567 ที่ RCB Galleria 1-2 ชั้น 2 “ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก” (River City Bangkok)ภายในงานนิทรรศการดังกล่าว แบ่งออกเป็น 10 โซน 6 บท มีการนำเสนอเรื่องราวของยอดนักสืบจิ๋วโคนันแบบเจาะลึกในหลากหลายมิติ ดังนีสารทักทายจาก อ.โกโช อาโอยามะ1. บทนำ : ต้อนรับผู้ชมงานด้วยสารทักทายเป็นภาพวาดลายเส้นรูปโคนัน และคำทักทาย “สวัสดีครับ” จาก อ.โกโช จากนั้นได้ปูพื้นคร่าว ๆ ถึงปูมหลังของคุโด้ ชินอิจิ นักสืบ ม.ปลาย ที่ถูกองค์กรชุดดำกระทำจนกลายร่างเป็นเด็กประถม อันเป็นที่มาในการสืบไขคดีมากมายของยอดนักสืบจิ๋วโคนันไทม์ไลน์มังงะโคนันในโซนนี้ยังมีไทม์ไลน์มังงะโคนัน เริ่มตั้งแต่ฉบับแรก ที่ตีพิมพ์เมื่อ 5 ม.ค. 2537 หน้าปกรูปโคนันกับการแต่งกายสไตล์ “เชอร์ล็อคโฮล์มส์” ไอดอลคนสำคัญของคุโด้ ชินอิจิ และเหตุการณ์สำคัญ ๆ ต่าง ที่ถือเป็นไฮไลต์การันตีความยิ่งใหญ่ของการ์ตูนเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดีโซน CONAN’s Words2. บทที่ 1 CONAN’s Words : คัดสรรคำพูด ประโยค วลีเด็ด ๆ สะท้อนตัวตนจากตัวละครเด่นในยอดนักสืบจิ๋วโคนัน นำโดย โคนัน-คุโด้ ชินอิจิ ร่วมด้วย โมริ รัน, ไฮบาระ ไอ, ฮัตโตริ เฮจิ, จอมโจรคิด คู่ปรับตลอดกาลของโคนัน และ ฯลฯCONAN’s Love3. บทที่ 2 CONAN’s Love : นำเสนอความโรแมนติกในเรื่องราวความรักของตัวละครเด่น ๆ ในโคนัน กับรูปแบบความรักที่หลากหลาย ทั้งในแบบคู่รัก มิตรภาพระหว่างเพื่อนฝูง ความรักแบบครอบครัว ความรักแฟนคลับ รวมถึงเจาะเรื่องรักแรกของ ดร.อากาสะ มาให้แฟน ๆ ได้ประทับใจไปตาม ๆ กันCONAN’s Mystery เจาะองค์กรชุดดำ4. บทที่ 3 CONAN’s Mystery : เปิดเบื้องหลังเบาะแสการไขปริศนาคดีสำคัญ ๆ ถอดรหัสลับ ข้อความก่อนตาย-Dying Message ของคดีเด็ดในตำนาน นอกจากนี้ก็ยังมีเรื่องราวขององค์กรชุดดำแบบเจาะลึก ทั้งข้อมูลบุคคลสำคัญขององค์กร และผังวิเคราะห์อย่างละเอียดCONAN’s HANNIN5. บทที่ 4 CONAN’s HANNIN : รวบรวมบรรดาฆาตกรและตัวร้ายตั้งแต่คดีแรกถึงปัจจุบัน พร้อมคดีของตัวร้ายในความทรงจำ และมุมอมยิ้มในการไขคดีอันสับสนของเหล่านักสืบมือใหม่เข็มจากปืนยาสลบรวมถึงมีอาวุธในคดีต่าง ๆ แบบของจริงมาจัดแสดงให้ชม พร้อมสิ่งประดิษฐ์ที่มีส่วนสำคัญในการไขคดีนำโดย “เข็มจากปืนยาสลบ” ที่ถึงวันนี้โคนันยิงไปแล้ว 88 เข็ม ซึ่งผู้ที่โดนยิงจนพรุนมาเป็นเบอร์หนึ่งด้วยจำนวน 55 เข็ม ก็คือ “นักสืบโมริ โคโกโร่” พ่อของรันกับอาการนั่งหลับไขคดีที่แฟนโคนันคงคุ้นตากันเป็นอย่างดีCONAN’s Justice6. บทที่ 5 CONAN’s Justice : เป็นโซนที่แฝงความเศร้า เพราะพูดถึงบรรดาตัวละครสำคัญที่ต้องเผชิญกับความสูญเสียครอบครัว เพื่อน หรือคนรัก นำโดยเรื่องราวน่าเศร้าของไฮบาระ ไอ และนักสิบฟุรุยะ เรย์จอมโจรคิด ขวัญใจสาว ๆ7. บทที่ 6 CONAN’s Magic : โซนนี้จัดเต็มเรื่องราวของ “จอมโจรคิด” ผู้ลึกลับ คู่ปรับตลอดกาลของโคนัน และขวัญใจสาว ๆ ทั้งในเรื่องและนอกเรื่อง8. Ending Theater : โซนพิเศษ ที่ฉายภาพยนตร์เรื่องราวความประทับใจของการ์ตูนยอดนักสืบจิ๋วโคนันที่ครองใจแฟน ๆ มากว่า 30 ปีนิทรรศการพิเศษ อ.อาโอยามะ9. บทส่งท้าย นิทรรศการพิเศษของ อ.อาโอยามะ : จัดแสดงภาพร่าง (จริง) ของบรรดาตัวละครต่าง ๆ และวิธีการทำงาน ห้องทำงาน และอุปกรณ์ในการวาดการ์ตูนยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ของ อ.อาโอยามะ ร่วมด้วยมุมถ่ายรูปกับตัวละครเด่น ๆ ในการ์ตูนโคนัน10. โซนของที่ระลึก : ปิดท้ายก่อนออกจากนิทรรศการกับบรรดาของที่ระลึกหลากหลายจากการ์ตูนเรื่องยอดนับสืบจิ๋วโคนันรวมตัวละครเด่น ๆ จากการ์ตูนยอดนักสืบจิ๋วโคนันและนี่ก็คือข้อมูลเบื้องต้นของ “นิทรรศการฉลองครบรอบ 30 ปีการตีพิมพ์ ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน” หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า “นิทรรศการ 30 ปี โคนัน” ที่เจาะลึกเรื่องราวเบื้องลึก เบื้องหลัง ของการ์ตูนยอดนักสืบจิ๋วโคนันกันในหลากหลายมิติงานนี้แฟนพันธุ์แท้โคนันไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงงานนิทรรศการครบรอบ 30 ปีโคนัน จำหน่ายบัตรเข้าชมใน 2 รูปแบบผู้สนใจสามารถเลือกซื้อบัตรเข้าชมนิทรรศการครบรอบ 30 ปีโคนัน สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติม และการซื้อบัตรเข้าชมทางออนไลน์ (บัตรล่วงหน้า) ได้ที่ Ticketmelon (ticketmelon.com/rivercitybangkok/conan) หรือซื้อบัตรได้ที่หน้างาน ซึ่งมีทั้งบัตรชมงานทั่วไป และบัตรชมงานแบบพิเศษ (ได้รับของที่ระลึก)นิทรรศการฉลองครบรอบ 30 ปีการตีพิมพ์ ยอดนักสืบจิ๋วโคนันแหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับผู้จัดการข่าวออนไลน์https://mgronline.com/travel/detail/9670000098354

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ท่องเที่ยว

“อี๋หลาน” (Yilan) ดินแดนธรรมชาติตระการตา แห่งไต้หวันตอนเหนือ

18/10/2024

คลื่นลูกใหญ่กระทบโขดหินสีดำริมฝั่งเข้าอย่างจัง ละอองคลื่นขาวแตกเป็นสายกระเซ็นดูสวยงามและน่าตื่นเต้นไปในคราวเดียวกัน ขณะที่ฉากหลังของผืนน้ำสีครามเข้มกว้างใหญ่นั้นมีเกาะขนาดมหึมาตระหง่านงามกลางทะเลช่างน่าตื่นตาตื่นใจภูมิศาสตร์พื้นที่ชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของไต้หวัน พร้อมเสิร์ฟภูมิทัศน์อันงดงามของธรรมชาติที่ผู้มาเยือนตื่นตะลึง เป็นเส้นทางท่องเที่ยวยอดนิยมไม่ว่าจะเป็นคนเมืองหลวงอย่างไทเป หรือนักท่องเที่ยวต่างถิ่น ล้วนได้สัมผัสดินแดนธรรมชาติตระการตายังจุดหมายปลายทางที่เรียกว่า “อี๋หลาน” (Yilan)แหลมปี๋โถวเจี่ยว“อี๋หลาน” ตั้งอยู่ทางตอนกลางของที่ราบหลานหยาง ใช้เวลาเดินทางออกจากกรุงไทเป ประมาณชั่วโมงเศษ ก็ได้พบกับเมืองริมทะเลแปซิฟิกที่เปี่ยมไปด้วยมนตร์เสน่ห์แห่งภูมิทัศน์ธรรมชาติอันงดงามผสมผสานระหว่างผืนน้ำสีครามสุดสายตาขนานไปกับขุนเขาเขียวขจีที่โอบล้อมอยู่บนฝั่งหากมีโอกาสไปเยือนเมืองสุดชิลริมทะเลแห่งนี้แล้ว อยากชวนคุณไปทำความรู้จักกับ 6 แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติสุดตระการตาที่ไม่ควรพลาดในเมืองอี๋หลานแหลมปี๋โถวเจี่ยว (Bitou Cape)เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติเลียบฝั่งทะเล และเป็นจุดหมายที่ติด 1 ใน 3 ของแหลมชมวิวที่สวยงามแห่งหนึ่งของไต้หวัน เส้นทางเดินชมวิวของ “แหลมปี๋โถวเจี่ยว” ออกแบบให้เหมาะสำหรับนักเดินมือใหม่ที่ไม่ต้องใช้เรี่ยวแรงอะไรมากมาย มีบันไดไม่ชันสลับกับทางราบที่ด้านหนึ่งเป็นแนวภูเขาที่ปกคลุมด้วยผืนหญ้ากับอีกด้านเป็นท้องทะเลสีเทอร์คอยส์ที่เกลียวคลื่นกระทบโขดหินสีดำสวยงามระหว่างเส้นทางมีจุดแวะพักให้ถ่ายภาพ มีห้องน้ำบริการ ระยะทางประมาณ 3.5 กิโลเมตร มองเห็นทิวทัศน์ได้แบบอิ่มตา โดยอาจปักหมุดจุดหมายปลายทางไว้ที่ประภาคารที่สร้างขึ้นแทนประภาคารหลังเดิมที่ถูกทำลายในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขาศาลาจุดพักถ่ายรูป ที่แหลมปี๋โถวเจี่ยวนอกจากนี้ ก่อนไปถึงแหลมปี๋โถวเจี่ยว มีจุดชมทิวทัศน์บริเวณ “ชายหาดทะเลหยินหยาง” ริมทางหลวงจังหวัดหมายเลข 2 ซึ่งเป็นถนนเส้นตรงยาว ที่มีจุดถ่ายภาพริมถนน แวะชมคลื่นยักษ์ถาโถมกระทบแนวบล็อกคอนกรีตริมฝั่งเป็นภาพที่ดูน่าตื่นตาตื่นใจชายหาดทะเลหยินหยางชายหาดไว่อ้าว (Wai’ao)หาดทรายกว้างเป็นทรายสีเทาละเอียดมีทัศนียภาพสุดตื่นตาด้วยเกาะขนาดมหึมาตระหง่านอยู่เบื้องหน้า นั่นคือ “เกาะกุยซาน” (Guishan) หรือเกาะเต่า เกาะที่ใหญ่ที่สุดของเมืองอี๋หลาน ด้วยลักษณะที่คล้ายกับเต่าทะเล ซึ่งเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ธรรมชาติสุดยิ่งใหญ่คู่เมืองชายหาดไว่อ้าว“ชายหาดไว่อ้าว” มีจุดเด่นของการเป็นสถานที่ชมความงามช่วงเช้าหรือเย็น เมื่อแสงสีทองของพระอาทิตย์บนผืนฟ้าตัดกับความครามเข้มของน้ำทะเล พร้อมทั้งการเป็นแหล่งที่มีคลื่นลมแรงเพียงพอสำหรับการเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหล่านักเซิร์ฟใช้เป็นจุดหมายในการทดสอบความท้าทายบริเวณชายหาดยังมี “ศูนย์บริการ Wai’ao Service Area” อาคารสีเหลืองสดใส ที่ได้รับการออกแบบจากสถาปนิกชื่อดังอย่าง Yao Renxi สามารถนั่งจิบกาแฟ กินขนมที่ร้านภายในศูนย์บริการฯ พร้อมมองเห็นทิวทัศน์ของชายหาดชายหาดไว่อ้าว เห็นเกาะกุยซานอยู่ลิบๆอุโมงค์เก่าเฉาหลิ่ง (Old Caoling Tunnel)สัมผัสเส้นทางที่ได้อรรถรสราวกับทะลุมิติที่ “อุโมงค์เก่าเฉาหลิ่ง” อุโมงค์รถไฟเก่าที่มีความยาวประมาณ 2.1 กิโลเมตร สร้างขึ้นในช่วงที่ญี่ปุ่นเข้ามาปกครองไต้หวัน วัตถุประสงค์การสร้างเพื่อลดความหนาแน่นของจราจร ในเขตอี๋หลานและเมืองไทเป เปิดให้ใช้งานตั้งแต่ปี ค.ศ. 1924 แต่ด้วยความที่อุโมงค์มีขนาดเล็กเกินไป ในปี ค.ศ.1986 จึงมีการสร้างอุโมงค์เฉ่าหลิงแห่งใหม่ใช้การแทน ทำให้อุโมงค์เก่าถูกทิ้งร้างอยู่เกือบ 20 ปีอุโมงค์เก่าเฉาหลิ่งต่อมามีหน่วยงานพัฒนาพื้นที่ให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง เปิดให้เที่ยวชมในปี ค.ศ.2008 และกลายเป็นเส้นทางจักรยานยอดนิยมในไต้หวันตอนเหนือ โดยความน่าตื่นเต้นนั้น คือ บรรยากาศก่อนลอดอุโมงค์ เป็นแนวเขา เขียวขจีร่มรื่น ขณะลอดอุโมงค์ ก็เป็นเส้นทางแสงไฟทอดยาวไปเรื่อยๆ จนกระทั่งทะลุออกไปอีกฟากจะได้เจอกับทัศนียภาพของริมชายหาดกับท้องทะเลสีคราม มองเห็นเกาะกุยซานอยู่ลิบๆ และยังมีเส้นทางรถไฟสายใหม่ที่อยู่เคียงข้างกัน ทั้งนี้นักท่องเที่ยวสามารถเช่าจักรยานไฟฟ้าได้จากร้านค้าก่อนเข้าอุโมงค์อุโมงค์เก่าเฉาหลิ่งทิวทัศน์เมื่อออกจากอุโมงค์น้ำพุร้อนเจียวซี (Jiaoxi Hot Springs)เขตเจียวซีในอี๋หลาน เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจที่มีชื่อเสียงเรื่องบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติ บ่อน้ำพุร้อนที่นี่อุดมไปด้วยแร่ธาตุมากมาย เช่น โซเดียม แมกนีเซียม แคลเซียม โพแทสเซียม และคาร์บอเนตไอออน ซึ่งมีสรรพคุณช่วยให้ผิวพรรณสดใสเปล่งปลั่ง ระบบไหลเวียนของเลือดหมุนเวียนดี จนได้รับการขนานนามว่า “Beauty Soup” หรือ ซุปแห่งความงาม ทำให้นักท่องเที่ยวนิยมมาอาบน้ำแร่เพื่อบำรุงสุขภาพ หรือสปาทรีตเมนต์สวนสาธารณะ Tangweigouหนึ่งในบ่อน้ำร้อนที่สะดวกสบาย สามารถเข้าได้ฟรี คือ สวนสาธารณะ “Tangweigou” ซึ่งเป็นสวนเล็กๆ ร่มรื่นสามารถไปนั่งแช่เท้าให้ผ่อนคลายได้ แต่ด้วยอุณหภูมิของน้ำที่ร้อนมาก ต้องค่อยๆหย่อนเท้าเพื่อให้ร่างกายปรับตัวแช่เท้าสบายๆที่ สวนสาธารณะ Tangweigouฟาร์มพักผ่อนโถวเฉิง (Toucheng Leisure Farm)พักผ่อนท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติรับพลังจากขุนเขาอันร่มรื่นที่ “ฟาร์มพักผ่อนโถวเฉิง” (Toucheng Leisure Farm) ที่นี่เป็นแหล่งพักผ่อนสุดสัปดาห์ที่ได้รับความนิยมของชาวอี๋หลาน มีความผสมระหว่างภูเขาธรรมชาติ ฟาร์มเกษตรกรรม และฟาร์มปศุสัตว์ รวมทั้งยังมีเวิร์กชอป DIY ให้ติดมือกลับไปเป็นของที่ระลึกฟาร์มพักผ่อนโถวเฉิงทิวทัศน์ของฟาร์มพักผ่อนโถวเฉิง มีฉากหลังเป็นภูเขาขนาดใหญ่ ลำธารน้ำไหลผ่าน ไม่ว่าจะเป็นแม่น้ำผิงซี (Pingxi) แม่น้ำเถาจื่อ (Taozi) และแม่น้ำหลินซี ( linxi) หรือที่ชาวท้องถิ่นรู้จักในชื่อ “Daxi” นับเป็นระบบนิเวศอันอุดมสมบูรณ์ และได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติฟาร์มพักผ่อนโถวเฉิงจุดชมวิวท่าเรือหนานฟางอ้าว (Nanfang’ao)“ท่าเรือหนานฟาง" เป็นจุดตกปลา และเป็นแหล่งทำการประมงขนาดใหญ่ ติดอันดับ 1 ใน 3 ของเมืองการประมงที่สำคัญในไต้หวัน บริเวณท่าเรือจึงเป็นแหล่งชิมอาหารทะเลสดๆ มีท่าเรือประมงและตลาดทะเลมากถึง 3 แห่งในหนานฟาง รวมทั้งมีร้านอาหารทะเลชื่อดังมากมายสำหรับการชมท่าเรือให้น่าตื่นตาตื่นใจมากที่สุด ต้องนั่งรถขึ้นไปสู่ “จุดชมวิวท่าเรือหนานฟางอ้าว” ซึ่งสร้างอยู่บนภูเขา ที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพของท่าเรือ ชายหาดเบื้องล่าง เกาะแก่งกลางทะเล และธรรมชาติรอบๆแบบ 180 องศา ได้อย่างน่าตื่นเต้นที่สุดทิวทัศน์จากจุดชมวิวท่าเรือหนานฟางอ้าวติดตามข่าวสารการท่องเที่ยวไต้หวันได้ที่แฟนเพจสำนักงานการท่องเที่ยวไต้หวันhttps://www.facebook.com/itstimefortaiwanthท่าเรือหนานฟางอ้าวแหล่งที่มาข่าวและภาพ ผู้จัดการออนไลน์https://mgronline.com/travel/detail/9670000096926

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ข่าวการเงิน

ชีวิตหนี้...

17/10/2024

คอลัมน์ : ร่วมด้วยช่วยคิดผู้เขียน : ศณัฐชยา น้อยหุ่น, ดร. กิ่งกาญจน์ เกษศิริ ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2567 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จัดงานสัมมนาวิชาการประจำปี ในหัวข้อ “หนี้ : The Economics of Balancing Today and Tomorrow” โดยมีการพูดคุยเรื่องหนี้ในหลากหลายมิติ ตั้งแต่หนี้ครัวเรือน หนี้สิ่งแวดล้อม หนี้การลงทุน ตลอดจนหนี้สาธารณะ ซึ่งผู้ว่าการ ธปท.กล่าวไว้ว่า หนี้เหล่านี้มีจุดร่วมที่สำคัญ คือ การคำนึงถึงผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นในระยะสั้นเป็นหลัก และไม่ได้ให้ความสำคัญกับต้นทุนที่เกิดขึ้นในอนาคตเท่าที่ควรผู้เขียนอยากชวนทุกท่านมาสำรวจหนี้ที่ใกล้ตัวเราที่สุด ในช่วงเสวนา “คน กับ หนี้ครัวเรือน” เพื่อตระหนักรู้ถึงต้นตอของปัญหา หนทางแก้ไข และร่วมกันผลักดันให้คนไทยมีหนี้อย่างสมดุลเพื่อสร้างความเป็นอยู่ที่ดีทั้งในวันนี้และวันหน้าโดยการเสวนาเริ่มต้นจาก ดร.โสมรัศมิ์ จันทรัตน์ จากสถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ ซึ่งเปิดเผย 3 สัญญาณอันตรายเกี่ยวกับสถานการณ์หนี้ของคนไทยไว้ว่า1) คนจำนวนมากก่อหนี้ ปัจจุบัน 38% ของคนไทยมีหนี้ในระบบ โดยเฉลี่ยคนละ 540,000 บาท และส่วนใหญ่เป็นหนี้เพื่ออุปโภคบริโภค ในขณะที่มีเพียง 16% ที่มีการออมเพื่อเกษียณอายุ2) ลูกหนี้จำนวน 3 ใน 4 ของทั้งหมดกำลังมีปัญหาหนี้ เมื่อศึกษาพฤติกรรมการก่อหนี้ จากข้อมูลเครดิตบูโรพบว่า คนไทยจำนวนมากมีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงเป็นหนี้เรื้อรังและเริ่มมีหนี้เกินศักยภาพ3) คนที่มีปัญหาหนี้กระจุกตัวอยู่ในกลุ่มอายุน้อย และรายได้น้อยต้นตอของหนี้เกิดจากตัวบุคคล และในหลายครั้งสภาพแวดล้อมก็เป็นตัวเอื้อให้ผู้บริโภคก่อหนี้ ปัจจัยที่เกิดจากพฤติกรรมบุคคล เช่น Present Bias หรือการให้ความสำคัญกับปัจจุบันมากเกินไป การประเมินอนาคตดีเกินไป และเข้าถึงข้อมูลไม่เพียงพอ ล้วนมีผลต่อการตัดสินใจก่อหนี้ส่วนสภาพแวดล้อมต่าง ๆ เช่น ค่านิยมจากสังคมรอบข้าง โลกออนไลน์ หรือเหล่า Influencers อาจส่งผลให้คนอยากได้อยากมี ภาคธุรกิจอย่างผู้ขายหรือผู้ให้บริการทางการเงินทำการตลาดเพื่อกระตุ้นการบริโภค อาทิ ช็อปก่อนจ่ายทีหลัง ดาวน์ 0% หรือบัตรประชาชนใบเดียวก็ผ่อนได้ตลอดจน Social Safety Net ของไทย เช่น ในกรณีการช่วยเหลือประชาชนในภาวะวิกฤตที่ยังน้อย ส่งผลให้ครัวเรือนมีความจำเป็นต้องใช้เงินซ่อมแซมบ้านจากภัยธรรมชาติ ปัจจัยแวดล้อมดังกล่าวล้วนมีส่วนทำให้เกิดปัญหาหนี้ผู้ร่วมเสวนา 2 ท่าน ได้แก่ คุณสฤณี อาชวานันทกุล จากแนวร่วมการเงินที่เป็นธรรมประเทศไทย และคุณสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ จาก ธปท. เสนอแนวทางในการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือน ดังนี้คุณสฤณีเห็นว่าควรแก้ปัญหาเชิงระบบเพื่อสร้างกลไกในการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยแบบเบ็ดเสร็จ เช่น แก้กฎหมายล้มละลายเพื่อเปิดช่องให้มีการฟื้นฟูหนี้สินบุคคลธรรมดา ยกระดับกลไกไกล่เกลี่ยข้อพิพาท เพื่อให้เจ้าหนี้ทุกรายมีส่วนร่วมไกล่เกลี่ยหนี้ และมีกฎหมายกำกับดูแลหนี้ที่ไม่เป็นธรรมนอกจากนี้ ควรสนับสนุนการแข่งขันของผู้ให้บริการทางการเงิน เพื่อช่วยให้คนเข้าถึงสินเชื่อในระบบได้มากขึ้น เช่น ลดหรือยกเลิกเพดานดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อให้เกิดการแข่งขันที่แท้จริง สถาบันการเงิน (สง.) สามารถเรียกเก็บอัตราดอกเบี้ยได้ตามความเสี่ยงของลูกหนี้อย่างไรก็ตาม การแก้กฎหมายหรือเกณฑ์ปฏิบัติต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ต้องระมัดระวังอย่างมาก เพราะอาจเกิดเป็น Moral Hazard (สร้างแรงจูงใจที่ไม่เหมาะสม) ได้คุณสุวรรณีให้มุมมองว่า การแก้หนี้ควรมองลูกหนี้เป็นศูนย์กลาง ต้องครบวงจร ครอบคลุม และไม่ก่อให้เกิดอุปสรรคต่อการเข้าถึงสินเชื่อในอนาคต ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน อีกทั้งยังได้กล่าวถึงข้อจำกัดของมาตรการช่วยเหลือของ ธปท. และแนวทางที่ ธปท.ทำเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้ที่ผ่านมามาตรการช่วยเหลือจะครอบคลุมเฉพาะเจ้าหนี้ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ธปท.เท่านั้น และยังครอบคลุมเพียงสินเชื่อส่วนบุคคล รวมถึงการสื่อสารที่อาจเข้าใจยาก ทำให้ยังเข้าถึงลูกหนี้ได้ไม่มากนักอย่างไรก็ดี ธปท.ร่วมกับหลายหน่วยงานจัดทำโครงการต่าง ๆ ที่พยายามแก้ปัญหาหนี้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว อาทิ คลินิกแก้หนี้ โครงการหมอหนี้ การสอดแทรกความรู้ทางการเงินการลงทุนในหลักสูตรการศึกษา และโครงการ Open Data เชื่อมข้อมูลจากหลายองค์กร เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ การกดบัตร เพื่อในอนาคตจะช่วยเพิ่มโอกาสของครัวเรือนในการเข้าถึงสินเชื่อในระบบมากขึ้นสุดท้ายนี้ ผู้เขียนขอชวนผู้อ่านฟังคลิปงานสัมมนาตาม QR Code เพราะมีหนี้ในอีกหลายแง่มุมที่ไม่ได้กล่าวถึง เนื่องด้วยพื้นที่อันจำกัด และอยากให้ผู้อ่านกลับมาสำรวจ “ชีวิตหนี้” ของท่านว่าเป็นแบบไหน เพราะสิ่งสำคัญในการแก้ปัญหาหนี้ ต้องเริ่มจากการตระหนักรู้ถึงปัญหา แล้วปรับพฤติกรรม เพื่อสร้างวินัยทางการเงิน เช่น ชำระหนี้เต็มจำนวน ตั้งโอนเงินออกเพื่อไปออมอัตโนมัติ 1% ของทุกครั้งที่มีการใช้จ่าย เป็นต้นหากท่านสำรวจแล้วคิดว่าตัวเองอยู่ในข่ายของผู้มีปัญหาหนี้ สามารถหาคู่มือแก้หนี้ หรือปรึกษาหมอหนี้ Line : @doctordebt เพื่อให้ท่านใช้ชีวิตร่วมกับหนี้ได้อย่างราบรื่น และบรรลุเป้าหมาย
ที่ตั้งใจไว้บทความนี้เป็นข้อคิดเห็นส่วนบุคคล อาจไม่สอดคล้องกับข้อคิดเห็นของหน่วยงานที่ผู้เขียนสังกัดแหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับประชาชาติธุรกิจออนไลน์https://www.prachachat.net/finance/news-1672549

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ประกันชีวิต

ประกันชีวิตชิงเบี้ยโค้งท้าย แห่ขาย “ออมทรัพย์” ลดหย่อนภาษี

17/10/2024

ในไตรมาสสุดท้ายของปี ทุกบริษัทประกันชีวิตจะกระตุ้นสินค้าประกันออมทรัพย์ เพื่อเจาะตลาด “ลดหย่อนภาษี” โดยช่องทางขายที่จะได้รับความนิยมมากที่สุด คือ “ช่องทางดิจิทัล” เพราะลูกค้ามีความต้องการที่ชัดเจนในการหาผลตอบแทน สามารถเปรียบเทียบได้ชัด และการซื้อตรงกับบริษัทประกันจะได้รับผลตอบแทนที่ค่อนข้างดีด้วยดังนั้น จะเห็นการแข่งขันสูงบนดิจิทัลแพลตฟอร์ม โดยการออกสินค้าของบริษัทประกันจะเป็นลักษณะความคุ้มครองมากกว่า 10 ปี และจ่ายเบี้ยระยะสั้น ๆ แม้มาร์จิ้นไม่สูง แต่ทำออกมาเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าโดยเฉพาะ และเร่งปิดงบการเงินนายพิชา สิริโยธิน ผู้อำนวยการบริหาร สมาคมประกันชีวิตไทย เปิดเผยว่า ช่วงไตรมาส 4/2567 การแข่งขันของภาคธุรกิจประกันชีวิตจะเป็นการกระตุ้นให้ประชาชนซื้อผลิตภัณฑ์เพื่อการออม ที่มีอายุความคุ้มครองมากกว่า 10 ปี ไม่ว่าจะเป็นประกันออมทรัพย์ ประกันบำนาญ และประกันสุขภาพ เพื่อใช้สิทธิทางภาษี ซึ่งเวลานี้ผลตอบแทน (IRR) จากประกันเพื่อการออมยังจูงใจ เพราะคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ยังไม่ลดดอกเบี้ยนโยบาย“ปีนี้สมาคมยังคงประมาณการอัตราการเติบโตของเบี้ยรับรวมทั้งอุตสาหกรรม จะอยู่ที่ 646,113-658,782 ล้านบาท เติบโต 2-4% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน”สำหรับภาพรวม 8 เดือนแรก (ม.ค.-ส.ค.) ที่สมาคมรายงานล่าสุดเมื่อวันที่ 3 ต.ค.พบว่า ทั้งอุตสาหกรรมมีเบี้ยรับรวมอยู่ที่ 410,267 ล้านบาท เติบโต 2.30% YOY มาจากเบี้ยปีต่ออายุ 294,108 ล้านบาท เติบโต 3.46% และเบี้ยรับรายใหม่ 116,086 ล้านบาท ลดลง 0.56% โดยเบี้ยรับรายใหม่ ประกอบด้วย 1.เบี้ยรับปีแรก 76,573 ล้านบาท เติบโต 5.26% และ 2.เบี้ยประกันจ่ายครั้งเดียว (ซิงเกิลพรีเมี่ยม) 39,512 ล้านบาท ลดลง 10.21%นางภฤตยา สัจจศิลา กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาคเนย์ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ช่วงไตรมาส 4 นี้ บริษัทได้ออกสินค้าใหม่ 2 แบบ คือ 1.ประกันออมทรัพย์ 10/1 (จ่ายเบี้ย 1 ปีคุ้มครอง 10 ปี) ขายผ่านทั้งช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ ให้ผลตอบแทน 2.3% และ 2.5% จ่ายเบี้ยขั้นต่ำ 100,000 บาท โดยคาดหวังยอดขายภายในสิ้นปีนี้ 300-500 ล้านบาทและ 2.ประกันออมทรัพย์ 989 (จ่ายเบี้ย 9 ปี คุ้มครองถึง 89 ปี) ตั้งเป้ายอดขายภายในสิ้นปี 100 ล้านบาทขณะที่นางนุสรา (อัสสกุล) บัญญัติปิยพจน์ ประธานเจ้าหน้าที่และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยสมุทรประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทได้เปิดตัวประกันออมทรัพย์ ็โอเชี่ยนไลฟ์ เมคชัวร์ 10/1ิ จ่ายเบี้ยสั้นเพียง 1 ปี แต่ได้รับเงินคืน 1.75% ถึง 10 ปี ทุกสิ้นปีกรมธรรม์ที่ 1-10 และเมื่อครบสัญญารับเงินครบกำหนด 100% โดยซื้อได้ผ่านช่องทางออนไลน์ อายุตั้งแต่ 20-75 ปี ไม่ต้องตรวจสุขภาพ ไม่ต้องตอบคำถามสุขภาพ จำนวนเงินเอาประกันขั้นต่ำ 50,000 บาท นำเบี้ยไปหักลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาท“บริษัทต้องการช่วยคนไทยพร้อมรับมือความไม่แน่นอนรอบด้าน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่ต้องเผชิญกับสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน การมีประกันออมทรัพย์ระยะสั้นที่มีความคุ้มครองชีวิตและเงินคืนทุกปี จะทำให้สามารถนำเงินคืนไปลงทุนต่อและใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่” นางนุสรากล่าวนายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทได้เปิดตัวประกันออมทรัพย์ “ออมจุใจ 10/3” ขายผ่านออนไลน์ตัวใหม่ล่าสุดเพื่อตอบโจทย์คนรักการออมแบบจุใจ เหมาะกับคนมองหาประกันออมทรัพย์ลดหย่อนภาษีโดยความโดดเด่น มีผลประโยชน์รวมสูงสุด 333% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย จ่ายเบี้ยสั้น 3 ปี คุ้มครองยาว 10 ปี ลดหย่อนภาษีสูงสุด 100,000 บาท รับเงินคืนทุกปีกรมธรรม์ปีละ 1% ของจำนวนเงินเอาประกันภัยไม่ต้องตรวจและไม่ต้องตอบคำถามสุขภาพ ซื้อได้ตั้งแต่อายุ 20-80 ปี โดยมีให้เลือกถึง 5 แผน ลูกค้าที่ซื้อบนช่องทาง Online Sale และแอปพลิเคชั่น MTL Click รับส่วนลดเบี้ยปีแรกทันที 5% เพียงกรอกโค้ด ONLINEMTL ที่ขั้นตอนการชำระเงิน ผ่อนชำระ 0% นานสูงสุด 6 เดือน เฉพาะการชำระเบี้ยประกันภัยรายปีปีแรก เบี้ยประกันขั้นต่ำ 10,000 บาท ระยะเวลาโปรโมชั่นตั้งแต่ 1 ต.ค-30 พ.ย. 2567นอกจากนี้ รายงานจากบริษัท โตเกียวมารีนประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้ออกประกันออมทรัพย์ใหม่ “โตเกียว ซูเปอร์ แทกซ์” ที่ช่วยประหยัดภาษีและรับผลตอบแทนสูง โดยชำระเบี้ยระยะสั้น คุ้มครองยาว มีให้เลือก 3 แผน ตั้งแต่ชำระเบี้ย 2 ปี, 6 ปี หรือ 10 ปี โดยได้รับความคุ้มครอง 10 ปีเท่ากันทุกแผน (10/2, 10/6, 10/10)โดยรับเงินคืนทุกปีตั้งแต่สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 1 มีผลตอบแทนรวมสูงสุดถึง 1,005% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย (สำหรับแบบ 10/10) ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาทต่อปี อัตราเบี้ยประกันภัยคงที่ตลอดสัญญา สำหรับทุกเพศและทุกอายุ รับประกันตั้งแต่อายุ 20-80 ปี (ขึ้นอยู่กับแบบที่เลือก) เหมาะสำหรับทุกช่วงวัย สมัครง่าย รวดเร็ว ไม่ต้องตรวจสุขภาพและไม่ต้องตอบคำถามสุขภาพฟากบริษัท กรุงไทย-แอกซ่าประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) รายงานว่า บริษัทได้เปิดตัวแคมเปญลดหย่อนภาษี “ภารกิจพิชิตเงินคืนภาษีให้เต็มแม็กซ์” ให้คนไทยได้เตรียมพร้อมในการลดหย่อนภาษีและสนับสนุนการวางแผนทางการเงิน ผ่านแบบประกันที่หลากหลาย ตามไลฟ์สไตล์ และสามารถลดหย่อนได้สูงสุด 300,000 บาท ประกอบด้วย 1.ไลฟ์เรดดี้ (LifeReady) ให้ความคุ้มครองชีวิตถึงอายุ 99 ปี เลือกจ่ายเบี้ยสั้น-ยาวได้ตามใจ ทั้ง 6 ปี, 12 ปี, 18 ปี หรือตลอดสัญญา2.ไอ สมาร์ท 80/6 (iSmart 80/6) พร้อมรับเงินคืนทุกปี และรับเงินคืนก้อนใหญ่ เมื่อครบกำหนดสัญญาอีก 200% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย จ่ายเบี้ยสั้นเพียง 6 ปี ให้ความคุ้มครองยาวจนถึง 80 ปี และ 3.บำนาญเรดดี้ (BumnanReady) รับเงินบำนาญตั้งแต่อายุ 60 ปี ยาวจนถึงอายุ 88 ปี สูงสุดปีละ 25% ของทุนประกัน โดยแคมเปญนี้เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.-ธ.ค. 2567 สำหรับลูกค้าที่สนใจสามารถซื้อได้ผ่านตัวแทนและธนาคารกรุงไทยทุกสาขาทั่วประเทศเรียกได้ว่า คึกคักกันเลยทีเดียว ในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนสิ้นปีนี้แหล่งที่มาข่าวและภาพต้นฉบับประชาชาติธุรกิจออนไลน์https://www.prachachat.net/finance/news-1670083

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ห้องแสดงนิทรรศการ

ศ.ดร.อภินันท์ เล่าพระราชดำรัส กรมสมเด็จพระเทพฯ ขณะทอดพระเนตรศิลปะ BAB 2024

17/10/2024

ศาสตราจารย์ ดร.อภินันท์ โปษยานนท์ เล่าความสนพระทัย กรมสมเด็จพระเทพฯ ขณะทอดพระเนตรผลงานศิลปะในงาน บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ 2024 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ หลังทรงเปิดงานศาสตราจารย์ ดร.อภินันท์ โปษยานนท์ ประธานอำนวยการและผู้อำนวยการศิลป์ บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ ให้สัมภาษณ์กับ ‘กรุงเทพธุรกิจ’ ภายหลังเฝ้าฯ รับเสด็จ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดงาน เทศกาลศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ  บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ Bangkok Art Biennale 2024 (BAB2024) และทอดพระเนตรงาน BAB 2024 ณ พื้นที่จัดแสดง ชั้น B2 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เมื่อวันอังคารที่ 1 ตุลาคม 2567 เวลา 09.00 น.กรมสมเด็จพระเทพฯ ทอดพระเนตรผลงานศิลปะของ บุญโปน โพทิสาน ศิลปินจาก สปป.ลาว“วันนี้ (1 ต.ค.) พระองค์ท่านได้เสด็จฯ ทอดพระเนตร 1 ใน 11 พื้นที่จัดแสดงงาน เป็นการเปิดพื้นที่แห่งแรกสำหรับปีนี้ มีผลงานที่พระองค์ท่านสนพระทัยเป็นพิเศษที่แน่ๆ เลยคืองานของศิลปิน บุญโปน โพทิสาน จาก สปป.ลาว เราทราบกันดีพระองค์ท่านทรงมีความผูกพันกับ สปป.ลาว ค่อนข้างมากศิลปินได้นำเสนอในเรื่องประวัติความเป็นมาในอดีต โดยเฉพาะในช่วงสงครามเวียดนามที่ลาวได้รับผลพวงจากสงครามถูกกองทัพอเมริกันทิ้งระเบิดศิลปินก็ได้ไปเก็บเศษปลอกระเบิดเหล่านั้นมาทำเป็นงานศิลปะ โดยแกะสลักเจาะตัวปลอกระเบิดเป็นลวดลายจิตรกรรมฝาผนังของลาวสอดแทรกเข้าไป เป็นการใช้วัตถุในอดีตมารีไซเคิลใหม่เป็นงานศิลปะ ศิลปินก็ได้เล่าถึงเรื่องที่เขาเดินทางไปตามแคว้นต่างๆ มูลนิธิบางกอกอาร์ตเบียนนาเล่ได้ว่าจ้างให้เขาสร้างสรรค์งานศิลปะ 1 ชิ้น ต่อ 1 แคว้น ก็จะมีทั้งหมด 17 ชิ้น หรือเศษปลอกระเบิด 17 ลูกด้วยกัน เป็นสัญลักษณ์ของแต่ละแคว้น”Story from Plateau ผลงานศิลปะของ บุญโปน โพทิสานWalk on Clouds ของ อับราฮัม พอยน์เชวาลอีกหนึ่งผลงานศิลปะที่กรมสมเด็จพระเทพฯ ทรงใช้เวลาทอดพระเนตร คือผลงานศิลปะของศิลปินชาวฝรั่งเศส อับราฮัม พอยน์เชวาล (Abraham Poincheval) ซึ่งจินตนาการถึงการอยู่กับธรรมชาติได้อย่างไร จากทำตัวเสมือนบินได้ด้วยการยึดตัวเองเข้ากับบอลลูน ทำให้ตนเองราวเดินอยู่บนก้อนเมฆ ขณะเดียวกันก็เป่าเครื่องดนตรีไปด้วยอับราฮัม พอยน์เชวาล เป็นศิลปินนักสำรวจชาวฝรั่งเศสผู้ไม่เคยย่อท้อ ไม่ว่าจะเป็นการข้ามเทือกเขาแอลป์ที่ต้องผลักแคปซูลที่พักไปด้วย เขาสนใจเรื่องการเคลื่อนที่ผลงานศิลปะที่นำมาร่วมจัดแสดงในงาน Bangkok Art Biennale 2024 เป็นวิดีโออาร์ตมีชื่อว่า  Walk on Cloudsกรมสมเด็จพระเทพฯ ทอดพระเนตรผลงานศิลปะของ ประสงค์ ลือเมือง“อีกชิ้นหนึ่งเป็นผลงานศิลปะของศิลปินไทย ประสงค์ ลือเมือง เขียนภาพผลงานชุดใหม่ให้กับบางกอกอาร์ตเบียนนาเล่งานมีชื่อว่า สังสารวัฏ เป็นเรื่องการเวียนว่ายตายเกิด ศิลปินใช้เรื่องการปฏิบัติธรรมกับการใช้สมาธิและการทำงานศิลปะ ทุกวันตั้งแต่เช้าจรดค่ำปฏิบัติศิลปะปฏิบัติธรรมหมุนเวียนกันไปทุกวัน จนงานของเขา ความยาว 15 เมตร สร้างขึ้นมาสมบูรณ์ งดงาม"อาจารย์กัญญา เจริญศุภกุล และผลงาน Whitewash for Mother Earth"อีกหนึ่งผลงานที่พระองค์ท่านทรงสนพระทัยเป็นอย่างมาก คือผลงานของ อาจารย์กัญญา เจริญศุภกุล พระองค์ท่านทรงมีพระราชดำรัสเกี่ยวกับงานของอาจารย์กัญญาทรงกล่าวว่าน่าจะขยายให้ใหญ่กว่านี้ เพราะขณะที่อาจารย์กัญญาทำผลงานศิลปะชิ้นนี้ซึ่งความยาวประมาณ 15-16 เมตร  อาจารย์มือเจ็บเหมือนพระองค์ท่านทรงให้กำลังใจ ถ้าทำได้ขนาดนี้ขณะมือเจ็บ เมื่อหายแล้วก็น่าจะทำได้ใหญ่กว่านี้” ศ.ดร.อภินันท์ กล่าวWhitewash for Mother Earth หรือ ความเจ็บปวดรวดร้าวของพระแม่ธรณีอาจารย์กัญญาสร้างสรรค์ผลงานศิลปะชื่อ Whitewash for Mother Earth หรือ ความเจ็บปวดรวดร้าวของพระแม่ธรณี สื่อผสมบนผ้าใบ ขนาด 317 x 1,446 เซนติเมตร เป็นผลงานขนาดใหญ่ที่สุดที่ศิลปินเคยสร้างมา'ความเจ็บปวดรวดร้าวของพระแม่ธรณี' เกิดจากการผสมผสานของ สี น้ำ และทราย อันเป็นองค์ประกอบของธรรมชาติ และชี้ให้เห็นถึงการทำลายล้างพืชพันธุ์ธรรมชาติและชั้นบรรยากาศโดยมนุษย์“มนุษย์เราขุดเจาะผืนโลกหาพลังงาน ตัดไม้ทำลายป่าที่ปกคลุมพื้นผิวของโลก และเพิกเฉยแม้กระทั่งคุณภาพอากาศ ซึ่งเป็นลมหายใจแห่งชีวิตของพวกเราเองมนุษย์เราคือผู้อกตัญญูที่ทำลายพระแม่ธรณีผู้เป็นแม่ผู้ให้ชีวิต ภาพที่ปรากฏบนผืนผ้าใบ จึงเป็นตัวตนแทนเรือนกายอาบโลหิตของพระแม่ธรณีที่รอการเยียวยารักษา”อ.กัญญา ให้สัมภาษณ์ว่า จริงๆ ผลงานสื่อผสมชิ้นนี้เป็นสีแดงฉานทั้งผืน เปรียบโลหิตที่อาบแผ่นดิน ให้ความรู้สึกที่รุนแรงมาก แต่ที่เห็นผลงานเป็นสีขาวขณะนี้ คือการชโลมสีขาวลงบนผืนผ้าใบ เป็นตัวแทนการเยียวยารักษาแผ่นดิน หากเข้าไปชมใกล้ๆ จะเห็นการซ้อนทับของสีสันชั้นต่างๆทางเข้าพื้นที่จัดแสดงงาน BAB2024 ชั้น B2 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ภายในพื้นที่จัดแสดงชั้น B2 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ จัดแสดงผลงานศิลปะบางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ 2024 ของศิลปินจาก สปป.ลาว, ฝรั่งเศส 2 คน, นิวซีแลนด์, สิงคโปร์, รัสเซีย, อิหร่าน และ ไทย 2 คน รวมผลงานศิลปะ 17 ชิ้นศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เป็น 1 ใน 11 สถานที่จัดงาน BAB2024 ในกรุงเทพฯ เปิดให้เข้าชมแล้ววันนี้-25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568ส่วนพื้นที่จัดแสดงแห่งอื่นๆ ในกรุงเทพฯ กำหนดเปิดให้เข้าชมได้ตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2567แหล่งที่มาข่าวต้นฉบับกรุงเทพธุรกิจhttps://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/art-living/1148159

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ท่องเที่ยว

ชมความงาม “แสงใต้” แห่งเมืองควีนส์ทาวน์ นิวซีแลนด์

17/10/2024

แสงใต้ หรือ ออโรร่า ออสเทรลิส (Aurora Australis) เผยสีสันสวยงามกลางฟากฟ้าเหนือเมืองควีนส์ทาวน์บนเกาะใต้ของนิวซีแลนด์ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ภาพ: สำนักข่าวซินหัวโดยแสงใต้เกิดจากอนุภาคในลมสุริยะที่ปะทะกับก๊าซในชั้นบรรยากาศของโลกซึ่งมีสนามแม่เหล็กอยู่แสงใต้จะพบเห็นได้ง่ายในภูมิประเทศตอนใต้ของนิวซีแลนด์ โดยแสงใต้ มีเอกลักษณ์แตกต่างกับแสงเหนือ เพราะมีลำแสงหลายสีสัน เช่น เขียว เหลือง ชมพู สามารถไปดูได้ที่ประเทศใกล้ขั้วโลกใต้ เช่น นิวซีแลนด์หรือออสเตรเลียภาพ: สำนักข่าวซินหัวสำหรับเมืองควีนส์ทาวน์ในนิวซีแลนด์ สถานที่ที่เหมาะสำหรับไปชมแสงแห่งฟากฟ้าอันงดงาม เช่น ทะเลสาบวาคาตีปู (Lake Wakatipu) และ ทะเลสาบวานากา (Lake Wanaka)ภาพ: สำนักข่าวซินหัวภาพ: สำนักข่าวซินหัวภาพ: สำนักข่าวซินหัวแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับผู้จัดการออนไลน์https://mgronline.com/travel/detail/9670000098384

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ประกันชีวิต

เอไอเอ ประเทศไทย ผนึกกำลัง แมกซ์ โซลูชัน เซอร์วิส มอบสิทธิประโยชน์สมาชิกบัตร Max Card รับประกันชีวิต 50,000 บาท เป็นเวลา 1 ปี ผ่านแอปพลิเคชัน Max Me

15/10/2024

กรุงเทพฯ 11 ตุลาคม 2567 : นายเอกรัตน์ ฐิติมั่น ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด เอไอเอ ประเทศไทย กล่าวถึงความร่วมมือกับ บริษัท แมกซ์ โซลูชัน เซอร์วิส จำกัด ในเครือพีทีจี มอบประสบการณ์เหนือระดับด้านประกันชีวิตแก่ สมาชิกบัตร Max Card ผ่านแอปพลิเคชัน Max Me ว่า เอไอเอมุ่งมั่นนำเสนอโอกาสที่จะช่วยให้คนไทยได้เข้าถึงประกันชีวิต และประกันสุขภาพ รวมถึงบริการด้านสุขภาพที่ครอบคลุมครบวงจร เพื่อมีส่วนสนับสนุนให้คนไทยได้มีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืนสืบเนื่องจากปัจจุบันที่อัตราเงินเฟ้อทางการแพทย์ของไทยสูงขึ้นราว 8-10% ต่อปี* โดยเฉพาะในกลุ่มโรคร้ายแรง หรือโรคที่ต้องใช้เวลาในการรักษาต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน อาทิ โรคหัวใจ โรคมะเร็ง หรือโรคทางสมอง ซึ่งจะยิ่งมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้นไปอีก ดังนั้น การมีประกันสุขภาพและประกันโรคร้ายแรง จึงเป็นการวางแผนป้องกันความเสี่ยง และช่วยให้คนไทยหลีกเลี่ยงปัญหาทางการเงินหากต้องเข้ารับการรักษาเมื่อเจ็บป่วยอย่างไม่คาดฝันนอกจากนี้ การมีประกันสุขภาพ และประกันโรคร้ายแรงที่เหมาะสม ยังช่วยให้คนไทยเข้าถึงบริการทางการแพทย์ที่ดีและรวดเร็วมากขึ้น การจับมือกับ แมกซ์ โซลูชัน เซอร์วิส ในครั้งนี้ จึงตอบโจทย์เป้าหมายของเอไอเอ ที่ต้องการเข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันของคนไทย เพื่อสนับสนุนให้ทุกคนมีสุขภาพที่ดีขึ้นในทุก ๆ วัน อีกทั้งยังช่วยสร้างระบบนิเวศของภาคธุรกิจประกันชีวิตในประเทศให้แข็งแกร่ง เพื่อมอบโอกาสให้คนไทยสามารถเข้าถึงบริการด้านการประกันชีวิตและสุขภาพ สอดคล้องกับพันธกิจของเอไอเอ ที่ต้องการสนับสนุนผู้คนกว่าหนึ่งพันล้านคนทั่วภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก ให้มีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ตามคำมั่นสัญญา ‘Healthier, Longer, Better Lives’สำหรับสิทธิประโยชน์ที่สมาชิกบัตร Max Card จะได้รับจากเอไอเอ ประกอบด้วยฟรีประกันชีวิตความคุ้มครอง 50,000 บาท นาน 1 ปี สำหรับสมาชิกบัตร Max Card Plus เมื่อสมัครผ่านแอปพลิเคชัน Max Meรับโค้ดส่วนลดเบี้ยประกันเอไอเอสูงสุด 20% ได้ทันที เมื่อแลก Max Point 300 แต้ม ผ่านแอปพลิเคชัน Max Me โดยโค้ดส่วนลดสามารถนำไปใช้ซื้อประกันผ่านช่องทางตัวแทนเอไอเอทั่วประเทศ เข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับประกันชีวิต ประกันสุขภาพ และประกันโรคร้ายแรงของเอไอเอ ซึ่งหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถกรอกข้อมูลผ่านแอปพลิเคชัน Max Me เพื่อให้เจ้าหน้าที่เอไอเอติดต่อกลับ“ในอนาคตเอไอเอยังได้เตรียมขยายความร่วมมือไปยังตลาดและกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายมากขึ้น เพื่อส่งเสริมให้คนไทยทั่วประเทศได้เข้าถึงประกันชีวิต ประกันสุขภาพ และประกันโรคร้ายแรง ซึ่งจะส่งผลให้คนไทยได้รับบริการทางการแพทย์ที่มีมาตรฐานและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืนควบคู่ไปกับการช่วยวางแผนทางการเงิน เพื่อให้ทุกคนมีชีวิตที่มั่นคงในระยะยาว” นายเอกรัตน์ กล่าวทิ้งท้ายส่วนทางด้าน นายพร้อมศักดิ์ จรัญญากรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แมกซ์ โซลูชัน เซอร์วิส จำกัด กล่าวว่า การผนึกกำลังนี้เป็นการรวมจุดแข็งของสององค์กรชั้นนำ เพื่อยกระดับการบริการสมาชิก Max Card กว่า 23 ล้านคน ผ่านแอปพลิเคชัน Max Me ให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์แบบไร้รอยต่อในทุกด้านของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการเติมน้ำมัน ซื้อกาแฟ ชอปปิง สะสมแต้ม สมัครสินเชื่อ ไปจนถึงการสมัครประกันชีวิต และสุขภาพ ความร่วมมือนี้ไม่เพียงแต่จะสร้างมูลค่าทางธุรกิจ แต่ยังสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของ กลุ่มพีทีจี เอ็นเนอยี ที่อยากให้คนไทย 'อยู่ดี มีสุข'นอกจาก สมาชิกบัตร Max Card จะได้รับความสะดวกในการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับประกันชีวิตที่ถูกต้องจากผู้เชี่ยวชาญ และสิทธิประโยชน์พิเศษมากมายจากเอไอเอ ทางเรายังได้มอบสิทธิพิเศษเพิ่มเติมสำหรับสมาชิกที่สมัครประกันเอไอเอ ผ่านแอปพลิเคชัน Max Me โดยเมื่อชำระเบี้ยประกันภัยปีแรก ขั้นต่ำ 10,000 บาท ทุก ๆ 50 บาท สมากชิก Max Card จะได้รับ Max Point 1 แต้ม และ สมาชิก Max Card Plus จะได้รับ Max Point 2 แต้ม สูงสุด 1,000 แต้ม**"สำหรับโปรแกรมความคุ้มครองที่เรามอบให้กับสมาชิก PT Max Card plus เริ่มตั้งแต่กลางเดือนกันยายน 67 ขณะนี้มีคนลงทะเบียนผ่าน application มาแล้วกว่า 5,000 คน ซึ่งก็คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งประกันชีวิตเป็นสินค้าประเภทหนึ่งที่คนจำเป็นต้องใช้แต่ว่าไม่อยากจ่ายแพง ดังนั้นทำอย่างไรให้ทุกคนเข้าถึงผลิตภัณฑ์ประกันได้อย่างง่ายดายและถูกต้องมากที่สุดเพื่อให้เขาได้รับความคุ้มครองโดยเฉพาะอย่างยิ่ง PT มีสมาชิกครอบคลุมทั่วประเทศประมาณ 23 ล้านคน เรามีทุกอำเภอตำบลทุกจังหวัด ดังนั้น ความร่วมมือกับเอไอเอครั้งนี้ ก็เพื่อให้สมาชิกของเราที่มีอยู่ทั่วประเทศเข้าถึงผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตอย่างครอบคลุมและถูกต้องจากบริษัทชั้นนำที่น่าเชื่อถือ สร้างความมั่นคงทางการเงิน พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยผ่านการมีประกันชีวิตที่มีความคุ้มครองครอบคลุมในทุกๆ ด้าน"หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสมาชิกบัตร Max Card และ แอปพลิเคชัน Max Me สามารถติดต่อ PT Call Center โทร 1614 หรือ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความคุ้มครอง กรุณาติดต่อตัวแทนประกันชีวิต หรือ AIA Call Center 1581

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ข่าวการเงิน

วิกฤตคนไทยกว่าครึ่ง มีเงินเก็บไม่ถึง 2 แสน เสี่ยงลำบากตอนแก่แก้อย่างไร

08/10/2024

มีเงินออมไม่ถึง 2 แสนบาท คือ สถานการณ์ทางการเงินของคนไทยกว่าครึ่งประเทศ ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนภัย บ่งชี้ถึงความเสี่ยงที่จะต้องเผชิญกับปัญหาทางการเงิน และ ความยากลำบาก ในวัยเกษียณ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในยุคที่ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ "สังคมสูงวัยขั้นสุดยอด" ซึ่งจะมีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปเกินกว่า 28% ในปี 2572วิกฤตคนไทยกว่าครึ่ง มีเงินเก็บไม่ถึง 2 แสน เสี่ยงลำบากตอนแก่แก้อย่างไรประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ โดยคาดการณ์ว่าในปี 2572 ประเทศไทยจะเข้าสู่ "สังคมสูงวัยขั้นสุดยอด" ซึ่งมีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปเกินกว่า 28% อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่ากังวลยิ่งกว่าการเพิ่มขึ้นของประชากรสูงวัย คือ ภาวะ "เงินออมไม่เพียงพอ" ที่อาจนำไปสู่ปัญหาทางการเงินในอนาคตข้อมูลจาก "ดัชนีความพร้อมเพื่อการเกษียณ" (NRRI) ของคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชี้ให้เห็นว่า คนไทยมี "ความพร้อมด้านการเงิน" ต่ำกว่า 40% สอดคล้องกับผลสำรวจของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่ระบุว่า 30% ของประชากรไทย ไม่มีเงินออมสำหรับวัยเกษียณ และอีก 60% แม้จะมีเงินออม แต่ก็มีจำนวน "ไม่ถึง 200,000 บาท" ซึ่งถือว่าไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพหลังเกษียณสถานการณ์ดังกล่าว สะท้อนให้เห็นถึงความเสี่ยงที่ประชาชนจำนวนมาก อาจต้องเผชิญกับปัญหาทางการเงิน เมื่อเข้าสู่วัยเกษียณ ดังนั้น การวางแผนทางการเงิน และการออมเงินอย่างเป็นระบบ จึงเป็นสิ่งสำคัญ ที่ควรได้รับการส่งเสริมและสนับสนุน เพื่อให้ประชาชนสามารถ "เกษียณอายุอย่างมีคุณภาพ" และมีความมั่นคงทางการเงิน ในระยะยาววางรากฐานมั่นคงสู่อนาคต เหตุผลแห่งการออมเพื่อวัยเกษียณสำหรับคนรุ่นใหม่แม้ในปัจจุบัน วัยเกษียณอาจดูห่างไกลสำหรับคนวัยทำงาน แต่การเริ่มต้นออมตั้งแต่วันนี้ คือ กลยุทธ์สำคัญในการสร้างหลักประกันทางการเงิน และ ยกระดับคุณภาพชีวิตหลังเกษียณอายุ เปรียบเสมือนการลงทุนระยะยาว ที่ให้ผลตอบแทนอันคุ้มค่า โดยมีเหตุผลสนับสนุน ดังนี้  • เพิ่มพูนศักยภาพการสะสมเงินทุน: การเริ่มต้นออมตั้งแต่อายุยังน้อย ย่อมมีระยะเวลาในการสะสมเงินทุนที่ยาวนานกว่า ซึ่งช่วยลดภาระการออมในแต่ละเดือน และเพิ่มโอกาสในการบรรลุเป้าหมายทางการเงิน ที่ตั้งไว้สำหรับวัยเกษียณ  • อานุภาพแห่งดอกเบี้ยทบต้น: ระยะเวลาที่ยาวนานขึ้น เอื้อให้เงินออมเติบโตผ่านกลไกดอกเบี้ยทบต้น ก่อให้เกิดผลตอบแทนที่งอกเงยอย่างมีนัยสำคัญ ยิ่งเริ่มต้นออมเร็ว ยิ่งมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น  • ลดความเสี่ยงจากการเริ่มต้นออมล่าช้า: การเริ่มต้นออมเมื่ออายุมาก เช่น 50 ปีขึ้นไป จำเป็นต้องออมในอัตราที่สูง เพื่อให้มีเงินเพียงพอสำหรับการดำรงชีพหลังเกษียณ ซึ่งอาจก่อให้เกิดภาระทางการเงิน และ ส่งผลกระทบต่อสถานะทางการเงินโดยรวมยิ่งไปกว่านั้น ยังมีปัจจัยสำคัญอื่นๆ ที่เป็นตัวแปร และ ตอกย้ำถึงความจำเป็นในการออมเพื่อวัยเกษียณ ได้แก่  • แนวโน้มอายุขัยที่ยืนยาวขึ้น: จากการคาดการณ์ขององค์การสหประชาชาติ และ เวิลด์ อิโคโนมิค ฟอรั่ม อายุขัยเฉลี่ยของประชากรโลกในปี 2050 จะอยู่ที่ 77.3 ปี และ 82.3 ปี สำหรับประชากรไทย ซึ่งบ่งชี้ถึงความจำเป็นในการเตรียมความพร้อมทางการเงิน ให้ครอบคลุมระยะเวลาที่ยาวนานขึ้น เพื่อรองรับค่าใช้จ่ายที่อาจเพิ่มขึ้น ตามอายุขัย  • ภาวะเงินเฟ้อ: อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ย 3% ต่อปี ส่งผลให้กำลังซื้อของเงินลดลง และ ค่าครองชีพสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง การออมเงินจึงเป็นกลยุทธ์สำคัญ ในการรักษามูลค่าของเงิน และ เสริมสร้างความมั่นคงทางการเงิน ในระยะยาว  • ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ: ค่ารักษาพยาบาลมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉลี่ย 5-8% ต่อปี ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายสำคัญที่ต้องเตรียมรับมือ ในวัยเกษียณ เพื่อป้องกันภาวะ "เงินหมดก่อนวัยอันควร"การวางแผนทางการเงิน และ การออมเพื่อวัยเกษียณอย่างเหมาะสม ตั้งแต่วัยทำงาน คือ การสร้างรากฐานที่มั่นคง เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี และ อิสรภาพทางการเงิน หลังเกษียณอายุ ช่วยให้สามารถ "เกษียณสุข" ได้อย่างแท้จริงวิธีคำนวณเงินออม เพื่อวันพักผ่อนที่ไร้กังวลการวางแผนทางการเงิน เป็นก้าวสำคัญในการเตรียมความพร้อม เพื่อวัยเกษียณที่มั่นคง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การประเมิน "เงินออมเป้าหมาย" ณ วันที่เราเกษียณอายุ ซึ่งสามารถคำนวณคร่าวๆ ได้ ดังนี้  • จำนวนเงินที่ต้องการใช้ต่อเดือน x 12 เดือน x จำนวนปีที่คาดว่าจะมีชีวิตอยู่หลังเกษียณ  • ยกตัวอย่างเช่น หากปัจจุบันคุณอายุ 35 ปี วางแผนเกษียณอายุ เมื่ออายุ 55 ปี และ ต้องการใช้เงินเดือนละ 50,000 บาท หลังเกษียณเป็นระยะเวลา 30 ปี เงินออมที่ควรมี ณ วันเกษียณ จะเท่ากับ 50,000 x 12 x 30 = 18,000,000 บาททั้งนี้ ตัวเลขดังกล่าว เป็นเพียงการประมาณการเบื้องต้น โดย ยังไม่ได้รวมผลกระทบของภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งจะทำให้ค่าครองชีพสูงขึ้น ในอนาคต ดังนั้น การคำนวณเงินออม จึงควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ เพิ่มเติม เช่น อัตราเงินเฟ้อ ผลตอบแทนจากการลงทุน และ ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ เพื่อให้ได้ตัวเลขที่ใกล้เคียงความเป็นจริง และ สอดคล้องกับเป้าหมาย การ "เกษียณสุข" ที่ตั้งใจไว้สถาปนาความมั่นคงแห่งวัยเกษียณ กลยุทธ์การออมและการลงทุนการบรรลุถึงอิสรภาพทางการเงิน และ คุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน หลังพ้นวัยประกอบอาชีพ จำเป็นต้องอาศัย แผนการออม และ การลงทุนที่รอบคอบ โดยสามารถประยุกต์ใช้ กลยุทธ์ ให้สอดคล้องกับ ลักษณะอาชีพ และ เป้าหมายทางการเงิน ของแต่ละบุคคล ดังนี้1. กลุ่มพนักงานประจำ: สูตร 12+4+2  • กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF): ถือเป็น เครื่องมือทางการเงิน ที่มีประสิทธิภาพ ในการออมระยะยาว พร้อมสิทธิประโยชน์ทางภาษี โดย เงินลงทุน สามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ในอัตราสูงสุด 30% ของเงินได้ แต่ไม่เกิน 500,000 บาท (เมื่อรวมกับ เงินสะสม ในกองทุนอื่นๆ) ยกตัวอย่างเช่น การจัดสรรเงินลงทุน ในกองทุนรวมผสม KWPULTIRMF เป็นจำนวน 300,000 บาทต่อปี เป็นระยะเวลา 20 ปี ภายใต้สมมติฐาน อัตราผลตอบแทนเฉลี่ย 7% ต่อปี คาดการณ์ว่า จะได้รับเงินก้อนประมาณ 12.3 ล้านบาท เมื่อถึง วัยเกษียณ  • กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD): ในกรณีที่ บริษัท มี กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ พนักงาน สามารถสมัครเข้าเป็นสมาชิก และ ส่งเงินสะสมเข้ากองทุน ได้ตามอัตราส่วน ไม่เกิน 15% ของเงินเดือน โดย เงินสะสมดังกล่าว สามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้ เช่นเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น พนักงาน มีเงินเดือน 70,000 บาท ส่งเงินเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 10,500 บาทต่อเดือน (126,000 บาทต่อปี) เป็นระยะเวลา 20 ปี โดยคาดหวัง อัตราผลตอบแทน 4% ต่อปี คาดการณ์ว่า จะได้รับเงินก้อนประมาณ 3.7 ล้านบาท ณ วัยเกษียณ  • กรมธรรม์ประกันชีวิต: นับเป็น ทางเลือกที่น่าพิจารณา สำหรับผู้ที่ มุ่งหวัง "เงินก้อน" เพื่อใช้จ่าย หลังเกษียณอายุ เช่น กรมธรรม์ประกันชีวิต แบบ 80/5 ทริปเปิ้ลเงินก้อน ที่จ่ายผลประโยชน์ เป็นเงินก้อน จำนวน 3 ครั้ง (เมื่อผู้เอาประกันภัย มีอายุ 60, 70 และ 80 ปี) หรือ กรมธรรม์ประกันชีวิต แบบบำนาญ A85/5 ที่จ่ายผลประโยชน์ เป็นเงินบำนาญรายปี ตั้งแต่อายุ 55 - 85 ปี โดย ผู้เอาประกันภัย สามารถเลือก รูปแบบ และ ทุนประกันภัย ให้สอดคล้องกับ วัตถุประสงค์2. กลุ่มผู้ประกอบอาชีพอิสระ สูตร 16+2  • กองทุนรวม: ผู้ประกอบอาชีพอิสระ มีอิสระ ในการเลือกลงทุน ในกองทุนรวม ประเภทต่างๆ ตาม ระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ เช่น กองทุนรวมผสม K-WPULTIMATE โดย จัดสรรเงินลงทุน 33,000 บาทต่อเดือน (400,000 บาทต่อปี) เป็นระยะเวลา 20 ปี ภายใต้สมมติฐาน ผลตอบแทนเฉลี่ย 7% ต่อปี คาดการณ์ว่า จะได้รับเงินก้อน ประมาณ 16 ล้านบาท เมื่อถึง วัยเกษียณ  • กรมธรรม์ประกันชีวิต หรือ กรมธรรม์ประกันชีวิตแบบบำนาญ: เป็น เครื่องมือทางการเงิน ที่ช่วย เสริมสร้างความมั่นคง และ สภาพคล่องทางการเงิน หลังเกษียณอายุ โดย ผู้เอาประกันภัย สามารถเลือก รูปแบบ ให้สอดคล้องกับ ความต้องการ เช่น กรมธรรม์ประกันชีวิต แบบ 85/5 High Return ที่จ่ายผลประโยชน์ เป็นเงินคืนรายปี จนถึงอายุ 84 ปี และ จ่ายผลประโยชน์ เป็นเงินก้อน เมื่อครบกำหนดสัญญา ตอนอายุ 85 ปีหลักการสำคัญ สู่ วัยเกษียณที่มั่นคง  • ตระหนัก ใน ความสำคัญ ของการออม: การเริ่มต้นออม ตั้งแต่อายุยังน้อย ย่อม ส่งผลดี ต่อ การสะสมเงินออม  • ประเมิน เงินออมเป้าหมาย: การคำนวณ เงิน ที่คาดว่าจะใช้จ่าย หลังเกษียณอายุ เป็น พื้นฐานสำคัญ ในการกำหนด แผนการออม และ การลงทุน  • คัดเลือก รูปแบบการออม และ การลงทุน ที่เหมาะสม: พิจารณา จาก ระดับความเสี่ยง ผลตอบแทนที่คาดหวัง และ สภาพคล่อง ของ เงินลงทุน  • ปลูกฝังวินัย ในการลงทุน: การออม และ การลงทุน อย่างสม่ำเสมอ เป็น ปัจจัยแห่งความสำเร็จ  • ทบทวน และ ปรับปรุงแผน: การประเมินผล และ การปรับแผนการเงิน ให้สอดคล้องกับ สถานการณ์ เป็น สิ่งจำเป็นการเตรียมความพร้อม เพื่อ วัยเกษียณ เป็น ภารกิจสำคัญ ที่ ไม่ควรมองข้าม เริ่มต้นวางแผน ตั้งแต่วันนี้ เพื่อ สร้าง อนาคตที่มั่นคง และ บรรลุถึง อิสรภาพทางการเงิน อย่างแท้จริงปลดล็อกชีวิตหลังเกษียณอย่างมั่นคงและสมบูรณ์แบบการเตรียมความพร้อมเพื่อวัยเกษียณ ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป ยิ่งเริ่มต้นเร็วเท่าไหร่ ยิ่งเพิ่มโอกาสในการสร้างความมั่นคงทางการเงิน และ คุณภาพชีวิตที่ดี หลังพ้นวัยทำงาน บทความนี้ได้นำเสนอ ภาพรวมของสถานการณ์เงินออมของคนไทย ซึ่งสะท้อนถึง ความจำเป็นเร่งด่วน ในการวางแผน และ การออม เพื่อ รับมือกับ ความท้าทาย ของสังคมสูงวัยหัวใจสำคัญสู่วัยเกษียณที่มั่นคง  • ตระหนักรู้: การตระหนักถึงความสำคัญของการออม เป็นก้าวแรกสู่ความสำเร็จ เพราะ "เงินออม" คือ หลักประกัน และ กุญแจสำคัญ ที่ช่วยปลดล็อก อิสรภาพทางการเงิน และ นำไปสู่ "วัยเกษียณที่ไร้กังวล"  • วางแผนอย่างเป็นระบบ: การวางแผนทางการเงิน เป็นเสมือน "แผนที่นำทาง" สู่เป้าหมาย "เกษียณสุข" ประกอบด้วย การประเมินเงินออมเป้าหมาย การกำหนดกลยุทธ์การออมและการลงทุน และ การบริหารจัดการความเสี่ยง  • ลงมือทำอย่างมีวินัย: การออม และ การลงทุน อย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอ เป็น "เคล็ดลับแห่งความสำเร็จ" ในการสร้าง ความมั่งคั่ง และ ความมั่นคงทางการเงิน ในระยะยาว เปรียบเสมือน "การปลูกต้นไม้" ที่ต้องใช้เวลา ในการดูแล และ รอคอย ผลลัพธ์อันงดงาม  • ปรับตัวให้เท่าทัน: การทบทวน และ ปรับแผนการเงิน ให้สอดคล้องกับ สถานการณ์ และ เป้าหมายชีวิต ที่เปลี่ยนแปลงไป เป็น สิ่งสำคัญ เพื่อให้ "แผนการเงิน" ยังคง "ประสิทธิภาพ" และ ตอบโจทย์ ความต้องการ ในทุกช่วงชีวิตวัยเกษียณ เปรียบเสมือน บทใหม่ ของชีวิต ที่เราสามารถ ออกแบบ และ กำหนดทิศทาง ได้ด้วย การวางแผน และ การลงมือทำ อย่างเหมาะสม เริ่มต้น ปลูกฝังวินัย ในการออม และ การลงทุน ตั้งแต่วันนี้ เพื่อ เก็บเกี่ยว ความสุข ความมั่นคง และ อิสรภาพ ใน วัยเกษียณ อย่างแท้จริงแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับ amarintvhttps://www.amarintv.com/spotlight/finance/detail/70044

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

X