Everyday knowledge for you
ประกันชีวิต
20/06/2024
กรุงเทพฯ 19 มิถุนายน 2567 - เอไอเอ ประเทศไทย นำโดย นายนิคฮิล แอดวานี (ที่ 2 จากซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมด้วย นายฮิว เท็ด เชียน (ซ้ายสุด) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน นายโยฮัน ดีทอย (ที่ 2 จากขวา) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุน และนายปกป้อง ยินดีผล ผู้อำนวยการฝ่ายอสังหาริมทรัพย์และงานบริการ (ขวาสุด) เป็นตัวแทนรับรางวัล Asia Pacific Property Awards 2024-2025 ในประเภทสถาปัตยกรรมที่มีการใช้สอยแบบผสมผสานยอดเยี่ยมที่สุดในประเทศไทย (Mixed Use Architecture Thailand) จากความสำเร็จของโครงการ อาคารเอไอเอ อีสต์ เกตเวย์ (AIA East Gateway) โดยรางวัลดังกล่าวเป็นรางวัลที่มอบให้แก่โครงการอสังหาริมทรัพย์ซึ่งถือเป็นต้นแบบของโครงการที่มีคุณภาพอันโดดเด่นด้านนวัตกรรมและความยั่งยืนยอดเยี่ยมที่สุดในเอเชียแปซิฟิก แสดงถึงความมุ่งมั่นของเอไอเอ ประเทศไทย ในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับพรีเมียมมาตรฐานอาคารสีเขียว อีกทั้งยังสะท้อนความความสำเร็จในการเป็นผู้นำด้าน ESG ของเอไอเอทั้งในระดับประเทศและภูมิภาคเอเชีย รวมถึงการสร้างมาตรฐานอาคารสำนักงานให้ทัดเทียมระดับสากลเอไอเอ อีสต์ เกตเวย์ เป็นอาคารสำนักงานระดับพรีเมียมเกรดเอ ตั้งอยู่บนทำเลยุทธศาสตร์ถนนบางนา-ตราด กม. 4.5 ได้รับการออกแบบและก่อสร้างอาคารอย่างยั่งยืนตามมาตรฐานอาคารสากล LEED (Leadership in Energy and Environmental Design) และ WELL Building Standard ระดับโกลด์ อาคารสูง 33 ชั้น มีพื้นที่ให้เช่ารวมประมาณ 70,000 ตร.ม. มุ่งตอบโจทย์ผู้ประกอบการ และนักลงทุนรุ่นใหม่ที่มองหาอาคารสำนักงานที่ถูกออกแบบมาอย่างทันสมัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมนำเสนอสิ่งอำนวยความสะดวกและไลฟ์สไตล์อันล้ำสมัย สอดรับกับแนวคิด “A Harmony of Work, Wellbeing and Sustainability” เพื่อสมดุลย์ของชีวิตและการทำงานอย่างลงตัว
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ข่าวการเงิน
19/06/2024
บทความโดย “สมาคมนักวางแผนการเงินไทย”วันที่ 17 มิถุนายน 2567 “การลงทุนมีความเสี่ยง” นี่เป็นประโยคคลาสสิกที่เราได้ยินเสมอมา แต่นี่ก็คือความจริง ทำให้การลงทุนเป็นเรื่องที่ต้องหาข้อมูลและทำการบ้านอย่างหนัก ต้องอัพเดตข่าวสาร นั่งฟังกูรูมากมาย แต่ก็หนีไม่พ้นความเสี่ยงอยู่ดีทุก ๆ คนมีเป้าชีวิตแตกต่างกัน เช่น ซื้อรถ ซื้อบ้าน หรืออื่น ๆ ซึ่งล้วนแต่ต้องใช้เงิน ซึ่งก็มาจากการหารายได้และลงทุนให้เงินเก็บงอกเงย แต่นั่นแหละการลงทุนมีความเสี่ยง ถ้าเราจัดการเจ้าความเสี่ยงนี้ไม่ได้ ก็อาจทำให้การลงทุนนั้นล้มเหลว และไปไม่ถึงเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ หรือใช้เวลานานขึ้นเปรียบเทียบอย่างง่าย ๆ ก็เหมือนการที่เราออกเรือไปกลางทะเล โดยไม่ได้วางแผนการเดินเรือ หากเผชิญพายุกลางทะเล เรือก็อาจไปไม่ถึงจุดหมายที่เราต้องการการวางแผนการลงทุน จึงเป็นการวางแผนเพื่อลงทุนด้วยระดับความเสี่ยงที่เหมาะสมกับเรา เหมาะสมกับสถานการณ์ในแต่ละช่วงเวลา การวางแผนการลงทุนและบริหารความเสี่ยงจึงเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของการวางแผนการเงินแต่การวางแผนการเงินเป็นการมองหลาย ๆ มิติผสมกัน ทั้งการวางแผนรายรับรายจ่าย การออมการลงทุน การจัดการด้านภาษี การจัดการด้านประกันภัย เป็นต้น การวางแผนการลงทุนภายใต้ระดับความเสี่ยงที่เหมาะสมกับเรา ทำให้เรามีโอกาสไปสู่เป้าหมายชีวิตให้เร็วขึ้นแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับประชาชาติธุรกิจออนไลน์https://www.prachachat.net/finance/news-1587632
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ประกันภัย
19/06/2024
ประกันอัคคีภัยบ้านเป็นเกราะป้องกันที่สำคัญสำหรับบ้านและคอนโดทุกหลัง เพราะช่วยปกป้องสิ่งมีค่าภายในบ้านจากความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้จากเหตุไม่คาดฝัน ไม่ว่าจะเป็นไฟไหม้ ภัยธรรมชาติ หรือภัยอื่น ๆ การทำประกันบ้านจะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม ทำให้เจ้าของบ้านสบายใจถ้าเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้นจริง ๆประกันบ้าน แบ่งออกเป็นกี่ประเภทประกันบ้านสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้1. ประกันอัคคีภัย : คุ้มครองเหตุไฟไหม้ที่เกิดจากภัยธรรมชาติ เช่น ไฟป่า เป็นต้น 2. ประกันภัยพิบัติ : คุ้มครองความเสียหายที่เกิดจากเหตุน้ำท่วม สึนามิ แผ่นดินไหว เป็นต้น3. ประกันภัยคุ้มครองการโจรกรรม : คุ้มครองความเสียหายที่เกิดจากการโจรกรรม3 เหตุผลสำคัญ ทำไมต้องทำประกันบ้านประกันบ้านมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับทุก ๆ บ้านและคอนโด เพราะช่วยปกป้องมูลค่าของบ้านและทรัพย์สินภายในบ้านให้ปลอดภัยยามเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน บทความนี้จะพาไปดู 3 เหตุผลที่ทำไมการทำประกันบ้านถึงมีความสำคัญป้องกันความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม ลมพายุ แผ่นดินไหว หรือภัยแล้ง เป็นสิ่งที่เราไม่สามารถควบคุมได้ แต่สร้างความเสียหายต่อบ้านของเราได้ เช่น ทำให้บ้านพัง หลังคาซึมน้ำ ฝ้าชำรุด อุปกรณ์ไฟฟ้าช็อต รวมถึงอาจทำให้เกิดความชื้น และเชื้อรา ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพด้วย การทำประกันบ้านที่คุ้มครองภัยธรรมชาติจะช่วยรับประกันความสูญเสียที่เกิดขึ้นป้องกันความเสี่ยงจากภัยไฟไหม้ โจรกรรม และภัยอื่น ๆไฟไหม้เป็นอีกหนึ่งภัยร้ายที่ทำลายบ้านและทรัพย์สินภายในเสียหายหมด ส่วนการโจรกรรมก็ทำให้เรื่องเงินทองและทรัพย์สินมีค่าต่าง ๆ ไปจากบ้านในพริบตา ทั้งสองอย่างนี้ล้วนเป็นสิ่งที่เจ้าของบ้านควบคุมและป้องกันได้ยาก การทำประกันบ้านจะช่วยกระจายความเสี่ยงและบรรเทาความกังวลใจของเจ้าของบ้านแบ่งเบาค่าเสียหายจากการซ่อมแซมหรือซื้อใหม่เมื่อบ้านและทรัพย์สินเกิดความเสียหาย ย่อมเกิดค่าใช้จ่ายตามมาทั้งจากการซ่อมแซม และการซื้อทรัพย์สินใหม่มาทดแทน ซึ่งถ้าเป็นความเสียหายจำนวนมาก อาจเป็นภาระทางการเงินสำหรับเจ้าของบ้านได้ แต่ถ้าทำประกันบ้านไว้ ประกันจะมาช่วยเยียวยาและบรรเทาความเดือดร้อนนั้น โดยสำรองจ่ายค่าเสียหาย หรือให้เงินชดเชยมาให้ตามเงื่อนไขและวงเงินประกันที่เลือกไว้ จึงเป็นการลดภาระของครอบครัว และความกังวลในยามเกิดเหตุไม่คาดฝันเช่นนี้ควรเลือกประกันบ้านยังไงการเลือกทำประกันบ้าน ต้องพิจารณาปัจจัยหลายอย่าง เช่น • ควรพิจารณาวงเงินประกันภัยให้เหมาะสมกับมูลค่าของบ้านและทรัพย์สินภายใน • ควรเลือกความคุ้มครองของกรมธรรม์ที่ครอบคลุมภัยที่คาดว่าจะเกิดขึ้นได้กับที่ตั้งบ้าน เช่น อยู่ในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม ไฟป่า หรือโจรกรรม เป็นต้น • ควรเลือกบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือ มีประวัติการจ่ายสินไหมดี และมีการดูแลลูกค้าที่ดี • ควรศึกษาข้อยกเว้นของกรมธรรม์ เช่น สิ่งที่ประกันไม่คุ้มครอง เพื่อทำความเข้าใจและไตร่ตรองว่าจะซื้อประกันนั้น ๆ จริงไหม • ควรศึกษาขั้นตอนและเอกสารที่ต้องเตรียมเมื่อเกิดเหตุ เพื่อให้สามารถเคลมประกันได้อย่างรวดเร็วการเลือกประกันบ้านควรศึกษารายละเอียดและเปรียบเทียบความคุ้มค่า เพื่อให้ได้ประกันบ้านที่ตอบโจทย์ความต้องการมากที่สุด ส่วนใครที่กำลังมองหาประกันดี ๆ แต่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกตัวไหนดี สามารถเข้าไปดูที่เว็บไซต์ heygoody ได้ เพราะเขามีให้เปรียบเทียบประกันหลายเจ้าเลย สะดวก รวดเร็ว และประหยัดเวลาไปได้เยอะ!แหล่งที่มาข่าวต้นฉบับสยามรัฐออนไลน์https://www.siamrath.co.th/n/544403
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ห้องแสดงนิทรรศการ
19/06/2024
หากใครยังไม่ไปชม นิทรรศการ เอกสารล้ำค่าจารึกสยาม ขอบอกว่าเป็นนิทรรศการที่น่าชมมาก ยังเปิดให้ชมถึงสิ้นเดือนมิถุนายน 2567 ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาตินิทรรศการ เอกสารล้ำค่าจารึกสยาม ยังเปิดให้ชม ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ถึงวันที่ 30 เดือนมิถุนายน 2567 สำหรับคนที่ยังไม่มีโอกาสแวะไปชมมรดกสยามตั้งแต่ยุคทวารวดี สุโขทัย และอยุธยา ขอแนะว่าเป็นนิทรรศการที่ดีและหาชมได้ยากสำหรับคนที่ชอบแนวประวัติศาสตร์โดยเฉพาะช่วงเปลี่ยนผ่านจากยุคดั้งเดิมสู่รัฐสมัยใหม่ มีการนำเสนอเอกสารต้นฉบับทั้งหมด 6 หมวด อาทิ จารจารึก บันทึกสยาม,แผนภูมิของแผ่นดิน, นิติสารเมื่อเพรงกาล เล่าขานประวัติศาสตร์ไทย,เมื่อแรกมีการพิมพ์, ต้นร่างสร้างเมือง เรืองรองศิลปกรรม และด้วยความทรงจำอันงดงามและความคิดถึงฯลฯเอกสารกลุ่มแรกๆ ในสมัยรัชกาลที่ 4 เริ่มมีการใช้เทคโนโลยีการพิมพ์แบบตะวันตกก่อนจะชมทั้ง 6 หมวดหมู่ ในห้องนิทรรศการ ด้านนอกมีไทม์ไลน์ตั้งแต่ยุคก่อนพุทธศักราชจนถึงยุคปัจจุบัน เทียบเคียงให้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงนั้นๆ ของโลก เอเชีย และไทย ยกตัวอย่าง เมื่อ3,000-400 ปีก่อนพุทธศักราช บ้านเชียง จ. อุดรธานี เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยและแหล่งฝังศพในยุคก่อนประวัติศาสตร์และช่วงเวลาใกล้เคียงกันในแถบเอเชียมีการค้นพบอักษรรูปลิ่ม โดยชาวสุเมเรียน เมโสโปเตเมียในตะวันออกกลาง ได้พัฒนาวิธีการบันทึกเป็นสัญลักษณ์รูปลิ่มแทนคำและพยางค์ใช้บันทึกทางการค้านี่เป็นตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ ในไทม์ไลน์ ยังมีเหตุการณ์สำคัญๆ เกิดขึ้นหลายอย่าง นอกจากนี้หากใครยังไม่เคยเห็น ศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหง,คัมภีร์อัลกุรอาน ,แผนที่โบราณของไทย ,สนธิสัญญาเบาว์ริง จินดามณี และสามก๊ก ฯลฯในนิทรรศการครั้งนี้รวบรวมไว้หมดยกตัวอย่างในหมวดของจารจารึก บันทึกสยาม มีให้ชมตั้งแต่ ศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหง จารึกเป็นภาษาไทยหลังแรก เมื่อปีพ.ศ. 1835 ค้นพบในปีพ.ศ. 2376 รัชสมัยรัชกาลที่ 4 ที่เมืองโบราณสุโขทัยคัมภีร์อัลกุรอาน คัมภีร์สูงสุดในศาสนาอิสลาม รวบรวมพระวจนะของอัลลอฮ์ที่ประทานแก่นนบีมูฮัมมัด เพื่อให้ถ่ายทอดไปยังมวลมนุษย์ชาติ ในยุคแรกบันทึกไว้บนก้านอินทผลัม ก้อนหิน แผ่นหนังสัตว์หรือกระดูกสัตว์ขนาดใหญ่จนเมื่อนบีมูฮัมมัดเสียชีวิตได้มีการคัดลอกและสำเนาแจกจ่ายไปเมืองต่างๆ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 1196 โดยใช้อักษรอาหรับ เขียนจากขวาไปซ้าย ฉบับที่รักษาไว้ที่หอจดหมายเหตุแห่งชาติ เป็นคัมภีร์ที่เขียนขึ้นในปีพ.ศ. 2297สำหรับคนที่ไม่เคยเห็น จินดามณี หนังสือแบบเรียนไทยตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาจนถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ฉบับพุทธศักราช 2325เก็บรักษาไว้ในหอสมุดแห่งชาติ ในนิทรรศการที่นำมาจัดแสดงเป็นฉบับที่กรมพระอาลักษณ์ชำระและคัดลอกสมัยรัชกาลที่ 1ส่วนสามก๊กฉบับดั้งเดิม วรรณกรรมแปล โดยเจ้าพระยาพระคลัง (หน) เป็นต้นฉบับหนังสือสมุดไทยดำ เล่ม 96 ส่วนต้นฉบับหนังสือสมุดไทยขาว เป็นสามก๊ก เล่ม 2 ในหมวดนี้ก็น่าสนใจหมวดแผนภูมิของแผ่นดิน ขอยกตัวอย่างแผนที่โบราณของไทย มีตั้งแต่แผนที่สมัยอยุธยา สมัยธนบุรี และรัตนโกสินทร์ โดยเฉพาะในสมัยรัชกาลที่ 5 ช่วงเปลี่ยนผ่านจากแผนที่โบราณมาสู่แผนที่สมัยใหม่ตามหลักวิชาการแบบยุโรปซึ่งจะได้เห็นเบื้องหลังการทำแผนที่แต่ละยุคสมัยตามคติความเชื่อ ค่านิยม และสภาพการเมืองการปกครองยุคนั้น ยกตัวอย่างแผนที่กัลปนาวัดบนคาบสมุทรสทิงพระในสมัยอยุธยาที่นำมาแสดงในหมวดนี้และที่ไม่ควรพลาดคือ หมวดนิติสารเมื่อเพรงกาล เล่าขานประวัติศาสตร์ไทย รวบรวมเอกสารในยุคสมัยรัชกาลที่ 1 ผ่านมาถึงรัชกาลที่ 4 และการปฎิรูปในสมัยรัชกาลที่ 5กฎหมายตราสามดวง ประมวลกฎหมายไทยโบราณ รูปเล่มสมุดไทยขาว เส้นหมึก ลายมืออาลักษณ์สมัยรัชกาลที่ 1ชำระขึ้นใหม่ปี พ.ศ. 2348 เพื่อเป็นกฎหมายของแผ่นดินนอกจากนีี้ยังจัดแสดงให้เห็นถึง สนธิสัญญาเบาว์ริง สนธิสัญญาทางพระราชไมตรีและการพาณิชย์ระหว่างอังกฤษและสยาม ปีพ.ศ.2398 ผู้ลงนามฝ่ายอังกฤษคือ เซอร์จอห์น เบาว์ริง ส่วนฝ่ายสยามเป็นผู้แทนพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ว่าด้วยการค้าขายและอัตราภาษีสินค้านิทรรศการเอกสารล้ำค่าจารึกสยาม ตั้งแต่วันนี้-30 ,มิถุนายน 2567 ณ พระที่นั่งศิวโมกขพิมาน พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนครศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหง จารึกเป็นภาษาไทยหลังแรก เมื่อปีพ.ศ. 1835หน้ากลักไม้ขีดไฟ ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4แหล่งที่มาข่าวต้นฉบับกรุงเทพธุรกิจhttps://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/art-living/1131972
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ท่องเที่ยว
19/06/2024
กรุงเทพมหานคร เปิดอุโมงค์ทัวร์ครั้งแรก เยี่ยมชมสถานีสูบน้ำของอุโมงค์ระบายน้ำในงาน "BKK EXPO 2024: เมืองเปลี่ยนได้เพราะคุณ" วันที่ 20-23 มิถุนายน 2567 เวลา 13.00-21.00 น. ณ พิพิธภัณฑ์สวนป่าเบญจกิติ (MRT ศูนย์สิริกิติ์)กิจกรรมภายในงาน • รับฟังการบรรยายที่มาพร้อมเหตุผลว่า "ทำไมกรุงเทพฯ ต้องมีอุโมงค์ระบายน้ำ" • เรียนรู้วิธีการทำงานของอุโมงค์ระบายน้ำจากโมเดลเสมือนจริง • ศึกษาหลักการทำงานของเครื่องสูบน้ำ ระบบไฟฟ้า และเครื่องมือต่างๆ • เผยแพร่ ถ่ายภาพที่ระลึกกับอุโมงค์จำลองเท่าขนาดจริง ชวนทุกคนมามีส่วนร่วมในการดูแลระบบระบายน้ำกรุงเทพฯเปิดให้เยี่ยมชมวันละ 2 รอบที่สถานีสูบน้ำคลองขุดวัดช่องลม เวลา 09.30 - 11.30. น. และ 13.30 - 15.30 น. และมีรถรับส่งฟรี ลงทะเบียนได้ที่ QR Code ในภาพแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับ sanookhttps://www.sanook.com/travel/1448111/
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ข่าวทั่วไป
18/06/2024
ความเครียดในที่ทำงานเป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนต้องเจอ แต่คุณเคยเจอคนที่อวดเรื่องความเครียดเกี่ยวกับการทำงานบ่อย ๆ ไหม “งานนี้เครียดมากเลยนะ” “ได้งานเพิ่มอีกแล้ว แค่นี้ก็เยอะจะแย่” หรือ “แกลองมาเป็นฉันดูว่ามันเครียดขนาดไหน”ฟังเผิน ๆ อาจเหมือนคนที่บ่นเรื่องงาน แต่คนจำนวนไม่น้อยเอาความเครียดจากภาระงานมาเป็นถ้วยรางวัลในการทำงาน แล้วเล่าให้คนอื่นฟังเพื่อแสดงถึงความทุ่มเทและการทำงานหนักมากกว่าคนอื่น มากกว่าการระบายให้เพื่อนร่วมงานฟัง ราวกับว่าความเครียด และภาระงานควรจะเป็นเรื่องปกติในที่ทำงานการอวดเรื่องงานยาก หรืองานเยอะเหมือนจะเป็นวิธีที่ทำให้รู้สึกว่าคุณทำงานเยอะ และมีความสามารถในการจัดการงาน แต่ในทางตรงกันข้าม การสำรวจ และการศึกษาจากมหาวิทยาลัยจอร์เจีย (University of Georgia) ที่นำโดยเจสสิกา โรเดลล์ (Jessica Rodell) พบว่าคนที่อวดเรื่องความเครียดในการทำงานจะทำให้เพื่อนร่วมงานรู้สึกว่าคนที่อวดดูมีความสามารถน้อยลง และเป็นที่ชื่นชอบน้อยลงแทนทีมของเจสสิกาได้ทำการสำรวจขึ้นในคน 360 คน เพื่อตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับความรู้สึกที่มีต่อเพื่อนร่วมงานสมมติ (Imaginary Co-worker) ที่ไปเข้าร่วมการประชุมในด้านความชื่นชอบ ความสามารถ และความรู้สึกอยากให้ความช่วยเหลือเรื่องงานโดยกำหนดให้เพื่อนร่วมงานสมมติที่ชอบอวดเรื่องความเครียดพูดถึงการประชุมสมมติว่า • ก็แค่งานอีกอย่างที่เพิ่มขึ้นมา จากงานที่ล้นมืออยู่แล้ว • แค่นี้ฉันก็เครียดจนไม่รู้จะเครียดยังไงแล้ว • คุณนึกไม่ถึงหรอกว่าฉันกำลังเจอกับอะไรซึ่งคนที่เข้าร่วมก็ให้คะแนนเพื่อนร่วมงานกลุ่มนี้ ทั้งในด้านความชื่นชอบ และด้านความสามารถในระดับต่ำ และผู้เข้าร่วมยังรู้สึกว่าไม่อยากให้ความช่วยเหลือเรื่องงานกับคนที่มีพฤติกรรมแบบนี้ด้วยนอกจากนี้ทีมของเจสสิกายังได้เก็บข้อมูลจากคนอีก 218 คนที่เคยเจอกับเพื่อนร่วมงานที่ชอบอวดเรื่องความเครียดจากงานในชีวิตจริง ซึ่งพบว่าคนที่ทำงานกับคนกลุ่มนี้มีระดับความเครียด และภาวะหมดไฟ (Burnout Syndrome) ที่สูงกว่าคนทั่วไปแต่ในขณะเดียวกัน การระบายความเครียดในเชิงของการพูดคุยกันระหว่างเพื่อนร่วมงาน หรือเพื่อนร่วมงานรับรู้ได้เองว่าเพื่อนร่วมงานอีกคนกำลังเครียดอยู่ไม่ได้ทำให้เกิดความรู้ไม่ชอบ ไม่อยากช่วยเหลือ หรือรู้สึกว่าคนนั้นไม่มีความสามารถ และไม่ได้รู้สึกเครียดตามเหมือนกรณีก่อนหน้าโดยเจสสิกาได้ทิ้งท้ายไว้ว่า การอวดเรื่องความเครียดจากภาระงานที่มากเกินพอดี ไม่ได้ส่งผลแค่ให้ตัวคนที่อวดดูแย่เท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อเพื่อนร่วมงาน และสภาพแวดล้อมในการทำงานด้วยดังนั้น หากคุณเครียดเรื่องงาน อยากบ่นแค่ไหน อาจจะต้องคิดวิธีในการสื่อสารให้มากขึ้นเพื่อที่คุณจะได้ระบายความเครียด โดยที่ไม่ทำให้เพื่อนร่วมงานรู้สึกอึดอัดหรือกดดันตามไปด้วยที่มา :University of Georgiaพิสูจน์อักษร : รัชนี สังข์แก้วแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับ beartaihttps://www.beartai.com/life/1395035
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ประกันภัย
18/06/2024
สำนักงาน คปภ. ชนะคดี “สินมั่นคงประกันภัย” ฟ้องเรียกค่าเสียหาย 4 หมื่นล้านเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2567 ศาลปกครองกลาง ได้นัดฟังคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ 752/2565 กรณีบริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) ยื่นฟ้อง สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) เพื่อเรียกค่าเสียหาย 4 หมื่นล้านบาท โดยศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษาให้สำนักงาน คปภ. เป็นฝ่ายชนะคดี ซึ่งคำพิพากษาดังกล่าวไม่เกินความคาดหมายของสำนักงาน คปภ. เนื่องจาก สำนักงาน คปภ. ออกคำสั่งนายทะเบียนที่ 38/2564 ห้ามการบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยสำหรับกรมธรรม์ประกันภัยโควิด เว้นแต่ปรากฏหลักฐานชัดเจนต่อบริษัทว่าผู้เอาประกันภัยได้กระทำการทุจริตหรือฉ้อฉลประกันภัย เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับประโยชน์จากการประกันภัย โดยมูลเหตุสำคัญในการออกคำสั่งดังกล่าวมาจากในช่วงกลางปี 2564 สถานการณ์โควิด 19 ระบาดอย่างหนัก บริษัท สินมั่นคงประกันภัยฯ ซึ่งเป็นบริษัทประกันภัยที่ขายประกันภัยโควิดแบบเจอ-จ่าย-จบ หรือ COVID 2 in 1 นับ 1,000,000 ฉบับ ได้ส่งหนังสือถึงลูกค้าของบริษัทฯ โดยกล่าวอ้างเหตุของการบอกเลิกสัญญาสรุปได้ว่าเป็นผลสืบเนื่องจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทำให้ผู้เอาประกันภัยของบริษัทฯ ได้รับความเดือดร้อนเสียหายในช่วงเวลาที่เกิดโรคระบาดอย่างรุนแรง เกิดความตื่นตระหนกแก่ผู้เอาประกันภัยของบริษัทอื่นและกรมธรรม์อื่นว่าจะถูกบอกเลิกกรมธรรม์หรือไม่ และทำให้เกิดกระแสสังคมวิพากษ์วิจารณ์ธุรกิจประกันภัยในแง่ลบ จึงมีความจำเป็นเร่งด่วนเพื่อแก้ไขปัญหาไม่ให้ลุกลาม เพราะถ้าหากบริษัท สินมั่นคงประกันภัยฯ สามารถบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยโควิดได้เป็นผลสำเร็จ ก็สุ่มเสี่ยงที่จะถูกนำไปเป็นโมเดลให้กับบริษัทประกันภัยรายอื่น ๆ สามารถบอกเลิกกรมธรรม์ในลักษณะเดียวกันนี้ได้เช่นกัน ซึ่งจะส่งผลกระทบเป็นวงกว้างกับประชาชนที่ถือกรมธรรม์ประกันภัยโควิดรายอื่นทั้งหมดด้วยสำนักงาน คปภ. ในฐานะหน่วยงานกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย รวมทั้งมีหน้าที่คุ้มครองสิทธิประโยชน์ด้านประกันภัยให้กับประชาชนผู้เอาประกันภัย จึงได้อาศัยฐานอำนาจที่มีอยู่ออกคำสั่งนายทะเบียนที่ 38/2564 ห้ามการบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยสำหรับกรมธรรม์ประกันภัยโควิด เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนที่ถือกรมธรรม์ประกันภัยโควิด 19 ทั้งระบบจำนวน 16 ล้านฉบับ มูลค่าสินไหมทดแทนเกือบ 100,000 ล้านบาท ให้ได้รับความคุ้มครองตามเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัยต่อไปจนกว่าจะหมดอายุกรมธรรม์นอกจากนี้ สำนักงาน คปภ. เล็งเห็นว่าหากปล่อยให้มีการบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยโควิด 19 ในขณะที่สถานการณ์โควิดรุนแรงและประชาชนหาซื้อประกันภัยโควิด 19 ไม่ได้ ก็จะเป็นการปล่อยปละละเลยให้บริษัทผู้รับประกันภัยใช้สิทธิโดยไม่สุจริตและเอาเปรียบประชาชนจนถึงขั้นอาจถูกมองได้ว่าเป็นการลอยแพประชาชนไปตามยถากรรม เนื่องจากหากประชาชนรู้ว่าจะถูกยกเลิกกรมธรรม์เมื่อเกิดภัย ก็คงไม่มีใครซื้อประกันภัยอย่างแน่นอนดังนั้น คำพิพากษาในคดีนี้จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะถ้าหากสำนักงาน คปภ. เป็นฝ่ายแพ้คดี ก็อาจถูกนำไปใช้เป็นบรรทัดฐานใหม่ให้กับบริษัทผู้รับประกันภัยใช้เป็นแนวทางบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยประเภทอื่น ๆ หากเห็นว่ารับประกันภัยไปแล้ว แต่มีแนวโน้มที่บริษัทผู้รับประกันภัยจะต้องจ่ายค่าสินไหมทดแทนเป็นจำนวนมาก บริษัทผู้รับประกันภัยอาจใช้เป็นเหตุในการบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยได้แบบเหมาเข่งในทุกกรณี ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นในสารบบของธุรกิจประกันภัยทั่วโลกมาก่อน และอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อระบบประกันภัยในภาพรวมทั้งหมดสำนักงาน คปภ. ขอกราบขอบพระคุณศาลปกครองกลางที่ให้ความเป็นธรรมกับหน่วยงานของรัฐที่ทำหน้าที่กำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย รวมถึงคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของประชาชนด้านการประกันภัย ให้ปฏิบัติตาม กฎ กติกา มีจริยธรรมในการดำเนินธุรกิจ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนไม่ให้ถูกเอารัดเอาเปรียบ และพร้อมที่จะดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจเพื่อคุ้มครองประโยชน์สาธารณะและรักษาความเชื่อมั่นของระบบประกันภัยไทยไว้อย่างสุดกำลังความสามารถ เพื่อให้ระบบประกันภัยไทยเป็นที่พึ่งของประชาชนอย่างแท้จริงแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับสยามรัฐออนไลน์https://www.siamrath.co.th/n/544631
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ห้องแสดงนิทรรศการ
18/06/2024
ตะลุยโลกใบใหญ่ สัปดาห์นี้ พี่ม้ามังกร ขอพาน้องๆไป เสพงานศิลป์ กับนิทรรศการ “ศิลปกรรมของสมาคมศิลปินทัศนศิลป์นานาชาติแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 17” ที่หอศิลป์ร่วมสมัย ราชดำเนิน จัดโดย สมาคมศิลปินทัศนศิลป์นานาชาติแห่งประเทศไทย ร่วมกับสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 9 ก.ค.2567งานนี้ถือเป็นปรากฏการณ์การรวมตัวครั้งยิ่งใหญ่ของศิลปินไทยทุกรุ่น ทั้งศิลปินแห่งชาติ ศิลปินอาวุโส ศิลปินรุ่นใหม่ และศิลปินต่างชาติ จำนวนมากถึง 182 คน ที่สร้างสรรค์ผลงานทัศนศิลป์ชิ้นใหม่ๆ จากแนวคิดและความประทับใจ ทั้งที่เกี่ยวกับธรรมชาติ สรรพสิ่งในโลก และแนวนาม ธรรม ให้ผู้ชมได้เดินชมกันอย่างเต็มอิ่มผลงานจากศิลปินแห่งชาติ ที่คัดสรรชิ้นเยี่ยมมานำเสนอ ได้แก่ “จิตรกรรมแบบปะติด” โดย อารีย์ สุทธิพันธุ์ ภาพ “ธรรมมะ ในกรวดหิน” โดย พิชัย นิรันดร์ ภาพ “เริงฤดูร้อน” โดย สมศักดิ์ เชาวน์ธาดาพงศ์ ภาพ “รื่นเริง” โดย ศราวุธ ดวงจำปา ภาพ “พายุ” โดย ปริญญา ตันติสุข ภาพ “หุ่นนิ่งหมายเลข 4” โดย ถาวร โกอุดมวิทย์ ภาพ “ศิลปะกับสิ่งแวดล้อม ณ ภูเก็ต” โดย ปรีชา เถาทอง รวมทั้งมีผลงาน ภาพ “ความวุ่นวาย” จาก บุญเกียรติ โชควัฒนา ศิลปินรับเชิญ กิตติมศักดิ์ด้วยขณะที่ ผลงานศิลปินชั้นแนวหน้า อาทิ ภาพ “กุหลาบพวงชมพู” โดย ไพรวัลย์ ตาเกลี้ยง ภาพ “ร่องรอยความสัมพันธ์ของสี” โดย จรูญ ศรียะ พันธุ์ ภาพ “ศิลปะบูชาครู 84 ปี อารี สุทธิพันธุ์” โดย สาธิต ฑิมวัฒนบรรเทิง ภาพ “น้องโนราห์” โดย ธรรมนูญ เรืองสวัสดิ์ ภาพ “คติธรรม (ชาติ) 1” โดย จิระนันท์ พิตรปรีชา ภาพ “แสงจันทน์” โดย มูฮำมัด โรจนอุดมศาสตร์ ภาพ “เชื่อมต่อ-ประสาน” โดย จิตต์สิงห์ สมบุญ ภาพ “สมเด็จพระกนิษฐา ธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ” โดย จีรวัฒน์ วันทา ภาพ “ของเก่าในตู้โบราณ” โดย สมศักดิ์ รักษ์สุวรรณ ภาพ “ปิ่นโต” โดย อำนาจ บุญสนิท ภาพ “จิตวิญญาณอาเซียน” โดย มณีรัตน์ ศรีคำภา ภาพ “What a wonderful world” โดย สุนิษา อัศวินรุ่งโรจน์ ภาพ “ซุปเปอร์จึง” โดย ณเรศ จึง ภาพ “พุทธวิถี” โดย สิทธินนท์ ศรีราเพ็ญ ภาพ “หญิงสาว 4 (2566)” โดย เนติกร ชินโย ภาพ “Apirl smile 2024” โดย ประมวล ทุ่งปรือ ภาพ “ปราณบุรี 2024” โดย ศรีศิลป์ เอมเจริญ ภาพ “เรื่องราวของจินตนาการ 1” โดย ศุภฤดี มณีจันทร์นอกจากนี้ มี ผลงานของศิลปินต่างชาติ มาร่วมแสดง บอกเล่าวิถีชีวิตของผู้คน วัดวาอาราม โบราณ สถาน ธรรมชาติ อาทิ ภาพ “Brilliant Colors” โดย Loo Hooi Nam ชาวมาเลเซีย ภาพ “Dignity” โดย Susanna Wong ชาวสิงคโปร์ ภาพ “Pure Heart” โดย Viet Kim Quyen ชาวเวียดนาม ภาพ “Goddess of Mercy Temple” โดย Nanang Widjaya ชาวอินโดนีเซีย ภาพ “A Garden at Nightfall” โดย Philipp Christoph Haas ชาวออสเตรเลีย และภาพ “The Great Great Life” โดย Yeon Soon Kim ชาวเกาหลีใต้ เป็นต้น.แหล่งที่มาข่าวต้นฉบับไทยรัฐออนไลน์https://www.thairath.co.th/news/local/2793447
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ท่องเที่ยว
18/06/2024
ปรากฏการณ์ “ทุ่งหญ้าฟีเวอร์” ทำเขาใหญ่แทบแตก หลังนักท่องเที่ยวแห่เช็กอินแน่น ขณะที่นักท่องเที่ยวไร้สำนึกจำนวนหนึ่งไม่สนกฎระเบียบ ลงไปเดินใน “โป่งสัตว์” ทั้งที่มีป้ายห้าม จนเกิดเป็นดราม่าให้คอมเม้นต์กันสนั่นบนโลกโซเชียลถือเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตในช่วงต้นฤดูฝนของบ้านเรา สำหรับวิวทิวทัศน์ของ “ทุ่งหญ้าเขาใหญ่” หรือ “ทุ่งหญ้าคาที่เขาใหญ่” ซึ่งหลังสายฝนโปรยสายท้องทุ่งหญ้ากว้างใหญ่หลาย ๆ จุดในพื้นที่ “อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่” จะเติบโตเขียวขจี ก่อนจะออกดอกสีขาวโพลน ยามต้องสายลมจะโบกพลิ้วไสวดูโรแมนติก ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางไปถ่ายรูปจุดเช็กอินกันเป็นจำนวนมากทุ่งหญ้าที่เขาใหญ่จุดเช็กอินยอดฮิตช่วงต้นฤดูฝนของปีนี้ (ภาพ : เพจ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ - Khao Yai National Park)“หญ้าคา” (Imperata cylindrica Beauv.) แม้จะเป็นพืชต่างถิ่นรุกราน (invasive alien species) เป็นวัชพืชที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ ดูไม่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจในสายตาของใครหลาย ๆ คน แต่สำหรับทุ่งหญ้าคาเขาใหญ่ที่วันนี้นอกจากจะกลายเป็นจุดเช็กอินยอดฮิตแล้ว ในบริเวณทุ่งหญ้าคายังเป็นแหล่งอาหารสำคัญของสัตว์กีบและสัตว์กินพืช ไม่ว่าจะเป็น ช้าง กระทิง เก้ง กวาง เนื่องจากอุดมไปด้วยธาตุอาหารดังนั้นเราจึงเห็นภาพสัตว์ต่าง ๆ ลงไปหากินในทุ่งหญ้าคากันจนชินตา รวมถึงมีโป่งสัตว์อยู่ในพื้นที่ทุ่งหญ้าคาบนเขาใหญ่ด้วยสำหรับจุดชมวิวของทุ่งหญ้าที่เขาใหญ่หลัก ๆ นั้นก็นำโดย “ทุ่งหญ้าที่หนองผักชี” หรือ “หอส่องสัตว์หนองผักชี” ที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ มีวิวทิวทัศน์งดงาม และมีหลากหลายจุดสวย ๆ ให้เลือกถ่ายรูปกันตามใจชอบ นอกจากนี้ก็ยังมีจุดเช็กอินวิวทุ่งหญ้าบริเวณ “โป่งชมรมเพื่อน” เป็นอีกหนึ่งจุดที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเช่นกันทุ่งหญ้าบนเขาใหญ่เป็นหนึ่งในแหล่งหากินสำคัญของสัตว์ป่า (ภาพ : เพจ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ - Khao Yai National Park)ในช่วงต้นฤดูฝนของปีนี้ (2567) จุดชมวิวทุ่งหญ้าที่เขาใหญ่ได้เกิดเป็นกระแสไวรัลที่มาแรงสุด ๆ บนโลกโซเชียล ทำให้ในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ มีคนเดินทางไปถ่ายรูปทุ่งดอกหญ้ากันอย่างเนืองแน่น จนดูคล้ายกับมาตลาดนัดหรือเทศกาลที่เขาใหญ่อย่างไรก็ดี งานนี้มีนักท่องเที่ยวไร้จิตสำนึกที่ไม่เคารพกฎระเบียบจำนวนหนึ่งที่มาเที่ยวทุ่งหญ้าคา แล้วสร้าง “ชื่อเสีย” ให้เป็นที่โจษจัน ด้วยการลงไปเดินเล่นในพื้นที่ “โป่งสัตว์” ทั้ง ๆ ที่มีป้ายห้ามเดินลงโป่ง ทำให้เกิดดราม่าบนโลกโซเชียล มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นตำหนิพฤติกรรมไร้สำนึกดังกล่าวเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะใน เพจ เขาใหญ่ เที่ยวอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ Khaoyai National Park ที่มีชาวเน็ตคอมเม้นต์กันสนั่นอช.เขาใหญ่ ประกาศห้ามนักท่องเที่ยวลงไปในโป่งสัตว์ (ภาพ : เพจ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ - Khao Yai National Park)ขณะที่ก่อนหน้านี้เพจ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ - Khao Yai National Park” ก็ได้เคยโพสต์ข้อความและภาพกราฟฟิก (เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 67) ให้ข้อมูลถึงอันตรายหากนักท่องเที่ยวเดินลงไปในโป่งหรือทุ่งหญ้า ว่าสวยแค่ไหน ก็แอบแฝงมาด้วยความอันตราย...🐘โป่ง เป็นแหล่งชุกชุมของสัตว์ป่า เพราะมีสัตว์หลายชนิดที่จะมาใช้ประโยชน์ในพื้นที่แห่งนี้ หากมีมนุษย์เข้าไปรบกวนบริเวณดังกล่าวอาจเป็นสาเหตุการกระจายเชื้อโรคจากสัตว์ป่าสู่คนหรือจากคนสู่สัตว์🌱นอกจากโป่งยังมีอีกหนึ่งจุดที่เป็นอันตรายไม่น้อย คือบริเวณทุ่งหญ้าที่แฝงไปด้วยสัตว์ป่าและแมลงที่มีพิษ อาจเกิดอันตรายต่อผู้ที่เดินเข้าไปเช่นกัน💕ด้วยความห่วงใย อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จึงขอความร่วมมือจากนักท่องเที่ยวทุกท่านที่มาเที่ยวบนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ไม่ควรเดินออกนอกเส้นทางที่กำหนดก่อนได้รับอนุญาต เพราะอาจเกิดอันตรายทั้งคนและสัตว์ป่าได้ภาพกราฟฟิก แนะนำนักท่องเที่ยวไม่ควรเดินลงไปในทุ่งหญ้าหรือโป่งสัตว์ (ภาพ : เพจ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ - Khao Yai National Park)แหล่งที่มาข่าวต้นฉบับผู้จัดการออนไลน์https://mgronline.com/travel/detail/9670000051872
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ข่าวการเงิน
14/06/2024
มอร์นิ่งสตาร์ฯแนะ 4 ข้อผิดพลาดในการจัดพอร์ตลงทุน มีอะไรบ้าง เช็กเลยบริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) เปิดเผยผ่านบทความว่า ภาพรวมการจัดพอร์ตโฟลิโอของนักลงทุนโดยส่วนใหญ่พบว่าเป็นไปในแนวทางที่ถูกต้อง มีการศึกษาข้อมูลที่ดี และมีการลงทุนทั้งในกองทุนรวมและ ETFs ภาพรวมการจัดพอร์ตโฟลิโอของนักลงทุนโดยส่วนใหญ่พบว่าเป็นไปในแนวทางที่ถูกต้องมีการศึกษาข้อมูลที่ดี และมีการลงทุนทั้งในกองทุนรวมและ ETFs ซึ่งมีต้นทุนในการดำเนินการที่ไม่สูงมาก นอกจากนี้หากมีการลงทุนที่เป็นสินทรัพย์เฉพาะทางก็มักจะมีสัดส่วนการลงทุนที่ไม่สูงมากจนเกินไป อย่างไรก็ดี มีบางประเด็นที่นักลงทุนอาจทำพลาดไปในการลงทุน เช่นกระจายการลงทุนพอร์ตโฟลิโอมากเกินไปข้อผิดพลาดอย่างหนึ่งที่เห็นได้ เช่น การมีหลายบัญชี การถือสินทรัพย์ที่มากประเภทจนเกินความจำเป็น จนทำให้พอร์ตโฟลิโอมีขนาดใหญ่มากจนเกินไป ซึ่งความจริงหากต้องการลงทุนให้หลากหลายเพื่อกระจายความเสี่ยงจากการลงทุนก็อาจทำได้โดยการลงทุนใน Index Fundsความซ้ำซ้อนในการลงทุนอีกปัญหาที่พบบ่อยคือ การที่นักลงทุนลงทุนเองในหุ้นรายบริษัทซึ่งมักเป็นหุ้นที่มีมูลค่าตลาดขนาดใหญ่และมักเป็นหุ้นเดียวกันกับที่กองทุนรวมหรือ ETFs ในพอร์ตโฟลิโอลงทุนอยู่เช่นกัน ตัวอย่างหุ้นขนาดใหญ่ที่นักลงทุนชอบลงทุนเอง และที่กองทุนส่วนใหญ่ชอบถือ เช่น Apple, Amazon.com, Microsoft ซึ่งหุ้นทั้ง 3 บริษัทนี้มีน้ำหนักอยู่ใน S&P 500 สูงถึง 16%ซึ่งการลงทุนที่ซ้ำซ้อนย่อมทำให้เกิดความเสี่ยงที่มากขึ้นด้วย ทั้งนี้การที่นักลงทุนเลือกที่จะลงทุนหุ้นรายตัวเอง คงต้องแน่ใจว่าจะมีเวลาที่จะติดตามหุ้นเหล่านี้ไปตลอดระยะเวลาที่ลงทุน รวมถึงสามารถติดตามการทำหน้าที่และความรับผิดชอบของผู้บริหารในกิจการเหล่านั้นได้ นอกจากนี้ในระยะยาวก็ควรที่จะเปรียบเทียบผลตอบแทนที่ได้จากการลงทุนเองกับการเลือกลงทุนในกองทุนที่มีต้นทุนในการลงทุนที่ต่ำกว่าว่าเป็นอย่างไรด้วยทิ้งเงินลงทุนระยะยาวในกองทุนรวมสำหรับนักลงทุนที่มีความอดทนในการลงทุนเพื่อรอสร้างผลตอบแทนระยะยาว ข้อผิดพลาดหนึ่งอย่างที่พบคือการลงทุนในกองทุนรวม โดยที่ตั้งใจว่าจะถือลงทุนระยะยาวแต่กลับไม่เคยย้อนกลับไปดูและสนใจเงินที่ลงทุนไว้อีกเลย ซึ่งหากกองทุนนั้น ๆ ที่เราลงทุนอยู่เกิดมีการเปลี่ยนมือผู้จัดการกองทุน หรือมีผลตอบแทนที่ไม่ดีต่อเนื่องยาวนาน หรือมีเงินไหลออกจากกองทุนจำนวนมากสิ่งเหล่านี้ก็อาจกระทบผลการดำเนินงานให้แย่ได้ ซึ่งถ้าเป็นเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ ก็คงไม่เป็นไรในกรณีที่บริษัทจัดการนั้น ๆ มีการรับมือที่ดีก็อาจกลายเป็นโอกาสให้นักลงทุนได้ลงทุนเพิ่มได้ แต่หากกองทุนเหล่านี้ไม่ได้รับการบริหารจัดการที่ดีพอ และให้ผลตอบแทนที่แย่ต่อเนื่องยาวนานก็คงไม่ดีสำหรับการถือลงทุนต่อไป ดังนั้น นักลงทุนจึงควรหมั่นติดตามและตรวจสอบพอร์ตการลงทุนอยู่เป็นระยะ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าเงินลงทุนยังเป็นไปตามแผนที่ตั้งใจไว้จัดสรรสินทรัพย์ลงทุนที่ไม่เป็นไปตามแผนอีกปัญหาที่พบบ่อยและแก้ไขได้ยาก นั่นคือ สัดส่วนของสินทรัพย์ลงทุนของพอร์ตโฟลิโอที่ไม่เป็นไปตามแผนของนักลงทุนที่ตั้งใจไว้ โดยเฉพาะในช่วงที่นักลงทุนใกล้ถึงเวลาเกษียณอายุซึ่งส่วนใหญ่พบว่าสินทรัพย์ที่ลงทุนไว้มีความเสี่ยงที่มากเกินไป เช่น ลงทุนในหุ้นจำนวนมาก หรืออาจลงทุนในสินทรัพย์ที่ไม่ได้สร้างรายได้ที่รองรับความต้องการใช้จ่ายในช่วงดังกล่าวได้มากพอ เช่น ตราสารหนี้นอกจากนี้การใช้จ่ายเงินจากในพอร์ตโฟลิโอที่มากจนเกินไป อาจเกิดความเสี่ยงที่เงินลงทุนเหล่านี้จะมีไม่เพียงพอตลอดช่วงวัยเกษียณ ดังนั้นจึงควรคำนึงถึงแนวทางในการจัดพอร์ตโฟลิโอให้สอดคล้องกับความต้องการใช้จ่ายที่คาดการณ์ไว้ในช่วงเกษียณ และเป็นสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัย เหมาะสมกับความต้องการใช้จ่ายเงินด้วยโดยอาจผสมกันระหว่างเงินสดสำหรับการใช้จ่ายระยะสั้น การลงทุนในตราสารหนี้เพื่อความต้องการใช้จ่ายในระยะปานกลาง และรองรับความผันผวนจากการลงทุนในหุ้น ขณะที่ยังต้องลงทุนในหุ้นเพื่อการเติบโตของเงินลงทุนในระยะยาวและปกป้องเงินเฟ้ออีกเช่นกันแหล่งที่มาข่าวต้นฉบับประชาชาติธุรกิจออนไลน์https://www.prachachat.net/finance/news-1579846
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
29/04/2024
04/09/2024
31/07/2024
29/04/2024
30/04/2024